จำนวนคนแน่นเอี้ยดเต็มร้านคือเหตุผลข้อแรกที่ชักชวนให้เราก้าวเท้าแฝงตัวเข้าไปเป็นลูกค้าภายในร้าน ลองสั่งเมนูขึ้นชื่อตามคำแนะนำ กระทั่งได้ลิ้มชิมรสจึงพบว่ายังมีเหตุผลอีกหลายข้อที่ทำให้ร้านบะหมี่เกี๊ยวฮ่องกงแห่งนี้ “โด่งดัง” สมกับที่ชื่อร้านประกาศไว้
ถ้าขับรถผ่านกลางซอยอุดมสุขในช่วงหนึ่งทุ่มเป็นต้นไป แล้วเห็นผู้คนมากหน้าหลายตาผลัดกันใช้โต๊ะอาหารอยู่ในร้านขนาดสองคูหาอย่างไม่ขาดสาย แสดงว่าคุณมาถึง “ฮกหลี นู้ดเดิ้ล (โด่งดัง)” แล้ว ปรากฏการณ์ดังกล่าวเป็นสิ่งที่คนละแวกนี้ต่างเคยชิน โดยเฉพาะขาประจำที่รู้ดีว่าเหตุใดร้านอาหารหน้าตาธรรมดาๆ ร้านหนึ่งจึงขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเช่นนี้ และดูเหมือนว่าจะเป็นแบบนี้มาตั้งแต่สาขาแรกแล้ว
“ตอนแรกช่วยน้องชายขายขนมหวานที่ร้าน พอว่างๆ เลยลุกขึ้นมาทำบะหมี่เกี๊ยวหมูแดงดู ให้ข้างบ้านชิม หลายคนบอกว่าอร่อยมาก เปิดร้านขายได้เลยนะเนี่ย (ยิ้ม) ก็เลยลองเปิดร้านเล็กๆ แถววัดดวงแขดู ขายดีอยู่เหมือนกัน มีลูกค้าขาจรขาประจำแวะเวียนมาตลอด หลังจากนั้น 3-4 ปีพอหาที่แถวอุดมสุขได้ก็เลยเปิดอีกสาขา แต่ครั้งนี้จริงจังกว่าเดิม คือเราไปเรียนทำเส้นบะหมี่ ทำเกี๊ยว จนได้สูตรของตัวเอง จากที่เคยขายแค่หมูแดง ก็เพิ่มหมูกรอบกับเป็ดเข้ามาด้วย คนเลยยิ่งชอบและแวะมากินมากกว่าสาขาเดิมอีก” เจ๊จู รัตนา กุศลเพิ่มทรัพย์ เจ้าของร้านมือทองเท้าความให้ฟัง
“ฮก” แปลว่าร่ำรวย ส่วน “หลี” แปลว่าราบรื่น ไม่มีความหมายใดเลยที่ใกล้เคียงกับคำว่า “โด่งดัง” ถามว่าเหตุใดจึงต้องใส่วงเล็บคำคำนี้ไว้ต่อท้ายชื่อร้านด้วย เจ๊จูยิ้มตาหยีก่อนเผยความลับเล็กๆ ให้ฟังว่าเป็นเพราะสาขาเก่าใช้ชื่อนี้ พอเปิดสาขาใหม่จึงอยากพ่วงชื่อเดิมมาด้วย ขาประจำจากสาขาเดิมจะได้รู้ว่าต้นตำรับความอร่อยนี้คือเจ้าของเดียวกัน
เห็นเจ้าของสูตรคุยให้ฟังอยู่นานว่าแต่ละส่วนประกอบของที่นี่โดดเด่นไม่เหมือนใคร จึงขอท้าพิสูจน์กันด้วยเมนูที่รวมเอาความอร่อยทุกอย่างมาไว้ในจานเดียวอย่าง “บะหมี่เกี๊ยวกุ้งหน้ารวม” กันเลย ที่บอกว่าหน้ารวมเพราะอาหารเส้นด้วยนี้ราดหน้ามาพร้อมหมูแดง หมูกรอบ และเป็ดครบเซ็ต จนคนชิมเลือกไม่ถูกว่าจะป้อนส่วนไหนเข้าปากก่อนดี แนะนำว่าถ้าจะสั่งเมนูนี้มาลอง ขอให้กินอย่างช้าๆ และค่อยๆ พิจารณากันไปไม่ต้องรีบร้อน
เริ่มที่เส้นบะหมี่กันก่อน เห็นเจ๊จูคุยให้ฟังด้วยความภาคภูมิใจว่าหากินที่ไหนอย่างนี้ไม่ได้อีกแล้วแน่ๆ เพราะเส้นเล็กๆ เหลืองๆ ที่เห็นอยู่นี้คือเส้นหมี่ไข่ทำมือ เน้นรีดแป้งให้เหลือไซส์เล็กไม่เหมือนใครแต่ยังคงความเหนียวนุ่มเอาไว้เป็นอย่างดี เคี้ยวแล้วให้รสสัมผัสคล้ายขนมฝอยทอง จนลูกค้าต่างเรียกกันติดปากว่า “บะหมี่ฝอยทอง” ไปตามๆ กัน เมื่อได้ชิมยิ่งต้องพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดดังกล่าว เมื่อตัวเส้นชุ่มไปด้วยน้ำเป็ดกรุ่นๆ เครื่องแกงอุ่นๆ ที่ราดมาด้วย เส้นเล็กๆ ของบะหมี่ยิ่งอร่อยลงตัวเกินบรรยาย
“เกี๊ยวกุ้ง” คือส่วนประกอบหนึ่งในชามบะหมี่ที่ดูแสนจะธรรมดา แต่กลับอัดแน่นไปด้วยรสชาติไม่ธรรมดาของกุ้งอวบๆ อิ่มๆ เต็มปากเต็มคำจนอดถามคนทำไม่ได้ว่าทำไมจึงอร่อยอย่างนี้ กระทั่งได้คำตอบจากเจ๊จูจึงทำให้รู้ว่าเนื้อแน่นๆ ที่เนื้อกำลังเด้งดึ๋งอยู่ในปากขณะนี้เกิดจากกุ้งตัวโตๆ หนึ่งตัวเต็มๆ ผสมหมูสับทรงเครื่องใส่ลงไป ไม่แปลกที่ใครๆ ต่างติดอกติดใจส่วนผสมเล็กๆ แต่พิเศษชิ้นนี้กันนัก
ที่เด็ดที่สุดเห็นจะเป็นเนื้อเป็ดของที่นี่ จะบอกว่าเป็นจุดขายที่ดึงดูดให้ลูกค้ามานั่งกินคงไม่ถือว่าพูดเกินไป เพราะเนื้อเป็ดแต่ละตัวล้วนแล้วแต่ถูกคัดสรรมาอย่างดี มีแต่เป็ดเกรดเอทั้งนั้น หนึ่งเมนูที่ขายดีติดอันดับจึงหนีไม่พ้น “เป็ดล้วน” ไม่ใส่บะหมี่ ไม่เติมข้าว สั่งแค่เนื้อเป็ดล้วนๆ มากิน ตัวหนังไม่แห้งไม่แข็ง ยิ่งราดน้ำเป็ดให้ชุ่มยิ่งนุ่มอย่าบอกใคร บางคนนิยมสั่ง “หมี่เปล่า” หรือบะหมี่แห้งมากินคู่กันด้วย เพราะรสชาติของสองอย่างนี้อร่อยลงตัวอย่าบอกใครทีเดียว จะกินแค่หมี่เปล่าเล่นๆ ก็ได้รสเค็มนิดๆ จากเกลือบางๆ ที่โรยหน้ามาพร้อมกระเทียมเจียว หรือจะคีบเส้นมาคลุกเคล้ากับเนื้อและน้ำของเป็ด ก็เข้ากันได้อย่างดีอย่างกับเกิดมาเพื่อกันและกันอย่างไรอย่างนั้น
นักชิมรายไหนไม่นิยมกินเส้น จะสั่งราดข้าวก็มีให้เลือกหลากหลาย มีทั้งข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ และข้าวหน้าเป็ด หรือถ้าตัดสินใจไม่ถูก จะสั่ง “ข้าวหน้ารวม” รวมเอาสามอย่างไว้ในจานเดียวก็ไม่ว่ากัน แต่แนะนำให้ลองชิมแบบจานเดี่ยวๆ ทีละอย่างจะดีกว่า จะได้รับรสอร่อยให้ชัดๆ ไปเลยว่าความเด็ดของเนื้อแต่ละประเภทอยู่ตรงไหน
สำหรับ “หมูแดง” ของที่นี่นั้น ถึงแม้จะหั่นบางแต่เนื้อยังแน่น ไม่ยุ่ยหรือเหนียวเกินไป บางช่วงมีมันติดนิดๆ เพิ่มรสชาติไม่ให้น่าเบื่อ แต่ไม่มันเกินไปเหมือนคอหมูย่างตามร้านส้มตำ ที่สำคัญคือข้าวหมูแดงที่นี่ราดด้วยน้ำเป็ด จึงยิ่งโดดเด่นไม่เหมือนข้าวหมูแดงทั่วๆ ไป แต่ถ้าอยากได้รสชาติที่ลื่นไหล แนะนำให้ลอง “หมูกรอบ” จะดีกว่า ด้วยชิ้นเนื้ออวบ กัดแล้วให้ความหนานุ่ม แถมตัวเนื้อยังแบ่งออกเป็นสามชั้นอย่างชัดเจน เคี้ยวแรกได้รสกรุบจากชั้นหมูกรอบ ขบฟันผ่านชั้นที่สองจะเจอกับเนื้อมันๆ กระทั่งผ่านมายังชั้นสุดท้ายจึงได้สัมผัสเน้นๆ ของเนื้อหมูเต็มปากเต็มคำ บอกได้คำเดียวว่าเด็ด!
“ฮกหลี นู้ดเดิ้ล (โด่งดัง)”
ตั้งอยู่ตรงบนถนนสุขุมวิท 103 ซอยอุดมสุข 49 (ไม่ต้องเข้าซอยย่อย) ลงรถไฟฟ้าอุดมสุขทางออก “ตลาดอุดมสุข” นั่งรถสองแถวเข้าไปกลางซอย ร้านอยู่ฝั่งซ้ายริมถนน
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 11.00 - 01.00 น.
เบอร์ติดต่อ 08-1852-6770
4 อันดับเมนูโด่งดัง!
1. เป็ดล้วน+หมี่เปล่า : ทั้งเนื้อทั้งหนังเป็ดนุ่มชุ่มลิ้นกินคู่กับหมี่เปล่าอร่อยลืมโลก
2. บะหมี่เป็ดเกี๊ยวกุ้ง : บะหมี่ฝอยทองไซส์เล็กพริกขี้หนู บวกเกี๊ยวกุ้งเต็มคำช่างน่ากิน
3. บะหมี่/ข้าวหมูกรอบ : หมูกรอบทั้งกรุบทั้งนุ่ม กัดผ่านเนื้อสามชั้นเคี้ยวเพลิน
4. บะหมี่/ข้าวหมูแดง : หมูแดงเด็ดไม่แพ้ใคร แถมยังราดน้ำเป็ดผสมสมุนไพรมาให้ด้วย
ข่าวโดย Manager Lite/ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์
ภาพโดย... อดิศร ฉาบสูงเนิน
