จากที่องค์การเภสัชกรรม (อภ.) เตรียมวางจำหน่ายยาฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศ โดยมีจุดประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาการใช้ยาปลอมและปัญหาการเข้าถึงยาประเภทนี้ในสังคมไทย
ภายใต้การกำหนดนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำหนดเริ่มจำหน่ายวันที่ 1 ตุลาคมที่จะถึงนี้ ในราคาเพียงเม็ดละ 25 บาทเท่านั้น!
จากราคาเฉลี่ยที่สูงลิ้วของยาฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศทั่วไป ที่บางยี่ห้อราคาสูงถึงเม็ดละ 400 บาท นี่คงไม่ต่างจากภาพฝันของผู้ที่กำลังประสบปัญหานี้อยู่ ในสังคมที่ปิดปากปิดมุ้งพูดเรื่องเพศ ปัญหานี้อาจเป็นปัญหาหนักหนาเกินกว่าจะเป็นที่รับรู้ในวงกว้าง
อย่างไรก็ตาม ข้อสงสัยสำคัญที่เกิดขึ้นคือที่การเข้าถึงยาที่จำเป็นสำหรับช่วยชีวิตที่ราคาถูกในสังคมไทยก็ยังเป็นปัญหาอยู่ เหตุใดองค์การเภสัชจึงไม่ผลิตยาที่จำเป็นเร่งด่วนก่อน!?
สารพันปัญหาเซ็กส์เสื่อม
ปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศในสังคมไทยที่ถูกปิดตายในการพูดคุยเรื่องเพศมาช้านานนั้น อาจจะหนักหนากว่าที่มีการรับรู้ แม้ว่าปัญหานี้จะเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับทุกคน เป็นไปตามช่วงวัยที่มากขึ้น ตามคำบอกเล่าของผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศ ดร. โอ จากแพทย์คลินิกครอบครัว เล่าถึงปัจจัยของการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศว่า มาจาก 3 ปัจจัยหลักคือ
1.ปัญหาเส้นเลือด หากมีไขมันอุดตันเส้นเลือดจะทำให้การสูบฉีดเลือดไม่ดี นำมาซึ่งการไม่แข็งตัวของอวัยวะเพศชาย
2.ความเครียด ซึ่งมีตัวแปรมาจากสมองและสภาวะจิตใจซึ่งส่งผลต่อการมีเพศสัมพันธ์เช่นกัน
3.ฮอร์โมน เพราะการมีอารมณ์ทางเพศส่วนหนึ่งเกิดจากฮอร์โมน หากมีปัญหาที่ส่วนนี้ ก็จะมีปัญหาต่อการมีเพศสัมพันธ์ได้
ทั้งนี้ทั้งนั้นปัญหาทั้งหมดก็จะเกิดขึ้นสัมพันธ์กับอายุที่มากขึ้นด้วย ตัวอย่างเช่น อายุ 60 ก็มีสิทธิ์เกิดอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ 60 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นในสังคมไทย ผู้ป่วยจึงมีมากขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้นด้วย
“การรักษาก็จะเป็นไปตามปัจจัยที่ทำให้เกิดการเสื่อมสมรรถภาพ ดังนั้นจึงควรมาปรึกษากับแพทย์ก่อนซื้อยารับประทานเอง”
การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศในผู้หญิงนั้น ปกติแล้วจะเกิดกับผู้หญิงวัยทอง ทว่าอีกสาเหตุหนึ่งที่น่าตกใจ ดร.โอเผยว่ากว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงที่เสื่อมสมรรถภาพทางเพศก่อนวัยนั้น มีต้นเหตุมาจากผู้ชาย!
“ฟันธงได้เลยครับ เพราะผู้ชายมีปัญหา อาจมีอาการหลั่งเร็ว ซึ่งจะทำให้ผู้หญิงเบื่อหน่ายการมีเพศสัมพันธ์ ผู้ชายอาจจะมีความสุข แต่ผู้หญิงไม่มีความสุขด้วย พอเป็นบ่อยๆ ผู้หญิงก็จะเกิดอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ สามีไม่สามารถให้ความสุขทางเพศกับภรรยาได้ นำมาซึ่งปัญหาภายในครอบครัวอย่างหนึ่ง”
กับการใช้ยานั้น โดยมากแล้วเป็นกระตุ้นก่อนมีเพศสัมพันธ์ซึ่งต้องควบคุมกับการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ยาที่ราคาถูกจึงเป็นทางออกที่เขาเห็นด้วยและสนับสนุน เพื่อให้กลุ่มคนที่มีฐานะยากจนได้เข้าถึงทางออกในส่วนนี้ เพราะปัญหานี้เกิดขึ้นได้กับทุกคนที่อายุมากขึ้น
“ยิ่งอายุมากขึ้น การเสื่อมสมรรถภาพก็ยิ่งเกิดมากขึ้น ข้อแนะนำคือการกินอาหารควรหลีกเลี้ยงอาหารจำพวกไขมัน น้ำตาล ต้องดูแลคุณภาพ รูปร่างต้องไม่อ้วน เพราะไขมันในเส้นเลือด ส่งผลโดยตรงต่อสมรรถภาพทางเพศซึ่งจะช่วยชะลอสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ สมมติ อายุ 60 คน 60 เปอร์เซ็นต์จะมีปัญหา คนที่ดูแลตัวเองก็อาจจะอยู่ใน กลุ่ม 40 เปอร์เซ็นต์ที่ไม่มีปัญหา”
ในด้านของเทคโนโลยีการรักษานั้น ดร.โอเผยว่ามีวิทยาการที่พัฒนาไปไกลขึ้น มีการพัฒนาคลื่นช็อกเวฟที่ช่วยขยายเส้นเลือดและกล้ามเนื้อ ทำให้สมรรถภาพทางเพศกลับมา ขณะที่การรับรู้ของสังคมก็มีทิศทางที่ดีขึ้นเช่นกัน เขามองว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา คนไทยมีแนวโน้นที่จะยอมรับและเข้าใจปัญหานี้กันมากขึ้น
“ตอนนี้คนไทยก็กล้าเดินเข้ามาขอคำปรึกษามากขึ้น สังคมก็เริ่มยอมรับในปัญหาที่มี ซึ่งมันเป็นไปตามวัย เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ ถ้าเกิดไม่ยอมรับในปัญหาที่เกิดขึ้น และปล่อยไว้ มันก็ส่งผลถึงปัญหาด้านอื่นๆที่จะตามมา การพูดเรื่องเพศในเชิงความรู้มากขึ้น จะช่วยให้สังคมเปิดใจและยอมรับกับปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ได้”
ชำแหละยา 25 บาท ได้ผลจริงหรือ !?
ปัญหาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศอาจเป็นปัญหาที่หลายคนมองข้าม แต่ นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม เผยถึงตัวเลขความต้องการยาประเภทนี้โดยประมาณแล้วมีสูงถึง 1 ล้านคน ซึ่งยาชนิดนี้มียาต้นแบบมาจากยาฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศชื่อดังยี้ห่อหนึ่ง ดังนั้นจึงสามารถไว้ใจในด้านของคุณภาพได้ โดยที่ผ่านมา องค์การเภสัชกรรมก็มีการดำเนินการผลิตยาราคาถูกเพื่อใช้ในประเทศหลายอย่างแล้ว
“จะบอกชื่อยี้ห้อไปก็ไม่ดี แต่ทางเราก็จะมีการแจ้งเข้ามาโดยแพทย์อยู่เสมอว่ามียาตัวไหนที่ขาด หรือราคาแพงในประเทศ เราควรทำการวิจัยและผลิตยาตัวไหน ที่ผ่านมาก็มีหลายรายการได้รับการผลิตไปแล้ว”
โดยจุดเริ่มต้นของการผลิตยาฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศนั้น ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรมเผยว่า มาจากการที่ยาประเภทนี้ในประเทศไทยมีราคาค่อนข้างสูง ทำให้มีการนำเข้ายาที่ยังไม่ได้จดทะเบียน และยาปลอมมาก จึงนำมาซึ่งการหาทางออกคือการผลิตหาใช้เองภายในประเทศที่มีราคาถูก และดีเทียบเท่ากับยาราคาแพงที่ต้องนำเข้า
ทว่าปัญหาหนึ่งที่แฝงมากับการผลิตยาครั้งนี้คือปัญหาระบบยาภายในประเทศ
หากมองดูตัวเลข โครงสร้างงบประมาณด้านสุขภาพของรัฐนั้นแบ่งให้กับข้าราชการมากกว่าประชาชนทั่วไป โดยในปี 2551 ข้าราชการ 5 ล้านคน ได้รับสวัสดิการด้านสุขภาพเป็นเงิน 70,000 ล้านบาท ขณะที่ระบบประกันสุขภาพหรือบัตรทองที่ดูแลคนกว่า 47 ล้านคนมีงบประมาณเพียง 98,700 ล้านบาท ซึ่งห่างกันถึง 5 เท่า
นอกจากนี้ระบบตัวแทนจำหน่ายแม้ส่วนหนึ่งจะทำให้ยามีคุณภาพมากขึ้น จากการนำเงินไปใช้ลงทุนในการวิจัยพัฒนาคุณภาพยา แต่ส่วนหนึ่งก็ทำให้หมอเลือกใช้ยาที่ราคาสูงขึ้น ซึ่งเป็นภาระต่อคนไข้
ทางด้าน ผศ.ดร. นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสังคม ผู้จัดการแผนงานพัฒนากลไกเฝ้าระวังระบบยา คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มองว่า โดยภาพรวมสถานการณ์ยาในประเทศไทยนั้นดีขึ้น มีการเข้าถึงยาจากสวัสดิการ และประกันสังคมโดยใช้งบประมาณที่ไม่มาก กระนั้นก็ยังมีปัญหาใหญ่ๆอยู่ สองจุดด้วยกัน คือการเข้าเบิกจ่าย ใช้ยาที่ฟุ้มเฟือยเกินไป ขณะเดียวกันก็เข้าไม่ถึงยาจำนวนหนึ่ง และการใช้ยาในประเทศยังไม่สามารถพึ่งพาตัวเองได้
“มันเกิดจากโฆษณาของบริษัทยา ระบบกระจายยาทำให้เกิดปัญหากับประชาชนในพื้นที่ ด้วยแรงโฆษณา การส่งเสริมการขาย การจ่ายยาของแพทย์ที่ฟุ้มเฟือนและไม่เหมาะสมจึงเกิดขึ้น”
แม้จะเป็นเรื่องดีที่องค์การเภสัชกรรมลงมาผลิตยาฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศราคาถูก แต่คำถามสำคัญคือ อะไรคือสิ่งจำเป็นเร่งด่วนกันแน่ ?
“ยาที่ช่วยเรื่องสมรรถภาพทางเพศ มันยังไม่สำคัญเท่ายาที่ใช้ช่วยชีวิตคน แค่ยาในบัญชีหลักซึ่งเป็นยาในระบบประกันสังคมที่สามารถเบิกจ่ายได้ เป็นยาที่จำเป็น ก็ยังมีผลิตในประเทศไม่ครบ ยังต้องสั่งนำเข้า องค์การเภสัชกรรมควรทุ่มเทการทำงานไปยังจุดที่จำเป็นก่อนมากกว่า”
แต่อุปสรรคใหญ่อย่างหนึ่งคือระบบการจดสิทธิบัตรในประเทศไทย ที่เธอเผยว่า การสืบค้นข้อมูลทำได้ยากมาก พร้อมทั้งพ.ร.บ.เกี่ยวกับการจดลิขสิทธิ์ก็เอื้อผลประโยชน์ให้กับบรรษัทข้ามชาติ เพราะการผลิตยาใช้เองในประเทศนั้นจำเป็นต้องรอให้ลิขสิทธิ์ยาของเดิมหมดไปก่อน แล้วในประเทศจึงจะสามารถวิจัยและพัฒนายาตัวนั้นเพื่อผลิตใช้เองในประเทศได้
“การเข้าถึงข้อมูลว่ายาตัวไหนใกล้หมดอายุแล้วเพื่อเร่งทำการวิจัยและผลิตยาที่จำเป็น ทำได้ยากมาก ต้องใช้เวลาสืบค้นที่ใช้เวลานาน มันไม่สะดวก ไม่รวดเร็ว และข้อมูลก็ยังสับสนอีกด้วย”
ความไม่ชอบมาพากลในปัญหายังมีอีก โดยผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสังคมเผยว่า มีการสร้างวาทกรรมเรื่องยาปลอมระบาดในประเทศ โดยนักวิชาการที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน อ้างถึงยาตกคุณภาพ และพยายามทำให้ความหมายของยาปลอมซึ่งนิยามคือ ยาที่คุณภาพต่ำกว่ามาตฐาน 80 เปอร์เซ็นต์ สับสนกับนิยามของยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนภายในประเทศซึ่งเป็นยาที่ได้มาตฐาน อาจมีคุณภาพดีกว่ายาในประเทศ แต่ไม่ได้จดทะเบียนภายในประเทศเท่านั้น
ต่อกรณีผลิตยาฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศนั้น แม้จะดูเป็นเรื่องดี แต่เธอก็ยังมีคำถามถึงบทบาทหน้าที่แท้จริงขององค์การเภสัชกรรมที่มีหน้าที่ในการสนับสนุนบริการด้านยา
“ถุงน้ำเกลือปัจจุบันนี้ขาดแคลนมาก มันสะท้อนให้เห็นถึงระบบการพึ่งตนเองของประเทศที่ล้มเหลว การเตรียมการเชิงระบบ การเตรียมการต่างๆไม่มี เพราะฉะนั้นก็เลยเกิดปัญหาได้ ยังมียากระจุกกระจิกอีกมากมายที่เป็นปัญหา”
…..
สุขภาพทางเพศเป็นด้านหนึ่งของชีวิต มนุษย์ทุกคนมีด้านนี้ที่อาจเป็นปัญหาได้ ทว่ากับปัจจัยในการดำรงชีวิตอย่างยารักษาโรค ที่การเข้าถึงยาที่ถูกประเภท และมีคุณภาพโดยไม่ฟุ้มเฟือยเกินราคา ยังเป็นภาพกว้างกว่าของปัญหาที่รอการแก้ไขของทั้งระบบอยู่