xs
xsm
sm
md
lg

“เลสเตอร์ ซิตี” ฉาวนี้ควรจัดหนักหรือให้อภัย!!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมื่อนักค้าแข้งแห่ง “เลสเตอร์ ซิตี” หันมาสร้างเสียงฮือฮาจากพื้นที่ใต้เข็มขัด ถ่ายคลิปปาร์ตี้เสพเซ็กซ์กับหญิงไทย สบถถ้อยคำหยาบคายและเหยียดเชื้อชาติจนระบาดไปทั่วโลก จึงร้อนถึงต้นสังกัดให้จัดบทลงโทษให้ นักสิทธิสตรีชี้ ผลแห่งความคึกคะนองครั้งนี้ยังละมุนละม่อมเกินไป เมื่อเทียบกับความผิดตามกฎหมายด้านการค้าประเวณีที่ควรได้รับ!!




เมืองไทย = แดนอันตรายของทีมค้าแข้ง

เจมส์ เพียร์สัน, ทอม ฮอปเปอร์ และ อดัม สมิธ... 3 รายนี้ถูกขึ้นแบล็กลิสต์ประจำสโมสรขวัญใจชาวไทยอย่าง “เลสเตอร์ ซิตี” ไปเรียบร้อยแล้ว หลังจัดปาร์ตี้เซ็กซ์กับสาวไทยในระหว่างการทัวร์ปิดฤดูกาลที่ประเทศไทย แถมยังถ่ายคลิประหว่างร่วมกิจเอาไว้อย่างอล่างฉ่าง พร้อมถ้อยคำสบถหยาบคายแบบ Uncensor ต่างๆ นานา บวกกับคำพูดเหยียดเชื้อชาติล้อเลียนผู้หญิงที่ร่วมสนุกกับเขาว่า “Slit Eyes (ตาตี่)” ด้วย โชคร้ายที่คลิปดังกล่าวหลุดออกมาถึงหู “ซันเดย์ มิเรอร์” สำนักข่าวต่างประเทศ เรื่องราวความฉาวจึงถูกนำเสนอและกลายเป็นประเด็นร้อน ถูกรุมประณามจากทั่วทุกมุมโลก

งานนี้ นอกจากจะสร้าง “ชื่อเสีย” ให้แก่นักค้าแข้งทั้ง 3 รายแล้ว ยังซ้ำภาพประเทศ “ขายเซ็กซ์” ให้แก่บ้านเมืองเราเข้าไปอีก ที่น่าตลกคือก่อนหน้านี้ ซูซาน วีแลน ประธานบริหาร เลสเตอร์ซิตี ป่าวประกาศเอาไว้อย่างดีว่าการมาเยือนของนักเตะในครั้งนี้ถือเป็นการสานสัมพันธ์กับประเทศไทย และเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ทำงานร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) หวังจะช่วยพัฒนาสโมสรและขยายฐานแฟนบอลให้กว้างออกไปอีก แต่ผลที่ออกมากลับเป็นภาพเคลื่อนไหวที่น่าอายอย่างที่เห็น

ล่าสุด ทางสโมสรมีแถลงการณ์ออกมาว่าจะคุมเข้มความประพฤตินักเตะในสังกัดอย่างเด็ดขาดจริงจัง และจะสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมดเพื่อดำเนินการลงโทษตามความเหมาะสมต่อไป

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการลูกหนังแล้ว โค้ชเฮง-วิทยา เลาหกุล ประธานพัฒนาเทคนิคสมาคมฟุตบอล จ.ชลบุรี อดีตกุนซือแห่งสโมสรชลบุรี FC มองว่าความเสียหายในครั้งนี้อาจถึงขั้นดับอนาคตนักเตะเจ้าของคลิปฉาวไปเลยก็เป็นได้ เพราะถ้าวัดจากความเป็น “มืออาชีพ” แล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงต่อจิตใจมากเหมือนกัน

ถือว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องไม่น่าให้อภัยในฐานะมืออาชีพ เพราะถ้าได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพแล้ว มันจะมีการเซ็นสัญญาว่าต้องห้ามทำเรื่องพวกนี้ในรายละเอียดอยู่แล้ว เช่น ห้ามรับของจากคนแปลกหน้า ห้ามติดสินบน ห้ามกินอาหารที่ไม่เหมาะสม ต้องรักษาผลประโยชน์และชื่อเสียงของสโมสร การควบคุมอารมณ์คือกุญแจที่สำคัญที่สุด ถ้าจิตใจไม่สงบนิ่ง จะเล่นไม่ได้เลย นักฟุตบอลมืออาชีพจำเป็นต้องมีสมาธิ ความมั่นใจ มีวิสัยทัศน์ มีความรับผิดชอบ มีระเบียบวินัย และอย่าไปแสดงจุดเสื่อมออกมาให้เห็น

ถึงจะอ้างว่านี่คือเวลาส่วนตัวแล้ว ไม่ได้อยู่ในเวลางานแล้ว แต่เรื่องส่วนตัวที่กลายมาเป็นเรื่องที่ไม่สมควรออกสู่สาธารณชนแบบนี้ ก็ทำให้เกิดผลกระทบไปหมด เรื่องที่เกิดขึ้นกับ “เลสเตอร์” ผมคิดว่าผู้ดูแลที่เป็นประธานสโมสรคนไทยเองก็คงไม่เสียดายตัวผู้เล่นเหล่านี้แล้ว เพราะนักฟุตบอลอาชีพมีอีกเยอะ เขาไปหานักเตะที่มีคุณสมบัติตรงตามความเป็นมืออาชีพ คือมีทั้ง IQ (ความฉลาดทางปัญญา), EQ (ความฉลาดทางอารมณ์) และ SQ (ความฉลาดทางสังคม) ดีกว่า”


ที่น่าสนใจคือประเด็นที่โค้ชเฮงเผยความจริงที่ว่า ประเทศไทยดูเป็นประเทศแห่งสิ่งเร้าที่อันตรายในสายตาของนักค้าแข้งแค่ไหน “พูดตรงๆ ว่าวงการฟุตบอลไม่ว่าจะทีมของชาติไทย พูดเป็นเสียงเดียวกันหมดถ้าต้องเดินทางมาเมืองไทยว่ามันเสี่ยง ทีมไหนมาเมืองไทย 90 เปอร์เซ็นต์เจ๊งหมด”

“มันกลายเป็นภาพลักษณ์ผู้หญิงไทยในสายตาชาวต่างชาติที่แก้ยากไปแล้ว อาจจะเป็นเรื่องที่เราต้องยอมรับว่าประเทศอื่นๆ เขามองเราไปในทางนี้จริงๆ ซึ่งจริงๆ แล้วเรื่องแบบนี้มันก็มีทุกประเทศนะ นักฟุตบอลเขาก็คือคนธรรมดาคนหนึ่ง ยิ่งเป็นนักเตะที่อยู่ในระดับเยาวชน เป็นเรื่องปกติที่ต้องเรียนรู้จากความผิดพลาด เช่น สูบบุหรี่ กินเหล้า เที่ยวผู้หญิง ฯลฯ ทางโค้ชก็มีหน้าที่คอยปรามและคอยสั่งสอน

แต่ที่เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่มากๆ ขึ้นมา เพราะการมาของทีมในครั้งนี้เคยบอกเอาไว้ว่าเป็นการทำงานร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เข้ามาช่วยพัฒนาสโมสรให้ดีขึ้น พอภาพออกมาแบบนี้ผลสะท้อนกลับมามันเลยยิ่งหนัก




ผิดพลาดจริงหรือหลุดโดยตั้งใจ?

ถ้าจะมองกระแสฉาวๆ นี้เป็นเพียงเรื่องคลิปหลุดของวัยคะนองอาจถือเป็นมุมมองที่ผิวเผินเกินไป เพราะในสายตาของ จันทวิภา อภิสุข ผู้อำนวยการมูลนิธิเอ็มพาวเวอร์ (Empower Foundation) มูลนิธิผู้พิทักษ์สิทธิของผู้หญิงมาโดยตลอดแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอดทำให้เกิดข้อสงสัยไม่ได้ว่ามีเรื่องของการตลาดเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่?

“ถามว่ามีใครรู้จักทีมชื่อ “เลสเตอร์” นี้บ้างก่อนหน้านี้ ถ้าพูดถึงทีมฟุตบอลอังกฤษ คนก็จะจำได้แค่ “เบคแฮม” หรือไม่ก็ “เจอร์ราด” แต่พอมีคลิปฉาวนี้ออกมา คนถึงได้มาสนใจทีมนี้ ซึ่งก็ไม่รู้อยู่ดีว่าเขาคือใคร เก่งยังไงบ้าง ก็เลยอยากถามว่าที่มีคลิปออกมาแบบนี้ มันคือการสร้างกระแสเพื่อโปรโมตให้คนมาดูการแข่งขันหรือเปล่า ขายตั๋วแล้วไม่คุ้มก็ขายผู้หญิงไทยนี่แหละ มีคลิปออกมาเสียเลย

คิดดูว่าแม้แต่คลิปส่งเสริมการท่องเที่ยวของ ททท. ตัวล่าสุดเอง เขาก็ใช้ผู้หญิงไทยโปรโมตการท่องเที่ยว เรื่องราวในคลิปเล่าว่ามีผู้ชายฝรั่งมาเที่ยวเมืองไทย กระเป๋าตังค์หายแล้วได้มาเจอผู้หญิงคนหนึ่งที่ตรงกันข้ามกับเขาทุกอย่าง ผู้หญิงคนนี้ช่วยดูแลเขาอย่างดี มีช็อตหนึ่งผู้ชายแก้ผ้าอาบน้ำ ผู้หญิงเห็นแล้วตกใจใหญ่ แต่ฝรั่งบอกว่าเป็นเรื่องธรรมดา แล้วก็เกิดเหตุการณ์อีกมากมาย มีช็อตพาไปดูวิวบนภูเขาแล้วชมว่าผู้หญิงไทยน่ารัก

พอวันสุดท้ายที่จะแยกย้ายกัน ฝรั่งก็พูดว่าจะไม่ลืมประเทศไทยเลย ถามว่าเขาไม่ลืมอะไร มันมี message อะไรซ่อนอยู่ในนั้น เขาหมายถึงแค่วิวสวยๆ อย่างเดียวไหม ไม่หรอก มันไม่ใช่แค่นั้น แต่มันคือการใช้ผู้หญิงไทยมาเป็นจุดขายของประเทศด้วย ที่บอกว่าจะไม่ลืมเลย ก็คือจะไม่ลืมการให้บริการของผู้หญิงไทยเลย แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ต่างชาติเขามองประเทศเราไปในทางนั้นได้ยังไง

(คลิป ททท.ที่ทาง ผอ.มูลนิธิ Empower ตีความว่าแฝงเรื่องการขายหญิงไทยให้ต่างชาติเป็นนัย)

ส่วนตัวแล้วไม่แปลกใจเลยที่มีคลิปของนักฟุตบอลอังกฤษออกมาแบบนี้ ก็มันจะแปลกอะไร มันก็เหมือนคลิปส่งเสริมการท่องเที่ยวนั่นแหละ เพียงแต่คลิปโฆษณานั้น มันไม่ได้ไปถ่ายตอนที่มีอะไรกันกับผู้หญิงไทย แต่คลิปนี้ มันถ่ายกันเองให้เห็นฉากนั้นไปเลย ชื่อเสียงของประเทศไทยมันมาในด้านนี้ตลอดอยู่แล้ว ก็เพราะรัฐบาลเราเองนั่นแหละที่ขายอะไรแบบนี้ ลองไปหาข้อมูลดูก็ได้ “10 อันดับประเทศขายเซ็กซ์ในโลก” ต้องมีประเทศไทยติดอยู่ในนั้น ถามว่ามันเป็นเพราะอะไร ก็เพราะรัฐบาลของเรานั่นแหละที่สนับสนุนเรื่องพวกนี้

เชื่อไหมว่าในยุครัฐบาลของคุณชวน หลีกภัย เคยโปรโมตเรื่อง Visit Thailand Year มีการแจกโปสการ์ดให้นักท่องเที่ยวที่ขึ้นเครื่องบินเขา เป็นรูปเด็กผู้หญิงไทย จนสุดท้าย หนังสือดิกชันนารี Longman ได้เขียนความหมายของคำว่า “Bangkok” สมัยนั้นว่าเป็น “The city where there're lot of temples and prostitutes” ทำให้รัฐบาลคุณชวนต้องเขียนจดหมายไปแบนดิกชันนารีนี้ไม่ให้ขายในเมืองไทย และเขียนจดหมายถึงสำนักพิมพ์ให้เปลี่ยนคำจำกัดความประเทศเราใหม่

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้เป็นเหมือนกระจกสะท้อนให้เห็นผลของการที่เราใช้เรื่องแบบนี้มาเป็นจุดขายและเป็นเรื่องทำร้ายผู้หญิงไทย ส่วนเรื่องคลิปนักฟุตบอลที่มีประเด็นเหยียดผู้หญิงออกมา ต้องบอกว่าจริงๆ แล้วเซ็กซ์ของผู้หญิงคนอื่นที่ทำอยู่บ้านแล้วไม่ได้เงิน ก็ไม่ต่างอะไรกับเซ็กซ์ของผู้หญิงที่ได้เงินทุกคืนหรอก มันก็เป็นเซ็กซ์เหมือนกัน เพราะฉะนั้น อาชีพไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราต้องมาดูถูกกัน




เลือก! จัดหนักตาม “กฎกีฬา” หรือ “กฎหมาย”

“บทลงโทษ” คือเรื่องสำคัญที่คนที่ติดตามความเคลื่อนไหวในประเด็นนี้กำลังจับตามอง โดยเฉพาะผู้เสพข่าวชาวไทยที่อยากรู้ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับหน้าตาของประเทศจะได้รับทางออกที่เหมาะสมหรือไม่ ลองให้วิเคราะห์จากมุมผู้คลุกคลีอยู่กับวงในลูกหนังมาหลายปีอย่าง สุรเดช เพชรแสงใสกุล หัวหน้าข่าวกีฬาในเครือ ASTV ผู้จัดการรายวันแล้ว มองว่าบทลงโทษที่นักค้าแข้งทั้ง 3 จะได้รับไม่น่าจะหนักเท่าใดนัก

“ผมมองว่าอนาคตผู้ดูแลทีมอาจจะให้ไปเล่นในลีกรองลงมาจาก “พรีเมียร์ลีก” ก่อน คือลดให้ไปเล่น “แชมเปี้ยนชิป” แทน แต่คงไม่รุนแรงถึงขั้นไล่ออกจากทีม เต็มที่อาจจะมีการปรับเงินประกันหรือค่าเหนื่อยรายสัปดาห์ ซึ่งอาจจะตกลงว่าจะหักกี่อาทิตย์ก็ว่ากันไป ในสายตาคนต่างชาติแล้วอาจจะมองว่าเรื่องเที่ยวผู้หญิงเป็นเรื่องเล็ก แต่เรื่องความไม่เป็นมืออาชีพต่างหากที่เป็นเรื่องใหญ่”

แท้จริงแล้ว เหยี่ยวข่าววงการลูกหนังรายนี้มองว่านักเตะฉาวเจ้าของคลิปครั้งนี้ไม่ใช่ผู้ค้าแข้งตัวฉกาจที่น่าเสียดายเท่าใดนัก แต่เป็นเพียงส่วนเติมเต็มของทีมที่ได้รับโอกาสดีเท่านั้นเอง

“ปกติแล้ว การเดินทางมาทัวร์ปิดฤดูกาลแบบนี้ จะมีการกำหนดโควตานักกีฬาเอาไว้อยู่แล้วว่าให้เดินทางมาได้กี่คน อาจจะ 20 หรือ 25 คน ถ้านักเตะที่ดังๆ ติดธุระหรือติดทีมชาติ เขาก็จะหานักเตะดาวรุ่งรายอื่นๆ มาเสริมทีมให้ครบตามจำนวนที่กำหนดเอาไว้ และที่ผ่านมา 3 คนนี้ก็ไม่ใช่นักเตะที่ฝีมือเข้าขั้นถึงขนาดถูกเลือกให้เข้ามาเป็นชุดใหญ่ได้เลยสักครั้ง เพิ่งจะมีครั้งนี้ที่ได้โอกาส

ผมว่าที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ อาจจะเป็นเพราะความเป็นนักเตะอังกฤษด้วยนะ เพราะเท่าที่สังเกตมา นักเตะอังกฤษจะไม่ค่อยมีวินัยกันเท่าไหร่ ทีมชาติเขาได้แชมป์ครั้งสุดท้ายก็ปี 1966 นู่น คือถึงจะมีนักเตะดาวเด่นหลายๆ รายเกิดขึ้นมา แต่ถ้าพูดถึงความเป็นทีม ความมีวินัย ยังไม่ค่อยจะมีให้เห็นเลย ถือว่าเป็นนักเตะที่มีค่าตัวสูงกว่าความสามารถ

ถ้าให้ยกตัวอย่างเทียบง่ายๆ สมมติว่ามีเงิน 10 บาท ถึงจะซื้อนักเตะอังกฤษได้ แถมยังเป็นคนที่อาจจะไม่ได้มีฝีเท้าเท่าไหร่ แต่ถ้าซื้อนักเตะเยอรมัน แค่ราคา 5 บาท ก็ได้คนที่เก่งมากๆ ได้แล้ว แถมนักเตะอังกฤษส่วนใหญ่ยังฟุ้งเฟ้อ เรียกร้องเยอะ พอมีเงินก็เอาไปซื้อรถ ไม่ก็เอาไปเที่ยวหมด แล้วก็ไม่ค่อยมีสมาธิฝึกซ้อมกันเท่าไหร่ มันเลยทำให้โค้ชพยายามสนับสนุนให้นักเตะมีลูกมีครอบครัว เสร็จจากการฝึกซ้อมจะได้ตรงดิ่งกลับบ้าน ไม่ไปเที่ยวต่อที่ไหนให้เกิดปัญหาขึ้นมา”

แนวคิดนี้สอดคล้องกับที่โค้ชเฮงฝากเกร็ดเล็กๆ ในวงการลูกหนังเอาไว้ว่า “มีนักบอลดังๆ เยอะแยะไปหมดที่มีปัญหาเพราะเรื่องแบบนี้นะครับ ทั้ง John Terry, Eric Dier หรือแม้แต่ Frank Lampard เอง ที่มีปาร์ตี้เซ็กซ์กันที่เมืองไซปรัส ภาพออกมาแล้วแย่มาก ส่งผลกระทบไปหมดเลย แต่คนที่อยู่รอดและหลุดมาได้จากเหตุการณ์ครั้งนั้นก็มีแค่ John Terry ที่คุมสติให้แข็งแกร่งอยู่ได้ และเหตุการณ์ครั้งนั้นมันยังไม่มีประเด็นเรื่องใช้คำพูดเหยียดหยามเข้ามาเกี่ยวด้วย แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ของเรามันมีเรื่องคำพูดเหยียดหยามผู้หญิงไทยเข้ามาด้วย มันก็ยิ่งร้ายเข้าไปอีก มันไม่ใช่แค่ปาร์ตี้เซ็กซ์ธรรมดาๆ แล้ว”


เกี่ยวกับกรณีฉาวนี้ ถึงแม้ว่าหลายฝ่ายจะมองว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ให้อภัยกันได้ แต่ในฐานะผู้อำนวยการมูลนิธิเอ็มพาวเวอร์ ซึ่งต่อสู้เพื่อสิทธิสตรีมาโดยตลอด เห็นว่าไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่ใช้แค่กฎกติกาการกีฬาเข้ามาตัดสินถูกผิดเพียงอย่างเดียว

“ตามกฎหมายอังกฤษแล้ว ผิดกฎหมายอยู่แล้ว เพราะรัฐบาลอังกฤษจะลงโทษตามกฎหมายกับผู้ที่ซื้อเซ็กซ์ เพราะฉะนั้น ถ้าผู้หญิงไทยให้ปากคำว่าไม่ได้รับเงิน เป็นการให้เซ็กซ์กันฟรีๆ ก็ถือว่าไม่มีความผิด และต้องเอาผู้หญิงที่อยู่ในคลิปมาพูดเป็นพยานด้วยว่าเขายินยอมจริงๆ แต่ถ้าพิสูจน์ได้ว่าจ่ายเงินขึ้นมาเมื่อไหร่ กฎหมายอังกฤษเขาเอาผิดทั้งคนซื้อและคนขายบริการเลย และจะยิ่งเอาผิดคนซื้อบริการมากยิ่งขึ้นถ้าเกิดคนขายเซ็กซ์นั้นอายุต่ำกว่า 18 ถึงแม้เขามามีเซ็กซ์ที่ไทยและกลับไปแล้ว แต่ทางอังกฤษก็ยังจับกุมคนทำผิดได้อยู่

การลงโทษนักเตะด้วยกติกาของนักฟุตบอลภายใต้ถ้วยฟีฟามันก็แค่นั้น ถ้าจะให้แน่จริง ลงโทษด้วยกฎหมายปรามการค้าประเวณีของอังกฤษสิ นักฟุตบอลมีสิทธิพิเศษยังไงที่จะไม่ถูกลงโทษด้วยกฎหมาย ทุกอย่างต้องเป็นไปตามหลักปฏิญญาสากลว่าด้วยเรื่องสิทธิมนุษยชน หญิงชายเท่าเทียมกัน ไม่ว่าคุณจะเป็นเชื้อชาติอะไร นับถือศาสนาอะไร เพศไหน การศึกษาระดับไหน มีความเท่าเทียมกันหมด จะต้องไม่ถูกปฏิบัติอย่างไม่เสมอภาคทางเพศ

ถ้ามีความผิดจริง นักฟุตบอลกลุ่มนี้จะต้องถูกจับ ไม่ใช่แค่เพราะพฤติกรรมร่วมเพศ แต่เขาทำผิดกฎหมายด้วย เพราะฉะนั้น พวกเขาต้องถูกให้ออกด้วยซ้ำ เพราะการเป็นนักฟุตบอลในทีมใดก็ตาม ต้องไม่มีความผิดคดีอาญา และถ้าทำผิดกฎหมายกรณีนี้ มันคือความผิดทางเพศซึ่งเป็นคดีอาญา ถ้าเราลงมาจัดการเรื่องนี้ หาบทลงโทษอย่างจริงจัง คนจะได้รู้ว่าเป็นนักฟุตบอลไม่ควรทำแบบนี้ และถ้าใครอยากจะใช้เรื่องเซ็กซ์มาขาย Marketing ก็จะไม่กล้าทำอีกต่อไป

ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ Live




มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@astv_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754




ข่าวที่เกี่ยวข้อง (คลิก)
- “จิ้งจอก” เรียกสอบ 3 แข้งฉาว ปาร์ตีเซ็กซ์-หมิ่นหญิงไทย
- คลิปว่อน!! 3 แข้ง “เลสเตอร์” มีเซ็กซ์หญิงแดนสยาม เสียงไทยหลุดชัดเจน
กำลังโหลดความคิดเห็น