ทหารออกมาเปิดใจ บอกมุ่งสร้างโรดแมปเพื่อสันติสุขของประชาชน แก้ปัญหาวินมอเตอร์ไซต์ ขจัดอิทธิพลเถื่อน ระบุเรื่องยาเสพติด การซ่องสุมอาวุธสงคราม และหมิ่นสถาบัน เป็นเรื่องยอมไม่ได้ วอนประชาชนเข้าใจการทำงานของ คสช. และเห็นใจครอบครัวของทหาร
เดินหน้าจัดระเบียบวินมอเตอร์ไซต์
ร.อ.จักรภพ ชัยสุนทร ผบ.ร้อย 3. ปตอ. พัน 5 ได้ใหัสัมภาษณ์กับทีมข่าว ASTV ผู้จัดการ Live ว่าขณะนี้กำลังเดินหน้าเอาจริงเอาจังเรื่องจัดระเบียบวินมอเตอร์ไซต์ เพื่อให้คนขับตัวจริงได้มีสิทธิ์ถูกต้อง แก้ปัญหาการปล่อยให้เช่าเสื้อวิน ที่กลายเป็นอิทธิพลเถื่อนและเป็นปัญหาเรื้อรังมานาน
“ตอนนี้ผมดูแลพื้นที่เขตบางกรวย เรามีแผนงานว่าจะมีการสกรีนมอเตอร์ไซต์รับจ้างให้มากขึ้น ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าระบบวินมอเตอร์ไซต์ค่อนข้างมั่ว เลยกลายเป็นช่องว่างให้คนทำมาหากินได้ เช่น บางคนมีเสื้อวินถึง 3- 4 ตัว แล้วเอาไปปล่อยให้คนอื่นเช่า เพื่อเก็บเงิน ดังนั้นต่อไปเราจะไม่ให้มี ความจริงตามกฎกระทรวงแล้ว เราตัดสิทธิเขาไม่ได้ เราจึงจะออกกฎพิเศษขึ้นมา ซึ่งจะใช้เฉพาะในพื้นที่บางกรวยของเรา นั่นคือ ถ้าใครไม่มารายงานตัว เราก็จะทำหนังสือไปถึงเขาว่าเราขออนุญาตตัดสิทธิเขา เพื่อให้คนที่ทำงานจริงๆ ได้ทำ ส่วนคนที่ยังมารายงานตัว เพื่อรักษาสิทธิ ทั้งที่ไม่ได้ทำงานจริงๆ แล้วนั้น เราก็จะออกกฎระเบียบเพิ่มเติมว่า ถ้าคุณไม่วิ่งภายในเวลา 3 เดือน 5 เดือน หรือ 1 ปีที่เรากำหนด เราจะขออนุญาตยึดเสื้อวิน ยึดบัตร เพื่อให้คนอื่นที่ทำมาหากินจริงๆ ได้เข้ามาทำแทน นอกจากนั้นต่อไปบัตรวินจะต้องมีวันหมดอายุ เช่น 1 ปี 3 ปี 5 ปี เพื่อไม่ให้มีวินมอเตอร์ไซต์เกลื่อนเยอะและเหลือเฉพาะคนที่เป็นวินมอเตอร์ไซต์จริงๆ เท่านั้น
“แล้วต่อไปวินบางกรวยจะต้องมีป้ายราคาที่ชัดเจน มีรายชื่อสมาชิกชัดเจน และมีคณะกรรมการชี้แจงว่าทำอะไรบ้าง ส่วนใครที่เอาเสื้อวินไปแล้วปล่อยให้คนอื่นเช่า ก็จะทำไม่ได้อีก เพราะต่อไปเสื้อวินจะมีเบอร์ตัวเอง มีชื่อ และช่องข้างหลังสำหรับเสียบบัตรประจำตัวของวินมอเตอร์ไซต์บางกรวยที่ออกโดยอำเภอ บัตรนี้จะเห็นเป็นหน้า เป็นชื่อ เบอร์โทร และหมายเลขที่ถูกต้อง คล้ายบัตรประจำตัวแท็กซี่ นอกจากนั้นจะมีเบอร์ร้องเรียนเลยว่า ถ้าประชาชนนั่งไม่ถูกใจ สามารถแจ้งได้ ผมเชื่อว่าถ้าเราทำเสร็จแล้ว ผลประโยชน์จะตกมาอยู่ที่ประชาชนมากขึ้น และผู้มีอิทธิพลที่จะเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ก็จะหายไป ไม่มีการมาเก็บรายเดือนกับวินมอเตอร์ไซต์อีก ” ร.อ.จักรภพ กล่าว
ทั้งนี้ ร.อ.จักรภพ ระบุว่าในส่วนของวินมอเตอร์ไซต์บางกรวยซึ่งมีจำนวนกว่า 400 รายนั้น คาดว่าจะจัดให้ลงทะเบียนวินและทำเสื้อวินใหม่ให้เสร็จภายในสองสัปดาห์ หลังจากทำโครงการนี้เสร็จเป็นโรดแมปแล้ว จึงจะดำเนินแผนงานนี้กับวินอื่นๆ ที่เป็นรายย่อยลงไปอีก นอกจากนั้นยังมีแผนงานจัดอบรมต่างๆ อีก เช่น อบรมกฎหมายจราจร อบรมการปฐมพยาบาล เป็นต้น
“จะเห็นได้ว่าวินมอเตอร์ไซต์เป็นคนที่พบปะคนในท้องที่มากที่สุด รู้พื้นที่มากที่สุด ดังนั้นตราบใดที่หน่วยราชการกุมใจวินมอเตอร์ไซต์ได้ ช่วยให้เขาเข้มแข็งได้ เขาก็จะช่วยเป็นหูเป็นตาให้เราด้วย นี่คือเป็นผลประโยชน์ที่เราจะได้ในอนาคตครับ” ร.อ.จักรภพ ระบุ
นับเป็นวิธีการทำงานของทหารที่เอาจริงเอาจัง มุ่งสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนและสร้างผลประโยชน์ให้แก่สังคมจริงๆ
มุ่งแก้ปัญหายาเสพติด ซ่องสุมอาวุธสงครามและหมิ่นสถาบันฯ
ร.อ.จักรภพ ยังกล่าวอีกว่าหลังจากมีการประกาศกฎอัยการศึกและมีทหารเข้ามาทำหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองนั้น ทหารได้มีการทำงานประสานกับหน่วยงานราชการท้องถิ่น เพื่อจะได้ทราบปัญหาและช่วยสนับสนุนการทำงานให้มากขึ้น โดยการทำงานของทหารในแต่ละเขตพื้นที่อาจจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับแผนการดำเนินงานของแต่ละพื้นที่ แต่โดยรวมแล้วก็จะมีการประสานงานกับส่วนกลาง เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามนโนบายเดียวกัน
“ตอนนี้ท้องถิ่นบางกรวยน่าเห็นใจว่าคนน้อย คนทำงานไม่พอ ผมก็เอาทหารจากหน่วยงานมาช่วยงานที่อำเภอด้วย คือ ช่วยทำงานด้านเอกสาร เพื่อให้งานเดินหน้าต่อไปได้ เราอยากแก้ปัญหาต่างๆ ให้เป็นระบบ ไม่ใช่ว่าพอเรากลับไป ปัญหาต่างๆ ก็จะกลับมาอีก ดังนั้นเราพยายามที่จะสร้างให้ทุกอย่างอยู่ได้อย่างยั่งยืน แม้ทหารจะไม่อยู่หรือปลัดฯ ย้ายไปอยู่ที่อื่น ระบบก็ยังคงอยู่ คนอื่นสามารถมารันงานต่อได้
“เจตนาของเราคือเข้าถึงทุกพื้นที่ เพื่อจะได้ทราบปัญหาของประชาชน เพราะบางทีประชาชนก็ไม่กล้าพูดว่ามีปัญหาอะไร เราเลยมาช่วยเขาบูรณาการตรงนี้ ไม่ว่าจะเป็นการจับมือตำรวจท้องถิ่น ข้าราชการหรือทหารที่เข้ามา เพื่อให้ประชาชนร้องเรียน เช่น จัดงานประชาคม จัดคอนเสิร์ต เพื่อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมและเข้ามาบอกปัญหาของเขา เราบอกประชาชนเสมอว่าการเมืองให้เป็นเรื่องผู้ใหญ่ข้างบน เรามาทำให้ประชาชนแสดงความคิดเห็น คิดต่างเราไม่ว่า แต่ขอให้คุณอยู่ในกรอบ สามสิ่งที่เรารับไม่ได้คือ ปัญหายาเสพติด การซ่องสุมอาวุธสงคราม และการหมิ่นสถาบันฯ ซึ่งถ้าเกิดขึ้นในพื้นที่ เราจะใช้กำลังจัดการ และทำอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ประกาศกฎอัยการศึก
ส่วนกรณีของผู้ที่ทำผิดกฎหมายหรือผู้ทำตัวมีอิทธิพลนั้น ร.อ.จักรภพระบุว่าจะพยายามใช้วิธีการประนีประนอม เน้นการพูดคุย เพื่อสร้างสมานฉันท์
“ทุกพื้นที่มีปัญหาเรื่องบ่อนการพนันหรือยาเสพติด ขึ้นอยู่กับว่าที่ไหนหนักที่ไหนเบา ในพื้นที่เขตบางกรวยก็มีการตรวจพบอายุสงครามประมาณ 2-3 ครั้ง ส่วนเรื่องทั่วไป เช่น การพนัน บ่อน ถ้าไม่หนักหนาสาหัสมาก เราก็จะใช้วิธีประนีประนอมด้วยการไปพูดกับเขาว่า คุณห้ามทำอีก คุณพอนะ คุณหยุดนะ คือ อย่าบ่อนทำลาย ถ้าเขาเป็นผู้มีอิทธิพลและทำเขาจริง เก็บเงินเขาจริง แถมเป็นข้าราชการด้วย เราก็จะเรียกมาคุย เรียกมาถามว่าทำไมคุณถึงเก็บเงิน มีเรียกมาคุยแล้วหลายคน คือเราคุยเพื่อสร้างความเข้าใจ และเป็นการปรามก่อนว่าเราเอาจริงนะ ถ้าคุณยังมีเรื่องร้องเรียน เราจะเอาจริง หากเป็นข้าราชการ เราจะดำเนินการถึงที่สุด แต่ถ้าเป็นส่วนอื่น เราก็จะมีการนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อเอาเรื่องให้ถึงที่สุดครับ”
ทำงานด้วยใจล้วนๆ
ในสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่ปกติแบบนี้ เชื่อว่าหลายคนคงเห็นแล้วว่าทหารกำลังทำงานอย่างหนัก เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไป โดย ร.อ.จักรภพ ได้พูดถึงความรู้สึกที่เข้ามาทำงานตรงนี้ว่า
“ ผมพูดได้เลยว่าในความรู้สึกของผม รวมถึงทหารทุกคน เราต่างรู้สึกเหมือนกันคือ เรามาด้วยความหวังดี มาด้วยใจล้วนๆ แน่นอนว่าแม้เราจะมาตามคำสั่ง แต่เราก็ทำงานกันเต็มที่ ไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรเหมือนคนอื่น ผมคิดว่าลูกน้องผมทุกคนภูมิใจที่เห็นประชาชนเข้ามาขอบคุณ บางคนซื้อขนมซื้อน้ำมาให้ บอกว่าขอบคุณที่มาช่วยดูแลประชาชน ไม่อยากให้ไปเลย อยู่ตลอดไปเลยได้ไหม เราจะได้ยินคำพูดนี้เป็นประจำ ดังนั้น เราก็ภาคภูมิใจกับงานตรงนี้
“ตั้งแต่มีความไม่สงบขึ้นมาตลอดระยะเวลา 5-6 เดือนที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าทหารทำงานเหนื่อยจริงๆ ตัวผมเอง เป็นทหารหลัก ก็ต้องผลัดกันมาเข้าเวรกับลูกน้อง เข้ามานอนที่นี่ทุก 3-4 วัน และพัก 3-4 วัน แต่ในขณะวันที่เราพัก เราก็ยังต้องเข้ากองเพื่อทำงานอยู่ดี ถามว่าท้อบ้างไหม ผมก็มีท้อบาง เพียงแต่เราถอยไม่ได้เท่านั้นเอง เพราะหากเราเหนื่อย เราท้อ คนอื่นก็จะยิ่งแย่ไปใหญ่
“ผมอยากให้ประชาชนเข้าใจทหาร อย่างที่พลเอกประยุทธ์บอกว่าขอเวลาหน่อย แล้วอยากให้เห็นใจครอบครัวทหารด้วย บางครอบครัวต้องเสียสละหัวหน้าครอบครัวมาทำงานเพื่อประเทศชาติ บางคนก็ลำบากจริงๆ อย่างผมกล้าพูดได้เองว่าตอนนี้มีลูกอายุสองเดือนครึ่ง ความที่ผมงานยุ่งมาก ภรรยาผมเลยต้องเลี้ยงลูกคนเดียว แต่ผมก็ภาคภูมิใจที่ได้มาทำงานเพื่อชาติแบบนี้ ถามว่าทำงานปราบอิทธิพลเถื่อนแบบนี้ มีกลัวบ้างไหม ก็มีบ้างครับ แต่เราถือว่าเรามาทำงานด้วยใจ ไม่ได้มาเพราะผลประโยชน์ เรามาคืนความสุขให้ทุกคน ดังนั้น พวกที่ทำให้ประชาชนทุกข์ เขาต่างหากที่จะต้องละเลิก”
เชื่อว่าหลังจากนี้เวลาคงจะเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เราเห็นเองว่า ทหารทำหน้าที่ไปเพื่ออะไร และทำเพื่อใครกันแน่ หวังแค่ว่าสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ จะเน้นสร้างสมานฉันท์และเพื่อผลประโยชน์สุขของประชาชนอย่างแท้จริง
เรื่องโดย ASTV ผู้จัดการ Live
ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage
"ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!
**สามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754
