xs
xsm
sm
md
lg

แฉ!! ธรรมกาย งัดแผนเรียกคนเข้าวัด แชร์ธรรมะชิงโชค ลุ้นพระทองคำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ไอเดียการตลาดเครื่องดื่มที่คนไทยหลายคนคุ้นเคยและร่วมสนุก กระโดดลงมาเป็นหนึ่งกิจกรรมทางพุทธโดยวัดชื่อดัง “ธรรมกาย” ผุดแคมเปญเรียกคนเข้าวัด ปลุกกระแสชาวพุทธในยุคโซเชียล “แชร์ธรรมะ รับพระทองคำ” หยั่งเสียงตอบรับทั้งชื่นชม และติเตียน ด้านนักวิชาการนั้นระบุเข้าข่ายพนัน สร้างมิจฉาทิฏฐิ ชาวเน็ตบางส่วนสลด พุทธศาสนาทุกวันนี้เลยเถิดขนาดวัดยังต้องงัดกลยุทธ์เอาวัตถุล่อใจมูลค่าแตะล้านมาโกยคนเข้าวัด

ธรรมกายรวยจริง แจกจริง

"ผมเข้าไปกดไลค์เพจพระมหาสมชาย และแชร์ลิงก์คำสอนมาไว้ในเพจของผม เพื่อให้เพื่อนและลูกศิษย์ได้เข้ามาดู แต่จำไม่ได้เหมือนกันว่าแชร์ลิงก์ไปกี่ครั้ง จากนั้นก็ได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่วัดธรรมกาย ให้ไปรับพระทองคำ ผมก็ไปรับมาเรื่องก็มีแค่นั้น" คำตอบจาก มีสุข มนัสศิลา อาจารย์วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษกมหานคร ผู้มีบุญได้รับพระพุทธรูปทองคำหนัก 10 บาท จากกิจกรรม “แชร์ธรรมะ รับพระทองคำ” ในเฟซบุ๊กแฟนเพจ “พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอิศราเมื่อวานนี้ (24 กรกฎาคม 2556) ถึงที่มาที่ไปของการได้รางวัลชิ้นโต

หลายคนที่พลาดรางวัลล่อใจครั้งนี้คงได้แต่ร่วมอนุโมทนา สาธุ หลังเมื่อราวปลายเดือนมิถุนายนมีการจัดกิจกรรมในเฟซบุ๊กแฟนเพจ “พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ” จากวัดธรรมกาย โดยให้ทำตามขั้นตอนง่ายๆ คือ กด like เพจนี้, กดปุ่มแชร์ด้านขวานี้, กรอกชื่อ และอีเมล หรือเบอร์โทรศัพท์ เพื่อเป็นหลักฐานในการรับลุ้นรับรางวัล ทั้งนี้ได้มีการลิงก์ไปยัง http://www.tltpress.com/thanavuddho ซึ่งระบุข้อความว่า

ThanavuddhoStory ธรรมะเพื่อกำลังใจในการทำความดี
(จัดทำโดยทีมการศึกษา)

แชร์ธรรมะ รับพระทองคำ (เริ่มต้นแล้ววันนี้)
มีสมาชิกเพจท่านหนึ่ง ได้รับโพสต์ธรรมะของเพจนี้ ที่เพื่อนแชร์มาให้ ทำให้ได้ข้อคิด จนนำมาแก้ปัญหาชีวิตได้ จึงมีกุศลจิตศรัทธา ถวายพระพุทธชินราชทองคำแท้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขนาดสูง 20.5 ซม หนัก 10 บาท 1 องค์ ให้พระอาจารย์ เพื่อมอบให้เป็นศิริมงคลและเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำตระกูลแก่ผู้ที่ช่วยกันแชร์ธรรมะให้กว้างขวางออกไป
(กิจกรรมนี้จัดโดยทีมการศึกษา)

จากนั้นก็ได้มาประกาศผลผู้โชคดีในเฟซบุ๊กแฟนเพจไปเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม หรือวันเข้าพรรษาที่ผ่านมา และผู้ที่บุญหล่นทับก็คือ Meesuk Manasseela หรือ มีสุข มนัสศิลา อาจารย์วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษกมหานคร นั่นเอง

การให้ธรรมะ ชนะการให้ทั้งปวง...

ขอแสดงความยินดีกับคุณ Meesuk Manasseela

ในโอกาสนี้ขออนุโมทนาบุญกับท่านเจ้าภาพที่ถวายองค์พระทองคำและขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ร่วมกันแบ่งปันธรรมะเป็นธรรมทานเพื่อสร้างสรรค์สังคมไทยให้ดีงาม ร่มเย็นเป็นสุขเป็นแผ่นดินธรรม แผ่นดินทองสืบไปชั่วกาลนาน
ทีมงานการศึกษา...

คุณ Meesuk Manasseela ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมงานการศึกษาถึงการร่วมแบ่งปันธรรมะเป็นธรรมทานว่า

ทีมงาน : คุณได้ประโยชน์จากการอ่านธรรมะในเฟซบุ๊กอย่างไรบ้าง
คุณ Meesuk : ประโยชน์ที่ได้ในเรื่องของการเผยแผ่ศาสนาในโลกสารสนเทศ เป็นการธำรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ต่อไป ทำให้สามารถเข้าถึงพระพุทธศานาได้โดยง่าย ได้ข้อคิดและกุศโลบายอย่างแยบยล สามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างมีสติ และสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างฉลาดรู้เท่าทันปัญหาด้วยปัญญาครับ

ทีมงาน : การให้ธรรมทานสร้างสรรค์สังคมได้อย่างไร
คุณ Meesuk : ผู้ให้ธรรมะเป็นทานนับได้ว่าเป็นผู้ให้ความเป็นมนุษย์ที่ถือพร้อม ให้สติปัญญา ให้ความหลุดพ้น เพราะผู้ได้ฟังหรือได้เข้าถึงธรรมะแล้วย่อมก่อให้เกิดความระลึกดี สำนึกดี พากเพียร อุตสาหะ ในการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ละซึ่งความชั่วทั้งปวง พากเพียรเพื่อให้ตนพ้นทุกข์ สร้างสุขให้เกิดแก่ตน ผู้อื่น และสังคมได้ต่อไปอย่างดีงามนั่นเอง

ทีมงาน : อยากฝากอะไรให้สมาชิกเพจท่านอื่นๆ ได้ตั้งมั่นในคุณความดีในพรรษานี้
คุณ Meesuk : อยากให้ทุกๆ ท่านมีสติ และจรรโลงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา ศึกษาให้เข้าใจและเข้าถึงแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาตามหลักธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งมั่นและเชื่อมั่นในคุณความดี อย่าท้อแท้และท้อถอย รักษาความดีประดุจดั่งเกลือรักษาความเค็ม เจริญสมาธิเพื่อให้จิตใจสงบเย็น และสรรค์สร้างสิ่งที่ดีงามต่อไป

ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ

นั่นคือข้อความที่ถูกระบุ ป่าวประกาศให้ทราบว่าใครคือผู้โชคดีจากกิจกรรมแจกพระทองคำครั้งนี้ ซึ่งมีสุขกล่าวถึงกิจกรรมครั้งนี้ว่า “ก็เป็นไปตามที่ผมได้ให้สัมภาษณ์กับทางวัดไป ประโยชน์ที่ได้ในเรื่องของการเผยแผ่ศาสนาในโลกสารสนเทศ เป็นการธำรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ต่อไป ทำให้สามารถเข้าถึงพระพุทธศานาได้โดยง่าย ได้ข้อคิดและกุศโลบายอย่างแยบยล สามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างมีสติ และสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างฉลาดรู้เท่าทันปัญหาด้วยปัญญา”

ติง!! กิจกรรมสร้างมิจฉาทิฏฐิ

อย่างไรก็ตาม กิจกรรมครั้งนี้ดูเหมือนจะประสบความสำเร็จเพราะชาวพุทธส่วนหนึ่งก็ออกมาชื่นชมว่า เป็นกิจกรรมที่ดีที่จะช่วยเผยแพร่หลักธรรมคำสอน ข้อคิดธรรมะให้มากขึ้นบนโลกออนไลน์ และหากมองในแง่ดี กิจกรรมแจกพระทองคำหนัก 10 บาท นี้อาจช่วยทำให้ชาวพุทธเลื่อมใสศรัทธาในพุทธศาสนามากขึ้น และหันมาทำนุบำรุงศาสนาให้สืบทอดไปอีกยาวนาน แต่คนที่ยังมีสติ ระลึกถึงแนวคิดผิดเพี้ยน กิจกรรมหรือคำสอนต่างๆ ที่วัดธรรมกายเปลี่ยนแปลงเสียบิดเบี้ยวไปจากหลักคำสอนของพระพุทธองค์นั้น ยังคงเชื่อฝังใจว่า กิจกรรมนี้จะยิ่งทำให้คนหลงใหลในวัตถุ เกิดมิจฉาทิฏฐิ เห็นผิดเป็นชอบ รวมถึงเชื่อว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง เพราะกิจกรรมต่างๆ นานาที่เกิดขึ้นนั้นก็ยังเป็นกลยุทธ์เรียกคนเข้าวัดจานบินอยู่วันยังค่ำ

แม้กระทั่ง นพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ก็เห็นดีเห็นงามกับกิจกรรม“แชร์ธรรมะ รับพระทองคำ” ไปด้วย โดยได้กล่าวถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า กิจกรรมที่ทางวัดธรรมกายจัดขึ้นนั้น ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เพราะในปัจจุบันกิจกรรมทำนองเดียวกันนี้ก็มีให้เห็นโดยทั่วไป ซึ่งในกรณีนี้ก็เหมือนประชาสัมพันธ์ให้คนหันมาสนใจธรรมะมากขึ้น ส่วนคนที่มองว่าเป็นการโฆษณาวัด เพื่อหวังผลประโยชน์อะไรบางอย่างนั้น ก็เพราะวัดแห่งนี้มีภาพลักษณ์ที่ไม่ดีมาอยู่ก่อนแล้ว

การจัดกิจกรรมในยุคสมัยนี้ส่วนมากก็จะใช้โลกออนไลน์ในการเผยแพร่ โฆษณาเพื่อเชิญชวนให้คนเข้าร่วม เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มคนได้มากและหลากหลายกว่าการปิดป้ายประกาศ โดยที่ผ่านมาวัดพระธรรมกายแห่งนี้ก็เคยจัดกิจกรรมธุดงค์กลางเมือง จนทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมามากมายถึงความไม่เหมาะสม โดยหลายฝ่ายมองว่าควรไปธุดงค์ในป่ามากกว่ามาเดินกลางถนนเช่นนั้น แต่ตนกลับอยากให้เข้าใจและลองมองอีกมุมหนึ่งดูว่า ในสมัยพุทธกาล การธุดงค์คือการออกไปโปรดสัตว์ แต่ในปัจจุบันการไปเดินธุดงค์ในป่านั้นจะไปโปรดใคร เพราะไม่มีคนให้โปรดแม้แต่คนเดียว ดังนั้น จึงควรมองที่เจตนาที่แท้จริงของกิจกรรมนั้นมากกว่าจะไปจ้องโจมตีเพียงอย่างเดียว”

ทั้งนี้ ยังกล่าวย้ำอีกด้วยว่า ควรเปิดใจรับและมองที่เจตนาแท้จริงของวัดนั้นด้วยว่ามีวัตถุประสงค์ที่จะจัดกิจกรรมพร้อมแจกของรางวัลไปเพื่ออะไร เพื่อเผยแผ่ธรรมะจริงๆ หรือเพื่อการโฆษณาวัดเพื่อหารายได้เพียงอย่างเดียว

เราควรมองความเชื่อที่แตกต่างของผู้อื่นอย่างเปิดใจ อย่าไปตั้งแง่โดยจ้องจับผิดลูกเดียว เพราะจะทำให้วัดที่ต้องการจะเรียกคนเข้ามาศึกษาธรรมะอย่างแท้จริงในที่อื่นๆ ไม่สามารถทำอะไรได้เลย เพราะขยับไปไหนก็ผิดหมด อย่างไรก็ตาม ผมเคยไปสำรวจมาพบว่าทุกวันนี้วัดหลายแห่งก็มีการจัดกิจกรรมฝึกอบรมเด็กในช่วงวันหยุด โดยเฉพาะช่วงปิดเทอมมากมาย โดยพบว่ามีกิจกรรมตอบปัญหาธรรมะและมีการแจกของรางวัล อาทิ สมุด ดินสอ ยางลบ ขนม แก่เด็กที่ตอบคำถามถูกด้วย ผมจึงเห็นว่าสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้ไม่ใช่ความผิดอะไร จึงไม่สามารถดำเนินการเอาผิดในเบื้องต้นได้”

มองอีกมุมหนึ่ง ดร. ธวัช หอมทวนลม หัวหน้าภาควิชาปรัชญา คณะศาสนาและปรัชญา มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ให้ทัศนะว่า หากกิจกรรมนี้ป็นแผนการโปรโมตหนึ่งของวัดธรรมกายก็ควรใช้วิธีอื่นที่ไม่ทำให้คนเกิดมิจฉาทิฏฐิ ด้วยเห็นแก่ของรางวัลมูลค่าสูง และด้วยการที่วัดธรรมกายค่อนข้างถูกมองในแง่ลบอยู่แล้ว การจัดกิจกรรมแบบนี้จึงหลีกเลี่ยงการตกเป็นเป้าวิจารณ์ไม่ได้

อันนี้ถ้ามองในแง่ชวนคนมาทำบุญ ชวนแบบธรรมดาก็คงไม่มีปัญหาหรือน่าเกลียดอะไร แต่คือปกติลักษณะการทำบุญของวัดธรรมกาย คนค่อนข้างจะมองแบบติดลบอยู่แล้ว การประยุกต์โดยนำวิธีแบบมหายานมาใช้ บางครั้งมันเลยไม่ถูกต้องสักเท่าไหร่ การเอาเถรวาทไปจับเนี่ยมันไม่ใช่ เพราะเถรวาทจะเน้นให้ปัญญาเป็นหลัก ใช้ปัญญาพิจารณาเป็นหลัก

แล้วอันที่จริงก็ไม่น่าเอาพระเครื่อง พระพุทธรูป เอาสิ่งที่ให้ความเคารพนับถือมาเป็นตัวล่อ แต่ถึงจะเน้นมาให้เพื่อคนเข้าวัด หรือมาทำความรู้จักวัดธรรมกาย ด้วยวิธีการแบบนี้ก็เลยไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ ถ้าอยากให้คนเข้าวัดมากขึ้นก็น่าจะเอาคำสอนของท่านมาแนะนำหรือชักชวนไปปฏิบัติธรรมน่าจะถูกต้องกว่า”

นักวิชาการจี้ เข้าข่ายการพนัน

ถึงแม้กิจกรรมนี้จะเป็นการดีในการเผยแพร่ส่งต่อธรรมะ แต่ก็ต้องพึงระวังเพราะอาจเข้าข่ายทำผิดด้านการพนันได้ เพราะกิจกรรมนี้ก็ใช้การเอารางวัลหลอกล่อให้คนเข้ามากดไลค์เฟซบุ๊กแฟนเพจ จากนั้นก็ให้แชร์ภาพต่อไปเรื่อยๆ โดยหวังว่าจะได้รับรางวัลนั่นเอง ซึ่ง ร.ต.อ.ดร.วิเชียร ตันศิริคงคล คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ในฐานะผู้ศึกษาวิจัยเรื่องบ่อนการพนัน ได้ออกมาวิพากษ์กิจกรรมแจกพระทองคำว่า การกดไลค์เพจผ่านทางสังคมออนไลน์ และส่งต่อข้อความให้คนอื่นไปเรื่อยๆ เพื่อลุ้นรับพระทองคำหนัก 10 บาทของวัดพระธรรมกายนั้น ตามกฎหมายแล้วถือว่าเข้าข่ายการพนันอย่างชัดเจน

“ถือได้ว่าเป็นการใช้กลไกการตลาดเคลือบธรรมะได้อย่างแยบยลของวัดแห่งนี้ เพื่อให้ผู้ที่ศรัทธาและผู้มีกิเลสอยากได้พระทองคำเข้ามาติดตามกิจกรรมอื่นๆ ต่อเนื่องไปด้วย และต่อมาก็จะมีการซึมซับสิ่งที่ลัทธินี้ต้องการจะเผยแผ่ออกไปด้วย รวมทั้งเป็นการลงทุนน้อย แต่ได้ผลมาก อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้สามารถเอาผิดได้ในเรื่องข้อกฎหมายที่กำหนดไว้ว่า ผู้ที่จะจัดให้มีการเสี่ยงโชคไม่ว่าในลักษณะใด ทั้งโลกจริงหรือโลกเสมือน จะต้องขออนุญาตจากกระทรวงมหาดไทยให้ถูกต้องเสียก่อน”

ทั้งนี้ ร.ต.อ.ดร.วิเชียร ได้อธิบายว่า กิจกรรมของวัดธรรมกายดังกล่าวนั้น มีวิธีการที่เข้าข่ายการพนันที่เรียกว่า “การเสี่ยงโชค” โดยผู้ที่จะร่วมเกมดังกล่าวจะต้องกดส่งต่อข้อความไปเรื่อยๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการสุ่มจับได้ชื่อของตนเอง ทำให้ทางผู้จัดกิจกรรม นั่นก็คือวัดแห่งนี้ สามารถที่จะขยายฐานลูกค้าที่จะเข้ามาติดตามความเคลื่อนไหวของเว็บไซต์หรือหน้าเพจของวัดอยู่ตลอดเวลา นับว่าเป็นการเพิ่มยอดลูกค้าอีกทางหนึ่งที่ได้ผลสูง เนื่องจากผู้ที่กดแชร์เอาไว้จะต้องคอยมอนิเตอร์หรือจับตาเฝ้าดูตลอดเวลา ว่าจะมีการประกาศผลได้ชื่อตนหรือไม่ไปโดยปริยาย

สุดท้ายแล้ว กิจกรรม “แชร์ธรรมะ รับพระทองคำ” จากวัดธรรมกาย จะจริงใจหรือไก่กา คงต้องใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลพิจารณากันเอาเองนะจ๊ะ...



ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ Live
 
*** ขอเชิญชวนผู้อ่านร่วมโหวต ---> ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับกิจกรรม “แชร์ธรรมะ รับพระทองคำ” 10 บาท ของวัดพระธรรมกาย? ***






กำลังโหลดความคิดเห็น