ขับรถเร็ว, เมาแล้วขับ, ไม่เคารพกฎจราจร นี่คือที่มาของความตาย หากคุณยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อ ควรใช้รถใช้ถนนอย่างมีสติและอยู่บนความไม่ประมาท ไม่เช่นนั้น คุณอาจเป็นรายต่อไปที่มีจุดจบอยู่บนท้องถนน!
อย่าประมาท ถ้าไม่อยาก “ตาย” เร็ว
เกิดอุบัติเหตุรวม 3,174 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 366 ราย มีผู้บาดเจ็บรวม 3,345 ราย นี่คือตัวเลขสรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค. 56 - 2 ม.ค.57 นับว่าเป็นสถิติความสูญเสียในอัตราที่สูง ซึ่งเป็นเช่นเดียวกันนี้มาหลายปีแล้วในเทศกาลวันหยุดยาว หลายครอบครัวต้องเศร้าโศกเพราะต้องจัดงานศพแทนงานเลี้ยงสังสรรค์ แน่นอนในปี2558 นี้ หลายคนคาดหวังให้อุบัติเหตุลดลง ปีนี้ทางด้านตำรวจนครบาลจึงมีมาตรการการป้องกันออกมาโดยเฉพาะเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนดังนี้
“ในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้วางแผนไว้ในรูปแบบที่ชัดเจนนะครับว่า จะมีแผนการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในการจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งในแต่ละฝ่ายก็จะรับผิดชอบในหน้างานของตัวเอง ผมเองก็ดูแลในเรื่องของการจราจรซึ่งก็จะดูแลในกรุงเทพมหานคร
ในส่วนของตำรวจนครบาลได้กำหนดในเรื่องของปีใหม่ ดำเนินการเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 คือในเรื่องของการจราจรคล่องตัว ไม่ให้มีการจราจรติดขัด แล้วก็ระบายรถออกจากกรุงเทพมหานครในช่วงของวันที่ 30 ธ.ค. ให้ได้เร็วและดีที่สุด ส่วนที่ 2 คือ ลดปัญหาในเรื่องของอุบัติเหตุ ในส่วนนี้เราได้มีการจัดตั้งศูนย์บูรณาการอุบัติเหตุขึ้นเพื่อเก็บสถิติ
รวบรวมสถิติทั้งหมดที่ผ่านมาว่ามีสถิติอะไรต่างๆ เกิดขึ้นบ้าง อยู่ตรงไหน และอยู่ในความรับผิดชอบของใครหลังจากนั้นนำสถิติมาวิเคราะห์ ว่ามันเกิดจากอะไร ยังไง แล้วให้หน่วยงานที่รับผิดชอบตรงนั้นไปแก้ไขปัญหา ซึ่งสถิติที่เกิดขึ้นตรงนี้เราก็เริ่มให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแก้ไขปัญหา ไปจัดทำให้มันดี และการจราจรที่วิ่งออกไปมันก็จะได้สมูธแล้วก็อุบัติเหตุลดลง และทำให้แก้ไขอุบัติเหตุไปด้วย” พล.ต.ต. อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) กล่าวชี้แจงรายละเอียด
นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมการในเรื่องการบังคับใช้ข้อกฎหมาย ทั้งในเรื่องของการตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์, การจำกัดความเร็ว และการรณรงค์คาดเข็มขัดนิรภัย เพื่อที่จะแก้ไขในเรื่องของอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้อีกด้วย
“เตรียมการในเรื่องของเมาไม่ขับครับ เราได้มีการตั้งจุดตรวจเมาขึ้น ในพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร โดยให้ไปตั้งจุดตรวจหน้าสถานบริการ ที่หน้าผับต่างๆ สน.ละ 1 จุด ก็คือว่าเดินออกจากผับมาแล้วจะกลับบ้าน ก็ต้องตรวจแอลกอฮอล์ก่อน ถ้าเกิน50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เราก็ไม่ให้ขับรถ เราก็จะมีการจัดรถแท็กซี่ให้กลับบ้านแทน นั่นก็คือการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ
นอกจากนี้ก็จะเป็นเรื่องของความเร็ว ตอนนี้เราได้กำชับในทุกพื้นที่ให้มีการตรวจความเร็ว ถ้าหากว่ามีการขับรถเกินกำหนดก็จะมีการจับกุมและปรับในอัตราสูงสุด รวมทั้งในปีใหม่ เราจะดำเนินการในเรื่องของเข็มขัดนิรภัยด้วย จะมีการรณรงค์และถ้าใครไม่คาดเข็มขัดนิรภัยก็จะโดนปรับในอัตราสูงสุด เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็จะเป็นในเรื่องของการแก้ปัญหาอุบัติเหตุการจราจร”
พื้นที่เสี่ยงทั่วไทย เตือนประชาชนให้ระวัง!
พื้นที่ในประเทศไทย เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทุกพื้นที่ หากประชาชนใช้รถใช้ถนนอย่างไม่มีสติและอยู่บนความประมาท รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวเพิ่มเติมถึงมาตรการการป้องกันว่า
“พื้นที่เสี่ยง มันก็ครอบคลุมไปทุกพื้นที่ เราไม่สามารถกำหนดได้ว่าเส้นไหนเกิดมากที่สุด เพราะส่วนมาก จะกระจายในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งโดยทั่วไปก็จะเป็นถนนสายหลักนะครับ ที่ใช้ความเร็วได้มาก ตรงนี้ก็เป็นจุดเสี่ยง เพราะฉะนั้นในส่วนของที่ผ่านมา ก็จะมีจุดต่างๆ ที่เรากำหนดไว้ว่ามันเกิดความเสี่ยงเพราะอะไร อาจจะเป็นทางโค้ง, ทางที่ปิดไม่สามารถที่จะมองเห็นได้ หรือมีสิ่งแวดล้อมที่มากีดขวาง เราพยายามจะแก้ไขปัญหาตรงจุดนั้น ซึ่งตรงนี้ทางศูนย์บูรณาการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุ เขาจะประสานงานกับทุกหน่วยที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้เข้าไปแก้ปัญหา”
ทั้งนี้ ทางด้านการตำรวจจราจร ต้องเร่งออกปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่องแม้จะอยู่ในช่วงของวันหยุดเทศกาลปีใหม่ก็ตาม เรียกได้ว่าห้ามขาด ห้ามลา เลยทีเดียว เพราะตำรวจเหล่านี้มีหน้าที่แก้ไขการจราจรไม่ให้ติดขัด และสร้างความปลอดภัยให้แก่ประชาชน
“ในช่วงบ่ายของวันที่ 4 ม.ค 58 รถก็จะหลั่งไหลเข้ากรุงเทพฯ ตรงนี้เราก็ต้องจัดระบบการจราจร จนกระทั่งถึงเที่ยงคืน หรืออาจจะจนกระทั่งรถหมด จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 คือส่วนที่เป็นจุดตัดเราก็ประสานงานกับทาง กทม. แขวงการทางรวมทั้งการทางพิเศษ ก็จะจัดระบบการจราจรให้ไม่มีจุดตัดให้ได้มากที่สุด
ส่วนที่ 2 คือในส่วนที่เป็นทางแคบ จะมีการเปิดพื้นผิวการจราจรให้กว้างขึ้น เพื่อที่จะรองรับการจราจรที่คับคั่ง เพื่อที่จะให้รถไหลออก หรือไหลเข้าจากกรุงเทพมหานคร ในช่วงวันเปิดได้อย่างสะดวก โดยได้มีการเตรียมการโดยเข้มงวด กวดขันนะครับ”
หากคุณไม่อยากเป็นหนึ่งในผู้โชคร้ายที่เสียชีวิตจากการประสบอุบัติเหตุ จงจำไว้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเดินทาง คือการขับรถอย่างมีสติ และอยู่บนความไม่ประมาท
“ต้องตรวจเช็กรถให้ครบถ้วนสมบูรณ์ และจะต้องมีสติในการขับรถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องมีระเบียบวินัยการจราจร ขับรถต้องระวังคน ตรงนี้ขอฝากพี่น้องประชาชนให้ระมัดระวัง ให้ใช้สติและมีวินัยในอย่างเต็มที่การขับขี่รถด้วยครับ” พล.ต.ต. อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย
ข่าวโดยASTV ผู้จัดการLive
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@astv_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754
