“มีธนาคารหลายแห่งเสนอบัตรเดบิตพ่วงประกันอุบัติเหตุ โดยอ้างว่าบัตรเอทีเอ็มธรรมดาหมด หรือทางธนาคารได้ยกเลิกบริการบัตรเอทีเอ็มแบบธรรมดาไปแล้ว ทำให้ลูกค้าต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มมากขึ้นโดยไม่จำเป็น ซ้ำยังต้องจำใจทำบัตรโดยไม่ตรงกับความต้องการ และการที่พนักงานธนาคารพูดจาหว่านล้อมกึ่งบังคับในเรื่องดังกล่าว ทำให้ผู้ใช้บริการไม่แน่ใจว่าเดินเข้าธนาคารหรือเดินเข้าบริษัทประกันนั้น” ข้อความร้องเรียนจากผู้บริโภค ที่สื่อมวลชนสำนักหนึ่งเผยแพร่ต่อสาธารณะ
ในส่วนของผู้บริโภคก็มีการร้องเรียนกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับกรณีการยกเลิกบัตรเอทีเอ็มธรรมดาของธนาคารพาณิชย์เอกชน พร้อมเสนอทางเลือกบัตรบัตรเดบิต พ่วงประกันชีวิตแก่กลุ่มลูกค้า แถมมีนโยบายให้พนักงานขายบัตรเดบิตตามเป้าหมายอีก
คุ้มค่ากับส่วนต่างที่ผู้บริโภคต้องชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มเพื่อรับสิทธิคุ้มครองที่เพิ่มเติมเข้ามาหรือเปล่าไม่รู้ แต่ในส่วนธนาคารอัตรค่าธรรมเนียมก็เพิ่มขึ้นย่อมส่งผลต่อผลประกอบการเช่นเดียวกัน
ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยเพียงต้องการทำบัตรเอทีเอ็มเพื่อใช้ในการเบิกถอนเงินสดหรือโอนผ่านตู้เท่านั้น จึงต้องการขอทำบัตรเอทีเอ็มปกติ แต่ทางธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่กลับเสนอเอทีเอ็มในรูปแบบของบัตรเดบิต ประเด็นสำคัญที่ถูกร้องเรียน คือ พนักงานธนาคารแทบทุกแบงก์ จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นบัตรเดบิต พร้อมเสนอการบัตรเดบิตที่พ่วงขายประกันอุบัติเหตุเข้ามา ทำให้ลูกค้าต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มมากขึ้นโดยไม่จำเป็น
ในส่วนของบัตรจำพวกนี้ จะมีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปีอัตราสูงกว่าค่าธรรมเนียมบัตรเอทีเอ็มปกติ โดยอัตราค่าธรรมเนียมบัตรเอทีเอ็ม แรกเข้าเสีย 100 บาทค่าธรรมเนียมรายปี 200 บาท
ขณะที่บัตรเดบิต จะมีอัตราค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี ตามแต่ละประเภท โดยเฉลี่ยแรกเข้าค่าธรรมเนียมประมาณ 100-400 บาท ค่าธรรมเนียมรายปี 200-500 บาท
แต่ถ้าเป็นบัตรเดบิตที่มีการพ่วงประกันอุบัติเหตุเข้ามาด้วย จะปรับอัตราค่าธรรมเนียมขึ้นไปอีก ประมาณ 300-1,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ด้านผู้บริหารของธนาคารเอกชนยักษ์ใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงไทย ก็ชี้แจ้งกรณีดังกล่าวผ่านสื่อฯ เป็นไปในทำนองเดียวกันว่าไม่ใช่นโยบายของธนาคารที่ต้องการเพิ่มยอดขายบัตรเดบิตพ่วงประกันชีวิต แต่ความจริงเป็นเพราะบางสาขาธนาคารต้องการทำยอดเพื่อเป็นผลงานสำหรับการประเมินประจำปี
ข้อเท็จจริงอีกอย่างหนึ่ง ที่ทางผู้บริหารได้ชี้แจ้งต่อสื่อมวลชน คือบัตรเดบิตพ่วงประกันชีวิตนั้นเป็นเพียงบัตรทางเลือกที่ทางธนาคารทำขึ้นมาเพื่อตอบสนองไลฟสไตล์ของกลุ่มลูกค้า และพนักงานไม่สามารถไปบังคับลูกค้าสมัครบัตรดังกล่าว หรือใช้โอกาสในช่วงบัตรเอทีเอ็มหมดทำการเสนอขายบัตรเดบิตพ่วงประกันชีวิต
ทั้งนี้ เมื่อบัตรหมดทางสาขาสามารถเข้ามาเบิกได้ที่ที่สำนักงานใหญ่ โดยใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน และมีนโยบายทำนองว่า ห้ามทำให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการธนาคารเกิดความรู้สึกอึดอัด ราวกับกำลังอยู่ในบริษัทตัวแทนขายประกันชีวิต
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ Live
