xs
xsm
sm
md
lg

เปิดแฟ้ม "ดาราเรียนดี" ฉาวแต่เก่งก็มี ดีกรีเกียรตินิยมก็เยอะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ท่ามกลางชีวิตที่มีคำว่า "ชื่อเสียง" พัดผ่านเข้ามา ดารา นักแสดงหลายคนมักจะหลงระเริงไปกับชื่อเสียง เงินทองจนลืมที่จะใส่ใจเรื่องการเรียน เพราะมองว่าอาชีพดาราเป็นขุมทรัพย์ที่ช่วยกอบโกยเงินทอง เผลอๆ อาจทำรายได้มากกว่าคนจบปริญญาตรีด้วยซ้ำ ไม่แปลกที่ดาราจำนวนหนึ่งจะมองข้ามในเรื่องการศึกษาไป ในขณะที่ดาราอีกหลายคนมองว่า ชีวิตประมาทไม่ได้เด็ดขาด

เช่นเดียวกับดารา นักแสดงที่ M-open ได้ทำการเปิดประวัติการเรียนในครั้งนี้ แม้พวกเขาและเธอจะทำงานหนักกว่าคนทั่วไปหลายเท่า แถมบางคนยังเจอมรสุมข่าวรอบด้าน แต่ก็ยังอุตส่าห์เจียดเวลาที่สุดแสนจะยุ่งเหยิง วุ่นวาย มาเรียนและอ่านหนังสือจนสามารถจบออกมาด้วยผลการเรียนที่ดีเยี่ยม แถมบางคนยังพ่วงด้วยเกียรตินิยมอีกต่างหาก

มากข่าวฉาว! แต่เรียนเก่งมาก

เริ่มกันที่ดารามากข่าวฉาว แต่เรียนเก่งมาก ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา นักร้อง นักแสดงชื่อดังผู้ถูกดึงมาโยงกับข่าวการเมือง รวมไปถึงข่าวเป็นเมียน้อย "ทักษิณ" บวกกับข่าวคอนเฟิร์มของ หมอกฤษฎ์ คอนเฟิร์ม ที่กลายเป็นกระแสฮือฮาโดนเมาท์ทั้งท้องและทำแท้งจนปั่นป่วน ซึ่งข่าวฉาวเหล่านี้เธอยอมรับว่าทำให้ชีวิตตกต่ำ และได้รับผลกระทบอย่างมาก

แต่ถ้ามองข้ามข่าวฉาว ๆ เหล่านั้นไป และหันมาโฟกัสที่การเรียนอย่างเดียว ต้องบอกว่า สาวเสียงดีคนนี้มีผลการเรียนขั้นเทพจริงๆ เห็นได้จากเกรดเฉลี่ยตลอดช่วงการเรียนของไฮสกูล (ร.ร.อินเตอร์เนชั่นแนล สกูล ออฟ แบงค็อก) เธอได้เกรดสูงถึง 3.9 และสามารถสอบเข้าเรียนต่อได้ที่มหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 11 ในอเมริกา โดยเลือกเรียนในสาขา Biological Sciences และ Business Institutions และยังชอบทำกิจกรรมของโรงเรียนอีกด้วย

แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนมาเรียนที่ LSE (London School of Economics) ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยเรียนผ่านทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งก่อนหน้านี้ออกมาบ่นๆ ว่า เรียนหนัก และเหนื่อยมาก เพราะต้องบินไปๆ มาๆ ที่อังกฤษ แต่ก็จะทุ่มเทเวลาให้กับการเรียนอย่างเต็มที่ เนื่องจากสายบริหารธุรกิจที่เลือกเรียน ไม่ได้เรียนกันง่ายๆ บางครั้งก็อาศัยถามเพื่อนๆ ผ่านอินเทอร์เน็ตหรือไม่ก็หาข้อมูลกับทางห้องสมุดของโรงเรียนเอา

ต่อกันด้วยดาราสาวสุดเซ็กซี่ แต่มากไปด้วยข่าวฉาว ปู ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนด์เบิร์ก ที่เมื่อก่อนขึ้นชื่อว่าเป็นนางเอกตัวแสบประจำช่อง โดยเฉพาะข่าวฉาวกับหนุ่มๆ และภาพลักษณ์ของสาวเพลย์เกิร์ลที่มักจะมีภาพหลุดออกมาถี่ยิบ ทั้งดื่มเหล้า จูบปากนัวเนียฝรั่ง จนโดนผู้ใหญ่ทางช่องเรียกตัวไปตำหนิหลายต่อหลายครั้ง และมีช่วงหนึ่งที่ดูเหมือนจะเงียบหายไปจากวงการ แต่เหตุผลหลักๆ คือเธอไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ

แม้จะมีข่าวฉาว และภาพฉาวออกมามากมาย แต่ความสวยเซ็กซี่กลับไม่ลดน้อยถอยลง บวกกับงานที่ไม่ได้หดหายตามไปด้วย เห็นได้จากคิวอีเว้นท์แน่นเอี้ยด ยิ่งพักหลังที่กลับมาจากต่างประเทศ ดูเหมือนสาวปูจะดูนิ่งขึ้น และไม่ทำตัวเปรี้ยวจี๊ดเหมือนแต่ก่อน แถมไม่ค่อยเที่ยว ไม่ค่อยดื่มอีกด้วย

เมื่อล้วงลึกลงไปถึงเรื่องการเรียนแล้ว แม้จะออกมาถ่อมตัวว่าเรียนไม่เก่ง ดูเผินๆ อาจไม่ใช่เด็กเรียน แต่ใครจะไปรู้ว่า ตอนจบม.6 หรือเกรด 12 จากโรงเรียนนานาชาติเธอได้เฉลี่ย 3 กว่าๆ ปัจจุบันสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีทางด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด บรู๊คส์ (Oxford Brookes University) ประเทศอังกฤษ แต่ด้วยติดงานเธอจึงตัดใจไม่ไปรับปริญญา บอกแค่เรียนจบก็ถือว่าทำให้พ่อแม่ภูมิใจแล้ว

ส่วนอีกคน โบวี่ อัฐมา ชีวนิชพันธ์ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เธอคนนี้มีข่าวฉาวกับผู้ชายถี่มาก จนผู้ใหญ่เรียกเตือนด้วยความเป็นห่วง แต่พอมาดูเรื่องการเรียน ต้องบอกเลยว่า เธอเป็นดาราดีกรีเกียรตินิยมอันดับ 2 จากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่การพอลุกขึ้นมาเปลี่ยนตัวเองเป็นเซ็กซี่ ทำให้หลายมองเธอในแง่ไม่ดีโดยเฉพาะเรื่องผู้ชาย

เธอเคยให้สัมภาษณ์ว่า การศึกษาไม่เกี่ยวกับความเซ็กซี่ เก่ง และเซ็กซี่สามารถไปด้วยกันได้ และการจบจุฬาฯ ไม่ได้หมายความว่าเธอจะเก่ง หรือว่าฉลาดกว่าคนอื่น แต่การเรียนดีอาจบอกได้ถึงความรับผิดชอบ และจัดการชีวิตตัวเองได้ ส่วนความฉลาดและความเก่งมันขึ้นอยู่กับอะไรหลายอย่าง เช่น ประสบการณ์ ไหวพริบส่วนตัว ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเกรดเฉลี่ย

ทุกวันนี้ ภูมิใจมาก ๆ กับความตั้งใจเรียนจนกระทั่งเรียนจบ บวกกับมีงาน และเงินที่สามารถเลี้ยงดูพ่อแม่และครอบครัวให้มีชีวิต และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งยังบอกอีกว่า ตอนแรกที่หันมาถ่ายโฆษณา เพราะอยากหาเงินมาช่วยเหลือครอบครัว

ทิ้งท้ายกันด้วยนางร้ายอารมณ์ดี ใหม่ สุคนธวา เกิดนิมิตร สวยเซ็กซี่แบบนี้ ใครจะไปรู้ว่าเธอจบปริญญาตรีออกมาด้วยเกียรตินิยมอันดับ 2 คณะนิเทศศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยศรีปทุม นับว่าเก่งไม่ใช่เล่นเลยทีเดียว

ดาราเด็กเรียน ดีกรีเกียรตินิยม

ฉาวแต่เรียนเก่งไปแล้ว ที่นี้มาดูดารามุ่งแต่เรียน ดีกรีเกียรตินิยมกันบ้าง สำหรับเธอคนนี้ ถือว่าเป็นดาราภาพลักษณ์ดีที่ไม่ค่อยมีข่าวฉาวเท่าไร เบเบ้ ธันย์ชนก ฤทธินาคา แต่มีก็ข่าวเมาท์มอยกันบ้างเรื่องการเฉาะหน้ามาใหม่ ซึ่งเจ้าตัวได้ออกมาปฏิเสธแล้วว่า แค่แต่งหน้าจัดเท่านั้น

เมื่อพูดถึงเรื่องเรียนของเธอ พูดได้เลยว่า ขั้นเทพมาก เพราะเบเบ้ จบปริญญาตรีด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง เกรด 3.91 แถมยังมีเกียรติบัตรเรียนดีอีก 1 ใบ จากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ แม้จะมีงานเข้ามามากในช่วงเรียน แต่ก็ต้องขยันเป็น 2 เท่าด้วย

"เบเบ้จะอ่านหนังสือมากกว่าคนอื่น อย่างช่วงสอบจะตื่นตี 5 แล้วก็อ่านหนังสือในห้องจนถึงดึก" เธอเผยเคล็ดลับ

ด้วยความขยัน และมุ่งมั่นกับการเรียน ไม่แปลกที่เธอจะสามารถทำเกรดในเทอมแรกได้สูงสุดถึง 4.00

เช่นเดียวกับนักแสดงหน้าหวาน รถเมล์ คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์ ไม่เพียงแต่ความเก่งในจอแล้ว นอกจอ เธอยังมีดีกรีเกียรตินิยมอันดับ 1 ด้วยเกรดเฉลี่ยสะสม 3.61 จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ เอกออกแบบเครื่องประดับ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โดยเธอบอกว่า การทำงานในวงการบันเทิงควบคู่ไปกับการเรียนไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่ก็ต้องใช้ความพยายามมากกว่าเพื่อนๆ เพื่อให้ทำงานทั้ง 2 อย่างออกมาได้ดีโดยไม่ทิ้งทั้งหน้าที่การงานและการเรียน

อีกอย่างที่น่าชื่นชมก็คือ ถึงจะเป็นสาวสมัยใหม่แต่เธอก็ไม่นิยมแต่งตัวโป๊ และมีลิมิตในการแต่งตัว โดยคติคือ ไม่ใส่โชว์สะดือ และสายเดี่ยว ส่วนเวลาว่างมักจะใช้เวลาอยู่กับครอบครัว และพาครอบครัวไปเที่ยวต่างจังหวัด ไม่แปลกที่ใครหลายๆ คนต่างก็เทใจรักเธอคนนี้

ส่วนดารา นักแสดงหน้าใหม่ ๆ อย่างนางเอกขวัญใจเด็กแนว อาย กมลเนตร เรืองศรี นางเอกมิวสิกวีดีโอ และนางเอกละครที่มีผลงานต่อเนื่องอาทิ ละครเรื่อง The Sixth Sense สื่อรักสัมผัสหัวใจ เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์ เซน...สื่อรักสื่อวิญญาณ และภาพยนต์เรื่อง มึง-กู เพื่อนกันจนวันตาย นอกจากจะโดดเด่นในเรื่องการแสดงแล้ว ยังโดดเด่นในเรื่องการเรียนอีกด้วย

สำหรับสาวอายจบการศึกษาจาก คณะมนุษยศาสตร์ เอกสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ด้วย เกียรตินิยมอันดับ 1 โดยเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรไปเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2556 เรียกว่าทั้งสวย และเก่งของแท้จริงๆ

นอกจากนี้ ยังมีนางเอกนักบู๊และนางแบบ สูงยาว เข่าดี มาริสา อานิต้า ที่สามารถคว้าเกียรตินิยมอันดับ 1 จากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.8 หรือ ยิปซี-คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์ พี่สาวยิปโซ รมิตา ที่ถึงแม้จะเข้ามาทำงานในวงการบันเทิงในช่วงวัยเรียน แต่เธอก็ไม่ทิ้งการเรียน ล่าสุดเพิ่งคว้าปริญญาตรีเกียรตินิยมจากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่วนจะต่อปริญญาโทเลยหรือไม่ เธอบอกว่า ขอทำงานเก็บเงินสักพักก่อน

รวม "นางเอก" หัวกะทิ

ด้านนางเอกแถวหน้าของเมืองไทย มีหลายคนที่เป็นตัวอย่างดี ๆ ด้านการศึกษาอย่าง ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต เธอคนนี้อยู่ในวงการบันเทิงมาประมาณ 14 ปีแล้ว แม้จะต้องทำงานควบคู่ไปกับการเรียน แต่เธอก็สามารถคว้าเกียรตินิยมอันดับ 2 จากคณะศิลปศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยรังสิตมาครองได้สำเร็จ นับเป็นหนึ่งในซุป'ตาร์เมืองไทยที่มีความสามารถครบสูตรจนหลายคนอิจฉา

เช่นเดียวกับ แอฟ ทักษอร เตชะณรงค์ นางเอกหน้าหวานคนนี้มีความโดดเด่นทางด้านการเรียนหลากหลาย สมัยเรียนปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เธอร่วมทำกิจกรรม เล่นละครเวที และเป็นผู้อัญเชิญพระเกี้ยวในงานฟุตบอลประเพณีด้วย แม้จะเป็นเด็กกิจกรรม แต่เธอก็สามารถจบออกมาด้วยเกียรตินิยมอันดับ 2 จากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ต่อกันด้วย แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์ นางเอกตัวเล็กน่ารักจากช่องวิก 3 แม้จะไม่ได้เกียรตินิยมอันดับ 1 แต่ด้วยความมุ่งมั่น และตั้งใจ เธอจบปริญญาตรีออกมาด้วยเกียรตินิยมอันดับ 2 จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ส่วน ดาราน้องใหม่ที่น่าจับตามองจากบท หม่อมเจ้าหญิงวรรณรสา อรุณรัศมิ์ หรือ หญิงแต้ว ในละคร "สุภาพบุรุษจุฑาเทพ" ตอน "คุณชายปวรรุจ" มิว นิษฐา จิรยั่งยืน นางเอกหน้าสวยที่ละม้ายคล้ายนางเอกรุ่นพี่ แอฟ-ทักษอร เตชะณรงค์ ก็มีความโดดเด่นทางด้านการเรียนไม่น้อยหน้ารุ่นพี่ โดยเธอจบออกมาด้วยเกรดเฉลี่ย 3.46 ได้เกียรตินิยมอันดับ 2 สาขาแฟชั่นดีไซน์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร

อีกหนึ่งนางเอกหน้าใหม่ จ๊ะ จิตตาภา แจ่มปฐม ก็ไม่น้อยหน้า สามารถเรียน และทำงานไปด้วยจนคว้าเกียรตินิยมอันดับ 1 จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาครองได้อย่างภาคภูมิ สำหรับเธอคนนี้เป็นกลุ่มนักแสดงรุ่นใหม่ของสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 หรือกลุ่ม เพาเวอร์ทรี ซึ่งมีผลงานละครทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 อย่างต่อเนื่อง เรื่องเด่น ๆ ก็มีบท "หนูตุ่ม" จากเรื่องอเวจีสีชมพู "ไทรงาม" จากเรื่องไทรโศก หรือ "ญาณิน" จากเรื่อง The Sixth Sense สื่อรักสัมผัสหัวใจ เป็นต้น

สุดยอด "พระเอก" เรียนเก่ง

ถึงคิวพระเอกในวงการบันเทิงบ้านเรากันบ้าง ตัวพ่อหัวกะทิมีอยู่หลายคน เริ่มกันที่พระเอกเครามหาเสน่ห์ บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ ใครจะไปรู้ว่า พระเอกหน้าหนวดคนนี้จะสำเร็จการศึกษาจากคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แม้วงการมายาจะพาหลง เรียนจบมาแต่กลับไม่ได้ใช้ความรู้อะไร แต่เจ้าตัวบอกว่า ยังไม่ทิ้งความฝันที่จะเปิดร้านขายยาอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ดี ก่อนหนุ่มคนนี้ที่จะเข้ามาทำงานจริงจังในวงการบันเทิง เขาเรียนหนักมาก และต้องใช้เวลาเรียน 5 ปี โดยเฉพาะช่วงใกล้จบทะเลาะกับแฟนบ่อยมาก เนื่องจากไม่ค่อยมีเวลา สุดท้ายก็เลิกกัน เพราะเวลาไม่ตรงกัน

ต่อกันด้วย พระเอกผิวเข้ม ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ เขาคนนี้มีความโดดเด่นในเรื่องการเรียนมาก หลังจากจบปริญญาตรีจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ก็ได้ไปศึกษาต่อปริญญาโทสาขาบริหารการจัดการจาก Southeastern University ประเทศอังกฤษ แต่การก้าวเท้าไปสมัครงานในช่วงที่เศรษฐกิจตกสะเก็ดจึงทำให้ไม่มีบริษัทใดรับเข้าทำงาน

กระทั่งได้มีโอกาสเจอ คุณแดง-สุรางค์ เปรมปรีดิ์ และได้มีโอกาสเซ็นสัญญากับช่อง 7 สี จนกลายเป็นพระเอกแถวหน้าของเมืองไทย

ทางด้านพระเอกดังอย่าง เคน ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ ดีกรีนักเรียนนอก สาขาการถ่ายภาพ Brooks Institute of Photography จากแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา แม้จะเรียนไม่จบ เพราะถูกเรียกตัวกลับมาที่ไทยเสียก่อน แต่ก็ถูกครอบครัวผลักดันให้เข้าสู่วงการจนกลายเป็นพระเอกแถวหน้าของเมืองไทย

ส่วน สมาร์ท กฤษฎา พรเวโรจน์ พระเอกช่อง 3 เป็นพระเอกที่ทุ่มเทกับการเรียนมากคนหนึ่ง จนสามารถจบปริญญาโทจาก The Savannah College of Art and Design รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ แต่หลังจากจบปริญญาโทกลับมาเมืองไทยในช่วงปี 2544 ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์เครื่องบินชนตึกเวิลด์เทรดเดือนกว่าๆ เขามีความคิดว่าจะไปต่อปริญญาโทด้านออกแบบตกแต่งภายในอีกตัวที่นิวยอร์ก แต่พอมีเหตุการณ์นี้ขึ้นมา คุณแม่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ และให้อยู่ที่ประเทศไทยต่ออีกสัก

กระทั่งมาพบว่าคุณแม่ป่วยเป็นมะเร็ง เขาจึงตัดสินใจไม่ไปเรียนต่อ เพราะอยากอยู่ดูแลคุณแม่ สุดท้าย คุณแม่อยู่ได้แค่ 3 เดือนก็จากโลกนี้ไป และในช่วงนั้นเองที่เขาตัดสินใจเล่นละครเรื่องแรก "กุหลาบสีดำ" ซึ่งเป็นละครเรื่องใหม่ของ อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง

อีกคนที่เก่งขั้นเทพจริง ๆ จะเป็นใครไปไม่ได้ หมอก้อง ร.อ.นพ.สรวิชญ์ สุบุญ พระเอกหนุ่มหล่อขวัญใจสาวๆ จากวิก 3 พระเอกหน้าใหม่ที่หัวดีมาตั้งแต่เด็ก ยิ่งพอมาเรียนที่เตรียมอุดมศึกษากรุงเทพมหานคร เขาทำเกรดเฉลี่ยได้สูงถึง 3.90 และเรียนจบแพทยศาสตรบัณฑิตจากวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้าด้วยคะแนนเฉลี่ยสะสม 3.51 เกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง

หลังจากสำเร็จการศึกษาได้เป็นแพทย์ใช้ทุนอยู่ที่โรงพยาบาลค่ายจักรพงษ์ จ.ปราจีนบุรี เป็นระยะเวลา 1 ปี และเมื่อ 2 ปีก่อนได้ย้ายเข้ามาประจำอยู่ที่ บ.ก.สูงสุด ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ จนถึงปัจจุบัน นายแพทย์สรวิชญ์ มีอาชีพประจำ เป็นแพทย์ทหารทั่วไป (Resident) สังกัดกองตรวจโรค หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย

ทั้งหมดนี้ เป็นส่วนหนึ่งของดาราเรียนดีที่หยิบยกมานำเสนอให้เห็นว่า ลำพังแค่งานในวงการบันเทิง ก็วุ่นวาย ยุ่งเหยิง จนไม่มีเวลากันอยู่แล้ว แต่พวกเขา และเธอก็สามารถฝ่าฟันและทำผลการเรียนได้ดี แม้บางคนจะไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องเรียนตอนนี้ เพราะอยากจะกอบโกยเงินก่อนแล้วค่อยเรียน ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิด แต่ถ้าถอดใจเลิกเรียนเอากลางคัน เพราะเห็นว่าอาชีพนี้ได้เงินดีกว่าคนที่จบปริญญาตรี ก็คงต้องคิดใหม่

เพราะสุดท้ายแล้ว ชื่อเสียง-เงินทอง อาจมีวันเสื่อมสลาย แต่ความรู้ต่างหาก คืออาภรณ์ที่ติดตัวไปจนวันตาย นี่คือสิ่งที่ดารารุ่นใหม่หลาย ๆ คนเริ่มกลับมาทบทวน เพราะเป็นดารายุคนี้ เกิดง่าย ดับง่าย ถ้าไม่เจ๋ง และเก่งจริง คงค้างฟ้าอยู่ได้ไม่นาน แต่ถ้าโปรไฟล์ดี มีสมอง โอกาส และงานก็จะยิ่งเข้ามามากขึ้นตามไปด้วย ยิ่งถ้ารู้จักใช้ชีวิต และวางแผนการใช้เงินด้วยแล้ว ก็คงไม่ต้องกลัวว่าแก่ตัวไปจะลำบาก!

ข่าวโดย ASTVผู้จัดการ Lite


แอฟ ทักษอร เตชะณรงค์
มิว นิษฐา จิรยั่งยืน
แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์
แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์
เบเบ้ ธันย์ชนก ฤทธินาคา
อาย กมลเนตร เรืองศรี
จ๊ะ จิตตาภา แจ่มปฐม
บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์
ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ
เคน ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์
หมอก้อง ร.อ.นพ.สรวิชญ์ สุบุญ
กำลังโหลดความคิดเห็น