“มัลลิกา” จวก “กิตติรัตน์” โกหกหน้าด้านๆ อ้างไม่มีโรงงานปิดจากผลกระทบโครงการค่าจ้าง 300 บาท เชื่อเมษาฯ นี้ตกงาน 40% ระบุหลายจังหวัดปัญหาอื้อ จี้รัฐบาลดูแลค่าชดเชย เจ้าของธุรกิจเอาเปรียบลูกจ้าง เชื่อการเมืองสั่ง “เหนือเมฆ 2” ลาจอ เหตุชื่อนางเอกพ้องชื่อผู้มีอุปการคุณรัฐบาล เนื้อหาแทงใจดำ
น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประชุมเพื่อหามาตรการรองรับผลกระทบจากนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ของรัฐบาลในวันนี้ (4 ม.ค.) ว่า ขณะนี้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง และรัฐมนตรีที่เกี่ยงข้องได้ประชุมหารือมาตรการรองรับในเรื่องดังกล่าว แต่การประชุมครั้งนี้นายกิตติรัตน์ยังคงตั้งธงการแก้ปัญหาในประเด็นที่ผิด เนื่องจากออกมาปฏิเสธเกี่ยวกับการปิดของโรงงานที่ได้รับผลกระทบต่อการขึ้นค่าแรงของรัฐบาลก่อนที่จะนั่งเป็นประธานในการประชุม ซึ่งในความจริงนั้นมีข้อมูลจากฝ่ายต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาคออกมาแล้ว ตนจึงอยากจะขอเตือนไปยังนายกิตติรัตน์ว่า หากใช้บรรทัดฐานข้อมูลที่ผิดก็จะทำให้การประชุมไม่เกิดประโยชน์อะไรในการแก้ไขปัญหา ไม่ต่างอะไรจากการแก้ผ้าเอาหน้ารอด เพียงแค่ตั้งวอร์รูมประชุมให้เห็นว่ามีแอคชั่นแต่ไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาอะไรได้เลย
“หากวันนี้คุณกิตติรัตน์ยังท่องประโยคที่ว่าโรงงานไม่มีปิด แรงงานไม่มีตกงาน ยังท่องสองสามประโยคนี้ ซึ่งเป็นการโกหกซ้ำแล้วซ้ำอีกจากโกหกสีขาวก่อนหน้านี้ ต้นปี 2556 นายกิตติรัตน์ก็ยังทำเรื่องโกหกซ้ำเข้าไปอีก อันนี้ไม่ใช่แค่โกหกสีขาวแต่คือโกหกหน้าด้าน”
น.ส.มัลลิกากล่าวยืนยันว่า ล่าสุดโรงงานที่ปิดกิจการ คือ ที่จังหวัดนครราชสีมามีโรงงานปิดตัวไปในช่วงเดือนธันวาคม 55 ประมาณ 6 โรงงาน มีแรงงานถูกเลิกจ้างแล้วโรงงานละประมาณ 200-300 คน นอกจากนี้ยังมีโรงงานขนาดกลางที่กำลังจะทยอยปิดตัวตามอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ จังหวัดนครราชสีมามีอัตราลูกจ้างอยู่ 2 แสนโดยประมาณ มีผู้ประกอบการ 8 พันแห่งโดยประมาณ ซึ่งถือเป็นจังหวัดใหญ่ที่กำลังถูกจับตามอง ทั้งนี้กลุ่มแรงงานที่น่าเป็นห่วงและมีอัตราเสี่ยงที่จะถูกเลิกจ้างมากที่สุดในขณะนี้คือ กลุ่มที่ใช้ฝีมือแรงงาน และลูกจากในธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก
นอกจากนี้ยังมีจังหวัดอื่นๆ ที่กำลังประสบปัญหาเช่นเดียวกันอีก เช่น จังหวัดลำปาง จังหวัดลำพูน มีการลดสวัสดิการพนักงาน จังหวัดบุรีรัมย์ทยอยปิดตัวบางส่วน จังหวัดสระแก้ว ทยอยปิดตัวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคมที่ผ่านมาแล้ว และจังหวัดนครปฐม ขณะนี้ก็มีแรงงานถูกเลิกจ้างอยู่ระหว่างการเรียกร้องค่าชดเชย เนื่องจากบางแห่งได้รับค่าชดเชย แต่บางแห่งนั้นไม่ได้รับ
“ขอยืนยันว่าไม่ต้องรอถึง 6 เดือน แต่สิ่งที่อันตรายแล้วคือมีจำนวนแรงงานประมาณ 30-40 เปอร์เซ็นต์ที่อาจจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก และไม่มีงานรองรับตั้งแต่เดือนเมษายนนี้ด้วยซ้ำไป ดังนั้น ข้อมูลเหล่านี้เราจึงอยากให้ทางนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลได้นำไปใช้อย่างใกล้ชิด และสิ่งที่รัฐบาลควรจะต้องพิจารณาเป็นอันดับแรก คือ ค่าชดเชย ซึ่งต้องระวังไม่ให้เจ้าของโรงงานเอาเปรียบแรงงานได้ ขณะเดียวกัน รัฐบาลควรจะต้องตรวจสอบข้อมูลจริงด้วยว่าโรงงานต่างๆ ที่ปิดตัวลงนั้นได้มีการทยอยไปเปิดโรงงานใหม่ที่ประเทศเพื่อนบ้านจำนวนมาก ทั้งนี้ หากมีการพิจารณาข้อมูลโดยภาพรวมทั้งหมดก็จะทำให้แก้ไขปัญหาได้ทั้งหมดอย่างถูกทางและทันท่วงที”
น.ส.มัลลิกายังกล่าวถึงละคร “เหนือเมฆ 2” ตอน “มือปราบจอมขมังเวทย์” ทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 3 จะลาจอทั้งที่เพิ่งออกอากาศได้แค่เดือนเดียว เนื่องจากเนื้อหาส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการเมืองทุจริตว่า ขอเรียกร้องไปยังรัฐมนตรีประจำสำนักนายกให้หยุดแทรกแซงสื่อ ซึ่งตนคิดว่าเป็นนิสัยเดิมจากระบอบทักษิณ และต่อเนื่องมายังรัฐบาลนอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ส่วนสาเหตุที่ต้องตัดบทละครดังกล่าวให้สั้นลงจนกระทั่งจะต้องลาจอในเร็ววันนี้ อาจเป็นไปได้ว่าเกิดจากการระแวงของนักการเมือง และเนื้อหากระตุ้นต่อม เพราะมีคติเตือนใจการใช้อำนาจ อีกทั้งตัวละครนำฝ่ายหญิงมีชื่อว่า “แพรไพลิน” ซึ่งชื่อคล้ายกับผู้อุปการคุณรัฐบาล และละครดังกล่าวยังมีเนื้อหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนการให้สัมปทานโทรคมนาคม
น.ส.มัลลิกากล่าวว่า การกระทำของรัฐบาลเช่นนี้จะทำให้ประชาชนรู้ว่ารัฐบาลทำจริง และเป็นเรื่องไร้สาระที่จะแทรกแซงความบันเทิงของประชาชน อย่างไรก็ดี ต่อไปก็คิดว่ารัฐบาลคงแทรกแซงนักแสดงตลก และคณะตลกในคาเฟ่ด้วย ไม่เว้นแม้แต่ “ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน” และ “โน้ส อุดม”
