คสช.เบรกมะกันทบททวนยกเลิกฝึกคอบร้าโกลด์กับทหารไทย แนะต้องแยกแยะเรื่องการเมืองกับความมั่นคง เตือนกระทบผลประโยชน์ประเทศในภูมิภาคนี้ ขณะเดียวกันผิดหวังอียูชะลอความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ไม่ฟังข้อเท็จจริง เตือนประเทศที่จะให้ความช่วยเหลือ “จารุพงศ์-จักรภพ” จะเลือก 2 คนนี้หรือเหลือกประชาชนทั้งประเทศ กับคนไทยทั้งประเทศ ระบุ “เจ๊เพ็ญ” เปลี่ยนใจไม่ร่วมเวทีสื่อฮ่องกง ส่ง “อัมสเตอร์ดัม” ไปแทน
ที่กองบัญชาการกองทัพบก วันนี้ (25 มิ.ย.) พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศที่ประจำประเทศไทย 22 ประเทศ เข้ารับฟังการชี้แจงการเข้ามาควบคุมสถานการณ์และแนวทางบริหารประเทศของ คสช.เป็นครั้งที่ 2 โดยมีผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศที่ประจำประเทศไทยเดินทางมาร่วม 15 ประเทศ ส่วนประเทศที่ไม่ได้เดินทางมาร่วมมี 7 ประเทศ ประกอบด้วย ประเทศแคนาดา สวีเดน จีน อินเดีย เกาหลี ปากีสถาน รัสเซีย
พ.อ.วีรชนให้สัมภาษณ์ว่า สิ่งที่ชี้แจงคือ ผลงาน 1 เดือนของ คสช.ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีการจับกุมอาวุธและบุคคลที่ร่วมขบวนการขอนแก่นโมเดล โดยกล่าวว่ากลุ่มคนดังกล่าวมีแผนที่จะก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคอีสาน นอกจากนี้ยังพูดถึงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาที่ได้จ่ายเงินโครงการรับจำนำข้าวไปแล้วกว่า 92,000 ล้านบาท รวมถึงการจัดระเบียนรถโดยสารสาธารณะ เช่น รถตู้ แท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ตั้งเป้าให้เห็นผลภายใน 1 เดือน ซึ่งดูจากภาพรวมเป็นบรรยากาศที่น่าประทับใจ โดยผู้ช่วยทูตแต่ละประเทศเสนอให้ใช้ช่องทางทหารในการสื่อสารชี้แจงข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจ โดยทางผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ จะนำข้อมูลที่ได้รับทราบไปชี้แจงให้กับรัฐบาลและกองทัพของแต่ละประเทศได้รับทราบเช่นกัน ซึ่งเราได้สัมผัสถึงความตั้งใจและจริงจัง และความจริงใจ ซึ่งจะเห็นได้ว่าบรรยายกาศทางทหารแตกต่างจากฝ่ายการเมือง
อย่างไรก็ตาม ทาง คสช.ได้ฝากบอกไปยังผู้ช่วยทูตทหารในแต่ละประเทศเช่นกันว่า หากมีอะไรสงสัยก็ให้สอบถามได้โดยผ่านช่องทางนี้ เราอยากแสดงให้เขาเห็นถึงความจริงใจ เปิดเผยในทุกเรื่อง และพร้อมตอบคำถามในเรื่องที่สงสัย
พ.อ.วีรชนกล่าวว่า หลังจากการชี้แจงทางผู้ช่วยทูตทหารก็เชื่อในสิ่งที่เราได้อธิบายไป โดยเฉพาะปัจจัยที่ทำให้คนไทยเกิดความสุข ทั้งนี้เราได้ขอโอกาสให้ คสช.ได้ทำงาน สิ่งที่ผู้ช่วยทูตทหารยังไม่เข้าใจและกังวลใจคือความชัดเจนในอนาคตข้างหน้าว่าเราจะทำอย่างไรต่อไป เพื่อจะได้นำข้อมูลเหล่านี้ไปชี้แจงให้กับรัฐบาลและกองทัพของเขาได้รับทราบ เพราะที่ผ่านมาต้องยอมรับว่ารัฐบาลในต่างประเทศมีปัญหากับประเทศไทยในเรื่องของแผนงานของ คสช.ที่เขายังไม่เข้าใจ
ส่วนกรณีการถูกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ปรับลดอันดับการค้ามนุษย์ของประเทศไทยประจำปี 2557 จากระดับ 2 ลงมาต่ำสุดที่อันดับ 3 เราได้บอกไปทางผู้ช่วยทูตทหารสหรัฐฯว่า เราไมได้ปฏิเสธความรับผิดชอบ เพียงแต่รายงานของสหรัฐฯ เป็นการเก็บข้อมูลตั้งแต่เดือน เม.ย. 2556 ถึง เม.ย. 2557 ซึ่งเราพยายามที่จะแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง และได้ขอให้ทางสหรัฐฯ ได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวใหม่อีกครั้ง หลังจากที่ คสช.ได้มีนโยบายต่างๆ ออกไปสู่การปฏิบัติ ซึ่งเราพยายามที่จะแก้ไขปัญหาต่อไป อยากให้เปรียบเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต และปัจจุบัน เพื่อที่จะให้ทางสหรัฐฯ ไปพิจารณาปรับลดหรือเพิ่มอันดับใหม่อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเราไม่ได้จะบีบคั้นเอาคำตอบจากผู้ช่วยทูตทหารสหรัฐฯ เพราะเขาคงไม่สามารถให้คำตอบกับเราได้ เพียงแต่อยากจะให้นำความรู้สึก ความห่วงใยไปชี้แจงให้รัฐบาลสหรัฐฯ ได้รับทราบและออกแถลงการณ์ใหม่อีกครั้ง
พ.อ.วีรชนกล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ออกแถลงการณ์ประณามการรัฐประหารและเรียกร้องให้กองทัพไทยคืนอำนาจการปกครอง โดยการจัดการเลือกตั้งให้ได้โดยเร็วที่สุด รวมถึงการเดินหน้าสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของ คสช. ซึ่งเรารู้สึกผิดหวังกับท่าทีของอียู ซึ่งในวันนี้ก็มีผู้ช่วยทูตในกลุ่มประเทศอียูมาร่วมรับฟังการชี้แจง เราก็บอกให้เขาช่วยส่งผ่านและทำความเข้าใจถึงบรรยากาศภายในประเทศไทยให้กลุ่มประเทศสมาชิกกลุ่มประเทศอียู ให้ได้รับทราบ เพราะเรามองว่าการแสดงท่าทีดังกล่าวเป็นการตัดสินใจที่เกิดจากความไม่เข้าใจในสถานการณ์ภายในประเทศไทย โดยใช้ข้อมูลว่ามีทหารออกมาดำเนินการยึดอำนาจเท่านั้น ก่อนที่จะประกาศลดความสัมพันธ์ โดยไม่ได้ศึกษาถึงข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่ามีพัฒนาการเป็นอย่างไร
ส่วนกรณีที่สหรัฐฯ ชะลองบช่วยเหลือด้านการทหาร 4.7 ล้านดอลลาร์ และจะย้ายการฝึกคอบร้าโกลด์ไปประเทศอื่นนั้น ถือเป็นประเด็นและข้อห่วงใยที่เราได้รับทราบข้อมูลมา จึงอยากจะให้ทางสหรัฐฯ ได้พิจารณากรณีดังกล่าวใหม่ เพราะเรายังยืนยันถึงข้อตกลงกับต่างประเทศที่ได้ดำเนินการไปก่อนหน้านั้นว่ายังคงเป็นไปตามนั้น ซึ่งเราชี้ให้เห็นว่าสถานการณ์การเมืองเป็นเรื่องชั่วคราว และเป็นปัญหาส่วนหนึ่งที่อยู่ภายใน แต่เรื่องความมั่นคงเป็นเรื่องถาวรและยั่งยืนที่จะต้องแก้ไข และไม่ได้เกี่ยวข้องกับเฉพาะประเทศไทยเพียงประเทศเดียวแต่มันเกี่ยวข้องกับความมั่นคงในภูมิภาค อยากให้ทางสหรัฐฯ แยกแยะเรื่องการเมืองก็ว่ากันไป ส่วนเรื่องความมั่นคงก็จะต้องว่ากันไปตามรายละเอียด เรื่องดังกล่าวมันเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ ไม่ใช่ผลประโยชน์กับไทยเท่านั้น แต่ยังมีผลประโยชน์กับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค รวมถึงผลประโยชน์ของสหรัฐฯ เอง
ทีมโฆษก คสช.กล่าวว่า ยได้ประเมินผลการชี้แจงในวันนี้รู้สึกพอใจ 85-90% ส่วนอีก 10% เป็นเรื่องของการรู้หน้าและไม่รู้ใจ เพราะเราประเมินไม่ได้ว่าเขาคิดเห็นกันอย่างไร แต่จากการสังเกตสีหน้าและคำพูดของผู้ช่วยทูตทหารของประเทศต่างๆ เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ มีการให้คำแนะนำรวมถึงการมีส่วนร่วม และแสดงความเป็นห่วง
ทั้งนี้ ทางผู้ช่วยทูตทหารก็พอใจ และบอกให้ทาง คสช.ให้ชี้แจงสถานการณ์ในประเทศไทยสัปดาห์ละครั้ง เพราะถือเป็นช่องทางที่มีประโยชน์สำหรับประเทศไทย และประเทศต่างๆ อย่างไรก็ตาม ทางหัวหน้า คสช.ได้เน้นย้ำว่าให้ชี้แจงและสร้างความมั่นใจต่อการทำงานของ คสช. รวมทั้งให้รอผลงานที่ออกมาเป็นรูปธรรมชัดเจนว่า คสช.ได้พัฒนาประเทศไปในทางบวก ซึ่งทางผู้ช่วยทูตทหารเขาก็อยู่ในประเทศไทยอยู่แล้ว เขาก็ทราบและก็เห็นถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายในประเทศไทย
พ.อ.วีรชนกล่าวว่า ในวันนี้มีโอกาสได้พบกับผู้ช่วยทูตทหารของกัมพูชา ซึ่งเราได้ชี้แจงนโยบายเรื่องแรงงานต่างด้าว ซึ่งถือเป็นความห่วงใยของหัวหน้า คสช. โดยที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนก็ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน ซึ่งทางผู้ช่วยทูตกัมพูชาก็เข้าใจ และให้ความร่วมมือที่จะนำแรงงานเหล่านั้นกลับเข้ามาทำงานในประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนกรณีการเคลื่อนไหวของนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ และนายจักรภพ เพ็ญแข ได้ใช้ต่างประเทศเป็นฐานโจมตีการทำงานของ คสช.นั้น ในวันนี้เราก็ไม่ได้ขอร้องโดยตรง เพียงแต่ชี้แจงให้เห็นว่าสถานภาพของทั้ง 2 คนนั้นมีการทำผิดกฎหมายไทย และมีหมายจับ ขอให้ดูว่าใครควรให้ความช่วยเหลือ หรืออำนวยความสะดวก ทั้งนี้ไม่ต้องคิดถึง คสช. หรือทหาร แต่ขอให้นึกถึงคนไทยทั้งประเทศว่าระหว่างคุณค่าของ 2 คนนี้ กับคนไทยทั้งประเทศ อยากให้พิจารณาว่าจะให้ความสำคัญกับคนกลุ่มไหนมากกว่ากัน ใครที่สำคัญที่สุด ซึ่งทราบมาว่าในส่วนของนายจักรภพจะเดินทางไปปราศรัยที่ฮ่องกง แต่เบื้องต้นได้เปลี่ยนแปลงให้นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ไปขึ้นเวทีแทน ส่วนของนายจารุพงศ์ไม่แน่ชัดว่าอยู่ประเทศไหน
ทั้งนี้ หัวหน้า คสช.ได้มีนโยบายในการดำเนินการกับบุคคลดังกล่าวนี้ โดยการขอความร่วมมือจากต่างประเทศ โดยใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องของกระทรวงการต่างประเทศในการประสานงานเพื่อขอความร่วมมือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ช่วยทูตทหารสหรัฐฯ ยังได้สอบถามสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และนโยบายการแก้ไขปัญหา โดยมีผู้ช่วยทูตทหารสิงคโปร์สอบถามข่าวเรื่องสหรัฐฯ จะย้ายการฝึกไปที่ออสเตรเลีย ซึ่งสหรัฐฯ ไม่ได้ตอบแต่อย่างใด