หลังจากแท็กซี่สุวรรณภูมิถูกจุดประเด็นปัญหาที่ฝังรากมาอย่างยาวนานโดยชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง มาถึงวันนี้ปัญหายังคงอยู่ ยังคงเป็นความอับอายของประเทศที่ยังไม่มีการแก้ไขให้ดีขึ้น การถกเถียงเรียกร้องที่ปิดท้ายด้วยการตามล้างตามเช็ดปัญหา ทว่ากลับลงเอยด้วยปัญหาที่ยังคงมีอยู่และไม่เปลี่ยนแปลง ทีมงาน ASTV ผู้จัดการ LIVE สอบถามโดยตรงไปถึงอธิบดีกรมขนส่งทางบก ทางออกของปัญหาดังกล่าวจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้หรือไม่ ต้องติดตาม
ปัญหายังไม่ถูกแก้
เมื่อ 2 เดือนก่อนประเด็นแท็กซี่สุวรรณภูมิกลายเป็นที่พูดถึงหลังจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Koki Aki หรือ อะกิฮิโระ โทมิคะวะ ( Akihiro Tomikawa ) อดีตดาราเด็กชาวญี่ปุ่น และผู้สวมชุดไอ้มดแดงแจกของเล่นแก่ชุมชนยากไร้ในไทยได้โพสต์เรื่องราวการใช้บริการแท็กซี่สนามบินสุวรรณภูมิของเขาที่เกิดปัญหาขึ้น และยังชี้ให้เห็นว่าปัญหานี้จะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศ
แต่ถึงตอนนี้ปัญหาก็ยังคงไม่ได้รับการแก้ไข ชาวญี่ปุ่นคนเดิมได้เขียนข้อความตำหนิถึงปัญหาการขนส่งมวลชนของแท็กซี่ในสนามบินสุวรรณภูมิ โดยเผยถึงรายละเอียดว่า สนามบินสุวรรณภูมิคือความน่าอายของประเทศไทย ครั้งนี้เพื่อนๆ ของตนมาจากญี่ปุ่นเพื่อมาช่วยเด็กในชุมชนประเทศไทย พวกเขามาทำขนมญี่ปุ่นให้เด็กๆ ในชุมชนทาน แต่ครั้งนี้พวกเขาก็โดนแท็กซี่สนามบินเก็บค่าโดยสารเกินจริงอีก โดยเพื่อนของตนมากัน 11 คน เมื่อวันที่ 14 เมษายน เวลา 18.00 น. และขึ้นรถคันใหญ่ 2 คัน แต่คนขับไม่กดมิเตอร์ และเรียกราคา 600 และ 750 บาท ไม่รวมค่าทางด่วน ครั้งนี้คนขับก็ขอเก็บบัตรคิวแท็กซี่จากพวกเขาด้วย ขณะที่เจ้าหน้าที่ที่กดบัตรคิวก็มัวแต่เล่นกัน
อะกิฮิโระ ระบุว่า ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย กระทรวงที่รับผิดชอบและผู้ที่ดูแลสนามบินควรจะทราบว่า แท็กซี่สนามบินและเจ้าหน้าที่บางคนได้สร้างความอับอายให้ประเทศไทย พวกเขาจะรู้ไหมว่าเรื่องนี้ทำให้ภาพลักษณ์ประเทศไทยเสียหาย และทำให้ประเทศสูญเสียหลายสิ่ง
“ครั้งที่แล้วที่ผมพูดเรื่องนี้ไป ก็มีคนขับแท็กซี่มาต่อว่าผม มีแม้กระทั่งข่มขู่ บางคนก็เอารูปที่ไม่ใช่รูปผมมาอ้าง แต่ลองคิดดูนะ ถึงรายได้จะน้อย ถึงประสิทธิภาพจะไม่ดี แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะมาหลอกเอาเงินจากนักท่องเที่ยว การที่คนขับบ่นต่อว่ากับผู้โดยสาร พวกเขาน่าจะไปพูดกับกระทรวง หรือผู้ที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องนี้มากกว่านักท่องเที่ยว”
นอกจากนี้อะกิฮิโระยังพูดถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งก่อนด้วยว่า หลังเกิดเหตุก็ได้รับคำขอโทษจากผู้บริหารสนามบิน แต่ 2 เดือนผ่านไป ทุกอย่างกลับเป็นเหมือนเดิม เขามองว่า สนามบินคือประตูสู่ประเทศ และนักท่องเที่ยวควรจะได้รับการบริการที่ปลอดภัย ผู้ที่รับผิดชอบควรจะยอมรับว่าความน่าอายก็คือความน่าอาย และช่วยทำให้สนามบินเป็นสนามบินที่ปกติสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย
ยังอยู่ในกระบวนการแก้ไข
แท็กซี่สุวรรณภูมิความผิดรับชอบส่วนหนึ่งย่อมอยู่กับกรมขนส่งทางบกที่เป็นหน่วยงานกำกับดูแล ทีมงาน ASTV ผู้จัดการ LIVE ต่อสายตรงไปถึง ธีรพงษ์ รอดประเสริฐ อธิบดีกรมขนส่งทางบก (ขบ.) เพื่อสอบถามถึงการแก้ไขปัญหาที่เกิดในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เหตุใดจึงยังคงปล่อยให้เกิดขึ้นลักษณะเดิมขึ้นได้ โดยความเคลื่อนไหวในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวในเชิงระบบนั้น ล่าสุดได้เสร็จสิ้นขั้นตอนของการศึกษาปัญหาทั้งหมดแล้ว กำลังอยู่ในช่วงของการบูรณาการความคิดเห็นทั้งหมดเพื่อมาใช้ในการแก้ไขปัญหาจากชุดทำงานที่มีด้วย 3 คณะโดยมีการแก้ไขปัญหาที่รอบด้าน
“การบริการจัดการแท็กซี่สนามบินสุวรรณภูมิด้านหนึ่งมีขึ้นตรงกับการท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิด้วย ทีนี้การควบคุมให้ทำตามกฎก็เป็นเรื่องของกรมขนส่งทางบก ถึงตอนนี้ก็มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา 3 คณะแล้วประกอบไปด้วยหน่วยงานทางวิชาการจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(TDRI) โดยแบ่งการศึกษาแก้ไขปัญหาออกเป็น 3 เรื่องด้วยกันคือ ต้นทุนของแท็กซี่ ค่าเซอร์วิสชาร์จ และความต้องการของผู้บริโภค เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งระบบ ตอนนี้ก็ทำงานเสร็จแล้ว แต่กำลังบูรณาการกันแล้วเสนอว่าความเห็นของคณะทำงานเป็นอย่างไร”
ในส่วนของกรณีล่าสุดที่มีผู้ขับแท็กซี่ 2 คนกระทำความผิดในฐานไม่ใช้มิเตอร์ในการคิดค่าโดยสารนั้น เขาเผยว่าสามารถติดตามตัวผู้กระทำผิดได้แล้ว โดยจะมีการเปรียบเทียบปรับในอัตราโทษสูงสุด ยึดใบอนุญาตขับขี่รถสาธารณะเป็นเวลา 30 วัน และขึ้นบัญชีทะเบียนรถห้ามเข้าวิ่งในสนามบินสุวรรณภูมิ
“ถือเป็นโทษสูงสุดแล้วครับ การบังคับใช้กฎหมายต้องเข้มงวด ขณะนี้ก็กำลังพิจารณาโทษปรับสูงสุดกับการไม่ใช้มิเตอร์ซึ่งมันเบาไป”
ท้ายที่สุด เขามองว่า การร้องเรียนการกระทำผิดนั้นสามารถทำได้หลายช่องทางโดยควรมีการระบุทะเบียนรถเพื่อให้สะดวกในการดำเนินการเอาผิด ทั้งนี้ เขายังแนะนำเพิ่มเติมว่าปัจจุบันได้มีช่องทางให้ร้องเรียนหลายช่องทางด้วยกัน ประกอบไปด้วยสายด่วน 1584 และแอปพลิเคชัน DLT check in
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ LIVE
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@astv_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754
