คงต้องยอมรับว่า หน้าตาคือส่วนแรกที่ใครหลายคนเลือกมอง และถือเป็นหน้าต่างของโอกาสที่หากใครมีหน้าตาดีย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง แต่การแข่งขันโดยให้คนไทยทั้งประเทศเป็นผู้ตัดสินในหลายรายการที่ผ่าน ๆ มา พิสูจน์ให้เห็นว่า หน้าตากลายเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งเท่านั้น เนื่องจากยังมีอีกหลาย ๆ คนตัดสินผู้เข้าประกวดจากเอกลักษณ์ ความสามารถ ตลอดจนความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะพัฒนาตัวเอง
เช่นเดียวกับ เดอะ คอมเมเดียน ไทยแลนด์ เรลลิตี้ค้นหาสุดยอดดาวตลกคลื่นลูกใหม่ ซึ่งเปิดเป็นปีแรก และปิดฉากไปอย่างสุดฮาเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยมี เป็ด เชิญยิ้ม (ธัญญา โพธิ์วิจิตร) เป็นหัวเรือใหญ่ แม้จะมีหนุ่มสาวหน้าตาดีผ่านเข้ารอบ และมีคนเชียร์ คนโหวตจำนวนมาก ทว่าเด็กหนุ่ม เด็กสาวหน้าตาบ้าน ๆ กลับมีคะแนนโหวตสูสีไม่แพ้กัน
"กาต่าย C14-รพีพร พ่วงเพ็ชร" คือหนึ่งใน 20 ผู้เข้าแข่งขันที่หากพูดกันตามตรง เธอห่างไกลจากคำว่า "สวย" และ "หุ่นดี" มากกว่าใครเพื่อน บวกกับบุคลิกท่าทาง และการพูดที่เนิบช้า และมีน้ำเสียงที่แปลก คล้ายมนุษย์ต่างดาว รวมไปถึงการคิด หรือทำอะไรในแบบที่คนปกติเขาไม่ค่อยทำกัน
แต่สิ่งเหล่านี้ กลับทำให้เธอดูแปลก และน่าสนใจ จนกลายเป็นบุคคลิกที่เพียงแค่ปรากฎตัวให้เห็นก็เรียกเสียงหัวเราะจากคนที่นั่งดูได้ทุกครั้ง
ไม่แปลกที่คนไทยในภาวะที่ต้องการจะหลีกหนีความเครียด จะทุ่มโหวตให้เธอได้เป็นแชมป์ เดอะ คอมเมเดียน ไทยแลนด์ สุดยอดดาวตลกหน้าใหม่ที่จะเข้ามาสร้างสีสันในวงการบันเทิงไทยให้ฮากระจาย เหมือนกับการแสดงของเธอกับเพื่อน ๆ ในแต่สัปดาห์ ที่งัดกลเม็ดเด็ดออกมาประชันแบบหมดไส้หมดพุง ซึ่งเรียกเสียงหัวเราะกระหึ่มกึกก้องไปทั่วห้องส่ง และเชื่อว่าผู้ชมทางบ้านก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน
M-Open สัปดาห์นี้ ได้มีโอกาสพูดคุยกับเธอถึงตัวตน และเลือดตลกที่มีอยู่ในตัว รวมไปถึงมุมมองความคิดในหลาย ๆ ประเด็นที่เปิดเผยเป็นที่แรก และหาอ่านไม่ได้จากที่ไหน โดยทันทีที่เธอถูกปล่อยคิวให้สัมภาษณ์เป็นการส่วนตัวกับ M-Open กาต่าย เผยความรู้สึกในฐานะสุดยอดดาวตลกหญิงคนแรกของประเทศไทยว่า วินาทีที่พิธีกรประกาศชื่อให้เป็นผู้ชนะ ใบหน้า และร่างกายรู้สึกชาไปหมด เพราะไม่เชื่อว่าตัวเองจะเป็นผู้ชนะในซีซั่นแรกนี้
"หนูช็อกมากค่ะ มันช็อกบวกชา บวกตื่นเต้น หนูบอกให้พี่เขาตบหน้าหนูหน่อย (หัวเราะ) เพราะในความรู้สึกของหนู ตำแหน่งนี้มันสูงมาก ๆ ลึก ๆ หนูไม่ได้หวังที่ 1 อยู่แล้วค่ะ ไม่หวังเลยจริง ๆ ตอนที่ยืนอยู่ 2 คนสุดท้าย หนูคิดว่าพี่เคนต้องได้แน่ ๆ เพราะหนูไม่เก่งขนาดนั้น แต่ที่ได้ อาจจะเป็นเพราะว่าหน้าหนูแปลก (หัวเราะ)" แชมป์ตลกหญิงเผยความรู้สึก พร้อมกับเอ่ยคำขอบคุณผู้ชม แฟนคลับที่เป็นกำลังใจ และโหวตให้เธอ
ถามถึงพ่อกับแม่ที่เดินทางมาให้กำลังใจ เธอบอกแค่สั้น ๆ ว่า "หนูอยากจะบอกแม่ว่า หนูหน้าเหมือนแม่มากค่ะ (หัวเราะ) ตั้งแต่หนูตัดผมม้า หนูยิ่งเหมือนแม่มาก"
เคลียร์ตัวตน คนชื่อ "กาต่าย"
กล่าวสำหรับ สาวโคราชคนนี้ สิ่งที่ใครหลายคนอดสงสัยไม่ได้ เห็นจะเป็นชื่อที่เธอใช้แทนตัวเองว่า "กาต่าย" โดยชื่อนี้ บางคนพยายามหาเหตุผลของการตั้งชื่อ และคิดกันไปต่าง ๆ นานา เช่น เป็นชื่อสัตว์สองชนิดผสมกัน (อีกา+กระต่าย) หรือบางคนคิดแล้วคิดอีก แต่ก็คิดไม่ออก เรื่องนี้คงไม่มีใครตอบได้ดีเท่ากับเจ้าตัว
"ชื่อหนูเหรอค่ะ (หัวเราะ) จริง ๆ แล้วพี่ชายตั้งชื่อให้หนูว่า กระต่ายค่ะ แต่ด้วยความเป็นคนพูดช้ามาแต่ไหนแต่ไร เพื่อน ๆ หรือคนฟังก็ได้ยินเป็น กาต่าย ชื่อนี้ก็เลยติดปาก และถูกเรียกแทนชื่อเดิม ซึ่งก็เป็นชื่อที่แปลกดีค่ะ (หัวเราะ) และหนูก็ชอบด้วย ส่วนพี่ชายหนูชื่อเพชรค่ะ" กาต่ายขยายความ
แม้จะมีจังหวะคอมเมดี้เรียกเสียงฮาแบบกระจัดกระจาย และสามารถสะกดจิตให้คนดูจดจ่อกับทุกการแสดงจนใครหลายคนเผลอหัวเราะออกมาโดยไม่รู้ตัว แต่ก็ไม่วายที่จะถูกมองว่า สิ่งที่เธอเป็น คือการเสแสร้งแกล้งทำ หรือพยายามประดิษฐ์ตัวตนเพื่อให้เป็นที่จดจำของคนดู ความจริงเป็นอย่างไร ไปฟังจากปากของเธอกัน
"หนูเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เกิดแล้วค่ะ พูดเนิบ ๆ ช้า ๆ และคิดไม่เหมือนคนอื่นสักเท่าไร เพื่อนบางคนก็มองหนูว่าเฟคบ้าง ซึ่งหนูไม่ได้แกล้งทำ และก็ไม่ได้เกิดอุบัติเหตุกับสมองหนูด้วยค่ะ ร่างกายหนูปกติทุกอย่าง ปกติจริง ๆ ค่ะ (หัวเราะ) ที่คนหลายคนขำหนูก็เพราะเสียงหนูแปลกกว่าคนอื่น นอกนั้นหนูก็เหมือนคนปกติ เพียงแต่ชอบอยู่กับความคิดที่มักจะเพ้อเจ้อ และจินตนาการไปไกลกว่าคนอื่นก็เท่านั้นเองค่ะ"
"ถ้าให้ยกตัวอย่างความคิดที่ไม่ค่อยเหมือนคนอื่นของหนู หนูเป็นพวกเพ้อเจ้อค่ะ สมมติคนอื่นอยากจะขับรถ แต่หนูคิดไปอีกแบบหนึ่งว่า หนูอยากขี่ม้าแล้วติดไฟแดง ซึ่งแทนที่จะให้น้ำมัน เราก็ให้หญ้าแทน อะไรแบบนี้ค่ะ" กาต่ายเล่าด้วยน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอ
แม่เห็นแววเพราะเป็นถึง "ดิน มหา'ลัย"
ถามลึกลงไปถึงเหตุผลที่เข้ามาประกวดในรายการ เดอะ คอมเมเดียน ไทยแลนด์ เธอบอกว่า มีคุณแม่ (เพ็ญศิริ พ่วงเพชร) เป็นเจ๊ดัน เพราะเห็นแววความเป็นดาวตลกในตัวลูกสาวมาตั้งแต่เด็ก
"เหตุผลที่เข้ามาประกวดมาจากคุณแม่ค่ะ คุณแม่เห็นว่าหนูเป็นคนตลก มีคนชอบ มีคนขำเยอะ คุณแม่ก็เลยให้หนูลองเข้ามาสมัคร แม่บอกหนูว่า ถ้าเราตลกจริง ไหนลองมาสิ ปรากฎว่าผ่านเข้ารอบ และได้เป็นหนูในวันนี้ ซึ่งต้องขอบคุณครอบครัว ผู้ชมคนดู แฟนคลับที่โหวตให้หนูด้วยค่ะ"
อย่างไรก็ดี เธอยังมีดีกรีเป็นถึง "ดิน มหา'ลัย" ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่แม่ตัดสินใจส่งลูกสาวเข้าประกวดในรายการนี้ สำหรับตำแหน่ง "ดิน มหา'ลัย" เธออธิบายให้ฟังว่า คล้าย ๆ การประกวดดาว-เดือนของมหาวิทยาลัย เพียงแต่ตำแหน่งนี้ มีไว้สำหรับคน "มีของ"
"การประกวดดินมหาวิทยาลัย เขาให้ขึ้นไปแสดงเป็นตัวเองให้มากที่สุด ซึ่งหนูแต่งเป็นตัวมดลูกค่ะ หนูเอาถุงน่องสวมหัวแล้วมีสายออกมาตรงหัว และมีไข่ต้มอยู่ตรงตุ้ม เหมือนแสดงให้เห็นว่า เราเป็นตัวแม่ มีมดลูกอะไรแบบนี้ จากนั้นก็ให้ไปแข่งกับพี่ ๆ ที่เป็นเพศที่สาม สุดท้ายหนูก็ได้ตำแหน่งนี้มาครอง" กาต่ายเล่า
ตั้งแต่นั้นมา เธอกลายเป็นเซเลปประจำคณะฯ และเป็นขวัญใจของใครหลายคนเพียงชั่วข้ามคืน เห็นได้จากชาวโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างติดอก ติดใจ ถึงขนาดมีรุ่นพี่ รุ่นน้อง สร้างแฟนเพจและตามไปเป็นแฟนคลับกันทะลักทลาย และด้วยเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เธอได้รับฉายาจากเพื่อน ๆ ว่า เสียงสวรรค์แห่งตึก CAT ซึ่งเป็นเสียงที่ใคร ๆ ก็อยากฟัง เพราะเป็นเสียงที่นำความสุข และเสียงหัวเราะมาให้ทุกครั้ง
ทุกวันนี้ ไม่ว่าจะไปประกวดที่ไหน เธอมักจะมีรุ่นพี่ และรุ่นน้องตามให้กำลังใจอยู่ตลอด เห็นได้จากการประกวดในครั้งนี้ เธอมีกองเชียร์แบบชนิดที่เรียกได้ว่า ไม่น้อยหน้าผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ เลย ปัจจุบัน กาต่าย กำลังขึ้นปีที่ 3 คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) เอกภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร โดยเธอมีคอนเซปท์เป็นของตัวเองว่า "กลัวไก่ไม่กลัวตุ๊ด สวยและรวยมาก" และที่สำคัญเธอชอบกิน "ปลาหมึก" มาก ๆ ด้วย
เติบโตในบ้านที่สอนให้คิดเอง
ลึกลงไปถึงตัวตนของกาต่าย ปฏิเสธไม่ได้ว่า ครอบครัวคือผู้อยู่เบื้องหลังตัวตนนี้ โดยเฉพาะการให้อิสระในการคิด และการใช้ชีวิต ตลอดจนการเลี้ยงดูบนพื้นฐานความรัก และความเข้าใจ ทำให้กาต่ายเป็นคนกล้าคิด กล้าแสดงออก และมักจะมีไอเดียเด็ด ๆ ในการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ออกมาอยู่เสมอ
เห็นได้จากการนำเสนอตัวเองในรอบออดิชั่นหลาย ๆ รายการ เช่น CHO Music ทางช่อง ย๊าค ทีวี หรือแม้แต่ในรายการ เดอะ คอมเมเดียนไทยแลนด์ ที่เธอจะมักจะมีลูกบ้า และแสดงความแปลกแหวกแนวออกมาให้คณะกรรมการได้เห็น จนถูกตาถูกใจให้ผ่านเข้ารอบ เพราะอยากเห็นความแปลกในตัวของเธอกันมากกว่านี้
"คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่เคยสงสัย หรือถามว่าทำไมเราถึงเป็นแบบนี้ ซึ่งท่านก็เลี้ยงหนูมาแบบเด็กปกติคนหนึ่ง เน้นหลักคิดเอง ทำเอง จะไม่บอกว่าต้องทำอย่างนั้น ต้องทำอย่างนี้ แต่จะให้คิดเอง และตัดสินใจด้วยตัวเอง แม่หนูจะเป็นคนตลกค่ะ ไม่ค่อยดุ ซึ่งในชีวิตนี้ หนูเคยถูกแม่ตี 1 ครั้ง และถูกพ่อตี 1 ครั้ง เหตุผลที่ถูกตีเพราะไม่ยอมทำการบ้าน ส่วนคุณพ่อที่ตีหนูตอนนั้นก็เพราะพี่ชายหนูเอาหนูพันด้วยผ้านวมแล้วก็เตะ (หัวเราะ) จนหนูกับพี่เถียงกัน พ่อก็เลยตีเราทั้งคู่ ซึ่งหนูกับพี่ชายเราห่างกันประมาณ 3 ปี ตอนนี้พี่ชายหนูอายุ 24 ปีแล้วค่ะ" กาต่ายเล่า
ฝันของหนูคือ "ผู้ให้ความบันเทิง"
เชื่อว่าทุกคนมีความฝัน และฝันนั้นย่อมมีด้วยกันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น แพทย์ พยาบาล ครู นักบิน และอื่น ๆ เช่นเดียวกับ "กาต่าย" ที่มีความฝันเหมือนกัน ส่วนฝันนั้นจะเป็นอะไร ไปฟังคำตอบของเธอกัน
"ความฝันจริง ๆ ของหนู คือ อยากเป็นพิธีกร แบบว่าไม่มีสาระ (หัวเราะ) หรือทำโฆษณาเลียนแบบ หลัก ๆ แล้วก็คงหนีไม่พ้นงานพวกเอ็นเตอร์เทน หรือให้ความบันเทิงแก่ผู้อื่นค่ะ" เธอเผย
ถามต่อไปถึงกระแสที่ใครหลายคนมองว่า ด้วยรูปร่างเล็ก กะทัดรัด แถมแปลก และฮา จะกลายเป็นดาวตลกหญิงที่เจริญรอยตามตลกรุ่นพี่อย่าง "ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน" หรือบางคนมองว่า "เกิดมาฆ่าตุ๊กกี้" เรื่องนี้ กาต่ายกล่าวอย่างถ่อมตัวว่า ส่วนตัวไม่ได้คิดว่าตัวเองตลกขนาดนั้น
"หนูว่าพี่เขาระดับเทพแล้วค่ะ คือหนูยังคิดว่าตัวเองไม่ตลกเลยค่ะ ก็เลยคิดว่า ขอแค่หนูทำงาน และเป็นแบบนี้ของหนูไปเรื่อย ๆ หนูไม่ได้ขอดังเวอร์ ขอแค่ปกติแต่อยู่นาน ๆ ก็พอแล้วค่ะ ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องก้าวไปถึงพี่เขา ตอนนี้ก็คงตั้งหน้าตั้งตาเรียนให้จบค่ะ ถึงจะมีงานเข้ามา แต่ก็ไม่ทิ้งการเรียนแน่นอนค่ะ" กาต่ายให้มุมมอง
ผู้ชายในฝันของสาวเสียงแปลก
ถามถึงฝันที่อยากจะเป็นแล้ว ไม่ถามไม่ได้กับผู้ชายในฝันของ "กาต่าย" เพราะมีกระแสกุ๊กกิ๊กกับ "เคน C5" หนุ่มญี่ปุ่นจอมทะเล้นแห่งบ้านเดอะ คอมเมเดียน ไทยแลนด์ ซึ่งเธอมักจะเขินทุกครั้งเมื่อพูดถึงหนุ่มคนนี้ ทีมงานได้โอกาสเลยถามเธอถึงกระแสที่เกิดขึ้น โดยเธอตอบว่า
"หนูกับพี่เคน เราเล่นกันเฉย ๆ ค่ะ พอเล่นกัน สนิทกัน เพื่อนในบ้านก็แซวจนกลายเป็นเรื่องเป็นราวว่าชอบกัน ซึ่งเรื่องของเรื่องเกิดขึ้นตอนที่คุยเรื่องสเปกว่าหนูชอบผู้ชายแบบไหน ซึ่งหนูก็บอกว่า สเปกหนูก็แนว ๆ พี่เคน หลังจากนั้นก็กลายเป็นกระแสเลยค่ะ (หัวเราะ)"
ส่วนผู้ชายในฝันที่เธอคลั่งมากที่สุดในชีวิต ก็คือ นิชคุณ หรเวชกุล นักร้องหนุ่มแห่งวง 2PM
"ผู้ชายที่หนูชอบที่สุดคือพี่นิชคุณค่ะ เพราะสเปกหนูคือ ขาว ๆ สูง ๆ ตี๋ ๆ ดูเป็นสุภาพบุรุษอะไรแบบนี้ นี่คือความฝันของหนูเลยค่ะ (หัวเราะ)" กาต่ายบอกด้วยท่าทีเขินอาย ทั้งยังบอกถึงตลกรุ่นใหญ่อย่าง เป็ด เชิญยิ้ม (ธัญญา โพธิ์วิจิตร) ด้วยว่า คุณอาเป็ดคือตลกในดวงใจของเธอ
"ตลกในดวงใจที่หนูยึดเป็นแบบอย่าง ไม่พูดถึงผู้ชายคนนี้ไม่ได้เลย อาเป็ด เชิญยิ้มค่ะ เพราะอาเป็ดเก่ง มีความขยัน และความอดทนสูงมากค่ะ" เธอบอก
ไล่ความเครียดในแบบ "กาต่าย"
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในชีวิตของคนเราย่อมต้องมีช่วงเวลาที่มีเรื่องร้ายระยำตำบอนเกิดขึ้นบ้างไม่มากก็น้อย เช่นเดียวกับกาต่ายที่แม้จะเป็นคนตลก แต่บางครั้งก็มีเรื่องเครียด ๆ เข้ามารบกวนจิตใจด้วยเหมือนกัน เพียงแต่ความเครียดในสิ่งที่เธอมอง เป็นแค่เรื่องชั่วคราว และพยายามจัดการความเครียด โดยขจัดมันออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
"เวลาเครียด ๆ หรือมีเรื่องไม่สบายใจ หนูจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับการวาดรูป ซึ่งเป็นกิจกรรมโปรดที่ช่วยให้หนูผ่อนคลาย และได้ระบายความตึงเครียดออกมา นอกจากนั้นก็อาจจะมีฟังเพลงบ้าง อีกอย่างเวลาที่เรื่องเครียดผ่านเข้ามา หนูจะใช้หลักที่ว่า เดี๋ยวมันก็ผ่านไป อย่างความเครียดเกิดตอนเที่ยง หนูจะบอกกับตัวเองว่า เดี๋ยวสักพักก็เที่ยง ห้านาทีแล้ว" กาต่ายเผยวิธีจัดการความเครียดในแบบของเธอ
"ในวันนี้วันอะไรหนูไม่รู้ วันพรุ่งนี้วันอะไรหนูไม่สน แต่ที่รู้ตัวหนูนั้นไม่ใช่คน อยากจะยิงปืนกลให้ทั่วกัน"
คือประโยคแนะนำตัวในรอบคัดเลือกของเธอก่อนเข้าบ้าน เดอะ คอมเมเดียน ไทยแลนด์ ที่เรียกเสียงฮาจากคณะกรรมการ และคนดูได้มากทีเดียว จากวันนั้นถึงวันนี้ ความแปลกแบบเป็นตัวเอง แถมมีจังหวะคอมเมดี้ที่เรียกเสียงฮาได้เกือบทุกครั้ง สมแล้วกับแชมป์เดอะ คอมเมเดียน ไทยแลนด์คนแรกของเมืองไทย ดาวตลกรุ่นใหม่ที่จะทำให้คนไทยหัวเราะ และอารมณ์ดีไปทั้งประเทศ
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ Lite
ของคุณภาพประกอบจากครอบครัวแฟนคลับของ "กาต่าย"
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ-สกุล : รพีพร พ่วงเพ็ชร ชื่อเล่น : กาต่าย (กระต่าย)
วันเดือนปีเกิด : 25 เมษายน พ.ศ. 2534 อายุ : 21 ปี
น้ำหนัก-ส่วนสูง : 38 กก. / 151ซม.
การศึกษา : กำลังขึ้นปีที่ 3 คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) เอกภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
อาหารโปรด : ปลาหมึก
ความสามารถพิเศษ : วาดภาพ เล่นตลก