สตช.จัดเซฟตี้โซนดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวทั่วประเทศ กระตุ้นยอดชาวต่างชาติท่องเที่ยวไทย ด้าน บช.น.นำร่องถนนข้าวสารเป็นพื้นที่เซฟตี้โซนแห่งแรกใน กทม.
วันนี้ (18 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เมื่อเวลา 14.30 น. พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา (สบ 10) พร้อมด้วย พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี รอง ผบช.ก. รอง ผบช.1-9 และ ศชต.ที่รับผิดชอบงานด้านการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ตัวแทนจากสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ, สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ร่วมประชุมเพื่อซักซ้อมความเข้าใจและกำหนดแนวทางในการปฏิบติตามแผนรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวในพื้นที่ปลอดภัย (safty zone) เพื่อป้องกันอาชญากรรมที่จะเกิดขึ้นในแหล่งท่องเที่ยวเป้าหมาย 56 จังหวัด 353 สถานีตำรวจ
พล.ต.อ.วุฒิกล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลจะต้องการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวจำนวน 2 ล้านล้านบาท และเตรียมการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน การเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวจึงเป็นมาตรการสำคัญ เบื้องต้นพบปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้น 4 ประเด็น คือ ปัญหาด้านอาชญากรรมที่เกี่ยวกับชีวิต ร่างกายและทรัพย์สิน, ปัญหาด้านการหลอกลวงเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว, ปัญหาอุบัติภัยต่างๆ เมื่อท่องเที่ยวทางทะเลและเข้าป่า และปัญหาความไร้ระเบียบความเสื่อมโทรมของแหล่งท่องเที่ยว
พล.ต.อ.วุฒิกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาหากพูดถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยท่องเที่ยวจะเป็นภาระของตำรวจพื้นที่และตำรวจท่องเที่ยว แต่ขณะนี้จะเป็นเรื่องที่ทุกหน่วยมาร่วมประชุมเพ่อวางแผนร่วมกัน โดยให้ทุก บช.มอบหมายให้รอง ผบช.1 ท่านเป็นตัวแทนหลัก และบก.ให้มอบหมายรอง ผบก.เป็นตัวหลักในการดูแล ทั้งนี้ จังหวัดท่องเที่ยว 56 จังหวัด 353 สถานีตำรวจ ต้องกำหนดพื้นที่ปลอดภัยหรือ safty zone มีการติดกล้องวงจรปิดเพิ่มเพื่อลิงก์กองบัญชาการในพื้นที่นั้นๆ หากเกิดปัญหาขึ้นกับนักท่องเที่ยวจะมีการพิจารณาข้อบกพร่องของตำรวจผู้รับผิดชอบด้วย ทั้งนี้ในอนาคตจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวด้านสินค้าและบริการ
ด้าน พล.ต.ต.มานิตย์ วงศ์สมบูรณ์ รอง ผบช.น.กล่าวว่า ในพื้นที่ บช.น.เตรียมเปิดเซฟตี้โซนบริเวณถ.ข้าวสารในวันพรุ่งนี้ (19 ต.ค.) เวลา 20.00 น. โดยถือเป็นแห่งแรกในพื้นที่กรุงเทพ เบื้องต้นได้ดำเนินการเชื่อมโยงกล้องวงจรปิดเข้ากับ บช.น.เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังมีการประสานความร่วมมือกับห้างร้านเอกชนด้วย
วันนี้ (18 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เมื่อเวลา 14.30 น. พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา (สบ 10) พร้อมด้วย พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี รอง ผบช.ก. รอง ผบช.1-9 และ ศชต.ที่รับผิดชอบงานด้านการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ตัวแทนจากสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ, สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ร่วมประชุมเพื่อซักซ้อมความเข้าใจและกำหนดแนวทางในการปฏิบติตามแผนรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวในพื้นที่ปลอดภัย (safty zone) เพื่อป้องกันอาชญากรรมที่จะเกิดขึ้นในแหล่งท่องเที่ยวเป้าหมาย 56 จังหวัด 353 สถานีตำรวจ
พล.ต.อ.วุฒิกล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลจะต้องการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวจำนวน 2 ล้านล้านบาท และเตรียมการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน การเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวจึงเป็นมาตรการสำคัญ เบื้องต้นพบปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้น 4 ประเด็น คือ ปัญหาด้านอาชญากรรมที่เกี่ยวกับชีวิต ร่างกายและทรัพย์สิน, ปัญหาด้านการหลอกลวงเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว, ปัญหาอุบัติภัยต่างๆ เมื่อท่องเที่ยวทางทะเลและเข้าป่า และปัญหาความไร้ระเบียบความเสื่อมโทรมของแหล่งท่องเที่ยว
พล.ต.อ.วุฒิกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาหากพูดถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยท่องเที่ยวจะเป็นภาระของตำรวจพื้นที่และตำรวจท่องเที่ยว แต่ขณะนี้จะเป็นเรื่องที่ทุกหน่วยมาร่วมประชุมเพ่อวางแผนร่วมกัน โดยให้ทุก บช.มอบหมายให้รอง ผบช.1 ท่านเป็นตัวแทนหลัก และบก.ให้มอบหมายรอง ผบก.เป็นตัวหลักในการดูแล ทั้งนี้ จังหวัดท่องเที่ยว 56 จังหวัด 353 สถานีตำรวจ ต้องกำหนดพื้นที่ปลอดภัยหรือ safty zone มีการติดกล้องวงจรปิดเพิ่มเพื่อลิงก์กองบัญชาการในพื้นที่นั้นๆ หากเกิดปัญหาขึ้นกับนักท่องเที่ยวจะมีการพิจารณาข้อบกพร่องของตำรวจผู้รับผิดชอบด้วย ทั้งนี้ในอนาคตจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวด้านสินค้าและบริการ
ด้าน พล.ต.ต.มานิตย์ วงศ์สมบูรณ์ รอง ผบช.น.กล่าวว่า ในพื้นที่ บช.น.เตรียมเปิดเซฟตี้โซนบริเวณถ.ข้าวสารในวันพรุ่งนี้ (19 ต.ค.) เวลา 20.00 น. โดยถือเป็นแห่งแรกในพื้นที่กรุงเทพ เบื้องต้นได้ดำเนินการเชื่อมโยงกล้องวงจรปิดเข้ากับ บช.น.เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังมีการประสานความร่วมมือกับห้างร้านเอกชนด้วย
