กระแส “น้องม็อบ” สาวประเภทสองที่ดังข้ามคืนเพียงรูปเธอยืนลวกก๋วยเตี๋ยว กลายเป็นที่พูดถึงในฐานะแม่ค้าก๋วยเตี๋ยวที่สวยที่สุด เมื่อรวมกับกระแสคนหน้าตาดีแต่อยู่ใกล้ตัวอีกหลายครั้งในช่วงปีที่ผ่านมาก็ชวนให้สงสัยถึงว่า ปรากฏการณ์นั้นมีแรงขับเคลื่อนคืออะไร!
รวมคนหล่อ - สวยจนต้องบอกต่อ
ความสนใจคนหน้าตาดี สวย - หล่อนั้นเป็นปกติของมนุษย์ แต่องค์ประกอบเพียงเท่านั้นอาจเป็นเรื่องธรรมดาเกินกว่าที่จะกลายเป็นกระแส เป็นที่พูดถึง ยิ่งในโลกออนไลน์ที่ใครๆ ก็ถ่ายรูปตัวเองลง ความแปลกของสิ่งที่เป็นจึงกลายเป็นอีกประเด็นที่ทำให้ผู้คนเหล่านั้นกลายเป็นที่พูดถึง หลายคนถูกตามตัวไปสัมภาษณ์ออกทีวี แต่แน่นอน บางคนก็เป็นเพียงกระแสข่าวลือเท่านั้น
“น้องม็อบ” แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวสุดสวย
หลังจากกลายเป็นกระแสในชั่วข้ามคืนเมื่อมีการแชร์ส่งต่อภาพของ “น้องม็อบ - ฐิติวรดา เจ็กท้าว” ที่ในทีแรกนั้นทุกคนคิดว่าเธอเป็นแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว กระแสของเธอเป็นที่พูดถึงจนกลายเป็นเน็ตไอดอล มีผู้ติดตามเฟซบุ๊กส่วนตัวของเธอเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ทว่าหลังจากเธอได้ไปออกรายการทีวีรายการหนึ่ง เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อเธอเผยว่าแท้จริงแล้ว ตนเองเป็นสาวประเภทสอง! อีกทั้งยังไม่ได้ประกอบอาชีพแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวแต่อย่างใด หากแต่ยังเป็นเพียงนักศึกษาอยู่เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ความโด่งดังก็ยังไม่น้อยลง หากแต่ยิ่งเป็นประเด็นให้คนพูดถึงมากยิ่งขึ้นแทน
“ยามก๊อต” ยามหล่อมช.
ก๊อต-จักรพันธ์ นุพอ หรือหลายคนเรียกเขาว่า ยามก๊อต พนักงานรักษาความปลอดภัย(รปภ.) หนุ่มที่ถูกถ่ายรูปแล้วนำมาแชร์ กลายเป็นที่รู้จักในสังคมออนไลน์กับความหล่อที่มาพร้อมกับบุคลิกร่าเริงแจ่มใส ซึ่งหลายคนมองว่าดูดีกว่ายามโดยทั่วไป ด้วยคุณสมบัตินี้เองที่ทำให้สาวน้อย สาวใหญ่และสาวเทียมถึงกับตั้งแฟนเพจ “CMU Cute Community ตามติดชีวิตยาม มช.” เพียงวันเดียวมียอดกดไลค์ถึงกว่า 1 หมื่นไลค์เลยทีเดียว โดยเขาเป็นที่รู้จักจากการมีคนมาขอถ่ายรูป รวมถึงการพูดกันแบบปากต่อปากจนเป็นที่รู้จักไปทั่วเชียงใหม่
พ่อค้าเขียงหมูหล่อล่ำเหลือเชื่อ
จากภาพชายหนุ่มหล่อล่ำยืนหั่นหมูอยู่ในตลาด กลายเป็นข่าวลือแชร์ส่งต่อว่า เขาคือพ่อค้าขายหมูที่สุดหล่อ กล้ามล่ำ ที่ทำงานอยู่ตลาดคลองเตย แต่หลังจากมีการรายงานข่าวออกมา ไม่นานความจริงก็ถูกเปิดเผยว่า ชายหนุ่มในรูปดังกล่าวนั้น แท้จริงแล้วคือนายแบบหนุ่มใหญ่ชาวฟิลิปปินส์ ผู้มีนามว่า Louis Alandy โดยต้นเรื่องของกระแสดังกล่าวมาจากผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งแชร์ภาพดังกล่าว พร้อมข้อความเล่นๆ เท่านั้น
วินมอเตอร์ไซค์หล่อสาวกรี๊ด
กลายเป็นภาพที่ถูกแชร์กันไป และมีหลายสำนักข่าวตามกระแส พร้อมสาวๆ ตามกรี๊ดรูปหนุ่มหล่อใส่เสื้อกั๊กวินมอเตอร์ไซค์ โดยมีการระบุว่า เขาเป็นวินมอเตอร์ไซค์หน้าหล่อที่ให้บริการอยู่หน้ามหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ แต่กระแสดังกล่าวก็อยู่ได้ไม่นานเมื่อความจริงเผยว่า รูปดังกล่าวเป็นเพียงรูปที่เจ้าตัวถ่ายเล่น โดยแท้จริงแล้วเขาเป็นนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ แถมยังเคยผ่านงานเดินแบบมาแล้วอีกด้วย หลังจากเรื่องกลายเป็นข่าวใหญ่ เจ้าตัวก็รีบออกมาแก้ข่าวผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวทันที
เด็กเสิร์ฟร้านลาบสวยเวอร์
หลังจากมีกระแสแชร์ภาพสาวนางแบบโดยมีระบุว่าเธอทำอาชีพเป็นสาวเสิร์ฟร้านลาบต้นยาง ร้านอาหารชื่อดังแห่งจังหวัดเชียงใหม่ รูปเธอกลายเป็นข่าวจนมีการตามหาตัวเพื่อสัมภาษณ์และพบว่า เธอชื่อ แนน นุชนัท ศรีทอง เป็นชาวไทยใหญ่จากเมืองตองจิ ประเทศพม่า ทั้งนี้เธอทำงานอยู่ที่ร้านอาหารดังกล่าวจริง และรับงานถ่ายแบบเป็นงานอดิเรกเท่านั้น และเธอยึดอาชีพดังกล่าวมานานกว่า 5 ปีแล้ว
สาวขายลอตเตอรี่ผู้น่ารัก
เรื่องราวของสาวน่ารักขายลอตเตอรี่เพื่อช่วยเหลือจุนเจือรายได้ที่บ้าน กลายเป็นเรื่องชวนประทันใจที่ถูกแชร์แบ่งปันกันในโลกออนไลน์ รจนา พรมมหาลา อายุ 19 ปี หรือน้องมายด์คือสาวน่ารักคนดังกล่าว ภายหลังจากเรื่องราวของเธอเป็นที่รับรู้ เธอก็ได้รับความสนใจมากขึ้น เรื่องราวที่เธอมาขายลอตเตอรี่ที่ที่ทำการไปรษณีย์ จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อทำเงินไปดูแลพ่อที่สุขภาพไม่ดีและไม่สามารถทำงานได้ ครอบครัวของเธอมีฐานะยากจนและมีหนี้สินกว่า 3 แสนบาท พลังของโซเชียลมีเดียทำให้ภายหลังเธอก็ได้รับการอุดหนุนจากผู้คนเป็นจำนวนมาก
ทำไมต้องบอกต่อ?
เหตุผลเบื้องลึกเบื้องหลังการแชร์ส่งต่อภาพคนสวย - หล่อ ธาม เชื้อสถาปนศิริ นักวิชาการสถาบันวิชาการสื่อสาธารณะ (สวส.)/ไทยพีบีเอส วิเคราะห์ถึงปัจจัยต่างๆ ไว้ ตั้งแต่ธรรมชาติของมนุษย์และสนใจในคนหน้าตาดี เรื่องเพศ ความแปลกประหลาดขององค์ประกอบเรื่องราวในภาพ กระทั่งถึงเทคโนโลยีที่ทำให้ผู้คนรู้จักกันมากขึ้น ทำให้คนที่ไม่เป็นที่รู้จัก กลายเป็นคนมีชื่อเสียงได้ในชั่วข้ามคืน
“มันเกิดจากนวัตกรรมของสื่อที่เกิดในยุคใหม่ การเกิดของโซเชียลมีเดีย เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม และโซเชียลแคม ซึ่งต่างมีคุณสมบัติในการทำให้คนธรรมดา ใครก็ไม่รู้ที่เราไม่รู้จักในสังคม กลายเป็นใครสักคนที่เรารู้จักในสังคมได้”
ปรากฏการณ์ที่ตั้งแต่ยามหน้าตาดี พ่อค้าหมูหล่อ น้องม็อบกระทั่งถึงวินมอเตอร์ไซค์ ถือเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า สื่อออนไลน์ทำให้คนธรรมดากลายเป็นคนดังได้ นอกจากนี้ยังมีการรวมกลุ่มประเภทแฮชแท็ก หรือเพจต่างๆ ที่มักจะให้ชื่อ อาชีพต่างๆแล้วต่อท้ายที่ หล่อ หรือสวย บอกด้วยอีกต่างหาก
เขามองว่า สิ่งเหล่านี้สะท้อนสิ่งที่แอนดี้ วอร์ฮอล ศิลปินผู้นำศิลปะแนวป็อปคัลเจอร์ กล่าวไว้ว่า ในสังคมอนาคตคนธรรมดาจะกลายเป็นคนดัง และทุกคนต้องการชื่อเสียงโด่งดังอย่างน้อย 15 นาที ทฤษฎีนั้นมีชื่อว่า 15 มินิทออฟเฟรม หรือ 15 นาทีแห่งความโด่งดัง ในยุคนั้นคือโด่งดังจากการออกทีวี แต่ในยุคนี้ความโด่งดังมาจากโซเชียลมีเดีย ผ่านภาพถ่าย ผ่านคลิปต่างๆ
“ทีนี้สิ่งที่น่าสนใจคือทำไมต้องสนใจคนสวยหล่อ มีแฮชแท็กหมอหล่อบอกด้วย ทหารหล่อบอกด้วย อะไรต่อมิอะไรหล่อบอกด้วย แล้วบอกด้วยคือใครบอก มันคือประชาชนนะ สิ่งนี้สะท้อนว่า เราเริ่มย้ายความสนใจจากดารามาสู่คนธรรมดาแล้ว
“จากเดิมเห็นสาวข้างบ้านน่ารัก เรื่องแบบนี้มันอยู่ในความปกติของชีวิตประจำวัน พอมันถูกขยายในโซเชียลมีเดีย ถ้าเป็นแต่ก่อนก็อาจจะนั่งคุยกันเมาท์กันที่สามแยกปากหมาตามมหาวิทยาลัย แต่โซเชียลมีเดียมันเข้ามาพหุคูณบทสนทนาเหล่านั้น”
เขายังยกตัวอย่างเพิ่มเติมของ กรณีกำเนิดเฟซบุ๊กที่มาร์ก ซักเคอร์เบิร์กอกหักจากแฟนสาวในช่วงปี 2003 มาร์กจัดทำเว็บเฟซแม็ตขึ้นโดยนำรูปแฟนมาเทียบประชันกับสาวคนอื่นๆในหอ จากนั้นมันก็ลามไปทั่วมหาวิทยาลัย และกลายเป็นเฟซบุ๊คในที่สุด
“มันคือนิสัยของมนุษย์ในการที่จะชอบจัดอันดับและมองหาคนหน้าตาดีๆ ที่อยู่ใกล้ๆตัว กระแสเหล่านี้มันคือการหาความพิเศษนั้นคือหน้าตาดี หล่อสวย มาอยู่ในความธรรมดาคืออาชีพอย่างยาม พ่อค้า แม่ค้า มันสะท้อนด้วยว่าสังคมแปลกใจกับเรื่องนี้เพราะคนหน้าตาดีไม่น่ามาประกอบเหล่านี้ ทั้งๆ ที่คนปกติในสังคมก็มีทั้งหน้าตาดีและไม่ดีทั้งนั้น”
…
ท้ายที่สุดการมองคนแต่เพียงภายนอกอาจเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ หากแต่การรู้จักตัวตนกันมากขึ้น ผ่านหลายสิ่งหลายอย่างนอกจากภาพถ่ายที่ดูดี อาจเป็นประโยชน์ที่มากกว่าสิ่งที่โซเชียลมีเดียจะมีให้กับทุกคน
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ LIVE
ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage
"ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!
**สามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754
