อย่าเพิ่งตกใจว่าเกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยว-รถชนอะไรถ้าเห็นคนมุงหน้าซอยอุดมสุข 8 แต่ที่คนล้นๆ นั้นเป็นเพราะความอร่อย ถูก และคุ้มของร้านเปาะเปี๊ยะรถเข็นเจ้าเด็ดรายนี้ต่างหากที่ทำให้เมนูเปาะเปี๊ยะธรรมดาๆ กลายเป็นเปาะเปี๊ยะคิวยาว มีลูกค้าหน้าเก่าหน้าใหม่ทยอยมาต่อคิวความอร่อยจนคับซอยแล้วคับซอยอีก
“ตอนแรกๆ ที่ขาย ขายไม่ดีเลยนะ คนเงียบมาก แต่พอขายไปเรื่อยๆ ก็เริ่มมีลูกค้ามาลองชิมแล้วเขาก็ช่วยติว่าตรงไหนยังไม่อร่อย น่าจะปรับปรุงยังไง เราก็เปลี่ยนแปลงสูตรเองมาเรื่อย จนนานเข้ามันก็ถูกปากลูกค้า บวกกับพอมีป้ายนี้แล้วเฮงทันที (หัวเราะ)” คนพูดชี้ไปที่ป้ายร้านเพื่อแสดงชื่อของเขา “เศก ปริญาญา ปอเปี๊ยะสด”
ลองอ่านชื่อดูคิดว่าคนพูดชื่อเล่นชื่อเศก ชื่อจริงชื่อปริญาญา ที่ไหนได้พอลองสืบสาวราวเรื่องจึงได้รู้ว่าชื่อจริงของเขาคือ “เศกสันต์ ระแบงบอ” ต่างหาก ส่วนคำว่า “ปริญาญา” นั้น มาจากว่าคนขายเรียนปริญญาไป ขายของส่งเสียตัวเองไปจนจบปริญญาตรีบริหารธุรกิจได้นั่นเอง
นับถอยกลับไปวันแรกที่มารับช่วงรถเข็นคันนี้จากน้องชายก็ผ่านมา 17 ปีแล้ว กว่าจะมีวันนี้ได้ นายเศกเคยเป็นกุ๊กโรงแรม Pattaya Park Beach Resort มาก่อน แต่อยากมีกิจการเป็นของตัวเองจึงออกมาเร่ขายไส้กรอกอีสานอยู่พักหนึ่ง กระทั่งมาลงหลักปักฐานบนทำเลทองแห่งนี้
“น้องชายเขาเสียดายสูตรเปาะเปี๊ยะค่ะ อุตส่าห์ไปเสียค่าขอสูตรมาจากเถ้าแก่เก่าของเขาที่ศรีย่าน ก็เลยไม่อยากเซ้งให้คนอื่น เราเลยตกลงว่าจะทำแทนเอง แล้วก็มาปรับสูตรกันใหม่หมด ตอนแรกน้ำจิ้มเราไม่เป็นแบบนี้นะ หวานกว่านี้เยอะ แล้วต้มพะโล้ก็เพิ่งคิดสูตรกันใหม่ ใส่ยาจีน ใส่ใบเตยลงไป สมัยนั้นเวลาซื้อดอกกล้วยไม้ถวายพระ มันจะมีใบเตยแถมมาด้วยทุกครั้ง ไม่รู้จะเอาไปทำอะไรดี เลยเอามาต้มใส่น้ำพะโล้เสียเลย (หัวเราะร่า)” คำกอง ระแบงบอ คู่ชีวิตกุ๊กเศก ผลัดกันเล่าบ้าง ขณะที่มือยังคงทำหน้าที่สอดไส้เปาะเปี๊ยะ ม้วน และเสิร์ฟด้วยอัตราเร็วที่เห็นได้ชัดว่าชำนาญแล้ว
ไม่ทันรู้ตัว ลูกค้าก็เริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ จนล้อมรถเข็นอีกแล้ว นี่ขนาดเลือกมาวันและเวลาที่คนขายบอกว่าคนน้อยที่สุดแล้ว ยังขายดีขนาดนี้ ผู้เขียนหันไปเปรยกับกุ๊กเศก เมื่อเห็นว่าทั้งสองฝ่ายกำลังพูดคุยถึงที่มาที่ไปของร้านอย่างออกรส ขาประจำซึ่งยืนรอคิวอยู่จึงช่วยยืนยันความอร่อย “นี่กินมาตั้งแต่เมียพี่เขายังไม่มีจนตอนนี้เรียบร้อยแล้ว ส่วนลูกเราก็โตหมดแล้ว ก็ยังเป็นลูกค้าประจำอยู่เลยคิดดูสิ (ยิ้ม)” ว่าแล้วอีกเจ้าก็เข้ามาเสริมทัพ “ผมไม่ได้เชียร์ส่งๆ นะ แต่ของเขาสุดยอดจริงๆ กินดูแล้วจะรู้ว่าเครื่องเขาดี แล้วก็ใส่ทุกอย่างให้ไม่ยั้งเลย ให้เยอะ ใช้ของมีคุณภาพ แถมราคาไม่แพงด้วย ก็เลยขายดีแบบนี้แหละ”
ปล่อยให้กุ๊กมือทองเคลียร์คิวลูกค้าจนมือเป็นระวิง จึงขอถอยห่างออกมาพิสูจน์คำโฆษณา แค่เห็นกรรมวิธีการผลิตก็ว่าน่ากินแล้ว โดยเฉพาะหม้อต้มพะโล้ที่เดือดปุดๆ อยู่บนรถเข็น เรียกได้ว่าเป็นของฟรีที่ล้ำค่า ไปกินเปาะเปี๊ยะร้านอื่นรับรองว่าไม่ได้เห็นไม่ได้ชิมแบบนี้แน่ เห็ดหอมชิ้นโตๆ บวกกับเต้าหู้เนื้อแน่นชุ่มน้ำพะโล้ทุกอณูฟอง สองอย่างนี้จัดเต็มเข้าไปในเปาะเปี๊ยะทุกม้วน แถมยังได้สุขภาพจากยาจีนที่ใส่เข้าไปเป็นอีกหนึ่งของฟรี คุ้มจนไม่รู้ว่าจะคุ้มอย่างไรแล้ว
นี่ยังไม่รวมส่วนผสมอื่นๆ ทั้งไข่ฟูหั่นฝอย ถั่วงอกลวกไม่เหม็นเขียว แตงกวาเพิ่มความกรุบ และกุนเชียงเนื้อหวาน อัดแน่นอยู่ในแป้งเนื้อละเอียด ราดด้วยน้ำจิ้มสูตรเด็ดอย่างที่กุ๊กเศกบอกว่า “เปาะเปี๊ยะเขาเฉือนกันก็ตรงนี้แหละ” ด้วยรสไม่หวานเลี่ยนเหมือนสูตรมาตรฐานน้ำเปาะเปี๊ยะทั่วไป แต่ยังคงความเข้มข้นเอาไว้ได้เต็มเปี่ยม น้ำแดงๆ หล่อเลี้ยงจนท่วมจานเวลาเสิร์ฟ ตักกินคำเดียว ชุ่มรสอร่อยให้ซาบซ่านเต็มปาก ยิ่งแกล้มกับพริกหยวกซอยพร้อมคำละแว่นสองแว่น ช่วยไล่อาการเลี่ยนจากการกินรสเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้ชะงัก เรียกได้ว่าเฉือนชนะคู่แข่งไปหลายแต้มจริงๆ
ไข่ 120 ฟอง, กุนเชียง 2,000 บาท และแตงกวาอีก 7-8 กิโลกรัม นี่คือจำนวนโดยเฉลี่ยที่ใช้ไปในแต่ละวันเพื่อยืนยันว่าร้านนี้ขายดีขนาดไหน ยังไม่รวมกล่องโฟมที่หอบเอามาเป็นกระตั้กๆ แต่ก็หมดไปถุงแล้วถุงเล่าภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว สงสัยจริงๆ ว่าวันๆ หนึ่งรถเข็นคิวทองร้านนี้มีลูกค้ากี่ร้อยรายกันแน่ กุ๊กเศกยิ้มอย่างเกรงใจแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อมว่า “อย่าให้ผมตอบเลยครับ แค่นี้ก็โดนเจ้าหน้าที่เก็บภาษีรถเข็นรายปีมากกว่าคนอื่นสองเท่าแล้ว”
คิดดูสิว่าขายดีถึงขั้นเจ้าของร้านเคยมีความคิดจะแจกบัตรคิวให้ลูกค้า แต่กลัวว่าจะกลายเป็นการสร้างศัตรู ทำให้เพื่อนรถเข็นร้านข้างเคียงหมั่นไส้ จึงล้มเล้มความคิดแบบนี้ไปแล้วปล่อยให้กุ๊กเศกใช้วิธีดั้งเดิม ยิ้มรับลูกค้า จดจำใบหน้าใครมาก่อน-หลัง ชวนพูดคุยทักทายคลายเครียดจากการรอ ส่วนแม่ครัวมือดีก็มีหน้าที่ม้วนเปาะเปี๊ยะไปยิ้มไปถึงแม้จะปวดหลังจากงานที่ทำ ที่หูก็ยังใส่สมอลทอล์กเอาไว้รับออเดอร์จากลูกค้าที่ขี้เกียจมายืนรอคิว สองแรงแข็งขัน ขยัน อร่อย แถมบริการดีอย่างนี้นี่เอง ลูกค้าถึงได้ติดหนึบล้นร้าน-คับซอย
ธรรมดา 30 พิเศษ 40 ใช้วัตถุดิบอย่างดี แถมให้แบบจัดเต็มขนาดนี้ อดสงสัยไม่ได้จริงๆ ว่าไปเอากำไรมาจากตรงไหน กุ๊กเศกและแม่ครัวคู่ใจยิ้มหวานพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายและช่วยกันตอบ “กำไรมันต้องมีอยู่แล้วแหละ แต่เราก็อย่าไปเน้นมาก อาศัยขายถูกให้คนเขาอยากมากิน เน้นขายลูกค้าเยอะๆ แล้วเราสองคนก็ไม่มีลูกจ้าง ทำกันเองสองคนตั้งแต่เตรียมของก็เลยไม่ต้องเสียเงินจ้างเด็ก ลดต้นทุน แล้วมันก็อยู่ได้เอง” และเชื่อว่าคงอยู่ได้ไปอีกนานในฐานะเปาะเปี๊ยะรถเข็นคิวยาว อร่อยคับซอย!
“เศก ปริญาญา ปอเปี๊ยะสด”
ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท 103 ปากซอยอุดมสุข 8 ลงรถไฟฟ้าอุดมสุขทางออก “ตลาดอุดมสุข” เดินต่ออีกไม่ไกล ร้านอยู่ฝั่งขวาริมถนน
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 11.30 - 17.00 น.
เบอร์ติดต่อ 08-4406-3969
ข่าวโดย Manager Lite/ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์
ภาพโดย... อดิศร ฉาบสูงเนิน