xs
xsm
sm
md
lg

ห้องสมุดที่สวยที่สุดในโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


The Royal Site of San Lorenzo de El Escorial ประเทศสเปน
เมื่อพูดถึงห้องสมุด หลายคนก็คงจะเตรียมหาว..ยาวๆ กันเลยทีเดียว นึกถึงบรรยากาศอันเงียบสงบและเย็นสบายของห้องสมุดแล้ว คงไม่มีใครอยากจะย่างกรายเข้าไปสักเท่าไหร่ และด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้ที่อยากหาข้อมูลอะไรก็ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส คงจะทำให้หลายๆ คนหลงลืมห้องสมุดกันไป วันนี้ Life on Campus ได้รวบรวมห้องสมุดสวยๆ จากทั่วโลก ที่ยังคงคุณค่าและความคลาสสิกมาฝากกัน เผื่อใครได้มีโอกาสไปเที่ยวต่างประเทศก็อย่าลืมแวะเวียนไป แต่ถ้าใครอินมากๆ กับห้องสมุดสวยๆ เหล่านี้ แนะนำให้ไปหอสมุดแห่งชาติแก้ขัดไปก่อน...คลาสสิกไม่แพ้กัน!!!

Admont Abbey Library ประเทศออสเตรีย

ห้องสมุด Admont Abbey ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1074 เป็นห้องสมุดที่เก่าแก่และมีความสวยงามมาก ถ้านับรวมเวลาที่ก่อตั้งมาจนถึงปัจจุบันรวมแล้วเกือบหนึ่งพันปี ได้เก็บรวบรวมสมบัติล้ำค่าทางด้านวัฒนธรรมต่างๆ ไว้มากมาย ก่อสร้างและตกแต่งสมัยบารอก ตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมา Admont Abbey แห่งนี้ก็ได้รับการขนานนามว่า “eighth wonder of the world” แปดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ภายในได้รวบรวมหนังสือว่า 200,000เล่ม หลักฐานทางประวัติศาสตร์ต้นฉบับตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 กว่า 1,400 ต้นฉบับ และภาพพิมพ์ที่ถูกสร้างขึ้นก่อน ค.ศ.1500 อีกกว่า 530 ชิ้น

Admont Abbey Library ประเทศออสเตรเลีย

Admont Abbey Library ประเทศออสเตรเลีย
George Peabody Library ประเทศสหรัฐอเมริกา

George Peabody เป็นห้องสมุดที่สวยที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในรัฐแมริแลนด์ ทางฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา เป็นห้องสมุดของสถาบันบีบอดี้ สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 1878 ได้รับการออกแบบโดย Edmund G. Lind สถาปนิกชาวอังกฤษ เป้าหมายในการสร้างห้องสมุดแห่งนี้เพื่อเก็บรวบรวมหนังสือที่สาธารณะชนสามารถเข้าถึงได้ วรรณกรรมที่ดีที่สุดทุกสาขาได้ถูกรวมรวมไว้ทั้งใหม่และเก่า ยกเว้นการแพทย์และกฎหมาย จนหลายคนยกย่องให้ห้องสมุดแห่งนี้เป็นวิหารแห่งหนังสือ มีด้วยกันทั้งหมด 5 ชั้น ภายในมีหนังสือกว่า 300,000 เล่ม ส่วนใหญ่เป็นหนังสือในคริสต์ศตวรรษที่ 18-20 นั่นเอง

George Peabody Library ประเทศสหรัฐอเมริกา

George Peabody Library ประเทศสหรัฐอเมริกา
Sainte-Geneviève Library ประเทศฝรั่งเศส

ห้องสมุดแห่งนี้เคยเป็นวัดที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุด ในกรุงปารีส เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส สร้างขึ้นช่วงปี ค.ศ.1838 -1850 ภายในห้องสมุดแห่งนี้ได้เก็บรวบรวมหนังสือไว้กว่า 2 ล้านเล่ม ออกแบบโดย Henri Labrouste สถาปนิกชื่อดังชาวฝรั่งเศส กระจกและโครงเหล็กลวดลายฉลุที่อยู่ด้านบนหลังคาถูกออกแบบมาได้อย่างงดงามถือเป็นการออกแบบที่ได้รับการยกย่องจากสถาปนิกทั่วโลก

Sainte-Geneviève Library ประเทศฝรั่งเศส

Sainte-Geneviève Library ประเทศฝรั่งเศส
Mafra National Palace Library ประเทศโปรตุเกส

ห้องสมุดแห่งนี้ตั้งอยู่ในพระราชวังแห่งชาติมาฟรา (Mafra National Palace) ประเทศโปรตุเกส สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 ตามคำสั่งของ สมเด็จพระเจ้าโจอาวที่ 5 ถือเป็นผลงานชิ้นเอกในสมัยบารอก มีห้องสมุดชื่อว่า “Rococo library” อยู่ที่ชั้นสองทางด้านหลัง พื้นถูกปูด้วยกระเบื้องลายดอกกุหลายสีเทาและหินอ่อนสีขาว ชั้นหนังสือทำจากไม้สไตล์โรโคโค ภายในห้องสมุดได้เก็บรวบรวมหนังสือไว้มากกว่า 35,000 เล่ม รวมถึงแผ่นหนังที่ใช้บันทึกเรื่องราวตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 จนถึงศตวรรษที่ 19

 Mafra National Palace Library ประเทศโปรตุเกส

 Mafra National Palace Library ประเทศโปรตุเกส
Codrington Library ประเทศอังกฤษ

ห้องสมุดนี้เป็นของ All Souls College ส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด ประเทศอังกฤษ เป็นผลงานการออกแบบของ Nicholas Hawksmoor สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 1751 ภายในเป็นที่เก็บหนังสือมากกว่า 185,000 เล่ม กว่า 1 ใน 3 ของหนังสือได้ตีพิมพ์ก่อนปี 1800 หนังสือส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องกฎหมาย ประวัติศาสตร์ยุโรป และประวัติศาสตร์ทางทหาร เป็นต้น

 Codrington Library ประเทศอังกฤษ

 Codrington Library ประเทศอังกฤษ
The Royal Portuguese Reading Room ประเทศบราซิล

หอสมุดกลางในกรุงริโอเดอจาเนโร ประเทศบราซิล สร้างขึ้นระหว่างปีค.ศ.1880-1887 จากการออกแบบโดย ราฟาเอลดาซิลวาและคาสโตร ถือเป็นห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดและทรงคุณค่าที่สุดของชาวโปรตุเกสที่ยังหลงเหลือไว้ที่ประเทศบราซิล ประกอบด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามในศตวรรษที่ 19 ก่อสร้างและตกแต่งสไตล์ Gothic-Renaissance โครงเหล็กหลังคาที่สวยงาม โคมไฟระย้า โอ่อ่าอลังการ ภายในบรรจุหนังสือหายากไว้กว่า 350,000 เล่ม

The Royal Portuguese Reading Room ประเทศบราซิล

The Royal Portuguese Reading Room ประเทศบราซิล
Liepzig University Library ประเทศเยอรมนี

หนึ่งในห้องสมุดมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศเยอรมนี “Liepzig University Library” เป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยไลพ์ซิจ (Leipzig University) ตั้งอยู่ที่เมืองไลพ์ซิจ ห้องสมุดแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1542 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เชื่อว่า 2 ใน 3 ของห้องสมุดแห่งนี้ถูกทำลายจากภัยของสงครามโลก มีห้องหลักในการอ่านหนังสือชื่อว่า “Bibliotheca Albertina” ปัจจุบันภายในห้องสมุดมีหนังสือกว่า 5 ล้านเล่ม เป็นหนังสือต้นฉบับนับพันเล่ม รูปแบบอาคารในปัจจุบันเป็นสถาปัตยกรรมยุคฟื้นฟูเรแนซองส์

Liepzig University Library ประเทศเยอรมนี

Liepzig University Library ประเทศเยอรมนี
Trinity College Library ประเทศไอร์แลนด์

ห้องสมุด Trinity College Library เป็นห้องสมุดของวิทยาลัยทรินิตี้ (Trinity College) และมหาวิทยาลัยดับลิน (University of Dublin) ในเมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ เป็นห้องสมุดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัย สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 1 ข้างในห้องสมุดตกแต่งสวยหรูอลังการแล้ว อีกทั้งยังเป็นห้องสมุดห้องเดี่ยวขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย หรือเรียกอีกอย่างว่า “Long Room” ที่สร้างจากไม้โอ๊ค โดยภายห้องสมุดบรรจุหนังสือตำราเก่าแก่กว่า 200,000 เล่ม หนึ่งในนั้นคือ หนังสือที่ชื่อ “The Book of Kells : Turning Darkness into Light” เป็นหนังสือคัมภีร์ภาษาละตินอันเก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์มาก

Trinity College Library ประเทศไอร์แลนด์

Trinity College Library ประเทศไอร์แลนด์
The Strahov Monastery Library สาธารณรัฐเช็ก

ห้องสมุดสตราร์โฮฟ ตั้งอยู่ในบริเวณพระอารามสตราร์โฮฟ แห่งเมืองปราก เป็นห้องสมุดเกี่ยวกับศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งประกอบไปด้วยห้องโถงใหญ่สองห้อง ตกแต่งเพดานด้วยปูนปั้นอย่างสวยงาม มีอายุมากกว่า 800 ปี ภายในห้องบรรจุหนังสือมากกว่า 130,000 เล่ม รวมถึงหนังสือที่พิมพ์ก่อนหน้าปีค.ศ. 1500 อีก 2,500 เล่ม และหนังสือที่เขียนด้วยลายมืออีก 3,000 เล่ม หนังสือที่เก่าแก่ที่สุดคือหนังสือคำสั่งสอนของสตาร์โฮฟ (Strahov Gospel) ตั้งแต่ศวรรษที่ 9 และแท่นพิมพ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของ คริสต์โตฟี พลานติน (Christophe Plantin) จากอันท์เวิร์ (Antwerp) ประเทศเบลเยียม ก็ได้ถูกเก็บรวบรวมไว้ที่นี่เช่นกัน

The Strahov Monastery Library สาธารณรัฐเช็ก

The Strahov Monastery Library สาธารณรัฐเช็ก
The Royal Site of San Lorenzo de El Escorial ประเทศสเปน

ห้องสมุดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้าฟิลิปที่สอง ได้บริจาคเงินส่วนพระองค์เพื่อสร้างห้องสมุดแห่งนี้ขึ้นมา ออกแบบโดย Juan de Herrera และภาพเฟรสโกบนเพดานโค้งเป็นภาพวาดของจิตรกรเอก Pellegrino Tibaldi ห้องโถงขนาดใหญ่ปูด้วยหินอ่อน และชั้นวางไม้แกะสลักอย่างสวยงาม ภายในห้องบรรจุด้วยหนังสือกว่า 40,000 เล่ม ปัจจุบันยูเนสโกได้ยกย่องให้สถานที่แห่งนี้เป็นมรดกโลกที่สำคัญแห่งหนึ่งของสเปนที่มีนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมมากที่สุด

 The Royal Site of San Lorenzo de El Escorial ประเทศสเปน

 The Royal Site of San Lorenzo de El Escorial ประเทศสเปน
LiYuan Library ประเทศจีน

แม้ LiYuan Library จะไม่หรูหราใหญ่โตเท่าห้องสมุดที่กล่าวมาแล้วข้างต้น แต่เชื่อว่าหลายคนคงอดใจที่จะรักห้องสมุดแห่งนี้ไม่ได้ เพราะเป็นที่ๆ เงียบสงบ เล็กๆ แต่น่ารัก ตั้งอยู่ในหมู่บ้าน Huairou อยู่ทางตอนเหนือของกรุงปักกิ่ง ห้องสมุดท่ามกลางป่าเขาแห่งนี้ถูกออกแบบโดยสถาปนิก Li Xiaodong ภายใต้พื้นที่ 175 ตาราง ถูกสร้างให้ผสมผสานกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมท่ามกลางขุนเขา ภายนอกตกแต่งด้วยกิ่งไม้และวัสดุในท้องถิ่นโดยรอบ ภายในทำเป็นห้องสมุดสำหรับชุมชน

  LiYuan Library ประเทศจีน

  LiYuan Library ประเทศจีน
Haeinsa Temple ประเทศเกาหลีใต้

วัดแฮอินซา (Haeinsa Temple) วัดเกาแก่ที่เปรียบเสมือนเป็นห้องสมุดแห่งนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดคยองซาใต้ หนึ่งในสามของวัดเซนที่ยิ่งใหญ่ของเกาหลีใต้ สร้างขึ้นในปีพุทธศักราช 1346 ทางยูเนสโกได้ประกาศให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี 1995 วัดแห่งนี้เป็นที่รวบรวมหนังสือสำคัญทางพระพุทธศาสนาไว้เป็นจำนวนมาก และยังเป็นที่ตั้งของตู้พระไตรปิฎกที่ใหญ่ที่สุด เป็นที่เก็บแท่นพิมพ์ที่มีอายุกว่าร้อยปี มากกว่าแท่นพิมพ์กูเทนเบิร์ก และเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์การพิมพ์ของทวีปเอเชีย

  Haeinsa Temple ประเทศเกาหลีใต้

  Haeinsa Temple ประเทศเกาหลีใต้
Tama Art University Library ประเทศญี่ปุ่น

ห้องสมุดแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัย Tama Art University ออกแบบโดยสถาปนิกที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในญี่ปุ่น “Toyo Ito" ตัวอาคารสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 2007 ลักษณะอาคารมีการสร้างแบบซุ้มคอนกรีตเสริมเหล็ก และตกแต่งกระจกใส ภายในหอสมุดแห่งนี้มีหนังสือมากกว่า 100,000 เป็นหนังสือภาษาญี่ปุ่น 77,000 เล่ม ที่เหลือเป็นหนังสือจากต่างประเทศและวารสาร

Tama Art University Library ประเทศญี่ปุ่น

Tama Art University Library ประเทศญี่ปุ่น
TU Delft Library ประเทศเนเธอร์แลนด์

ห้องสมุดแห่งนี้ตั้งอยู่ในบริเวณมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเดลฟท์ (Delft University of Technology) สร้างขึ้นในปี 1997 กระจกหลังคาของหอสมุด TU Delft Library สร้างคลุมตัวอาคารไว้กว่า 5,500 ตารางเมตร ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติ และสิ่งก่อสร้างที่มนุษย์สร้างขึ้นมาได้อย่างลงตัว ภายในห้องสมุดประกอบด้วยหนังสือตำราเรียนกว่า 862,000 เล่ม นิตยสารหัวต่างๆ ที่เป็นสมาชิกกว่า 16,000 เล่มด้วยกัน

TU Delft Library ประเทศเนเธอร์แลนด์

TU Delft Library ประเทศเนเธอร์แลนด์
Sir Duncan Rice Library ประเทศสกอตแลนด์

ห้องสมุดแห่งนี้ตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยแอเบอร์ดีน หนึ่งในมหาวิทยาลัยโบราณของสกอตแลนด์ ก่อตั้งเมื่อปี1495 ถือเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่เป็นอันดับสามของสกอตแลนด์ ห้องสมุดใหม่แห่งนี้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อ 24 กันยายน 2012 ที่ผ่านมา เป็นห้องสมุดขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 7 ชั้น มีพื้นที่ว่างให้นักศึกษาเข้ามานั่งอ่านหนังสือกว่า 1,200 ที่นั่ง

Sir Duncan Rice Library ประเทศสกอตแลนด์

Sir Duncan Rice Library ประเทศสกอตแลนด์


กำลังโหลดความคิดเห็น