ถ้าพูดถึง ตัวเหี้ย หรือ ตัวเงินตัวทอง ในความคิดของคนทั่วไป มันอาจจะเป็นสัตว์ผู้โชคร้าย เพราะใครๆ ก็รังเกียจในรูปลักษณ์ของมัน และเชื่อว่าตัวเหี้ยนั้นเป็นสัตว์อัปมงคล จึงทำให้ไม่มีใครอยากเข้าใกล้มัน แต่มีสถานที่หนึ่งที่มองในมุมต่างไปว่าตัวเหี้ยนั้นเปรียบเหมือนสัตว์ร่วมโลก สามารถพักพิงอาศัยอยู่ร่วมกันได้ ณ ที่นี้ ‘ทับแก้ว’
ซึ่งตอนนี้ก็ดูเหมือนว่า ตัวเหี้ย นั้นกลายเป็นเอกลักษณ์ของทับแก้ว (มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์) โดยมีชื่อเรียกกันแบบน่ารักว่า ‘ตุ๊ดตู่’ ซึ่งที่ทับแก้วนี้ขึ้นชื่อเรื่องของจำนวนประชากรตุ๊ดตู่ ที่ไม่ว่าจะเดินไปตรงไหนก็ต้องเจอ
สงสัยว่า ทำไมต้องเรียก ‘ตุ๊ดตู่’?
ต้องขอเท้าความก่อนว่า อันที่จริงแล้ว ตุ๊ดตู่ กับ ตัวเงินตัวทอง นั้น คือสัตว์เลื้อยคลานที่มีสายพันธุ์ใกล้เคียงกัน จะต่างกันแค่ตรงตรงที่ผิวหนัง ลวดลาย และเรื่องของขนาด ตุ๊ดตู่จะลำตัวไม่ยาวมากนักประมาณ 50 -125 เซนติเมตร จึงทำให้ได้ชื่อว่าเป็นวงศาคณาญาติกับตัวเงินตัวทองที่เล็กจ้อยที่สุด แล้วก็จะพบกันได้ตามโพรงไม้และซอกหิน
ส่วนตัวเหี้ย หรือ ตัวเงินตัวทอง หรือถ้าใครอยากเรียกให้ไพเราะเพราะพริ้งว่า ‘วรนุส’ นั้นจะมีขนาดใหญ่กว่าตุ๊ดตู่ คือลำตัวของเหี้ยนั้นจะยาวตั้งแต่ 2.5-3 เมตร เลยทีเดียว ซึ่งจริงๆแล้ว ตุ๊ดตู่ ของเด็กทับแก้ว ก็คือตัวเหี้ย หรือ ตัวเงินตัวทองนั่นแหละ
เพราะจากประสบการณ์ที่เคยเห็นแต่ละตัวก็ใหญ่มหึมาอย่างกับจระเข้ เพียงแต่ว่าขอเปลี่ยนชื่อเรียกให้น่ารักสักหน่อย ความน่ากลัวของมันจะได้ดูลดน้อยลงซึ่งมันก็ดันบังเอิญไปพ้องกับชื่อของ ตุ๊ดตู่ ที่มีอยู่จริงๆ จึงอาจทำให้เกิดความสับสนได้ ซึ่งถ้าใครเห็นตัวอะไรสี่ขาคลานมา แลบลิ้นสองแฉกแผล่บๆ ไม่ต้องเดาเลยว่านั่นแหละคือ ‘ตุ๊ดตู่’ เพื่อนเลื้อยคลานเอกลักษณ์แห่งทับแก้ว
แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไป หากได้เจอะเจอกับพี่ตุ๊ดตู่ของเราคลานผ่านหน้าไป เพราะนิสัยส่วนตัวของตุ๊ดตู่นั้น มันจะขี้ตกใจ ตื่นคน เวลาเจอศัตรูก็มักจะรีบแหวกว่ายลงน้ำไปอย่างรวดเร็ว โดยบริเวณที่เราจะมีโอกาสทองได้พบกับตุ๊ดตู่ ก็คือบริเวณที่มีต้นไม้รก และบริเวณใกล้แหล่งน้ำ ซึ่งถึงแม้ตุ๊ดตู่จะดูไม่ต่างกับสัตว์ประหลาดแต่มันก็มีความสามารถอันน่าทึ่งคือ มันเป็นแชมป์ดำน้ำและว่ายน้ำได้เก่งที่สุดในตระกูล และก็น่าภูมิใจที่มันเป็นสายพันธุ์เหี้ยที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกจากทั้งหมด 67 สายพันธุ์เลยทีเดียว
ตุ๊ดตู่ สหายรุ่นบุกเบิก
ทับแก้ว สถานที่ที่ขึ้นชื่อว่ามีตัวเหี้ยชุมนุมอยู่มากมาย และน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตร่วมบุกเบิกกับทับแก้วมาตั้งแต่ก่อน หากถามถึงที่มาของสัตว์น่ารักนี้คงต้องกล่าวย้อนไปในสมัยแรกๆ ที่เมื่อบริเวณเมืองนครปฐมเริ่มขยายตัว เกิดชุมชนเมืองจึงทำให้สัตว์ขี้อาย และกลัวคนอย่างตุ๊ดตู่ ต้องหนีหาแหล่งที่อยู่ใหม่ ประกอบกับทับแก้วในสมัยนั้นก็มีพื้นที่ธรรมชาติ ทั้งมีต้นไม้ใหญ่และแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ ตุ๊ดตู่จึงได้บ้านใหม่สำหรับพักพิง
จวบจนปัจจุบันที่ทับแก้วก็ยังคงเป็นบ้านหลังใหญ่สำหรับตุ๊ดตู่อย่าง เอกนฤน บางท่าไม้ อาจารย์สอนประจำที่ฝั่งทับแก้ว ที่เมื่อ 10 ปีที่แล้วก็เคยได้ใช้ชีวิตนักศึกษาในรั้วนี้ บอกเล่าภาพของตุ๊ดตู่ที่อยู่กระจายไปทั่ว และเปรียบได้ดังเพื่อนเก่าแก่ของสถานที่นี้
“สมัยก่อนตอนเรียนที่นี่ ผมก็เจอตุ๊ดตู่บ่อยอยู่นะ ทุกวันเลยก็ว่าได้ เพราะแต่ก่อนมหาวิทยาลัยมันจะตึกน้อย มีแต่ต้นไม้ พื้นที่สีเขียวมันเยอะไง ก็เลยจะเห็นตุ๊ดตู่บ่อยกว่าตอนนี้ เมื่อก่อนพวกมันจะชอบอยู่แถวๆ ตึกเพชรรัตน์ แต่มาตอนหลังเขามาสร้างหอมันก็เลยย้ายแหล่งกัน ก็ไปอยู่ตามาบ้านพักอาจารย์ แถวเภสัชศาลา เพราะตรงนั้นมันเงียบแล้วก็ยังร่มรื่น ยังมีต้นไม้อยู่
ส่วนตอนนี้มันก็น้อยลงนะ แต่ผมว่าไม่ได้ลดมากมายอะไร เพียงแต่มันไม่ค่อยออกมาปรากฏตัวเท่าไหร่ มันไปหลบไปแอบอยู่ ก็เลยไม่ค่อยได้เห็น ส่วนมากที่เจอตอนหลังก็จะเจอแถวในน้ำ จะมีนานๆ ทีที่เห็นมันมาเดิน บางทีเดินข้ามถนนก็มี”
มาถึงตอนนี้ตุ๊ดตู่ เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยที่นับวันจะยิ่งพบเห็นกันน้อยลง จนคิดกันไปต่างต่างนานาว่า เหตุผลที่ตุ๊ดตู่ในมหาวิทยาลัยลดน้อยลงนั้นเป็นเพราะคนงานที่มาสร้างตึกจับมันเอาไปกิน แต่จริงๆ แล้ว เหตุผลหลักแล้วคือพื้นที่ของมหาวิทยาลัยมีอยู่อย่างจำกัดนั้น ถูกแปรสภาพจากพื้นที่สีเขียวครึ้ม ร่มรื่นด้วยเงาของต้นไม้ใหญ่ หรือแม้แต่พื้นที่ที่เคยเป็นรังของตุ๊ดตู่ ก็ถูกสิ่งปลูกสร้างเข้ามาแทนที่เพื่อให้ตึกเรียนเพียงพอต่อจำนวนนักศึกษาที่เพิ่มขึ้นมากทุกปี ทำให้พื้นที่อาศัยของตุ๊ดตู่ลดน้อยถอยลงและส่งผลให้ปริมาณของพวกมันนั้นลดลงไปด้วย ซึ่งตอนนี้ก็กลายเป็นว่าพี่ตุ๊ดตู่ต้องอพยพย้ายบ้าน หรือหาบ้านใหม่ด้วยการขุดหลุมใต้อาคารเรียนเป็นที่พักพิงแทน
คำเล่าลือ ตุ๊ดตู่ทำนายเกรด
อาจจะฟังดูตลกไปนิด หากจะบอกว่านอกจากทับแก้วจะมีสัตว์โลกน่ารักอย่างตุ๊ดตู่ เป็นเอกลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยแล้ว เรายังมีความเชื่ออีกด้วยว่า การพบเจอตุ๊ดตู่ในลักษณะต่างๆ นั้นสามารถบอกได้ว่าเราจะได้เกรดอะไรในเทอมนี้
โดยเล่ากันปากต่อปากว่า หากเจอตุ๊ดตู่กำลังขึ้นจากน้ำ จะดวงดีเพราะเทอมนี้เราจะได้เกรด A แบบหวานหมู แต่จะดวงซวยแน่ๆ ถ้าเจอตุ๊ดตู่กำลังเดินต้วมเตี้ยมลงน้ำ ฟันธงว่าจะได้เกรด F ชัวร์ หรือถ้าเจอตุ๊ดตู่หลอกเดินขึ้นมาจากน้ำแล้วก็เดินลงน้ำกลับไป ก็เตรียมหัวเราะได้เลยเพราะได้กิน F แน่ๆและสุดท้ายถ้าเจอตุ๊ดตู่ในสระน้ำ ว่ายเวียนไปเวียนมา ทำท่าจะขึ้นอยู่นั่น แต่รอแล้วรอเล่าก็ไม่ยอมขึ้นมา ก็หมายถึงได้กินแห้ว หมดหวังกับเกรด A ไปได้เลย
รินนา คล้ายคลึง นักศึกษาทับแก้วที่เคยพบเจอกับเพื่อนเลื้อยคลานและบังเอิญก็ได้เกรด A ตามคำบอกเล่า
“เคยเจอก็บ่อยอยู่นะคะ ทั้งบนบก ในน้ำ แล้วแต่ละตัวมันใหญ่มากจริงๆ แล้วมีอยู่ครั้งนึงมันเข้ามาในตึกที่เราเรียน ตกใจมาก วิ่งหนีก่อนเลย ส่วนเรื่องความเชื่อก็เคยเจอนะ กำลังขึ้นมาจากสระน้ำแถวๆ คณะ เทอมนั้น ก็มี A นะ แต่ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับที่เราเห็นตุ๊ดตู่หรือเปล่า”
ส่วน คุณาธิป สุทธิยุทธิ์ ก็บอกว่า เชื่อแต่คงยังไม่เต็มร้อย
“นานแล้วนะที่ไม่ค่อยได้เห็น เดี๋ยวนี้ตุ๊ดตู่มีน้อย แต่ก็เคยเจอทั้งขึ้นจากน้ำ ทั้งลงไปในน้ำ แล้วก็ได้ A นะ แต่ว่า F เนี่ยยังไม่เคย”
...........
ก็ถือเป็นเรื่องเล่าน่ารักๆ ในรั้วทับแก้วที่คนกับสัตว์น่ารังเกียจอย่าง ‘ตุ๊ดตู่’ สามารถอยู่ร่วมในสถานที่เดียวกันได้ ซึ่งในวันหน้าหากใครได้มีโอกาสได้ไปเยี่ยมเยือนแถวนั้น ก็อย่าลืมแวะไปตามหาพี่ตุ๊ดตู่ ไม่งั้นจะถือว่ามาไม่ถึงทับแก้วจริงๆ นะเออ
>>>>>>>>>>>
เรื่อง : สุภิญญา นาคมงคล