xs
xsm
sm
md
lg

“พ่อลูกตระกูลชินฯ” โพสต์เรียกเรตติ้งจำนำข้าวเจ๋ง-กินของอร่อย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้ต้องหาหนีคดีอาญาแผ่นดิน
“พานทองแท้” เย้ย ปชป.เลือกตั้งแพ้ซ้ำซาก เพราะบริหารแบบนักบัญชี ไม่เข้าใจคำว่าเศรษฐกิจและโอกาส ชวนเห็นใจชาวนา ชี้จำนำข้าวไม่เน้นผลกำไร ปชป.ไม่ควรสุมไฟใส่รัฐเรื่องกำไรขาดทุน ควรดูชาวนาได้ประโยชน์หรือไม่ ด้าน “แม้ว” กลัวคนลืม โพสต์ตระเวนวอชิงตันหาของอร่อย ยันสู้กรุงเทพฯ ไม่ได้ ก่อนตกใจฝรั่งตัวใหญ่ขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 15 มิ.ย. นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้ต้องหาหนีคดีอาญาแผ่นดิน โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว Oak Panthongtae Shinawatra อย่างภาคภูมิใจว่า นโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทยที่ได้ทำสัญญาประชาคมไว้กับกระดูกสันหลังของชาติคือการรับจำนำข้าว

“การดำเนินการจำนำข้าวในช่วงแรก เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่จะทำให้ชาวนาไทยได้ลืมตาอ้าปาก มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับชาวนาชาติอื่นๆ รัฐบาลเพื่อไทย ได้กำหนดราคารับจำนำข้าวไว้ที่เกวียนละ 15,000 บาทขาดตัวครับ

พรรคประชาธิปัตย์พยายามจะโจมตีรัฐบาลว่าจำนำข้าวขาดทุน 2 แสน 6 หมื่นล้าน รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก็ยืนยันว่ามันไม่มากขนาดนั้น ปีหนึ่งน่าจะอยู่ที่ 6 หมื่นกว่าๆ หรือถ้าคิดแบบขายข้าวที่มีอยู่ได้ราคาต่ำสุดๆ ก็ประมาณแสนกว่าๆ

พี่น้องประชาชนเมื่อได้ฟังทั้ง 2 ฝ่ายเถียงกัน ว่าขาดทุนมาก หรือขาดทุนน้อย ยังไงก็เป็นผลเสียต่อรัฐบาลครับ เพราะประชาชนจะเข้าใจว่ารัฐบาลบริหารไม่ดี ทำให้โครงการขาดทุนไม่มากก็น้อย ซึ่งจริงๆแล้วการรับจำนำข้าวเป็นโครงการที่ไม่หวังผลกำไร รัฐจะต้องชดเชยส่วนต่างของราคาให้กับชาวนาในกรณีที่ราคาข้าวในตลาดโลก ไม่ถึงหมื่นห้า ซึ่งยังไงๆ ก็ไม่ถึงอยู่แล้วครับ

เรื่องกำไรไม่ต้องพูดถึงครับ ต่อให้ราคาข้าวในตลาดโลกราคาเกินหมื่นห้าขึ้นไป สมมุติอยู่ที่ 18,000-20,000 โครงการก็ไม่กำไรอยู่ดีแหละครับ เพราะว่าในเมื่อชาวบ้านจำนำไว้หมื่นห้า ถ้าราคาข้าวขึ้นเป็น 2 หมื่น กำไรก็ตกเป็นของชาวนาไม่ใช่รัฐบาลอยู่ดี เพราะชาวนาก็จะมาไถ่ข้าวไปขายเองเพราะได้กำไรมากกว่า

เพื่อความโปร่งใส และหลีกเลี่ยงการเข้าใจผิด รัฐบาลควรจะประกาศไปเลยว่า ราคาข้าวในตลาดโลกเท่าไหร่ ราคาที่จะรัฐจะรับจำนำในปีนี้จะเป็นเท่าไหร่ ปริมาณผลผลิตข้าวที่เข้าโครงการเท่าไหร่ ใน1ตันจะขาดทุน 3 พัน 5 พันก็ว่ากันไป หักกลบลบหนี้เรียบร้อย ต้องนำเงินภาษีอากรไปชดเชยกี่หมื่นกี่แสนล้านก็บอกไป พี่น้องประชาชนจะคิดเองว่า เห็นด้วยหรือไม่ในนโยบายจำนำข้าว ไม่ใช่ทำงานคิดนโยบายมาแทบตาย แต่กลับปล่อยให้พรรคฯอื่นมาตีกินคะแนนไปแบบนี้

พี่น้องไทยไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำครับ กินข้าวเป็นอาหารหลักมาทั้งชีวิต ตั้งแต่เด็กจนโตมีงานทำ จะนำเงินภาษีไปตอบแทนบุญคุญพี่น้องชาวนา ที่ยังยากจนอยู่ให้ลืมตาอ้าปากได้บ้างจะเป็นไรไป บางคนที่เสียดายเงินภาษีไม่อยากให้นำไปช่วยชาวนา ในการเลือกตั้งคราวหน้าเขาก็ไม่เลือกเพื่อไทย ใครที่คิดว่าควรเป็นการตอบแทนชาวนาบ้าง แบบนี้เป็นการสมควรแล้ว เขาก็เลือกเพื่อไทย

คิดง่ายๆก็คล้ายๆกับ โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคนั่นแหละครับ ทำมาตั้งแต่ปี 2545 เริ่มต้นปีละ 4 หมื่นกว่าล้าน ตอนนี้ปีละ 7-8 หมื่นล้าน ทำมา 10 กว่าปี ใช้งบไปร่วม 5-6 แสนล้าน คิดแบบพรรคประชาธิปัตย์คงเรียกว่าขาดทุนครึ่งล้านๆ แต่คุณพ่อผมสอนให้คิดเสียว่าเป็นการให้โอกาสคนยากคนจน ในการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ในเรื่องของการรักษาพยาบาลอย่างทัดเทียมกันครับ (คือไม่ใช่เป็นโรคเดียวกัน คนมีเงินอยู่รอดได้ แต่คนยากจนต้องตาย เพราะไม่มีค่ารักษาพยาบาล)

ความจริงเรื่องขาดทุนนะมีครับ งบที่ขาดทุนแน่ๆ แต่ประชาธิปัตย์ไม่เคยพูดถึงเลย คืองบจัดซื้อรถดับเพลิงครับ รถดับเพลิงที่ผู้ว่าฯ กทม.ของพรรค ปชป. เปิดLCทำให้สัญญามีผลผูกพันตามกฎหมาย ศาลกำลังจะตัดสิน เอาตัวคนผิดมาติดคุก ในเดือนสิงหาคมนี้ งานนั้นเสียเงินภาษีของราษฎรไป 6 พันกว่าล้าน ไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์เลยแม้แต่นิดเดียว ขาดทุนแน่ๆ 100% ถึงหกพันกว่าล้านครับ

กับอีกงบที่เรียกได้ว่าเป็นการขาดทุนแบบขี้ข้าฝรั่งแกล้งโง่ คืองบ.ปรส.ครับ ของมูลค่า 6-7 แสนล้าน บังคับขายแสนกว่าล้าน แถมคนไทยด้วยกันเองห้ามซื้ออีกต่างหาก ฝรั่งซื้อไปถูกๆ นำไปปัดฝุ่นนิดหน่อย เอากลับมาขายคนไทยราคาสูงกว่าทุน 200% แบบนี้สิครับ ขาดทุนแบบไร้คุณธรรมที่สุด

ประเด็นที่เราควรพิจารณาไม่ใช่กำไรขาดทุน จำไว้ครับพรรคประชาธิปัตย์ เราควรต้องดูว่าชาวนาได้ประโยชน์หรือไม่, เงินตกถึงมือชาวนามากกว่าเดิมหรือไม่ อุดการรั่วไหลไปยังผู้แสวงประโยชน์ได้ดีพอหรือเปล่า เงินที่ถึงมือชาวนาหมุนไปกี่รอบ กระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีหรือไม่ ผลรวมเป็นอย่างไร

ถ้ายังคิดที่จะบริหารประเทศแบบนักบัญชี ที่ดูบัญชีเป็นหน้าเดียว ไม่เข้าใจคำว่า "เศรษฐกิจ" และ "โอกาส" ที่เป็นความต้องการพื้นฐานของชีวิต ที่รัฐควรมีให้พี่น้องคนยากคนจน ผลเลือกตั้งกี่ครั้ง ก็ออกมา"แพ้ซ้ำซาก" แบบที่เราเห็นมาในรอบสิบๆ ปีแบบนี้แหละครับ”

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในวันเดียวกันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว Thaksin Shinawatra เช่นกัน ภายใต้หัวข้อขอเล่าเรื่องวอชิงตัน ดี.ซี. ต่ออีก 1 วัน

“ผมเป็นคนชอบเก็บข้อมูลแล้ววิเคราะห์เปรียบเทียบครับ ผมไปที่ไหนขาดไม่ได้คือกินกับซื้อของ มาเที่ยวนี้ก็พยายามไปหาของดีๆ ทาน พบว่า ให้เพื่อนแนะนำร้านดีๆไม่ว่าจะเป็นอาหารประเภทไหน ก็พบว่าอาหารดีและอร่อยก็จริง แต่ยังไงก็ไม่ถึงของดีของอร่อยของยุโรปและเอเชียเมืองหลัก เช่น กรุงเทพฯ ฮ่องกง สิงคโปร์ ไม่ว่าจะเป็นอาหารอะไรก็ตามไม่ถึงจริงๆ กาแฟตามร้านอาหารรสชาติเหมือนกันหมด คือ รสอ่อน นิวยอร์กอาจจะดีกว่าดี.ซี. แต่ก็ยังสู้ยุโรปและเอเซียไม่ได้ ยิ่งชอปปิ้งยิ่งชัดครับ ของสวยๆ งามๆ ทั้งๆ ที่ยี่ห้อเดียวกันของที่วางขายก็จะเป็นไปตามรสนิยมของประเทศนั้นๆ ของยี่ห้อยุโรป เช่น Chanel, Louis Vuitton, etc. ที่นิวยอร์กของจะดูดีกว่าดี.ซี. ที่น่าสนใจคือ ทุกห้างสรรพสินค้าจะมีเสื้อผ้า Size ใหม่ที่ผมไม่คุ้นเคย คือ Size 1X, 2X, 3X หมายถึง Size ใหญ่กว่า X-large 1 Size, 2 Size, 3 Size มันบอกอะไรรู้ไหมครับ มันบอกว่าคนอเมริกันตัวใหญ่ๆ มีจำนวนมากขึ้น มากจนมีแผนกนี้ขึ้นมาทุกห้างสรรพสินค้า หุ่นที่ใส่ชุดโชว์ก็ใหญ่มาก เห็นแล้วตกใจ ร้านอาหารทุกร้านเสิร์ฟอาหารก็ให้เยอะมาก บางคนอาจจะเสียดายก็เลยต้องกินให้หมดก็เลยอ้วนขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งน่าจะเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศสหรัฐฯ ที่ต้องคิดเรื่องนี้อย่างจริงจัง”


กำลังโหลดความคิดเห็น