xs
xsm
sm
md
lg

ด่ายับ!กองประกวดนางงามมาตรฐานสุดแย่ ไร้การตรวจสอบ!!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ยังฉาวไม่หยุด ล่าสุดปลด “น้ำเพชร-สุณัณณิภาร์ กฤษณสุวรรณ” รองอันดับสองมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เพราะมีภาพวาบหวิวตอนรับงานเป็นพริตตี้ก่อนได้รับตำแหน่ง เลยเจอนางงามฉะว่าไม่ยุติธรรม กองประกวดใช้สองมาตรฐาน ในขณะที่นางงามรุ่นพี่บอกว่ากองประกวดผิดเองที่ไม่ตรวจสอบ ควรจะมีการคัดกรองผู้สมัครก่อนตัดสิน!

น้ำเพชรเปิดใจ

ต้องบอกว่า “เวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ” มีเรื่องงามหน้าอีกแล้ว เพราะตั้งแต่ต้นปีมา นางงามจากเวทีนี้มีเรื่องฉาวไม่หยุด ไล่มาตั้งแต่คนที่ได้ตำแหน่งชนะเลิศยันรองอันดับสอง ไม่ว่าจะเป็น “ฝ้าย-เวฬุรีย์ ดิษยบุตร” ที่ยอมสละสิทธิตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เซ่นพฤติกรรมไม่เหมาะสมของตัวเอง, "แอลลี่ -พิมบงกช จันทร์แก้ว"รองอันดับหนึ่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ (ตอนนี้เข้ารับตำแหน่งแทนฝ้ายที่สละตำแหน่งไปแล้ว) ที่มีภาพจูบปากผู้ชายว่อนเน็ต และ “น้ำเพชร-สุณัณณิภาร์ กฤษณสุวรรณ” ที่ล่าสุดมีภาพแหกขาตอนทำงานเป็นพริตตี้ ส่งผลให้กองประกวดฟันดาบปลดออกจากตำแหน่งทันที ทำเอาเจ้าตัวฉะกองประกวดว่าไม่เป็นธรรม ใช้สองมาตรฐานในการตัดสิน และยังไม่เคยได้รับเงินรางวัลตั้งแต่ได้ตำแหน่ง

ทั้งนี้ น้ำเพชร-สุณัณณิภาร์ ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว ASTV ผู้จัดการ Live ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า รู้สึกผิดหวังกับความไม่เป็นธรรมของกองประกวด เพราะใช้สองมาตรฐานในการตัดสิน โดยที่ตนเองไม่มีโอกาสชี้แจง

“เรื่องราวที่เกิดขึ้น หนูยังมีศรัทธาให้กับเวทีนางงามเหมือนเดิม เพียงแต่ผิดหวังว่าโดนปลดอย่างไม่ยุติธรรม ไม่มีความเป็นธรรมให้กับหนู เพราะไม่มีโอกาสชี้แจงกับทางผู้ใหญ่เลย แต่ผู้ใหญ่ก็ปลดหนูจากข้อกล่าวหาและรูปภาพแล้ว

“การที่หนูเอารูปแอลลี่มาเปรียบเทียบ ส่วนตัวแล้วก็ไม่ได้ผิดใจอะไรกับแอลลี่นะคะ แต่ที่จำเป็นต้องเอาภาพเขามายกตัวอย่าง เพื่อต้องการถามว่าถ้าหนูเป็นผู้หญิงในภาพนั้นที่กำลังจูบปากกับผู้ชายอยู่ กองประกวดจะมองว่านี่เป็นเรื่องส่วนตัว แล้วให้โอกาสรับตำแหน่งต่อไปไหม คือ หนูคิดว่ากองประกวดมีสองมาตรฐานในการจัดการเรื่องของหนู รู้สึกว่าไม่มีความเป็นธรรม

คือหนูขอยืนยันว่า ภาพที่เกิดขึ้นว่าหนูทำไม่เหมาะสมนั้น เกิดขึ้นตอนรับงานเป็นพริตตี้ สาเหตุที่ทำอย่างนั้น เพราะเราคือเสาหลักของครอบครัว ตอนนั้นหนูอายุ 17 ปี และต้องทำทุกอย่างเพื่อหารายได้เข้าบ้าน เพราะคุณแม่ล้มป่วย ยังทำงานไม่ได้ หนูเลยต้องดิ้นรนทุกอย่างและต้องรับงานตรงนั้น แต่ว่าหนูไม่ได้ทำงานขายตัวหรือค้ามนุษย์ อย่างที่คนหาว่าหนูเป็นเอเย่นต์ค้าเนื้อสด ซึ่งหนูไม่เคยทำจริงๆ

“หนูทำงานเป็นพริตตี้ ขายครีมในอินสตาแกรมและอินเตอร์เน็ต แล้วผู้ใหญ่ก็บอกว่าอย่าใช้ตำแหน่งไปขายของนะ หนูก็รู้สึกว่าทำไมไม่เห็นใจเราเลย คุณไม่ให้เงินเรา แล้วคุณยังไม่ให้โอกาสในการทำมาหากินหรือดำรงชีวิตต่อไปเลยเหรอ คือ หนูอยากขอความเมตตาจากท่านว่า อย่างน้อยหนูก็เป็นเด็กคนหนึ่งที่อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น อยากก้าวเดินต่อไปในสังคม อยากมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น” น้ำเพชรกล่าว

นอกจากนั้น น้ำเพชรยังบอกอีกว่าหลังได้รับตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์รองอันดับสองนั้น ตนเองไม่เคยได้รับเงินรางวัลจากตำแหน่งเลย แต่ก็ไม่เคยคิดจะฟ้องร้องอะไร เพราะสำนึกในบุญคุณของกองประกวดที่ให้โอกาสตนเองจนมาถึงจุดนี้ได้

“หนูไม่เคยได้รับเงินจากกองประกวด เห็นกองประกวดให้สัมภาษณ์ทางรายการหนึ่งว่าคนที่จะได้เงินรางวัลนั้นจะ ต้องเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงของบริษัทก่อน แต่หนูคิดว่าเราเข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ก็ควรได้รับเงินตำแหน่งในฐานะรองอันดับสอง ไม่น่าเกี่ยวกับการเป็นนักแสดงบริษัท เพราะตอนที่หนูไปสมัครประกวด ในใบสมัครก็ไม่ได้ระบุว่าจะต้องเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงสังกัดของบริษัทก่อนถึงจะได้รับเงิน แต่เขาบอกว่าผู้ที่ได้รับตำแหน่งจะได้เงินรางวัลเท่านี้ ได้ของรางวัลเท่านี้ โดยไม่ได้มีเงื่อนไขอะไรตามมาค่ะ

“ตอนนี้ไม่ได้คิดแล้วว่าจะได้เงินก้อนนี้ไหม แต่ถ้ามีโอกาสจะได้รับเงินก้อนนี้ ตั้งใจว่าจะส่งต่อเงินก้อนนี้คืนแก่สังคม เหมือนอย่างที่เคยพูดไว้บนเวทีว่า อยากทำโครงการจิตอาสาพัฒนาโรงเรียนชนบท เลยจะมอบเงินให้แก่โรงเรียนชนบทที่ด้อยโอกาส แต่ถ้าเขาไม่ให้ก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่ที่หนูต้องออกมาพูดเรื่องนี้ เพราะคนเข้าใจว่าหนูได้รับเงินรางวัลแล้ว หนูเลยแค่อยากชี้แจงว่าหนูยังไม่ได้รับเงินและไม่เคยได้รับ

“แล้วหนูก็ไม่เคยคิดจะฟ้องร้องอะไร เพราะระลึกในใจเสมอว่ากองประกวดและผู้ใหญ่ในกองประกวดทุกท่าน เป็นคนให้โอกาสหนูจนได้มาอยู่ ณ จุดนี้ การที่ออกมาแถลงข่าว ไม่ได้มีเจตนาไปแฉหรือพาดพิงถึงใคร แต่ ณ ตอนนี้ที่หนูต้องออกมาพูด เพราะรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่เมื่อถึงที่สุดแล้วและไม่ได้อะไร ก็ถือว่าเป็นบทเรียนรางวัลราคาแพงที่สุด หนูแค่อยากให้ผู้ใหญ่ทุกท่านพิจารณาในแง่ความยุติธรรม เพราะหนูอยากได้รับโอกาสและอยากให้ท่านมองถึงอนาคตของเราบ้างเท่านั้นเอง”

นอกจากนั้น น้ำเพชรยังบอกว่า เสียใจกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น แต่ก็ดีใจที่ยังมีคนให้กำลังใจและมีคุณแม่เคียงข้างในยามที่มีปัญหา

“คุณแม่ก็เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ท่านสอนว่า ชีวิตคนเราก็เท่านี้ ถ้าไม่ได้แล้วก็คงต้องปล่อยมือ สติเท่านั้นที่มีค่าสำหรับตัวลูก ลูกจะต้องใช้สติดำรงชีวิตให้ถึงจุดหมายที่วาดฝันไว้ ท่านยังบอกอีกว่า ใครจะมองลูกยังไงก็ตาม แต่ลูกยังเป็นคนดีคนเก่งของแม่ เพราะคือแก้วตาดวงใจของแม่ที่รอมาทั้งชีวิต (ร้องไห้สะอื้น)”

ส่วนกรณีภาพฉาวของตนเองที่เป็นภาพหวือหวา ใส่ชุดวาบหวิว มีนั่งแหกขาบนรถและนั่งบนตักผู้ชายขณะรับงานเป็นพริตตี้ จนเป็นเหตุให้หลุดจากตำแหน่งนั้น น้ำเพชรยอมรับกับทีมข่าว Astv ผู้จัดการ Live ว่าเป็นภาพที่แรงจริง หากย้อนเวลากลับไปได้ ตนเองก็จะไม่ทำอย่างนี้

“หนูยอมรับว่าสิ่งที่ทำมันแรง แต่ตรงนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจแต่ละบุคคลด้วยว่าจะเป็นยังไง บางคนอาจจะเห็นว่าน่าสงสารและเมตตา แต่บางคนอาจจะเห็นว่ามันน่ารังเกียจ ซึ่งหนูไม่สามารถที่จะไปเปลี่ยนแปลงความคิดของใครได้ หนูไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอดีตได้จริงๆ แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ หนูคงจะไม่รับงานที่ทำให้ต้องเดือดร้อนหรือกลับมาทำร้ายตัวเองได้อีก วันนั้นหนูเองก็ไม่รู้ว่าจะสามารถเดินตามความฝันมาได้ขนาดนี้

“วันนี้สิ่งที่หนูได้เรียนรู้จากเรื่องนี้คือ ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน มันสอนให้รู้ว่าหนูไม่สามารถหนีจากความผิดพลาดในอดีตไปได้ และไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้ แต่ปัจจุบันหนูได้เรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน และพยายามทำวันนี้ให้ดีขึ้นและเพื่อวันข้างหน้าค่ะ “ น้ำเพชรกล่าว

กองประกวดโยนบาปให้เด็ก?

อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้นอาจเรียกได้ว่ากองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ “โยนบาป” ให้เด็กฝ่ายเดียว เพราะตอนตัดสินตำแหน่ง ทางกองประกวดฯ ก็ไม่ได้มีการสอบประวัติผู้เข้าประกวดก่อน กระทั่งพอตัดสินให้นางงามได้ตำแหน่งแล้ว ถึงมาปลดตำแหน่งตอนหลัง

ทั้งนี้ “บุ๋ม- ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” อดีตนางสาวไทยปี 2543 ที่แม้จะเป็นนางงามคนละเวที แต่ก็แสดงความคิดเห็นในฐานะที่เป็นนางงามรุ่นพี่และเติบโตมาจากเวทีนางงามว่า

“กองประกวดเองควรจะพิจารณาคัดกรองให้ดีกว่านี้ เพราะถามว่าเด็กผิดไหม ฝ้ายผิดไหม น้ำเพชรผิดไหม พวกเขาไม่ผิด แต่คุณเลือกเขาเอง กองประกวดเลือกเขาเอง แต่คนที่รับกรรมวันนี้กลับกลายเป็นตัวเด็กๆ

คือโอเคอาจจะผิดทั้งสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งทำประวัติตัวเองมาไม่ดี แล้วอีกฝ่ายหนึ่งก็รีบตัดสินจนเกินไป สมัยก่อนถึงต้องมีการเก็บตัวนางงามนานๆ เพราะจะได้มีคนส่งข่าวว่าใครทำอะไร แล้วจะได้มาพิจารณาข่าวกันอีกที มันถึงได้ไม่มีปัญหา ดังนั้น เรื่องนี่ถือเป็นบทเรียนของผู้ใหญ่ ที่ต้องอาศัยการอบรม การเก็บตัวดีๆ และมีการคัดกรองมากขึ้น” บุ๋ม- ปนัดดากล่าว ทั้งยังได้วิจารณถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับน้ำเพชรว่า

“เรื่องภาพของน้องน้ำเพชรนั้น เชื่อว่าโดยคอมมอนเซนส์ของเขาคงจะรู้อยู่แล้วว่าอะไรเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม งานที่เขาทำเป็นอาชีพสุจริตก็จริง แต่บางทีการรับงานบางอย่างอาจจะเกินเลยไป เพราะแต่ละเวทีเซนซิทีฟเรื่องพวกนี้ต่างกัน อย่างเวทีของนางสาวไทย ต่อให้เป็นแฟน แต่ถ้ามีรูปกอดจูบกัน ก็อาจจะสั่นคลอนได้ แต่ของเวทีอื่น อาจจะมีการยอมๆ ก็ได้ เพราะถือว่าเป็นแฟนกัน คบกันสมัยเด็กๆ แต่ในเรื่องของน้องน้ำเพชร มีการไปขึ้นนั่งเอวผู้ชาย ซึ่งน้องไม่ได้เอารูปนี้ขึ้นโชว์พร้อมกับรูปของแอลลี่ อย่างที่บอกว่าบางงานมันก็เกินไป ดังนั้นเชื่อว่าในส่วนของกรรมการหรือกองประกวดเองก็ต้องมีวิธีการคิดหรือพูดคุยว่าได้ไม่ได้ หรือสมควรหรือไม่ เพราะเป็นความเสียหายของกองประกวดด้วยนะ 

แล้วบุ๋มอยากฝากบอกน้องน้ำเพชรว่า บางทีการไปก้าวร้าวกับผู้ใหญ่ สังคมไทยก็มองว่าไม่เหมาะอยู่ดี ดังนั้นการที่หนูบอกว่าอยากจะขอที่ยืนในสังคมนั้น หนูต้องขอร้องผู้ใหญ่ให้นิ่มนวลกว่านี้ ไม่ใช่มานั่งกะเกณฑ์ว่าฉันไม่คืนมงกุฎ ฉันคืนแต่สายสะพาย เอาเงินฉันมา อะไรอย่างนี้ เพราะมันดูน้องแรงไปนิดนึง พูดด้วยความเป็นห่วง

ถามว่าเรื่องทั้งหมดหนูผิดไหม หนูก็ไม่ผิดหรอก แต่ถามว่าเหมาะสมไหม ตอบว่าไม่เหมาะสมค่ะ แต่ละคนไม่รู้หรอกว่าอนาคตเราจะเป็นใคร จะอยู่อย่างไรในอนาคต เราไม่รู้อนาคตแน่นอน ฉะนั้นวันนี้ทำให้ดีที่สุด ดูแลตัวเองให้ดีที่สุด คลิปอย่าไปถ่าย เพราะทุกอย่างที่เราสร้างตอนนี้คือ อนาคตต่อไปข้างหน้าของเรา” บุ๋มกล่าว ทั้งยังบอกอีกว่าการที่เวทียูนิเวิร์สไทยแลนด์มีปัญหาเรื่องนางงามบ่อยๆ อาจจะส่งเสียต่อสปอนเซอร์ที่สนับสนุนการประกวด และเวทีประกวดควรจะรับผิดชอบถึงเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย

“บุ๋มเองเป็นสปอนเซอร์เสื้อผ้าให้เวทีนั้นด้วย ยังต้องถามตัวเองว่าปีหน้ายังจะต้องสปอนเซอร์อีกไหม ในเมื่อมันเละเทะขนาดนี้ ก็ไม่ไหว เพราะปกติสิ่งที่สปอนเซอร์จะได้จากการประกวดคือ เราต้องได้ใช้เด็กที่ประกวดด้วย คือ หลังประกวดเสร็จ เด็กที่ได้ตำแหน่งต้องมาถ่ายโฆษณาให้กับเรา หรือมาออกงานกับเรา แต่นี่เรากลับใช้เด็กเขาไม่ได้สักคน ซึ่งความจริงกองประกวดจะต้องเป็นคนรับผิดชอบด้วย”


ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ Live

ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตและ www.pantip.com



ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage
"ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!
**สามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754


น้ำเพชร-สุณัณณิภาร์ กฤษณสุวรรณ
ภาพเซ็ทที่ตกเป็นข่าวฉาวว่าไม่เหมาะสมของน้ำเพชร








น้ำเพชรออกมาแถลงข่าวหลังถูกปลดออกจากตำแหน่งทั้งน้ำตา





กำลังโหลดความคิดเห็น