xs
xsm
sm
md
lg

ทุบลิโด้ เปลี่ยนสกาล่า จุฬาฯ คิดดีแล้วหรือ?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แค่สูญเสียโรงหนังแห่งประวัติศาสตร์อย่าง “สยาม” ไปกับเหตุเพลิงไหม้เมื่อ 2 ปีก่อน บรรดาคนรักหนังก็เจ็บปวดใจจะแย่แล้ว ยังต้องมานั่งลุ้น ใจตุ้มๆ ต่อมๆ กับข่าวสะเทือนความรู้สึกที่ถูกปล่อยออกมาหลายระลอกว่า “ลิโด้และสกาล่ากำลังจะถูกทุบทิ้ง” ถึงตอนนี้ คงไม่ต้องลุ้นกันให้เหนื่อยอีกต่อไป เพราะดูเหมือนว่าเสียงต่อต้านที่เคยดังสนั่นโลกออนไลน์จะไม่มีความหมายแล้ว
ล่าสุดเจ้าของพื้นที่บันเทิงสุดคลาสสิคออกมาคอนเฟิร์มเสียงดังฟังชัดว่า “ลิโด้จะต้องปิดตัวลงภายในปีนี้อย่างไม่มีเงื่อนไข!” ส่วนสกาล่า โรงหนังสแตนด์อโลนหนึ่งเดียวในกรุงเทพฯ นั้น ไม่ถูกรื้อก็จริง แต่คงไม่มีโปรแกรมดีๆ เวียนมาฉายอย่างทุกวันนี้อีกแล้ว!




นันทขว้าง สิรสุนทร ผู้คร่ำหวอดในวงการแผ่นฟิล์มได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลอัพเดตล่าสุดเมื่อไม่กี่วันมานี้ ผ่านรายการ “ชิล ชวน ชม” คลื่น 89 Chill FM ว่าโรงภาพยนตร์ลิโด้จะถูกทุบทิ้งและเนรมิตให้เป็นห้างสรรพสินค้าอีกแห่งภายในปีนี้ เพื่อให้พื้นที่กว่า 60 ไร่บริเวณนั้นกลายเป็น “แหล่งชอปปิ้งสตรีททรงสูง” ได้อย่างที่เจ้าของกรรมสิทธิ์ต้องการ

ส่วนสกาล่า โรงภาพยนตร์ในเครือ Apex อีกแห่ง ยังยื้อเวลาต่อไปได้อีกหน่อย จนกว่าจะหมดสัญญาในปีหน้า ซึ่งคาดว่าคงไม่ถูกทุบทิ้งเพราะกำลังดำเนินเรื่องขอขึ้นทะเบียนเพื่ออนุรักษ์ตัวอาคารกันอยู่ และถึงแม้จะยังอยู่ต่อไปได้ แต่คงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

อาจต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ปรับพื้นที่ให้กลายเป็นลานแสดงคอนเสิร์ตบ้าง เปิดฟลอร์ให้ลีลาศกันในวันหยุดบ้าง เปิดให้มีกิจกรรมหลายหลากเวียนกันไปเพื่อให้อยู่รอด เป็นที่พึ่งให้แก่หนังทางเลือกต่อไปได้ เพราะจะให้หวังพึ่งเม็ดเงินจากค่าตั๋วอย่างเดียวนั้น เจ้าของโรงหนัง ซึ่งเป็นเจ้าของเดียวกับร้านอาหาร “มารีน่า ฮ่องกง” หน้าปากซอยสกาล่า ยังบอกเลยว่า “ขายก๋วยเตี๋ยวยังได้กำไรมากกว่าเลย” 
 

มองดูห้างสรรพสินค้า ตึกสูงระฟ้าที่ตั้งเบียดเสียดกันอยู่ใจกลางเมืองขณะนี้ เกิดคำถามขึ้นในใจว่า จำนวนศูนย์การค้าปลีกที่มีอยู่ ยังดูดเงินจากนักชอป-นักท่องเที่ยวไม่เพียงพออีกหรือ? เหตุใดจึงต้องอ้างคำว่า “พัฒนา” เพื่อเข้ามา “ทำลาย” พื้นที่เล็กๆ ซึ่งมอบความบันเทิงราคาถูกให้แก่ผู้บริโภคโดยแทบไม่หวังผลกำไร หรือถ้าได้ ก็คงได้เพียงน้อยนิดเท่านั้นจากราคาค่าตั๋ว 100 บาททุกเรื่องทุกรอบ ซึ่งพูดได้เต็มปากเลยว่า “หาไม่ได้อีกแล้ว”
 

หาไม่ได้อีกแล้ว... โรงหนังได้มาตรฐานแต่ราคาถูกแบบนี้ หาไม่ได้อีกแล้ว...พื้นที่ที่ให้โอกาสหนังดีมีคุณภาพแต่ต้นทุนต่ำ, หนังรางวัลที่เครือใหญ่ๆ ไม่สนใจ และหนังทางเลือกอีกมากมายที่ช่วยเติมรอยหยักในสมองให้แก่ผู้ชม แต่สุดท้ายพื้นที่ดีๆ ซึ่งหลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่งในประเทศต้องปิดฉากลงแบบนี้ บอกได้คำเดียวว่า “น่าเศร้า”
 

ถ้าเป็นไปได้ เจ้าของพื้นที่อย่างสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ควรคิดให้ดีกันอีกหลายๆ รอบเกี่ยวกับโครงการมูลค่า 1,800 ล้านบาทของพวกเขา เพราะอย่างน้อยๆ “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” ก็ถือเป็นมหาวิทยาลัยอันทรงเกียรติ เป็นสถานศึกษาซึ่งผลิตบุคลากรคุณภาพ เป็นหน้าเป็นตาให้แก่สังคมไทยตลอดมา หากรู้จักปลูกฝังให้เลือดเนื้อในรั้วจามจุรีทำเพื่อประชาชน นี่อาจถึงเวลาที่คำสอนเหล่านั้นจะเวียนกลับคืนมาให้เจ้าของสถาบัน “เห็นแก่ประชาชน” บ้างแล้ว

เพราะการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ มันไม่ใช่แค่การทุบตึกแห่งหนึ่งทิ้ง ไม่ใช่แค่การรื้อถอนโรงภาพยนตร์ แต่มันคือการทุบประวัติศาสตร์ รื้อทิ้งความทรงจำ และเหยียบย่ำหนังทางเลือกไม่ให้มีที่หยัดยืนในสังคมกันอีกต่อไป ที่สำคัญยังสะท้อนให้เห็นว่า ท้ายที่สุดแล้ว เสียงของ “ประชาชน” ที่เคยออกมาต่อต้านกันอยู่ปาวๆ ยังไงๆ ก็เบากว่าเงินของ “นายทุน” วันยังค่ำ...

ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ LIVE
อิสสริยา อาชวานันทกุล






สยาม ไปแล้ว อีก 2 โรงกำลังจะตามไป
กำลังโหลดความคิดเห็น