จากกรณีช้างป่าเขาใหญ่เครียดจัด ออกมาจากป่าอาละวาดนักท่องเที่ยว เหตุเพราะมีรถขับขึ้นลงเขาใหญ่เป็นจำนวนมาก และบีบแตรใส่ช้าง เกิดเป็นเหตุการณ์อันน่าสะเทือนใจ และทำให้มีคำถามต่างๆ เกิดขึ้นมาว่าผู้มาเยือนทั้งหมดนี้อยากชื่นชมหรือมาเพื่อทำลายธรรมชาติกันแน่?
กรณีดังกล่าวนี้เองทำให้ ดร. อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาการวิเคราะห์ธุรกิจและการวิจัย คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ได้ออกมาเขียนบทความ “ทัศนะอุจาดแห่งเขาใหญ่ที่เปลี่ยนไป” เพื่อเตือนสติให้กับคนที่คิดจะทำลายธรรมชาติ ใจความบางส่วนระบุว่า
“หลายสิบปีก่อนผมไปเดินป่าที่เขาใหญ่ ผมเลยได้เห็นสัตว์ป่านานาชนิดวิ่งเล่นหากินตามสองข้างทางมากมาย เพราะสัตว์ป่าได้หากินโดยปราศจากมนุษย์รบกวนอย่างเป็นธรรมชาติแท้จริง ตอนที่ผมไปชมนั้น ช้างพลายงาเดียว เป็นจ่าโขลง เป็นพ่อ และช้างพังแม่มะลิ เป็นแม่ มีลูกช้างเกิดใหม่ชื่อ มาดี เราเลยได้ไปเห็น ความน่ารักของ baby visit ที่ว่า และโดนช้างทุกโขลงวิ่งไล่แปร๋นๆ ต้องบึ่งรถหนีแทบเอาชีวิตไม่รอด เพราะเข้าไปใกล้ลูกช้างมากเกินไป ทำให้เราต้องระวังมาก
วันก่อนผมได้เดินทางไปเขาใหญ่อีกรอบ สัตว์ป่าที่เขาใหญ่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะลิงทั้งฝูง มานั่งรอริมถนน เยอะมาก แทบทุกเส้นทางบนเขาใหญ่ เพื่อขออาหารจากนักท่องเที่ยว ปีนต้นไม้แทบจะไม่ขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวนี่แหละชอบไปให้อาหารมัน ทำให้มันผิดธรรมชาติไป เป็นการทำร้ายธรรมชาติ กลางคืนมานักท่องเที่ยวจุดพลุและลอยโคมยี่เป็งของทางเหนือ ในป่าเขาใหญ่ ช่างไร้รสนิยม ไม่เคารพธรรมชาติ ผมอยากให้เจ้าพ่อเขาใหญ่หักคอนักท่องเที่ยวจัญไรเหล่านี้ให้หมดไปเสียจริงๆ
การพัฒนารอบเขาใหญ่จำนวนมากเหลือเกินล้วนเป็นทัศนะอุจาดในสายตาผมตั้งแต่พลาซ่าและหมู่บ้านสไตล์อิตาเลี่ยนริมทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยนหลายแห่ง บางแห่งเป็นที่นิยมมากเหลือเกินของมนุษย์กรุงเทพฯ ที่ไม่ได้มาเที่ยวเขาใหญ่ด้วยความชื่นชมในธรรมชาติและสัตว์ป่า แต่มาหาอากาศดีและที่ชอปปิ้งแห่งใหม่ที่เขาใหญ่
เขาใหญ่ทุกวันนี้นับว่าเป็นวิกฤติ ที่เกิดจากนักท่องเที่ยวที่ขาดความรู้ความเข้าใจ ยึดติดความสะดวกสบาย และมีนายทุนยกกรุงเทพฯ ในแบบที่พวกเขาคิดว่าจะทำเงินเข้ากระเป๋าได้ มาอำนวยความสะดวกสนองตัณหาให้อย่างพร้อมสรรพ แม้จะเป็นพื้นที่ภายนอกเขตอุทยานแห่งชาติ แต่ผมคิดว่านักธุรกิจและนักพัฒนา ตลอดจนสถาปนิกน่าจะหาวิธีคิดที่สร้างสรรค์ในการออกแบบอาคารต่างๆ ให้สอดคล้องกับธรรมชาติของเขาใหญ่ได้ดีกว่านี้”
ทั้งนี้ ประเทศไทยถือเป็นดินแดนที่ร่มเย็น มีธรรมชาติที่สวยงาม แต่ปัจจุบันธรรมชาติถูกทำลายไปไม่น้อย และปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามนุษย์เราเองต่างหากที่ทำให้เปลี่ยนไป หากทุกคนมีจิตสำนึกรักธรรมชาติกันสักหน่อย ก็คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เพราะฉะนั้น จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันรักษาธรรมชาติให้คงอยู่ไปอีกนาน ไม่เช่นนั้นประเทศไทยคงไม่เหลือทรัพยากรอันทรงค่าให้คนรุ่นหลังได้เชยชม
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการLive
ขอบคุณข้อมูล: เฟซบุ๊ก Arnond Sakworawich
อ่านเพิ่มเติมได้ที่: www.facebook.com/Arnond.s/posts/10153033178707728
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@astv_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754
![[ชมคลิป] ถึงกับอึ้ง! หยุดปีใหม่ไปเที่ยวเจอ “ด่านช้าง”](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/resize/184x104/557000015517301.JPEG)
