“กินถั่งเช่าครับ หลังท่านบอกผมก็เลยกินถั่งเช่าครับ วันละตัวฮะ ก็ยังพอจะมีความแข็งแรงอยู่ครับ” เสียงสนทนาเล็ดลอดออกมาจากในคลิป บทสนทนาจากแดนไกล ฉบับเต็ม ที่ถูกนำเสนอผ่านเว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานั้น หรือข้อความบนเฟซบุ๊ก Thaksin Shinawatra ที่กล่าวไว้เมื่อราว 3 เดือนที่แล้วว่า “ผมไปจีนบ่อยๆ มีพรรคพวกเอาสมุนไพรจีนคือ “ถั่งเช่า” ที่เป็นหญ้าแห้งคล้ายตัวหนอนขึ้นอยู่บนเขาทิเบตราคาแพงมากมาให้ทาน ซึ่งอดีตนายกฯจีนที่เคยทำงานพร้อมกับผม คือ ท่าน จูหรงจี จะทานเป็นประจำ ท่านบอกกับผมว่า เหมาะสำหรับคนทำงานหนัก" ซึ่งตอนนี้เป็นเรื่องน่าสนใจที่จะได้รู้เคล็ดลับแข็งแรงปึ๋งปั๋งของคนใหญ่คนโตทั้งหลาย ที่ยังกระชุ่มกระชวย เรี่ยวแรงล้นเหลือที่จะปลุกระดมมวลชนอีกครั้ง แล้ว “ถั่งเช่า” ของนักโทษแดนไกลมันดียังไง ASTV ผู้จัดการ Live ขอพาไปเจาะทุกซอกทุกมุมให้ท่านผู้อ่านรู้ลึก รู้จริง เดี๋ยวนี้เลย!!
รู้จัก เห็ดวิเศษ
“ถั่งเช่า” หรือ “ดอง ชอง โช” มีความหมายว่า “หญ้าหนอน” (ฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้า) ถั่งเช่านั้นเป็นเห็ดรา อีกทั้งถือเป็นสมุนไพรจีนชนิดหนึ่ง และเนื่องจากถั่งเช่ามีปริมาณน้อยมาก การเก็บจึงค่อนข้างลำบาก ทำให้ราคายิ่งแพงมากขึ้นและกลายเป็นยาที่มีค่าสูงมากดุจดังทองคำ ตามที่ได้รับขนานนามว่าเป็นทองละมุน (Soft gold) ส่วนที่มาของเห็ดเทวดาถั่งเช่า ดร.อานนท์ เอื้อตระกูล ผู้เชี่ยวชาญด้านเห็ด องค์การสหประชาชาติ ปี พ.ศ. 2524-2548 เกริ่นให้ฟังว่า แท้จริงแล้ว เห็ดถั่งเช่าที่วางขายในเมืองไทยนั้น ไม่ใช่เห็ดของแท้ส่งตรงจากทิเบตมาแต่อย่างใด แต่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตของเทคโนโลยีไม่ใช่กระบวนการทางธรรมชาติ ถ้าของจริงต้องไปซื้อของภูฏาน เพราะที่นั่นรัฐบาลเขาจะออก Certificated ให้ทุกตัวหนอน แต่อย่างเมืองจีนขายแบกะดิน กิโลฯ ละสองล้านอย่างนี้ มันเป็นของปลอม
“ถั่งเช่าจะแท้ จะปลอม ก็เอามาจากจีนทั้งนั้นแหละครับ แต่ว่าถั่งเช่าแท้เนี่ย ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ที่ความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 4,000 เมตรขึ้นไป อย่างประเทศภูฏาน ซึ่งเป็นประเทศที่มีเห็ดชนิดนี้มากที่สุด มันจะเกิดขึ้นตามตัวหนอนที่มันอยู่ใต้ดิน เวลาหิมะตกมันก็จะอยู่จำศีลอย่างนั้น ยกเว้นเวลาหิมะละลาย แต่ว่าบางปีที่หิมะมันไม่ละลาย มันก็จะจำศีลอยู่ พอหิมะละลายมันก็จะออกมาเพื่อจะกินน้ำค้าง ใบไม้ รากไม้
ขณะที่มันโผล่ออกมา ถ้าเกิดมันบาดเจ็บ มันก็จะเป็นเชื้อรา ทีนี้ถึงมันเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อราเนี่ย มันก็จะไม่ตายทันที เพราะฉะนั้นมันก็จะผลุบๆ โผล่ๆ อยู่ หิมะตกก็จำศีล หิมะละลายก็โผล่ขึ้นมา แล้วผ่านไปประมาณ 6 ปี มันถึงเกิดออกมาเป็นผีเสื้อ เพราะฉะนั้นขณะที่มันมีเชื้อราอยู่ในตัวมันเอง มันจะป่วย พอป่วยแล้วมันก็ยังฟักตัว เนื่องจากว่ามันยังอยู่ใต้ความเย็นสูง พอมันอุ่นขึ้นมา ถ้ามันบาดเจ็บ หรือโดนเชื้อราเข้าไป มันก็จะขึ้นมาตาย ไม่กลายเป็นผีเสื้อ พอออกมาตายปุ๊บ ร่างกายข้างในมันมีเชื้อรา ไอ้เชื้อราตัวนี้มันก็จะกินตับไตไส้พุงจนทะลุปรุโปร่งหมดแล้วก็ออกมาเป็นดอกเห็ด เพราะฉะนั้น ข้างในมันจะเป็นเส้นใยของเห็ดทั้งนั้น แต่ข้างนอกจะเป็นปลอกหุ้มของตัวหนอน เพราะฉะนั้น ทั้งหมดมันคือเชื้อเห็ดถั่งเช่า”
ส่วนความนิยมของเห็ดถั่งเช่า หรืออีกชื่อคือ หญ้าหนอน นั้น ดร.อานนท์ กล่าวต่อไปว่า คาดว่าน่าจะเกิดในช่วงราวปี 1993 หลังนักกีฬาจีนทำสถิติโลกในการแข่งขันกรีฑาโลก โดยกินเห็ดถั่งเช่าก่อนการแข่งขัน ผู้คนมากมายที่อยากอึดทนทายาดเลยให้ความสนใจและเรียกร้องหาเห็ดวิเศษชนิดนี้
“ในปี 1993 เนี่ย นักกีฬาของจีนไปแข่งที่ประเทศเยอรมนี แข่ง Indoor Athlete สรุปว่านักกีฬาหญิงเข้าไปทำลายสถิติถึง 9 คน แล้วโค้ชของนักกรีฑา เขาก็บอกว่า เขากินเห็ดถั่งเช่า แล้วทีนี้ในปี 1994 มีการประชุมกันที่โทรอนโต ประเทศแคนาดา ของคณะกรรมการโอลิมปิก เพื่อที่จะประชุมกันว่า คนที่กินเห็ดถั่งเช่าจะแบนได้มั้ย ถือเป็นการเอาเปรียบคนอื่นมั้ย ปรากฏว่าแบนไม่ได้ เพราะมันเป็นอาหารชนิดหนึ่ง ไม่ใช่ยา พอหลังจากนักกรีฑาเอาไปกินแล้ว เนื่องจากมันใช้ออกซิเจนได้ดี วิ่งแล้วไม่เหนื่อย หลังจากปี 1994 ที่ว่าแบนไม่ได้ จากไอ้ตัวหนอนสกปรกๆ น่ารังเกียจ มันก็กลายเป็นของที่มีราคา”
เรื่องอันดีของคนไทยคือการเพาะเห็ดเถ่าชั่งได้เอง เรียกว่า “เห็ดถั่งเช่าสีทอง” ผลงานการวิจัยของ ดร.อานนท์ นั่นเอง ซึ่งเห็ดถั่งเช่าสีทองนั้น เกิดจากการเพาะเลี้ยงทั้งดอกและเส้นใยเห็ด โดยเห็ดถั่งเช่าสีทอง Cordyceps militaris ซึ่งเป็นเห็ดตระกูลเดียวกับเห็ดถั่งเช่า แต่คนละเหล่าพันธุ์(Species) เป็นเห็ดที่พบอยู่ทั่วไป ในระดับที่มีอุณหภูมิระหว่าง 10-28 องศาเซลเซียส เป็นเห็ดที่มีส่วนประกอบของสารอาหาร วิตามิน เกลือแร่และยาหลายชนิดที่สูงกว่า เห็ดถั่งเช่าแท้ๆ
“เห็ดถั่งเช่าสีทองก็เหมือนเห็ดถั่งเช่าแท้ แต่ไม่ได้เกิดในระดับสูงกว่าน้ำทะเล แล้วมันโตไวกว่า เพาะได้ง่ายกว่า มีสารคอร์ไดซิปิน (Cordycepin) สูงกว่า เดี๋ยวนี้ทั้งโลกก็หันมาเพาะเห็ดถั่งเช่าสีทอง เพราะมันเพาะได้ง่ายกว่า” ดร.อานนท์ระบุ
แจง “ถั่งเช่า” ไม่ใช่ไวอากร้า
สรรพคุณอวดอ้างมากมายบนหน้าอินเทอร์เน็ตเมื่อค้นหาคำว่า “ถั่งเช่า” ไม่ว่าจะเป็น ป้องกันไข้, ป้องกันหวัด, แก้อาการภูมิแพ้, แก้อาหารหอบหืด, แก้ไอเรื้อรัง, บำรุงปอด, บำรุงไต พูดง่ายๆ ว่า ถั่งเช่าเป็นยาเทวดา ยาบำรุงร่างกายขนานเยี่ยมที่ช่วยแก้เรื่องสมดุลร่างกายให้ปกติและใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
“สรรพคุณเด่นของมันก็จะมีสารคอร์ไดซิปิน (Cordycepin) หรือ คอร์ไดซิปิค แอซิด (Cordycepic acid) สารตัวนี้มีความสามารถช่วยดึงเอาออกซิเจนมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น นั่นก็หมายถึงเวลาเราหายใจ มีอาการเหนื่อยล้า หรือต้องขึ้นที่สูง มันจะช่วยให้เราไม่เหนื่อย ไม่หอบ ลักษณะมันก็จะเป็นอย่างนั้นเราอาจเรียกว่าการบูสท์ (Boost) ทำให้ร่างกายใช้ออกซิเจนได้สูงขึ้น นั่นหมายถึงผู้ป่วยหรือผู้อะไรต่างๆ ที่หายใจลำบาก หรือกำลังพักฟื้น ร่างกายอยู่ในสภาพอ่อนแอ สารคอร์ไดซิปิน (Cordycepin) มันก็จะช่วยดูดออกซิเจนมาใช้ได้ดียิ่งขึ้น ตัวนี้ตัวเด่น
จากนั้นก็เป็นเรื่องที่ถั่งเช่ามันมีสารโพลิแซกคาไรด์ (Polysaccharide) หรือที่เราเรียกว่า เบต้ากลูแคน (Beta glucan) โดยปกติ พืชทั่วไปเนี่ย พวกข้าว อะไรต่างๆ มันจะเป็นเบต้ากลูแคน 14 แต่ว่าเห็ดถั่งเช่าเนี่ยมันจะเป็นเบต้ากลูแคน 13 กับ 16 เวลาเรากินเห็ดเข้าไปแล้วเนี่ย มันจะไปกระตุ้นให้ร่างกายของเราสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงมากขึ้น ซึ่งถ้าหากเรามีภูมิคุ้มกันที่ดี เวลาเราไม่สบาย เป็นหวัด หรืออะไรก็ดี การมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในร่างกาย มันก็ต่อสู้ได้ โดยการกระตุ้นให้เกิดการสร้างเม็ดเลือดขาวขึ้นมา อันนี้คือสรรพคุณที่สำคัญในเห็ดถั่งเช่า” ดร.อานนท์อธิบาย
อีกหนึ่งสรรพคุณเด็ดที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้ สมุนไพรที่เหล่าชายต้องการ “ไวอากร้าธรรมชาติ” คำอวดโอ้ที่หนุ่มๆ หลายคนเห็นแล้วตาลุกวาว ซึ่งแท้จริงหาใช่เช่นนั้นไม่ เห็ดถั่งเช่าไม่ได้สามารถกระตุ้นกำหนัดของท่านชายได้แต่อย่างใด ดร.อานนท์ อธิบายต่อไปว่า มันเป็นเพียงผลพลอยได้ เมื่อร่างกายแข็งแรง มีเรี่ยวแรงพลังเหลือเฟือ อะไรๆ ก็ดูฟิต ปึ๋งปั๋งดั่งใจไปหมด
“มันเป็นผลส่วนรวมไงครับ ปกติการดึงออกซิเจนไปใช้ได้มากขึ้น เพราะฉะนั้นสมรรถภาพทางเพศหรือทางร่างกาย หรือผู้ป่วยต่างๆ ที่กำลังพักฟื้นเนี่ย ก็จะดีขึ้นและเร็วขึ้น แล้วส่วนใหญ่คนก็ชอบมุ่งไปทางยาโป๊ว หรือยาเพิ่มพลังทางเพศ แต่ว่าความจริงมันไม่ได้ไปเร่งฮอร์โมนทางเพศ ไม่ได้เป็นอะไรแบบนั้น แต่มันทำให้สมดุลในร่างกายมันดีขึ้น คือหมายถึงว่าทุกส่วนในร่างกายมันจะดีขึ้น ร่างกายก็จะมีกำลังฮึกเหิมขึ้น ความอ่อนเพลียก็น้อยลง ทำนองนี้ ไม่ได้เหมือนกับไวอากร้า ไม่ใช่ลักษณะนั้น”
เคาะราคา “ถั่งเช่า”
เอ่ยอ้างสรรพคุณถั่งเช่า สมุนไพรอัศจรรย์แก้สารพัดโรค ทีมงาน ASTV ผู้จัดการ Live จึงได้ลงสำรวจร้านขายยาจีน-สมุนไพรจีน ย่านเยาวราชและพื้นที่ใกล้เคียง พบว่า พอมีร้านจำหน่ายถั่งเช่าอยู่บ้างเป็นบางร้าน และทุกร้านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ณ ตอนนี้ ยอดขายไม่สูงมากนัก เนื่องจากราคาที่สูงขึ้นนั่นเอง ซึ่งราคาที่ว่าแพงนั่นก็สูงถึงกิโลกรัมละ 2,500,000 บาทเลยทีเดียว
ร้านเอี๊ยะแซ
“มันก็มีทั้งถูกทั้งแพง ตามแต่คุณภาพ แล้วผมว่าสรรพคุณมันก็ไม่เท่าไหร่หรอก แต่ราคาแพงเพราะมันหายาก ปลูกไม่ค่อยขึ้น อีกอย่างช่วงหลังๆ คนหันมานิยมกินมากขึ้น เป็นที่ต้องการในตลาด ราคาเลยปรับสูงขึ้น ซึ่งทางร้านเราไม่ได้เอามาขาย แต่ถ้ามีลูกค้าต้องการก็สามารถสั่งซื้อให้ได้ เพราะผมไม่อยากสนับสนุนสักเท่าไหร่”
ร้านกุยลิ้มฮึ้ง
“ถั่งเช่าที่ร้านเราไม่ได้นำเข้าจากจีนครับ จะนำเข้ามาจากทางทิเบต เกรดเดียวกันหมด ต่างกันแค่ที่ไซส์ ก็จะมีเล็ก กลาง ใหญ่ ที่ร้านเราจะขายเป็นตำลึงครับ เริ่มตั้งแต่ตำลึงละ 28,000-40,000 บาท” (1 ตำลึง เท่ากับ 60 กรัม)
ร้านเวชพงษ์โอสถ
“ถั่งเช่าที่นี่นำเข้ามาจากประเทศจีน มันก็จะมีอยู่หลายเกรดค่ะ เริ่มต้นจากกรัมละ 950 บาท ไปจนถึง 2,500 บาท ส่วนลูกค้าก็มักจะเป็นเจ้าเดิมๆ ลูกค้าประจำค่ะ”
ร้านถงเยิ๋นถัง
“มีขายค่ะ เต็มตัวสวยๆ เลย ไม่มีหาง มีหลายไซส์ให้เลือก ถ้าจำนวนเส้นน้อย ไซส์ใหญ่ เต็มตัว ก็จะราคาสูงหน่อย ส่วนบางที่เขาขายแบบที่หักๆ ไม่ครบตัว ราคาก็จะถูกกว่านี้ อย่างราคาร้านเราก็จะตามนี้
ไซส์ 4,000 เส้น ต่อกิโลกรัม ราคากรัมละ 1,200 บาท
ไซส์ 3,800 เส้น ต่อกิโลกรัม ราคากรัมละ 1,400 บาท
ไซส์ 2,500 เส้น ต่อกิโลกรัม ราคากรัมละ 1,600 บาท
ไซส์ 2,000 เส้น ต่อกิโลกรัม ราคากรัมละ 1,900 บาท
ไซส์ 1,200 เส้น ต่อกิโลกรัม ราคากรัมละ 2,500 บาท
แต่เดี๋ยวนี้คนซื้อน้อยหน่อย เพราะราคามันแพงขึ้น”
เด็ดไม่แพ้ “สมุนไพรไทย”
ถึงแม้สรรพคุณอย่าง “ถั่งเช่า” จะดีเลิศขนาดไหน แต่เห็นราคาแล้วคงขยาด เพราะสูงลิ่วจนเกินเอื้อมถึง แต่อย่างคนใหญ่คนโต ก็ต้องมีเงินถุงเงินถังจ่ายได้อยู่แล้ว ทำให้สมุนไพรถั่งเช่านั้น อาจได้รับความนิยมในกลุ่มคนมีฐานะเท่านั้น เภสัชกรหญิง เย็นจิต เตชะดำรงสิน ผู้อำนวยการสถาบันแพทย์แผนไทย-จีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็เคยได้ให้สัมภาษณ์ว่า ราคาที่สูงมากขนาดนี้ คนไข้หลายคนคงสู้ไม่ไหว แต่ก็มีสมุนไพรจีนอีกชนิดหนึ่งที่ทดแทนได้
“สมุนไพรถั่งเช่านั้น ดีแต่เราไม่สามารถเอามาใช้ได้ทั่วไป เพราะราคาแพงมาก ชั่งละหลักแสนบาท 1 ชั่งถ้าเป็นชั่งของไทยจะหนักประมาณ 600 กรัม แต่ถ้าเป็น 1 ชั่งของจีน จะหนักประมาณ 500 กรัม หรือครึ่งกิโลกรัม ยาครึ่งกิโลกรัมราคาเป็นแสนบาทนั้น คนไข้ส่วนใหญ่จะรับไม่ไหวและจะเข้าถึงยาตัวนี้ไม่ได้เลย ดังนั้นถั่งเช่าจะใช้ได้กับคนที่มีฐานะดีเท่านั้น ขณะที่คนทั่วไปเราสามารถใช้สมุนไพรชนิดอื่น ที่มีสรรพคุณเดียวกันรักษาได้เหมือนกันมาแทนได้ ซึ่งสมุนไพรที่มีสรรพคุณใกล้เคียงกับถั่งเช่า ก็มีอยู่ เช่น ปั๊กพี้ ที่มีสรรพคุณบำรุงกำลัง บำรุงปอด และบำรุงไต โดยปั๊กพี้นี้หาซื้อได้ตามร้านขายยาแผนโบราณทั่วไป ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ ปกติจะมีการนำปั๊กพี้เป็นส่วนผสมในการตุ๋นไก่ ตุ๋นเนื้อสัตว์ชนิดต่างๆ อยู่แล้ว”
ด้านผู้เชี่ยวชาญด้านเห็ดอย่าง ดร.อานนท์ ก็กล่าวว่า ความจริงสมุนไพรไทยนั้นดีที่สุด แต่คนไทยมักมองข้าม และหันไปพึ่งสมุนไพรต่างแดนราคาแพง ทั้งๆ ที่เรามีของดีมากมายอยู่ในตัว
“ผมว่าสมุนไพรไทยน่าจะดีกว่าด้วยซ้ำ อย่างเห็ดกระถินพิมาน ซึ่งขณะนี้เมืองนอกอย่างอเมริกา เค้าขโมยของไทยไป คือเอาจากเมืองไทยไปขาย ที่อเมริกาเค้าขายกันกรัมละ 100 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณกิโลกรัมละ 3,000,000 บาท แพงกว่าเห็ดถั่งเช่าเสียอีก ยิ่งกว่าทองคำเสียอีก แต่คนไทยไม่รู้เรื่อง เอาเห็ดตัวนี้มาทำเป็นฟืน เพราะฉะนั้นเดี๋ยวนี้เกาหลีใต้ถึงได้มาทำโรงงานอยู่แถวเมืองเอกนี่ไง เพื่อจะให้ชาวบ้านไปเก็บมา แล้วเอาไปแปรรูป แล้วเอาไปขายต่างประเทศ ตอนนี้เค้าก็คงเก็บไปหมดแล้วแหละ เพราะฉะนั้น ผมยืนยันเลยว่าของไทยดีกว่าเยอะ ยิ่งเห็ดกระถินพิมาน ซึ่งในโลกนี้มีบ้านเราเท่านั้นแหละ ที่อื่นมีน้อยมาก”
• รู้จัก "ถั่งเช่า" สมุนไพรจีนระดับไฮเอนด์
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ Live