จากค่าธรรมเนียม 20 บาท ต้องจ่ายเพิ่มเป็น 100 บาทเสียแล้ว ถ้าต่อไปประชาชนชาวไทยทั้งหลายทำบัตรประชาชนหาย เพราะ ครม.อนุมัติเรียบร้อย หลังสถิติระบุว่าช่วงที่จ่ายค่าปรับมาก คนทำหายน้อยกว่ามากอย่างเห็นผล
โดยสถิติบัตรหายในระหว่างวันที่ 1 ก.ย.2554-31 พ.ค.2555 ซึ่งคิดค่าธรรมเนียมบัตรหาย 100 บาท มีบัตรหายจำนวน 1,416,915 ราย ซึ่งแตกต่างจากช่วงระหว่างวันที่ 1 มิ.ย.2555-7 มิ.ย.2558 ซึ่งคิดค่าธรรมเนียมบัตรหาย 20 บาท มีจำนวนการแจ้งหายถึง 6,108,412 ราย
นอกจากนี้ยังมีเหตุผลเรื่องต้นทุนบัตรที่พุ่งสูงขึ้นจนเกินรัฐรับไหวถึงใบละ 54.64 บาท ประกอบกับความคิดที่ว่าขึ้นราคาบัตรแล้วจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องมิจฉาชีพสวมรอยทำบัตรใหม่เพื่อทำเรื่องทุจริตด้านบัตรประชาชน จึงทำให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติดังกล่าวออกมา ส่วนทางฟากประชาชนจะเห็นด้วยกับแนวคิดนี้หรือไม่นั้น บรรทัดต่อจากนี้คือตัวแทนปากเสียงของคนทั่วไป
“ราคาบัตรแพงขึ้นอาจจะช่วยให้ระวังมากขึ้นสำหรับบางคนค่ะ แต่ส่วนใหญ่ที่ทำบัตรประชาชนหายกันน่าจะเป็นเพราะความไม่ตั้งใจมากกว่า เช่น กระเป๋าสตางค์หาย และคนส่วนใหญ่จะพกบัตรประชาชนไว้ในกระเป๋าสตางค์ พอบัตรหายยังไงก็ต้องทำใหม่ค่ะ” รัตนกมล วงศ์เครือศร ฝ่ายดูแลลูกค้าสัมพันธ์ บริษัทเอกชน ขอแสดงความคิดเห็นในฐานะของคนที่ไม่เคยทำบัตรหายมาก่อน
“ถ้าจะปรับค่าทำบัตรใหม่ให้ประชาชนจ่ายมากขึ้นเพราะอ้างว่าต้นทุนบัตรสูงขึ้น ก็อาจจะต้องดูต้นทุนของบัตรด้วยค่ะว่า ที่แพงขึ้นได้มีระบบป้องกันที่ดีขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่า เพราะถ้าต้นทุนแพงขึ้นแต่ไม่ได้พัฒนาตัวบัตรไปควบคู่กัน มันก็คงไม่ช่วยป้องกันการกระทำผิดของมิจฉาชีพ แล้วก็คิดว่าการขึ้นราคาจาก 20 บาทเป็น 100 บาท คิดว่าราคามันแตกต่างมากเกินไปค่ะ ถ้าจะขึ้น ควรขึ้นราคาน้อยกว่านี้ และรัฐบาลก็ควรต้องช่วยรับผิดชอบเรื่องสวัสดิการให้ประชาชนด้วย อย่าให้ประชาชนแบกรับอยู่ฝ่ายเดียว”
สอดคล้องกับ ธนพร หิรัญเลิศประเสริฐ นักแปลอิสระ ที่มองว่าการขึ้นราคาบัตรครั้งนี้น่าจะส่งผลกระทบต่อกลุ่มคนชนชั้นแรงงานไม่น้อย “ค่าบัตรที่แพงขึ้นคิดว่าน่าจะช่วยให้คนระมัดระวังมากขึ้นได้นะคะ ราคานี้อาจจะไม่ได้หนักหนาอะไรเท่าไหร่สำหรับชนชั้นกลาง น่าจะยอมจ่าย แต่ถ้าเป็นระดับแรงงานก็ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่อาจจะต้องคิดหนักเหมือนกันค่ะ อาจจะต้องถือเป็นสวัสดิการจากรัฐอย่างหนึ่งที่ต้องช่วยประชาชน หรืออาจจะให้ประชาชนชนชั้นแรงงานจ่ายในราคาเดิมแทน”
การขึ้นราคาบัตรไม่น่าจะช่วยป้องกันเรื่องการทุจริตเกี่ยวกับบัตรประชาชนได้ สุดารัตน์ อาชวานันทกุล Welcome Experience Supervisor โรงแรมดับเบิลยู กรุงเทพฯ แสดงความคิดเห็นเอาไว้อย่างนั้น “คิดว่ามันไม่เกี่ยวค่ะ เพราะมิจฉาชีพเขาน่าจะมีวิธีทำบัตรผีโดยไม่ต้องจ่ายเงินใครสักบาทอยู่แล้วด้วยซ้ำ ก็เลยไม่เห็นด้วยกับการขึ้นราคาค่ะ เพราะจะทำให้คนรายได้ต่ำที่ไม่เกี่ยวข้องต้องเดือดร้อน”
ส่วนแนวคิดที่ว่าขึ้นราคาแล้วจะช่วยให้คนระวังมากขึ้นและมาแจ้งทำบัตรหายน้อยลงนั้น เธอมองว่าไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าใดนัก
“ถ้าจุดประสงค์ของการขึ้นราคา เพราะอยากให้คนระวังมากขึ้น ส่วนตัวแล้วคิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวค่ะ เพราะโดยปกติคนเราก็ไม่ได้อยากให้อะไรหายอยู่แล้ว ที่หายก็เพราะเผลอลืม ไม่ทันระวัง ไม่ได้ตั้งใจจะไม่ระวัง เพราะฉะนั้น การขึ้นราคาเลยไม่ได้ช่วยให้คนระวังกันมากขึ้น
ที่เอาสถิติมาบอกว่าช่วงปรับน้อย คนทำบัตรหายน้อย คิดว่าต้องดูด้วยค่ะว่าสถิตินั้นสำรวจเอาไว้นานแค่ไหน เพราะบางทีมันอาจจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านราคาอย่างเดียวก็ได้ที่ช่วงนั้นคนทำบัตรหายน้อยหรือมาก มันอาจจะเป็นเพราะปัจจัยอื่นๆ ด้วย สถิติที่ดี ต้องวัดกันหลายปี หลายช่วงเวลา เพื่อสังเกตตัวแปรที่แน่นอนด้วยค่ะว่าไม่ได้เกิดจากตัวแปรอื่นเป็นผลกระทบ”
“แจ้งบัตรหายเพราะไม่พอใจรูปถ่ายในบัตรประชาชน” คืออีกหนึ่งเหตุผลที่เกิดขึ้นจริงสำหรับหลายๆ คน ซึ่งมุมมองของ วัชรพงษ์ จันทร์คง พนักงานฝ่ายกราฟิกบริษัทเอกชน ได้เสนอทางแก้ปัญหาในเรื่องนี้เอาไว้น่าสนใจไม่แพ้ใครเลยทีเดียว
“ผมเคยทำหายจริงๆ ครั้งหนึ่งครับ หายพร้อมกระเป๋าสตางค์ แล้วก็หายหลอกๆ อีก 1 ครั้ง คือตอนที่บัตรประชาชนใบแรกใกล้หมดอายุ อารมณ์ประมาณอยากเก็บไว้ดูเป็นที่ระลึก เพราะปกติแล้ว ตอนไปทำบัตรใหม่ เขาจะเก็บบัตรประชาชนใบเก่าเราไปด้วย ผมเลยแจ้งหายซะเลย
ทุกวันนี้เวลาควักบัตรประชาชนขึ้นมาดูเมื่อไหร่ ก็ยังอยากจะแจ้งหายเพื่อไปถ่ายรูปใหม่อยู่ตลอดเลยนะครับ (หัวเราะ) เพราะทุกครั้งที่ดูรูป มันแบบว่า เฮ้ย! นี่หน้าเราเหรอ!? ถ่ายบัตรครั้งหนึ่งมันอยู่กับเราไปถึง 6 ปีเลยนะ ถ้ารูปที่ถ่ายออกมามันดูไม่ดี มันก็อายเขาเหมือนกันนะ พออายมากๆ ก็แจ้งหายทำใหม่ซะเลยก็มีนะบางคน ซึ่งมันก็เป็นวิธีแก้ที่ไม่ดีหรอก
ทางที่ดีผมว่าทางราชการควรจะกลับมาแก้ที่ต้นเหตุเลยก็คือ "ถ่ายรูปให้สวย" ครับ แล้วจำนวนคนแจ้งบัตรหายส่วนหนึ่งก็จะลดลงไปเอง ส่วนเรื่องที่ต้องจ่ายแพงขึ้น ผมจะยอมจ่ายแพงขึ้น ถ้าพอใจในบริการนะครับ มันไม่เกี่ยวหรอกว่าต้นทุนเท่าไร ถ้าถ่ายบัตรแล้วแต่งรูปได้แจ่มๆ แบบ camera 360 จ่าย 500 ก็ยังยินดีจะจ่าย”
ข่าวโดย ASTVผู้จัดการ Live
รายละเอียดเพิ่มเติม (คลิก)>>> ตัวอย่างงานในเซ็กชั่น "ASTVผู้จัดการ Live"
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@astv_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754
