xs
xsm
sm
md
lg

วัยรุ่นไทย ใฝ่ธรรมะจริงหรืออิงกระแส ??

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หากเป็นเมื่อก่อน วัยรุ่นกับธรรมะ อาจเป็นเรื่องที่ฟังดูแล้วเป็นไปได้ยากยิ่งกว่าจับปูใส่กระด้ง แต่มาในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ กลับกลายเป็นว่าภาพวัยรุ่นไทยไล่ไปตั้งแต่ดารา นักร้อง จนถึงปุถุชนคนธรรมดา หันมาใส่ใจทำความดี เข้าวัดเข้าวาปรากฏให้เห็นมากมาย เลยสงสัยว่าวัยรุ่นหันเข้าหาพุทธศาสนาด้วยใจศรัทธาหรือมองเป็นเพียงแค่เทรนด์ฉาบฉวยใหม่ของเด็กไทยยุคนี้หรือเปล่า ??

วัยรุ่นเปลี่ยนไป ไม่ห่างไกลวัด

จากการสำรวจของหลายโพลล์ในช่วงปีที่ผ่านมา พบว่าจำนวนวัยรุ่นที่ก้าวเข้าหาวัดสูงขึ้นมากขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ โดยเฉพาะช่วงวันพระใหญ่ ทั้ง มาฆบูชา วิสาขบูชา และอาสาฬหบูชา ที่พุทธศาสนิกชนวัยโจ๋จะแห่แหนกันเข้าวัด ทำบุญตักบาตร ฟังเทศน์ฟังธรรม วางใจที่ว้าวุ่นให้ได้สงบบ้าง

ยิ่งตอนนี้เหมือนเป็นกระแสมาแรงเลยทีเดียวสำหรับการทำบุญที่ว่ากันว่าได้บุญบารมีมาก และเข้าถึงได้ง่ายอย่าง การออกไปปฏิบัติธรรม หรือ เจริญวิปัสสนากรรมฐาน บวชพระ บวชชี เพื่อล้างชำระจิตใจขุ่นมัว ขจัดอารมณ์วุ่นวายของชีวิต

ปัจจุบันก็มีสำนักปฏิบัติธรรมให้เลือกอย่างมากมาย โดยเฉพาะตามต่างจังหวัดที่มีความสงบเงียบเหมาะกับการซึมซาบธรรมะมากกว่าเมืองหลวงที่แออัดวุ่นวายอย่างกรุงเทพมหานคร
อย่างที่โด่งดังก็เช่น สำนักปฏิบัติธรรม วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี ที่คาดว่าในการปฏิบัติธรรมแต่ละครั้ง มีผู้เข้าร่วมปฏิบัติธรรมเป็นหลักพันคนเลยทีเดียว หรืออย่างที่ใกล้เอื้อมมือจังหวัดนนทบุรี ที่วัดสังฆทาน ก็มีชาวพุทธแวะเวียนมาปฏิบัติธรรมอย่างไม่ขาดสาย

ถ้าเป็นผู้ใหญ่ มีสมาธิ สติ ก็คงไม่แปลกที่จะจัดหาเวลาไปฝึกสมาธิ ฝึกควบคุมจิตใจให้นิ่ง แต่กับวัยรุ่นช่วงหัวใจว้าวุ่นฟุ้งซ่าน ไม่แน่ใจว่าจะตบะแตก ขอกลับบ้านกลางอากาศกันหรือเปล่า
เพราะหลายคนยังไม่รู้ลึกซึ้งด้วยซ้ำว่า การปฏิบัติธรรมอย่างแท้จริงนั้นเป็นอย่างไร ปฏิบัติธรรมไปเพื่ออะไร เอะอะก็ว่าได้บุญ ได้ทำความดีเพียงอย่างเดียว

ข้อเท็จจริงอีกหนึ่งอย่างที่สังเกตได้ น่าจะเป็นเรื่องของขวัญใจวัยรุ่นหลายๆคน ที่หันหน้ามาปฏิบัติธรรมออกสื่อกันมากขึ้น เลยอดตั้งคำถามไม่ได้ว่า บรรดาวัยรุ่นที่แห่แหนไปปฏิบัติธรรมกันอย่างมากมายตอนนี้เป็นเพราะพวกเค้าแค่อยากอินเทรนด์ หรือเกาะกระแสดารากันแน่

ใฝ่ธรรมะจริง หรือ อิงกระแส ?

เมื่อจำนวนกลุ่มวัยรุ่นที่หันมาปฏิบัติธรรมมีจำนวนตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าแปลกใจ เลยอดสงสัยว่า พวกเขาเหล่านั้นเข้ามาปฏิบัติกันด้วยใจจริงหรือเปล่า โดยทีม Live ได้ลองสอบถามข้อมูลกับ ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ในส่วนของศูนย์วิปัสสนากรรมฐานยุวพุทธฯ ที่ได้เปิดหลักสูตรสำหรับเยาวชนให้ได้เข้ามาปฏิบัติธรรมในชื่อหลักสูตร “เนกขัมมบารมี” สำหรับเยาวชนอายุ 17-25 ปี

โดยพบว่าในหนึ่งหลักสูตรเยาวชนที่เข้ามาร่วมปฏิบัติธรรมนี้จะเป็นผู้หญิงมากกว่า และก็จะมีเยาวชนสนใจเข้าร่วมไม่ต่ำกว่าครั้งละ 200 คน และยังได้ไขคำถามที่เราตั้งโจทย์เอาไว้ด้วยความค้างคาใจว่า ส่วนมากวัยรุ่นที่เข้ามาปฏิบัติธรรมนั้นมีความพร้อมทั้งกาย วาจา ใจ หรือแค่มองว่าเป็นเทรนด์ทั่วไปที่ใครๆก็ทำกันในยุคนี้

“ก็มีทั้งสองกรณี คือตั้งใจอยากมาเองอันนี้จะเป็นส่วนมาก และมีเพียงส่วนน้อยที่มาเพราะเพื่อนๆชักชวน ในการปฏิบัติธรรมเราจะใช้ระยะเวลา 8 วัน 7 คืน เพื่อฝึกสมาธิฝึกจิต ซึ่งก็มีบ้างที่วัยรุ่นบางคนทนไม่ไหว อยู่ได้ไม่ครบตามที่เราตั้งไว้ ทางยุวพุทธิกฯก็จะอนุญาตให้กลับก่อน”

ส่วนประเด็นที่ว่าวัยรุ่นส่วนหนึ่งไม่ได้มาด้วยใจแต่มาตามกระแส อยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้างนั้น ความจริงก็มีปะปนอยู่ไม่น้อย เพราะที่ยุวพุทธิกสมาคมเองก็พบว่ามีวัยรุ่นที่ขอโบกมือลาก่อนเวลาที่กำหนดไว้นั้น ซึ่งเป็นสิ่งบ่งชี้ได้ดีไม่น้อยว่าพวกเขามองเรื่องปฏิบัติธรรมเป็นเทรนด์เท่ของยุคนี้ก็ว่าได้

“ที่นี่เราก็จะมีระเบียบวางไว้ จะไม่ให้เอาโทรศัพท์เข้าไป แต่ก็มีวัยรุ่นบางคนที่ฝากเครื่องนึง แล้วพกอีกเครื่องนึงเข้าไป ซึ่งเหตุผลที่เราต้องมีระเบียบต้องยึดโทรศัพท์ไว้ เพราะต้องการให้วัยรุ่นได้อยู่กับตัวเองมากที่สุด

ในตอนแรกจะมีบ้างที่ปรับตัวเองไม่ได้ ยังติดสื่อ ติดเทคโนโลยี พอเค้าเริ่มรู้ตัวว่าอยู่ต่อไม่ไหวเราก็ไม่รั้งไว้ ให้กลับได้ ส่วนมากก็จะรู้ตัวไม่เกินวันที่ 4 ก็จะขอกลับกันแล้ว ส่วนใครที่ตั้งใจมาแน่วแน่จริงก็จะค่อยๆปรับตัว เริ่มมีสภาวะธรรม ส่วนที่ตามๆกันมาเขาไม่ได้ตั้งใจ ไม่พร้อมก็มักจะอยู่จนครบไม่ไหว ซึ่งรุ่นเนกขัมมะฯ นี้เค้าก็โตๆกันแล้ว ก็ให้เค้าตัดสินใจด้วยตัวเอง”

ทำดีได้ ไม่ต้องรอเทรนด์

เหตุผลที่วัยรุ่นหันหน้ามาเข้าร่วมปฏิบัติธรรม จากการสอบถามทั้งสถานปฏิบัติธรรมเองและบุคคลทั่วๆไปรวมถึงเหล่าวัยรุ่น ก็ได้รับคำตอบในทิศทางเดียวกันคือที่สนใจมาปฏิบัติธรรมเป็นเพราะอยากได้ความสงบ อยากได้ที่พึ่งและยึดเหนี่ยวจิตใจ เวลาทำอะไรอยู่ข้างนอกทำให้มีสติมากขึ้น รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่

คำตอบที่ได้รับค่อนข้างจะส่งสัญญาณในแง่ดีว่าเหล่าวัยรุ่นรู้จักเอาเวลาที่มีใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างการปฏิบัติธรรม ที่หลายคนๆกล่าวว่า ขณะที่พบปัญหา แต่มืดแปดด้าน ไม่มีทางแก้ก็ใช้พุทธศาสนาเป็นที่ยึดเหนี่ยว และคิดว่าเป็นการได้ใช้เวลากับตนเอง เพื่อทำให้หนทางแก้ปัญหากระจ่างยิ่งขึ้น

ส่วนการมองว่ามันเป็นเทรนด์ตามกระแสหรือไม่ ที่ว่าเมื่อเหล่าวัยรุ่นเห็นดารา นักร้อง มักจะชอบไปปฏิบัติธรรม ก็เลยคิดไปทำตามบ้าง จารุพงศ์ กล้วยไม้งาม นักร้องหนุ่มวัยรุ่น ก็มีมุมมองส่วนตัวที่น่าสนใจให้ขบคิดตาม

“แจ็คไม่ได้มองเป็นเรื่องเทรนด์ คิดว่าเป็นเรื่องที่น่าดีใจนะที่อย่างน้อยกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มที่ควรจะห่างจากสิ่งเหล่านี้ แต่ทุกวันนี้เขามีจิตอาสาที่จะไปทำอะไรมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องมีใครรับรู้ แจ็คมองว่าเจตนาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดครับ เจตนาที่จะทำ จะมองเป็นเรื่องเทรนด์หรือไม่ มันเป็นเรื่องปกติ ถ้าเกิดเรามีจิตที่จะเข้าไปทำ หรือมีเจตนาที่จะเข้าไปช่วยจริงๆ หรือเข้าไปศึกษาธรรมะจริงๆ มันก็ไม่จำเป็นต้องสนว่าเป็นเทรนด์หรือไม่เป็นเทรนด์”

ขออนุโมนาสาธุกับเหล่าวัยรุ่นที่ยึดมั่นและศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแท้จริง แต่ส่วนใครที่คิดว่าทำบุญเป็นเรื่องสนุกสนานตามกระแสก็ต้องปล่อยไปตามยถากรรม แต่มันก็ถือเป็นเรื่องดี ในสังคมไทยอีกเรื่องหนึ่ง ที่วัยรุ่นจะหันหน้าเข้าสู่พระธรรมมากขึ้น แต่ขออย่าให้เป็นกระแสแค่ชั่วครู่ชั่วยาม แผลบเดียวก็กลับมาเป็นสังคมเลอะเทอะ เละเทะเหมือนเดิม
 
..................
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต




กำลังโหลดความคิดเห็น