ผบ.ตร.ถกความพร้อมมาตรการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินประชาชนช่วงปีใหม่ จัดการระบบการจราจรไม่ให้รถติดหนึบ พร้อมตั้งจุดตรวจเน้นบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ขณะ “สมยศ” ย้ำ กว่าร้อยละ 95 อุบัติเหตุมักเกิดจากเส้นทางรอง ด้านโฆษก ตร.แจ้งเตรียมลดยอดสถิติอุบัติเหตุทั่วประเทศให้ได้ร้อยละ 5 พร้อมดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่ใน 7 วันอันตราย
วันนี้ (13 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่ปรึกษา สบ10 พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ตร.และผู้เกี่ยวข้องร่วมกันประชุม ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ร่วมกับ บช.ภาค 1-9 บช.น. บช.ศชต บช.ก.สท.เพื่อสรุปเส้นทางการจราจรและการรักษาความปลอดภัยในช่วงปีใหม่นานกว่า 1 ชั่วโมง
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า การประชุมดังกล่าวเพื่อเตรียมการรับมือกับสถานการณ์ ซึ่งน่าเป็นห่วงในเรื่องของการจราจรที่เกรงว่าการจราจรจะติดขัดในบริเวณเส้นทางต่างๆ ที่ชำรุดเสียหายหลังเคยถูกน้ำท่วม เช่น เส้นทางที่ขึ้นไปทางภาคเหนือมีความเสียหายเป็นอย่างมาก รวมทั้งอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น จึงขอให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายบังคับใช้กฎหมายในช่วงก่อนและหลังปีใหม่อย่างจริงจัง โดยในส่วนของการออกกฎข้อบังคับให้ประชาชนใส่หมวกกันน็อก และการกำหนดที่จำหน่ายสุรา
“พร้อมทั้งขอให้ทุกกองบัญชาการประสานความร่วมมือไปยังหน่วยงานต่างๆ เช่น ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และผู้ใหญ่บ้าน มาร่วมมือในการตั้งจุดตรวจปกติ เพื่อดูแลให้การตายเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด ด้วยการรณรงค์ทำป้ายเตือนภัยจุดต่างๆ ที่น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นทางใน จ.นครสวรรค์ หากยังซ่อมไม่เสร็จทันก่อนเทศกาลปีใหม่มีปัญหาอย่างแน่นอน นอกจากนี้จะให้ประสานไปยังผู้ที่ใช้รถบรรทุกในการงดใช้เส้นทางหลักและเส้นทางรองในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้” ผบ.ตร.กล่าว
ด้าน พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า การจราจรในเส้นทางที่ใช้กันในช่วงปีใหม่ ไม่ว่าจะกลับสู่ภูมิลำเนาจะใช้ทุกเส้นทาง ซึ่งทำให้เส้นทางต่างๆ อาจจะมีรถติดมากขึ้นตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค.54 - 5 ม.ค.55 ซึ่ง ผบ.ตร.ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งเตรียมการรับมือและกำหนดแผนมาตรการรองรับ โดยให้แต่ละหน่วยงานรายงานผลเข้ามา ช่วงแรกในวันที่ 16 ธ.ค.ช่วงที่ 2 วันที่ 20 ธ.ค. และครั้งสุดท้ายวันที่ 24 ธ.ค.เพื่อนำข้อมูลมาใช้ให้ทันกับสถานการณ์ ซึ่งกว่าร้อยละ 95 อุบัติเหตุมักจะเกิดจากเส้นทางสายรองเกือบทั้งหมด ซึ่งมีเพียงร้อยละ 5 เท่านั้นที่เกิดขึ้นบริเวณเส้นทางสายหลัก
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ขณะนี้ ผบ.ตร.เตรียมการดูแลรักษาความปลอดภัย 2 ส่วน คือ การจราจรและการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งในเวลา 18.00 น.วันที่ 16 ธ.ค.นี้ ผบ.ตร.จะเดินทางไปเป็นประธานในพิธีเพื่อปล่อยแถวบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อระดมกำลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกกองบัญชาการ โดยใน กทม.จะมี บช.น.และ บช.ก.ในการดูแลแก้ไขปัญหาอาชญากรรม ส่วนในเวลา 15.00 น.วันที่ 23 ธ.ค.จะมีการระดมกำลังจากทุกกองบัญชาการปล่อยแถวเพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยและการจราจร
“ผบ.ตร.ได้เน้นในเรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่ ซึ่งได้มีการเตรียมความพร้อมก่อนเทศกาลหรือ 7 วันอันตราย ตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค.54 - 5 ม.ค.55 โดยเฉพาะการสำรวจจุดเสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นตามจุดต่างๆ เพื่อนำไปวิเคราะห์จำนวนครั้งที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น รวมถึงการเมาสุราและขับ โดยเฉพาะอุบัติเหตุจากรถยนต์ที่เกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ รถประจำทางที่คนขับไม่ชำนาญในเส้นทาง การขับรถผิดกฎจราจร ด้วยการรถขับย้อยศรหรือฝ่าไฟแดง และถนนชำรุดเสียหายจากน้ำท่วม” โฆษก ตร.กล่าว
เมื่อถามถึงสถิติที่ตั้งเป้าเอาไว้ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นนั้น พล.ต.อ.ปิยะ กล่าวว่า ผบ.ตร.ได้สั่งการกำชับให้เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างจริงจัง เพื่อลดจำนวนครั้งในการเกิดอุบัติเหตุ เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บทั่วประเทศให้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5 ในปีนี้ โดยจากการเปรียบเทียบจากสถิติปีที่แล้วพบว่า มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 3,497 ครั้ง ซึ่งปีนี้จะต้องเกิดขึ้นไม่เกิน 3,322 ครั้ง ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตในปีที่แล้ว 358 ราย จะต้องลดให้ได้ไม่เกิน 340 ราย และสถิติการบาดเจ็บในปีที่แล้ว 3,750 ราย โดยในปีนี้ต้องลดลงเหลือ 3,563 ราย
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า จะจัดกำลังเต็มอัตราทุกพื้นที่ในวันที่ 28-29 ธ.ค.ตรวจสอบในบริเวณที่จัดงานต่างๆ เพื่อดูแลการจราจรตลอดเวลา พร้อมทั้งจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว พร้อมรถยกและหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ เพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและเคลื่อนย้ายรถที่เกิดอุบัติเหตุให้รวดเร็วที่สุด พร้อมทั้งการตั้งจุดตรวจปกติไม่ให้กีดขวางการจราจร และตรวจยึดจักรยานยนต์ต้องสงสัย รวมทั้งจะรวบรวมเพื่อทำการประเมินผลสถิติต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดอีกครั้ง ในวันที่ 15 ม.ค.