ทัวร์นาเมนต์ยูโร 2012 เกมการแข่งขันระดับน้องๆฟุตบอลโลกทวีความเข้มข้นขึ้นมาทุกที คอบอลไทยหลายคนเลือกไม่ถูกว่าจะเชียร์ทีมใด เพราะดารานักเตะชื่อดังที่ไปค้าแข้งกับสโมสรใหญ่ในลีกยุโรปแต่ละคนต้องแพ็คกระเป๋ากลับไปลงสนามรับใช้ชาติบ้านเกิดตัวเองในศึกยูโรที่มี "โปแลนด์และยูเครน" เป็นเจ้าภาพร่วม
งานนี้บรรดาไฮโซที่เป็นสาวกสโมสรฟุตบอลในยุโรป จะทำอย่างไรเมื่อนักเตะในดวงใจที่เคยอยู่สโมสรเดียวกันกลับต้องมาห้ำหั่นกันเอง แต่พวกเขาจะตามลุ้นตามเชียร์ใครบ้าง
ท็อป-ธนิสร อึ้งภากรณ์
นักกีฬาฟุตบอลทีมราชกรีฑาสโมสรคนนี้คลุกคลีอยู่กับบอลตลอดทั้งปี แต่เงื่อนไขเวลาอีกทั้งหน้าที่การงานรัดตัวทำให้โอกาสเดินทางไปดูบอลแมชต์ใหญ่ๆ อย่างบอลโลกหรือยูโรนั้น ลำบากยิ่ง จึงได้แต่นั่งเฝ้าจอรอดูการถ่ายทอดสดผ่านดาวเทียม โดยปีนี้ก็เหมือนเดิมคือต้องตามดูทุกแมชต์ ไม่ว่าจะดึกแค่ไหน
“อยากไปดูที่สนามนะแต่มันไม่ใช่เรื่องง่าย ปกติผมดูตลอดทั้งปีอยู่แล้ว ชอบดูพรีเมียร์ลีกและลาลีก้าของสเปน หากมีเวลามีโอกาสผมต้องไปดูแน่ๆ อยากดูบรรยากาศอยากเห็นอารมณ์คนดูตอนที่ลูกบอลมันพุ่งเข้าประตูผมว่ามันคงสะใจมาก เสน่ห์ของบอลมันอยู่ที่ความแรงความเร็ว”
ท็อปบอกว่า ยูโรเมื่อ 4 ปีก่อนเชียร์ทีมชาติสเปน เพราะนักเตะส่วนใหญ่มาจากสโมรที่ชอบคือบาร์เซโลน่าและเรอัลมาดริก ซึ่งเป็นทีมสโมสรที่เขาชอบ แต่มาปีนี้เขาเปลี่ยนมาเชียร์ทีมชาติโปรตุเกส เพราะมีนักเตะหน้าใหม่ๆเข้ามาให้ลุ้นว่าแต่ละคนจะมีเทคนิคใหม่ๆอะไร มีลีลาการเตะแบบไหน มีพลังมากน้อยแค่ไหนให้ได้ดู ตรงนี้ทำให้เกมส์มีสีสันไม่ซ้ำซาก นอกจากนี้โปรตุเกสยังมีนักเตะคนสำคัญที่ชอบคือ คริสเตียโน โรนัลโด้
“ชอบโรนัลโด้ ที่มันเป็นคนแปลก เวลาอยู่ในสนามมันสร้างเซอร์ไพร้ส์ได้เยอะมาก ผมเชื่อว่าคงจะพาทีมไปถึงรอบลึกๆได้ แต่คงไม่ถึงกับได้แชมป์ ผมว่าทีมที่อาจจะได้แชมป์น่าจะเป็นเยอรมัน เพราะคนที่ติดทีมชาติเยอรมันตอนนี้เด็กมากแทบจะใหม่หมด ผมเชื่อความไม่ยโสของเด็กน่าจะสร้างความสามัคคีตรงนี้มันช่วยพาทีมคว้าแชมป์ได้”
อย่างไรก็ตามในฐานะนักฟุตบอลที่หลงใหลในเกมส์ที่คนเล่นต้องใช้พลัง ความสามารถเฉพาะตัว รวมถึงเทคนิค และความสามัคคีของคนในทีม ท็อปมองลึกเข้าไปในยูโรครั้งนี้ว่า ยังคึกคักไม่แพ้อดีต หลายชาติวางแผนจ้างโค้ชฝีมือดีมาคุมทีม นักเตะแต่ละชาติก็มีความพร้อม ยิ่งกองเชียร์แต่ละชาติมันเพิ่มสีสันให้จดจำได้ดี
ส่วนทีมชาติสเปนที่เขาเชียร์นั้น แม้จะมีเครดิตแชมป์โลกและยูโรอยู่ แต่ท็อปบอกว่าไม่น่าจะได้แชมป์อีก เพราะผู้เล่นส่วนใหญ่มีอายุมากขึ้นถึงจะเก๋ากันทั้งทีม แต่การที่กวาดไปได้ทุกแชมป์ทำให้ความทะเยอทะยานไม่มีแล้ว อีกทั้งเขายังเชื่ออาถรรพ์บอลยูโรอีกที่ว่าไม่เคยมีใครครองแชมป์ได้ 2 สมัยซ้อน ขณะที่ทีมชาติอังกฤษซึ่งเป็นทีมที่มีคนเชียร์เยอะนั้น ท็อปเชื่อว่าไม่น่าจะเข้าถึงรอบชิง เพราะผลงานที่ผ่านมาไม่ดีนัก
น็อต-วิศรุต รังสีสิงห์พิพัฒน์
ไฮโซเจ้าของธุรกิจผลิตหลอดไฟ แฟนหนุ่มของชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เกต คนนี้บอกดูบอลมาตั้งแต่เด็ก รักและหลงใหลในสโมสร “แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด” ชื่นชอบผลงานของอดีตนักเตะชื่อดังอย่าง “เดวิด เบ็คแฮม”
น็อตบอกว่า ชอบหลายๆอย่างในตัวนักเตะคนนี้ ตั้งแต่ลีลาการเล่น ไลฟ์สไตล์ และการแต่งตัวที่ทันสมัย ที่สำคัญคือเป็นนักเตะที่มีความอดทนแม้ว่าหลายครั้งต้องเผชิญปัญหามากมาย ถูกวิจารณ์ว่าเป็นตัวร้ายของทีมชาติอังกฤษ แต่ด้วยความสามารถเบ็คแฮมก็พิสูจน์ตัวเองจนกลายเป็นที่ยอมรับของคนอังกฤษ
“ยูโรปีนี้ผมก็ยังเชียร์อังกฤษนะ ถึงจะไม่มีเบ็คแฮม คือมันคุ้นเคยผูกพันมาตั้งแต่เด็ก แต่ผมคิดว่าไม่น่าจะได้แชมป์ เพราะดูผลงานตลอดปีที่ผ่านมามันไม่เด่น แต่ยังดีมีเวย์น รูนี่ย์ ที่น่าจะช่วยทีมได้ ผมชอบที่ตัวเขาใหญ่แต่วิ่งเร็วมาก”
เมื่อถามว่ามีโปรแกรมจะไปเดินทางไปดูในสนามหรือไม่ น็อตบอกคงต้องรอดูก่อน เพราะการซื้อตั๋วเข้าชมไม่ใช้เรื่องง่าย และงานที่ทำอยู่ก็ไม่แน่ว่าจะว่างทันเดินทางไปดูหรือไม่ แต่ถ้าว่างวันไหนและมีตั๋วให้เขาซื้อ เขาก็จะบินไปดูทันที เพราะการดูในสนามมันสนุกและได้อารมณ์มากกว่าการนั่งดูผ่านจอทีวี
“ที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะบินไปดูบอลพรีเมียร์ลีก อย่างผมชอบแมนยู ถ้ามีเตะตรงกับช่วงที่ผมเคลียร์งานเสร็จก็จะชวนเพื่อนซื้อตั๋วบินไปดูทันที เวลาไปบางทีก็ซื้อของที่ระลึกเก็บไว้”
สำหรับยูโรครั้งนี้ความหวังในการครองแชมป์ยูโรของทีมชาติอังกฤษจะน้อยมาก แต่ด้วยเทคนิคการวางทีมที่มีระบบก็อาจมีพลิกล็อก เพราะแมชท์หนึ่งที่ประทับไม่ลืมเลยคือศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกปี 1999 นัดชิงชนะเลิศ ระหว่างแมนยูฯกับบาเยิร์นมิวนิกของเยอรมัน
"นัดนั้นมันติดตามาก บาเยิร์นฯนำอยู่ 1-0 จนใกล้จะหมดเวลา 90 นาที ตอนนั้นก็คิดว่าแพ้แน่ ปรากฏทดเวลา 2 นาที ไม่น่าเชื่อว่าแมนยูฯยิงได้ 2 ลูกติดกันจากที่ตามหลังอยู่เกือบแพ้แต่มาชนะได้มันเหลือเชื่อจริงๆ ผมว่าดีไม่ดีอังกฤษในนัดที่มีรูนีย์ลงอาจมีพลิกล็อกให้เห็นก็ได้”
โอบอุ้ม-วัฒน์ธิดาชุมสาย ณ อยุธยา
ใครจะเชื่อว่าเซเลบสาวน้อยหน้าหวานนาม โอบอุ้ม-วัฒน์ธิดา ชุมสาย ณ อยุธยา จะลุ่มหลงกีฬาฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ สาวน้อยคนนี้เริ่มดูฟุตบอลครั้งแรกตอนอยู่ ม.2 เป็นการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2002 ประทับใจนัดชิงชนะเลิศระหว่าง เยอรมันกับบราซิล ครั้งนั้น "โรนัลโด้" (โรนัลโด้ หลุยส์ นาซาริโอ เดอ ลิม่า) เล่นกองหน้าทำคนเดียว 2 ประตูคว้าชัยให้บราซิลครองแชมป์โลกสมัยที่ 5 จึงตามดูเรื่อยๆ
จน ม.5 ได้มาดูพรีเมียรลีก ช่วงนั้นเป็นยุคที่เชลชีเฟื่องฟู มีโชเซ่ มูรินโญ่ เป็นผู้จัดการทีม แข่งกี่ครั้งก็ชนะ โอบอุ้มเลยหันมาชอบดูบอลลีกและกลายเป็นสาวกเชลชีตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ตอนเรียนหนังสือช่วงซัมเมอร์ไปอังกฤษ ก็ต้องไปดูทุกครั้ง ตอนนี้เรียนจบแล้วถ้ามีโอกาสก็จะให้พี่ชายซึ่งลูกพี่ลูกน้องที่เป็นสมาชิกแฟนคลับเชลซีซื้อตั๋วให้แล้วเหินฟ้าไปเชียร์ฟุตบอลถึงขอบสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ม
โอบอุ้มบอกยูโรปีนี้ ตอนแรกคิดว่าจะไป แต่มาดูนักเตะที่กระจายไปอยู่คนทีมทำให้รู้สึกว่า บินไปไม่คุ้ม ปีนี้จึงนั่งเฝ้ารอเชียร์ที่บ้าน เน้นทีมชาติสเปน เพราะมีนักเตะดังจากเชลซี โดยเฉพาะเฟอร์นันโด ตอร์เรส “ตอนแรกที่ ตอร์เรส ย้ายจากลิเวอร์พูลมาเชลซีไม่ชอบเลยเพราะค่าตัวแพงแถมช่วงแรกเล่นไม่ดี ช่วงนั้นเขาโดนวิจารณ์มากอุ้มยังบอกเพื่อนเลยว่าเล่นยังกับค่าตัว 5 บาท แต่ไม่นานก็ดีขึ้นโชว์ฟอร์มเจ๋ง แต่ละลูกที่ทำประตูได้สวย” อุ้มกล่าว
ส่วนอีกทีมคือโปรตุเกส ชอบลีลาการเตะของ คริสเตียโน โรนัลโด้ แต่ไม่มั่นใจว่าจะเข้าถึงรอบชิงหรือไม่ และถ้าสเปนต้องมาชิงกับโปตุเกสก็คงเลือกไม่ถูกว่าจะตัดใจเชียร์ทีมไหนดี เพราะชอบทั้ง ตอร์เรส และ โรนัลโด้
แต๊บ-สาริษฎ์ ฮุนตระกูล
หนุ่มน้อยมากความสามารถอดีตนักกีฬาว่ายน้ำของโรงเรียน แต๊บ-สาริษฎ์ ฮุนตระกูล หลานชายอดีตรัฐมนตรีดังสมหมาย ฮุนตระกูล บอกยูโรบอล 2012 เชียร์ทีมชาติอังกฤษ ด้วยความรู้สึกผูกพันธ์ เพราะช่วงไปเรียน University of Exeter England ไปเช่าบ้านอยู่กับเพื่อนๆ ที่ส่วนใหญ่ชอบดูฟุตบอลจึงจำเป็นต้องดูตาม จากนั้นก็ดูได้เรื่อยๆ
“ผมอยู่กับเพื่อนที่อังกฤษคนหนึ่งเชียร์เชลชี ส่วนอีกคนหนึ่งเชียร์แมนเชตเตอร์ยูไนเต็ด ต่างคนก็พยายามลากผมให้ไปเชียร์ทีมโปรดของเค้า สุดท้ายก็ไม่ชอบทีมไหนเลย มาดูที่นักเตะแทนชอบเวย์น รูนีย์”
สำหรับแต๊บแม้จะชื่นชอบกีฬาทางน้ำมากกว่า แต่สำหรับบอลนัดใหญ่ๆอย่างยูโรบอลหรือบอลโลก ก็จะติดตามดูเหมือนกัน ยิ่งถ้าทีมชาติอังกฤษลงเตะนัดไหน จะดึกดื่นแค่ไหนเขาก็จะต้องลุกขึ้นมานั่งเชียร์อังกฤษตลอดทุกนัด ส่วนจะได้แชมป์หรือไม่นั้น เขาบอกว่าไม่ซีเรียสมากเพราะกีฬาต้องมีแพ้มีชนะ
เหล่านี้เป็นเพียงความรู้สึกดีๆที่ทั้ง 4 คนมีให้ต่อทีมโปรดและบรรดานักเตะที่พวกเขาชื่นชอบเท่านั้น บทสรุปของยูโร 2012 จะลงเอยอย่างไร ใครจะคว้าแชมป์ไปครองต้องรอดูกันในนัดชิงวันที่ 1 กรกฎาคมที่จะถึงนี้
