สงสัยกันใช่มั้ยว่าทำไม? เวลาขับรถ ตามหลังรถกระบะ รถเก๋ง หรือรถบรรทุก รถแต่ละคันจะนิยมติดสติกเกอร์กัน แต่จากการสำรวจสติกเกอร์ยอดนิยมที่กว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของรถทั่วไปนิยมติดนั้น มี 3 สติกเกอร์ดังที่คุ้นตาทุกคนมาก แต่เคยมีใครตั้งคำถามถึงที่มาที่ไปของสติกเกอร์เหล่านั้นหรือไม่???
เริ่มที่ “เศรษฐีเรือทอง” สติกเกอร์ที่เชื่อกันว่า “ติดแล้วรวย” เหมาะกับนักธุรกิจที่ทำการค้า ที่เหล่าบรรดาพ่อค้า-แม่ค้า เป็นต้องขวนขวายหามาติดที่ท้ายรถกันให้ได้ เพราะเชื่อในเรื่องของการช่วยให้ค้าขายร่ำรวย ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ทำกิจการอะไรก็รุ่งเรือง แต่สติกเกอร์ “เศรษฐีเรือทอง” นั้น ไม่ใช่ว่าใครๆ ก็ได้มาง่ายๆ กว่าจะได้มานั้น บอกเลยว่าต้องแลกด้วยความมุ่งมั่น อดทน และศรัทธาล้วนๆ
แท้จริงแล้ว “เศรษฐีเรือทอง” นั้น เป็นชื่อวัดดังที่ จ.ลพบุรี ซึ่งโด่งดังเรื่อง “พิธีกรรมยกเรือตะเคียนทอง” ของ วัดพุน้อย ซึ่งใครที่ต้องการเป็นเจ้าของสติกเกอร์อันโด่งดังนี้จะต้องเข้าพิธีกรรมนี้ด้วยตัวเองเท่านั้น! แต่เนื่องจากมีคนต้องการมากทางวัดจึงจัดระบบจองคิวในเวลา 5 โมงเย็นของวันพฤหัสบดี, วันศุกร์ และวันเสาร์ โดยจะมีพิธียกเรือใหม่ในวันศุกร์, วันเสาร์ และวันอาทิตย์ บางรายก็มารอเพื่อจองคิวกันตั้งแต่บ่าย 3 โมงกันเลยทีเดียว
ความเชื่อและศรัทธาโด่งดังจนมีคนแห่มาจองคิวกันล้นหลาม และเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่มาจากต่างจังหวัดจะต้องเสียเวลามาถึง 2 ครั้ง ทางวัดถึงขนาดทำ“รีสอร์ตของเศรษฐีเรือทอง” (ราคาคืนละ 2,500 บาท/ห้อง) ซึ่งเป็นเรือนพักได้ 4 คน ทางรีสอร์ตจะมอบสิทธิ์พิเศษมอบเรือให้ห้องละ 2 ลำ โดยต้องเสียเค่าเรือเพิ่มอีกอีก 1,200 บาท (นอกเหนือจากค่าห้อง) ขอบอกเลยว่าห้องที่รีสอร์ทแห่งนี้ต้องโทร.จองล่วงหน้าเป็นเดือนๆ กว่าจะมีห้องว่างหลุดมาให้ได้จองกัน
เมื่อได้บัตรคิว 10 โมงเช้าวันรุ่งขึ้น ได้เวลาเข้าห้องประชุมเพื่อฟังบรรยายจากหลวงพ่อเจ้าอาวาส ซึ่งใช้เวลาในการฟังบรรยายเป็นชั่วโมง ซึ่งการประชุมนี้ทางเจ้าหน้าที่ย้ำเลยว่าต้องเข้าประชุม เพราะหากไม่เข้าร่วม ก็จะไม่ได้รับเรือเพื่อนำไปทำพิธียกเรือในขั้นตอนต่อไป
หลังจากฟังบรรยายจากหลวงพ่อเจ้าอาวาส และรับเรือใหม่เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องยกเรือ หากยกเรือขึ้น ท่านก็สามารถนำเรือใหม่ไปบูชาและในเรือนั้น หลวงพ่อเจ้าอาวาสก็จะใส่เงินขวัญถุงให้ 200 บาท และรับสติกเกอร์มา เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีกรรม
ต่อกันที่อีกหนึ่งสติกเกอร์ที่ถูกนำมาติดหลังรถเพื่อเป็น “การเตือนสติ” คือ “พุทธวจน” สติกเกอร์นี้ไม่ต้องยุ่งยาก เหมือนสติกเกอร์อื่นๆ แค่ไปที่ วัดนาป่าพง จ. ปทุมธานี และไปขอรับสติกเกอร์มาติดที่ท้ายรถกันได้เลย โดยทางวัดได้เตรียมสติกเกอร์หลากหลายข้อความคำสอนเอาไว้ให้เลือก
คำว่า พุทธวจน คือคำสอนที่มาจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้า พุทธ คือผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน วจน คือ คำพูด คือมีพระสุปฏิปัณโณสงฆ์ ชื่อ พอจ.คึกฤทธิ์ โสตถิพโล เจ้าอาวาสวัดนาป่าพง โดย สำนักพุทธวจน นำโดยพระคึกฤทธิ์แห่งวัดนาป่าพง (เคยเป็นวัดสาขาของวัดหนองป่าพง ของหลวงพ่อชา) นำสวดปาติโมกข์โดยตัดเหลือศีล 150ข้อ (จากศีล 227ข้อ) เหตุที่จำนวนลดลง เพราะ พระคึกฤทธิ์ บอกว่า สาวกเป็นผู้เพิ่มให้ทีหลัง ที่ตรัสออกจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้ามีแค่ 150 ข้อ ที่เป็นแก่นแท้ เป็นที่สุด ดังนั้นจึงเกิดความขัดแย้งกันขึ้นเป็นสาเหตุให้ วัดนาป่าพง ไม่ได้เป็นวัดสาขาอีกต่อไป
สำหรับสติกเกอร์ที่นิยมนำมาติดกันนั้นเป็นการเอาคำสอนใน “หนังสือพุทธวจน” หนังสือที่รวบรวมเฉพาะคำของพระสัมมาสัมพุทธะ ที่ตรัสสอนจากพระโอษฐ์เท่านั้น โดยรวบรวมจากพระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐ
โดยจะมีคำว่า ตถาคเต เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน แปลว่า เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคตถึงที่สุดโดยส่วนเดียว, แต่ละคำพูดเป็นอกาลิโก คือ ถูกต้องตรงจริงไม่จำกัดกาลเวลา, คำพูดที่พูดมาทั้งหมดนับแต่วันตรัสรู้นั้น สอดรับไม่ขัดแย้งกัน, จงสงเคราะห์ผู้อื่น ด้วยการให้รู้อริยสัจ, อิมัสมิง สติ อิทัง อิมัสสะ อุปปาทา อิทัง อุปปัชชติ อิมัสมิง อสติ อิทังนะ โหติ อิมัสสะ นิโรธา อิทัง นิรุชฌติ แปลว่า เมื่อสิ่งนี้ “มี” สิ่งนี้ย่อมมี เพราะความเกิดขึ้นแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น เมื่อวิ่งนี้ “ไม่มี” สิ่งนี้ย่อมไม่มี เพราะความดับไปแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงดับไป เป็นต้น
ปิดท้ายที่ สติกเกอร์เสริมความเชื่อเกี่ยวกับ “ความแคล้วคลาดปลอดภัยจากการเดินทางหรือขับขี่รถ” วัดดังที่บรรดาคนดังและดาราต่างตบเท้าไปจนวัดชื่อดัง คงหนีไม่พ้น “วัดท่าไม้” จ.สมุทรสาคร เพราะตอนนี้ไม่ว่าจะมองไปทางไหนเป็นต้องหลังรถส่วนใหญ่ติดสติกเกอร์ “วัดท่าไม้” นี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ทำแจกเฉพาะลูกศิษย์ลูกหา แต่ตอนนี้เป็นที่ต้องการของคนทั่วไปให้โชคดีเกี่ยวกับการเดินทาง
ที่มาของสติกเกอร์ของ “วัดท่าไม้” เกิดจาก ท่านพระครูปลัดอุเทน สิริสาโร ซึ่งเป็นเจ้าอาวาส และมีลูกศิษย์นับถือทั่วสารทิศ เวลามาที่วัดลูกศิษย์ก็มักจะมาขอสติกเกอร์ที่ทำการสวดปลุกเสกแล้วให้มาแปะที่รถให้ โดยสติกเกอร์นั้นจะแบ่งออกเป็น 2 สี ได้แก่ สีเหลือง ใช้ติดสำหรับรถของคนที่มาถือศีล มารักษาศีล และ สติกเกอร์ สีขาว ใช้สำหรับคนที่มาไหว้พระ ทำบุญ
นอกจากนี้สติกเกอร์ “วัดท่าไม้” ยังเป็นตัวเชื่อมระหว่างคนใช้รถใช้ถนนให้มีน้ำใจต่อกัน และมีสติเวลาขับขี่ หรือโดยสาร ดังนั้นบางครั้งเวลารถคันอื่นเห็นสติกเกอร์นี้ ก็จะบีบแตรเพื่อเป็นการทักทายกัน เหมือนเป็นศิษย์วัดเดียวกัน แต่ใช่ว่าสติกเกอร์ที่มาจาก ท่านพระครูปลัดอุเทน จะหาง่ายๆ เพราะว่าของแท้ของเทียมก็มีเยอะแยะให้เห็นกัน ดังนั้นหากตั้งมั่นที่อยากได้สติกเกอร์ก็ต้องมีความมุ่งมั่นในการไปรับด้วยจิตอันแน่วแน่
จะว่าไปนี่ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของสติกเกอร์ที่ติดตามกระจกหลังรถ ยังมีคำอีกหลายคำ บ้างก็นำคำที่อ่านแล้วเฮฮา ตลกขบขัน บ้างก็เป็นคติสอนใจ บ้างก็คำที่ตนเองชื่นชอบมาติด ที่สุดแล้วสิ่งเหล่านี้ก็เป็นเพียงความเชื่อ ความศรัทธา ส่วนบุคคลเท่านั้นที่แต่ละคนมี แต่สำหรับการขับขี่หรือเดินทางตามท้องถนนแล้ว “สติ” เห็นจะเป็นสิ่งสำคัญที่เราควรมีอยู่ตลอดเวลามากกว่าสิ่งอื่นใด
ข่าวโดย ทีมข่าว Celeb Online
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@astv_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754