อีกไม่กี่วันจะเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ ช่วงเวลาแห่งความชุ่มฉ่ำของคนไทยทั้งประเทศ เชื่อว่านักตะลอนเล่นน้ำส่วนหนึ่งคงมีสถานที่สาดน้ำกันอยู่ในใจแล้ว รวมไปถึงอุปกรณ์เล่นน้ำอย่างปืนฉีดน้ำ ขัน และถังน้ำ ซึ่งหลายคนคงเตรียมพร้อมรอเล่นกันแล้ว
แน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่มาพร้อมกับเทศกาลนี้ ก็คือ คลื่นมหาชนที่หลั่งไหลเข้ามาเล่นน้ำจำนวนมาก โดยเฉพาะในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ เรียกได้ว่า อัดแน่น และเดินไหลกันทุกปี ไม่แปลกที่แหล่งรวมพลคนแปลกหน้า มักจะมีปัญหาจนลุกลามกลายไปเป็นสงกรานต์อันธพาลที่ "เสี่ยง-เสียว-ดุ" มากขึ้นทุกปี
ย้อนรอย สงกรานต์นองเลือด
ดึกวันที่ 14 เม.ย. 2555 หากใครจำกันได้ กับข่าวพาดหัวใหญ่กรณียิงถล่มกันกลางกรุงอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย โดยแก๊งเด็กแว้นกว่า 30 คัน ซิ่งรถไปเล่นน้ำที่สีลมได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับวัยรุ่นอีกกลุ่มหนึ่ง จึงมีการขับรถไล่ล่ายิงถล่มกัน กระทั่งมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีก 4 ราย หรือในปี 2554 เองก็มีกรณีเดียวกัน ส่งผลให้กลุ่มคนที่เบียดเสียดกันเล่นน้ำสงกรานต์ต่างวิ่งหลบหนีจนล้มทับกัน วิ่งเหยียบกัน บางรายวิ่งเหยียบเศษขวดแก้ว ทำให้ได้รับบาดเจ็บ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลหลายคน
ไม่เพียงแต่สถานที่ดังกล่าว ยังมีอีกหลายพื้นที่เกิดคดีในลักษณะเดียวกัน เห็นได้จากสงกรานต์ในต่างจังหวัดก็มีการยิงถล่มกันเช่นกัน เช่น งานสงกรานต์ที่อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ มีกลุ่มวัยรุ่นนับร้อยยกพวกตีกันและมีการยิงถล่มจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก อีกทั้งมีรถของชาวบ้านที่จอดอยู่บริเวณนั้นได้รับความเสียหายไป 5 คัน
ปัญหาความรุนแรงในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ต.ท.สินเลิศ สุขุม ผู้กำกับการกองกำกับการอารักขา 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (ผกก.อารักขา 1 บก.อคฝ.) ให้ความเห็นผ่านทีมข่าว ASTVผู้จัดการ Live ว่า ส่วนใหญ่เกิดจากกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มเล็กที่สร้างปัญหา และมักจะนัดกันมาแก้แค้นคู่อริในช่วงเทศกาลดังกล่าว ซึ่งกลายเป็นค่านิยมไปแล้ว
"พื้นที่ที่มีคนเล่นสงกรานต์กันเยอะๆ แน่นอนว่ามีความเสี่ยงอยู่แล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะเกิดเรื่องทุกที่ ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของคนมากกว่า ดังนั้น เล่นได้ แต่เล่นแบบมีมารยาท รู้จักเล่น รู้จักสาด เพราะปัญหาส่วนหนึ่งมาจากการเล่นลวนลามผู้หญิง สาดน้ำกันรุนแรง เข้าหน้า เข้าตา ก็อาจเกิดเรื่องกันได้" ผกก.อารักขา 1 บก.อคฝ.เผย
ส่วนกรณีมีเรื่องทะเลาะวิวาท หรือเกิดเหตุตีกันนั้น พ.ต.ท.สินเลิศ ฝากว่า สิ่งหนึ่งที่ต้องมีคือ "สติ" เพราะไม่เช่นนั้นอาจเหยียบกันได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตได้
สงกรานต์อันธพาล น่ากลัวจนเริ่มเบื่อ
ต้องยอมรับว่า เมื่อมีเหตุการณ์ร้าย ๆ เกิดขึ้น ประชาชนก็เริ่มกลัว และเบื่อหน่ายกับเทศกาลนี้มากขึ้น แม้จะมีมาตรการคุมเข้ม แต่ประชาชนกลับรู้สึกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังทำตัวเป็น "จ่าเฉย" และไม่จริงจังในการดูแลรักษาความปลอดภัยเท่าที่ควร
เป็นเหตุให้ประชาชนจำนวนไม่น้อยกังวลต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพราะมีข้อมูลปีที่ผ่านมาจาก เสือชนะ สุดเจริญ ผอ.เขตบางรัก พบว่าช่วงเทศกาลสงกรานต์มีสถิติการเกิดคดีสูงถึง 100 คดี นับเป็นเรื่องที่ต้องระวัง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีคนเล่นสงกรานต์จำนวนมาก
แนน นักตะลอนสาดน้ำตัวยง บอกว่า เล่นมาทุกปี แต่ละปีเห็นความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ คาดว่าปีนี้คงไม่เล่น เพราะส่วนตัวกังวลต่อความรุนแรง และเหตุทะเลาะวิวาทที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากบางพื้นที่ไม่ได้ตรวจสอบเรื่องอาวุธ อีกทั้งยังเบื่อคนที่ไม่มีมารยาทในการเล่นสงกรานต์ ทั้งการเล่นน้ำแบบลวนลาม โชว์อนาจาร ดังนั้นเล่นแถวบ้านดีกว่า ไม่อยากเอาชีวิตไปเสี่ยงตายกับคนจำนวนมาก
เช่นเดียวกับ เต๋า พนักงานออฟฟิศวัย 28 ปีบอกสั้น ๆ ด้วยความเบื่อหน่ายว่า ไม่เล่นสงกรานต์มานานแล้ว เพราะไม่ใช่เทศกาลที่น่ารักเหมือนแต่ก่อน แต่เป็นเทศกาลที่น่ากลัว และน่าเบื่อที่สุดในโลก โดยเฉพาะการสาดน้ำแบบไม่รู้กาลเทศะ ยิ่งมีข่าวยิงกัน ตีกัน ยิ่งคิดหนักมากขึ้น
หรืออีกหนึ่งความเห็นในโลกออนไลน์บอกว่า "เทศกาลน่ารัก ๆ กลายเป็นอะไรไปไม่รู้ สมัยก่อนอยากเล่นมาก ตั้งตารอคอยให้สงกรานต์มาถึง พอมาตอนนี้แทบจะใส่หมวกกันน็อคกับกางเกงในล็อคกุญแจไปเล่นอยู่แล้ว (ขอโทษหากคำพูดแรงไป)"
นี่เป็นเพียงความเห็นส่วนหนึ่งของนักเล่นน้ำที่แสดงถึงความเบื่อหน่ายต่อเทศกาลวันสงกรานต์ แต่ก็เป็นเรื่องที่หลีกหนีไม่ได้สำหรับบางคนที่คิดอยากจะเล่นน้ำ เพราะถือเป็นเทศกาลที่มีมายาวนานและเป็นความสนุกสนานรื่นเริงที่ทุกคนยอมรับ แต่ก็เป็นเสียงเล็ก ๆ ที่ช่วยเตือนสตินักสาดน้ำได้เป็นอย่างดีว่าพฤติกรรมที่ไร้มารยาท ทำให้คนเริ่มกลัว และไม่สนุกกับเทศกาลดังกล่าวแล้ว
นักท่องเที่ยว หวั่นสงกรานต์ดุ!
ไม่เพียงแต่คนไทยเท่านั้นที่กังวลต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ นักท่องเที่ยวต่างชาติก็อกสั่นขวัญแขวนไม่น้อย แม้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเกือบร้อยละ 70 ตั้งใจจะเข้าร่วมเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ โดยอยากเล่นน้ำที่เชียงใหม่มากที่สุด แต่ก็ยังวอนรัฐบาลให้ดูแลเรื่องความปลอดภัยด้วย เพราะเป็นเรื่องที่มีความกังวลมากที่สุด
เห็นได้จากข้อมูลจากศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) ทำการสำรวจความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเรื่อง "นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกับเทศกาลสงกรานต์ในประเทศไทย ปี 2556" โดยเก็บข้อมูลเมื่อวันที่ 2 - 4 เมษายน 2556 ที่ผ่านมา พบว่า นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติส่วนใหญ่ร้อยละ 69.9 ตั้งใจว่าจะเข้าร่วม โดยสถานที่ที่ตั้งใจว่าจะไปร่วมงานเทศกาลสงกรานต์มากที่สุดคือ เชียงใหม่ (ร้อยละ 14.9) รองลงมาคือ ภูเก็ต (ร้อยละ 10.3) และถนนข้าวสาร (ร้อยละ 8.4) ขณะที่ร้อยละ 30.1 คิดว่าจะไม่เข้าร่วม
ทั้งนี้ เมื่อถามผู้ที่ตั้งใจจะเข้าร่วมเทศกาลสงกรานต์ว่ามีความกังวลใจเรื่องใดมากที่สุด โดยในการเข้าร่วมเทศกาลสงกรานต์ร้อยละ 32.5 ระบุว่ากังวลเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รองลงมา ร้อยละ 29.3 ระบุว่ากังวลปัญหาจราจรติดขัด และร้อยละ 15.0 ระบุว่ากังวลเรื่องการเล่นสงกรานต์ด้วยความรุนแรง
สาดที่ไหน เสี่ยง เสียว ดุ!
ลึกลงไปถึงพื้นที่เสี่ยง เสียว และดุในการเล่นน้ำสงกรานต์ โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร ทีมข่าว Live ได้สอบถามหนุ่มสาวนักตะลอนเล่นน้ำจำนวนหนึ่งพบว่า ลีลม เป็นพื้นที่เล่นน้ำที่เสี่ยง เสียว และดุที่สุด เหตุผลที่บอกเช่นนั้น มาจากข่าวความรุนแรงที่เกิดขึ้น ส่วนเรื่องของความเสียว "ศักดิ์" ผู้ที่เคยผ่านไปเล่นน้ำสงกรานต์ในย่านดังกล่าวบอกว่า เขาและแก๊งเพื่อนผู้ชายเคยถูกกลุ่มเกย์ลูบหน้า ลูบหลัง ไม่แปลกที่การเข้ามาเล่นน้ำสงกรานต์ในย่านนี้จะถูกเรียกขานต่อ ๆ กันมาว่า "ลุยดงเกย์"
รองลงมาคือ ย่านอาร์ซีเอ เรียกว่าเป็นย่านที่สาว ๆ มักจะถูกนัวเนียอยู่บ่อย ๆ เนื่องจากเป็นแหล่งเที่ยวกลางคืน และงานที่จัดขึ้นจึงเน้นเอาใจนักเที่ยวกลางคืนเป็นหลัก
ตามมาด้วย ถ.ข้าวสาร แม้จะติดชาร์ตสถานที่เล่นน้ำในวันสงกรานต์มาตลอด โดยเฉพาะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกและชาวต่างชาติมักจะเดินทางมาร่วมประเพณีนี้กันอย่างคับคั่ง แต่ก็ยังเสี่ยง และดุไม่ใช่เล่น เห็นได้จากเหตุการณ์ปาขวดเหล้าใส่กัน เนื่องมาจากเมา และอาละวาดของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ซึ่งมีให้เห็นเกือบทุกปี
ซัด "ถ.ข้าวสาร" นอกคอก จัดหนักน้ำเมา!
ลึกลงไปถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ออกมาเปิดเผยว่า เป็นเป็นพื้นที่ที่ไม่เข้าร่วมกิจกรรม "สงกรานต์ปลอดเหล้า ปลอดภัย" ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียใจมาก เนื่องจากเป็นถนนตระกูลข้าวถนนเดียว ที่ไม่ร่วมกิจกรรม
"อยากจะฝากไปยังผู้ว่าฯ กทม.ว่า ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่ถนนข้าวสาร และถนนหลายสายใน กทม.ที่มีคนเล่นน้ำกันมาก จะเป็นพื้นที่ปลอดเหล้า ปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์" ผู้อำนวยการ สคล.ฝาก เพราะไม่อยากเห็นปัญหาต่างๆ ที่มีต้นเหตุมาจากแอลกอฮอล์ซ้ำแล้วซ้ำอีก
สงกรานต์ปีนี้ก็ได้แต่หวังว่าจะไม่มีการสาดกระสุนปืนแทนการสาดน้ำ หรือมีเรื่องฉาวให้ได้ขายหน้ากันทั้งประเทศอีก
แม้โฆษกตำรวจ จะออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อฉบับต่าง ๆ ถึงการปล่อยแถวรับมือสงกรานต์ว่า สำนักงานตำรวจจะเน้นในเรื่องความปลอดภัยในการเล่นน้ำสงกรานต์ และยังให้สายตรวจกวดขันย่านที่มีการเล่นน้ำสงกรานต์กันคับคั่ง อาทิ สีลม ถนนข้าวสาร และสยามสแควร์ โดยไม่ให้มีการเต้นโชว์โป๊ เล่นแป้ง ลวนลาม หรือเปิดเครื่องขยายเสียงที่ก่อความรำคาญ ตลอดจนห้ามขายสุราโดยไม่มีใบอนุญาต ซึ่งคงต้องดูกันต่อไปว่าจะจริงจังอย่างที่ออกมาพูดหรือไม่
ยิ่งปีนี้ ไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะนางสงกรานต์นามว่า "มโหธรเทวี" โหรชี้ชัดว่า โคตรดุ ดังนั้น อย่าประมาท ควรเล่นน้ำและพูดจากันด้วย "สติ" เป็นดีที่สุด
สวัสดีปีใหม่ไทยครับ
ข่าวโดย ทีมข่าว ASTV ผู้จัดการ Live