แอบสะดุดตากับความน่ารัก สดใสของพรีเซ็นเตอร์สาวคนสวย “โครงการ 7 สี ปันรักให้โลก” ซึ่งล่าสุดเธอครองตำแหน่งพรีเซ็นเตอร์ติดต่อกัน 2 ปีซ้อน “มะนาว-ภัทรวดี ศรีธาราม” สาวหน้าใส ยิ้มสวย จากรั้วจามจุรี ว่าที่คุณครูอนุบาลคนสวย เธอเป็นตัวแทนของกลุ่มวัยรุ่น ที่มาช่วยรณรงค์ให้คนรุ่นใหม่ ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้รับกระแสตอบรับอย่างดี จากกลุ่มนักศึกษา M-Lite จะพาไปรู้จักมุมมองความคิดน่ารักๆ ของสาวคนนี้ รับรองว่าจะทำให้หลงรักเธอ และอยากหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมกับเธอเพิ่มมากขึ้น ดังที่เธอบอกไว้ว่า “การรักโลกไม่ใช่แค่การปลูกต้นไม้ ไม่ใช่แค่การทิ้งขยะให้ถูกที่ มันอยู่ที่การใช้ชีวิตประจำวันของเรา”
นัดคุยกับสาวมะนาวที่วิกหมอชิตซึ่งเธอเป็นพรีเซ็นเตอร์และเป็นพิธีกรให้กับทางช่อง 7 สี วันนี้เธอสวมชุดนักศึกษา เพราะตรงกับวันที่เธอมีเรียนที่มหา'ลัย แม้ว่าสีหน้าเธอจะดูเหนื่อยๆ เล็กน้อย และดูเป็นคนเงียบๆ ในตอนแรก แต่พอเริ่มให้สัมภาษณ์เธอก็ให้ความสนใจ และพูดคุยอย่างสนุกสนาน แถมเธอยังเล่านิทานสั้นๆ ด้วยเสียง และท่าทางน่ารักให้ฟังอีกด้วย
อยากเป็นคุณครูตั้งแต่เด็ก
สาวครุศาสตร์ จุฬาฯ เล่าว่าด้วยความที่มีคุณแม่เป็นคุณครู และได้เห็นคุณแม่สอนเด็กๆ ตอนเด็กเธอยังชอบเล่นเป็นคุณครู จึงกลายเป็นความฝันว่าอยากเป็นคุณครูเหมือนคุณแม่
“ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่คณะครุศาสตร์ จุฬาปี 4 เลือกเรียนเอกปฐมวัย สอนเด็กอนุบาล เทอมหน้ามะนาวต้องไปฝึกสอนอีก 1 ปี คณะนี้เรียน 5 ปีค่ะ ต้องอยู่ในโรงเรียนตลอด ที่ทราบก็จะเป็นโรงเรียนอนุบาลพญาไท สอนเด็กชั้นอนุบาล 1-3 คณะนี้จะเรียนตั้งแต่เรื่องของการพัฒนาการเด็ก ตั้งแต่อยู่ในท้อง เด็กที่อยู่ในท้องเขาสามารถรับรู้อะไรได้บ้าง เรียนเรื่องการบำรุงครรภ์ของคุณแม่ การปฐมพยาบาล การเล่นของเด็ก จิตวิทยา ทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นการเรียนรู้ของมนุษย์”
จากการที่มีโอกาสได้เจอเด็กๆ ในหลายๆ สถานที่ ทำให้เธอได้สังเกตพฤติกรรมทั้งการเรียน การเล่น และได้เรียนรู้พัฒนาการของเด็กมากขึ้น และตัวเธอเองก็มีเคล็ดลับในการที่จะดึงความสนใจจากเด็ก โดยใช้สื่อการสอนรูปแบบใหม่ๆ ที่คิด และทำขึ้นเอง
“เคยไปฝึกสอนที่โรงเรียนอนุบาลศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ไปสอนเขาเรื่องหน่วยการเรียนรู้เรื่องหนึ่ง ในวิชานวัตกรรมการสอน เราจะจัดเป็นมุมประสบการณ์การเรียนรู้ต่างๆ เป็นการละเล่น มะนาวก็เตรียมเรื่องสอน เป็นกิจกรรมเล่าเรื่องเกี่ยวกับปลาทะเล เราก็จะสอนเรื่องปลาที่ไม่ใช่ปลา แต่ว่ามันอยู่ในทะเลนะ ให้เด็กเขารู้จัก อย่างปลาการ์ตูนเด็กๆ ก็จะเรียกกันว่าปลานีโม อย่างโลมาก็ไม่ใช่ปลา มันเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เราก็เอาเรื่องเหล่านี้ไปสอนเด็ก
เราก็จะมีวิธีการดึงความสนใจจากเด็ก เพราะแค่ 5 นาที กับเด็ก 20-30 คน มันเป็นไปไม่ได้ที่จะให้เขาตั้งใจฟัง เราก็เลยปรับการสอนเป็นการเล่านิทานแล้วก็สอดแทรกความรู้เข้าไปในนั้น ไม่ก็ทำเป็นสื่อการเรียนรู้ที่น่าสนใจอื่นๆ ยกตัวอย่างที่สอนวันนั้นนะคะ เราก็จะแนะนำตัว “นี่ครูมะนาวนะคะ ครูกำลังจะพาเด็กๆ เข้าไปในโลกกว้าง ในท้องทะเล เด็กๆ รู้จักปลาเหล่านี้กันไหมค่ะ” คือต้องใช้น้ำเสียง ท่าทางทุกอย่าง สีหน้า ทุกอย่างมันต้องดึงดูดเด็ก เพื่อที่จะพาเขาเข้าไปในโลกที่เราต้องการจะเปิด มะนาวก็จะเตรียมสื่อการสอนเยอะแยะ ตัดวีดีโอเอง ให้เด็กดูปลาโลมาวางไข่ แล้วก็คลอดลูก เพราะว่าการสอนจากการที่เด็กได้เห็นภาพจริงๆ จะเป็นวิธีที่ได้ผลมากที่สุด”
พอได้เห็นเธอเล่านิทานด้วยเสียงน่ารักๆ ประกอบกับท่าทางที่ดึงดูด จึงทำให้มองว่าอนาคตเธอต้องเป็นคุณครูมะนาวที่ทั้งน่ารัก และใจดีของเด็กๆ แน่ “มะนาวว่าตัวเองไม่ดุนะ ถ้าเราดุเด็กๆ จะไม่กล้าเข้าหา เราต้องทำให้เขารับรู้ ให้เขาไว้ใจ แล้วเขาถึงจะเปิดใจให้ ที่ผ่านมามะนาวก็ได้เจอเด็กหลายประเภท ได้ไปเจอเด็กในมูลนิธิ เด็กด้อยโอกาส คือไปเห็นอย่างนั้นมะนาวจะสงสารด้วย เห็นปัญหาสังคมเยอะ เด็กมีปัญหา ขาดความอบอุ่น มะนาวก็ค่อนข้างจะเห็นความสำคัญของการปลูกฝังเรื่องการศึกษามาก”
สาวมะนาวเล่าถึงความฝันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ดวงตาเป็นประกาย “ครูก็เป็นอาชีพที่มะนาวใฝ่ฝัน และอยากเป็นอันดับหนึ่ง อยากทำงานอยู่ในวงการอย่างนี้ ได้อยู่กับเด็กๆ คุณแม่ก็มีส่วนด้วย เพราะตอนเด็กเห็นแม่สอนเด็กประถม เราก็ชอบเล่นเป็นครู ชอบเลียนแบบ เห็นแม่ตรวจข้อสอบเด็ก เราก็เล่นตรวจข้อสอบเด็ก หลังๆ มีการช่วยแม่ตรวจด้วย ก็รู้สึกว่าสนุกดี แล้วพอโตขึ้นเห็นเด็กๆ ที่แม่สอน เขารักแม่เรา ทำให้รู้สึกว่ามันเป็นความรักที่รู้สึกดีจังเลยนะ อยู่ๆ มีเด็กมารักเต็มไปหมดเลย ถึงเทศกาลต่างๆ ก็มีเด็กเอาดอกไม้มาให้คุณครู การที่คนๆ หนึ่ง ทำให้เด็กมารักเยอะๆ ได้ มันรู้สึกดีน่ะค่ะ ตอนนี้ยังไฟแรง คิดว่าเราน่าจะเป็นคุณครูได้ แต่ก็มีส่วนที่กลัวด้วย เพราะว่าการที่จะสอนคนๆ หนึ่งมันยาก สิ่งที่เราสอนมันเป็นพื้นฐานของชีวิตของเขาเลย ที่กลังก็เพราะคิดว่าตัวเองยังมีประสบการณ์ไม่เพียงพอ ยังต้องหาความรู้เพิ่มขึ้นไปอีก”
ตัวแทนรักโลก 2 ปีซ้อน
สังเกตว่าปีที่ผ่านมา พรีเซ็นเตอร์โครงการ 7 สี ปันรักให้โลก จะใช้ตัวแทนเป็นนักแสดง หรือนักข่าวของทางช่อง แต่พอมีการจัดประกวดก็ได้นักศึกษา 2 คน ที่เป็นตัวแทนของวัยรุ่น ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพราะมีตัวอย่างจากคนรุ่นใหม่ในการเข้าถึงเรื่องการรักสิ่งแวดล้อมทำให้เป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น
“ทางช่อง 7 ประกาศรับสมัครการประกวดพรีเซ็นเตอร์โครงการ 7 สี ปันรักให้โลก มะนาวเห็นสื่อจากทางทีวี และอินเทอร์เน็ต ก็คิดว่าน่าสนใจ เพราะเทรนด์ลดโลกร้อนกำลังมา มีสื่อหลายสื่อประชาสัมพันธ์เยอะแยะ และโครงการนี้เป็นอะไรที่วัยรุ่นค่อนข้างจะสนใจ ก็เลยมาสมัครประกวดกับคู่เพื่อน (แบงค์-ปรัชญ์ธนวิชญ์ ฆฤตภูวิภาคย์) มะนาวมองว่าโครงการนี้ได้ทั้งประสบการณ์ใหม่ๆ และก็ได้ความรู้ด้วย”
และด้วยความที่มีบุคลิกน่ารักๆ เป็นตัวของตัวเอง จากผลงานที่ผ่านมาเธอตั้งใจทำงานเรื่องเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างจริงใจ ทั้งการทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดี ทั้งหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลสิ่งแวดล้อมตลอด ทำให้ทางโครงการเห็นถึงศักยภาพ และให้เธอเป็นพรีเซ็นเตอร์โครงการปันรักให้โลกต่ออีกเป็นปีที่ 2
“ตอนได้รางวัลชนะเลิศของปี 3 ก็รู้สึกดีใจและก็ภูมิใจมาก เหมือนเราก็ตั้งใจมาก เพราะต้องแบ่งเวลากับเรื่องเรียนและเรื่องอื่นด้วย การประกวดก็จะแบ่งเป็นรอบ มีไปทำกิจกรรมเก็บขยะ ทางโครงการก็จะให้โจทย์มาแล้วให้เราไปทำ มะนาวได้โจทย์เรื่องบ้านประหยัดพลังงาน แล้วก็ทำชุดรีไซเคิล ถึงเราจะชอบประดิษฐ์แต่เรื่องทำชุดรีไซเคิลก็ยากนะ ต้องไปหาข้อมูลเยอะมาก คือเราต้องรู้เรื่องวัสดุรีไซเคิลจริงๆ ต้องทำให้กรรมการเชื่อถือ และคนดูเขาเชื่อได้ว่าเราทำตรงนี้จริงๆ
พอได้เข้ามากิจกรรมกับทางช่องหลายๆ อย่าง ก็ทำให้เราเปลี่ยนแนวคิดในหลายๆ เรื่อง ตั้งแต่เรื่องการดำเนินชีวิต เพราะว่าเราเป็นตัวแทน เป็นพรีเซ็นเตอร์ มันเหมือนมีคนคอยมองเราอยู่ อย่างเพื่อนรอบข้างเขาก็คอยมองนะ ว่าเราจะเป็นยังไง จะเปลี่ยนแปลงยังไงบ้าง และเราได้เข้าไปทำงานเบื้องหน้า เป็นพิธีกรของโครงการ ถ่ายสารคดี เราก็จะมีความรู้มากขึ้น มันก็ทำให้เราเปลี่ยนไป”
รักโลกง่ายๆ แค่ใส่ใจสิ่งรอบตัว
เธอบอกว่าการประหยัดพลังงาน การรักโลกไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย เพียงเริ่มจากประหยัดไฟ เริ่มจากการใส่ใจสิ่งใกล้ตัวก่อน เช่นการรีไซเคิลสิ่งของ เท่านี้ก็ช่วยโลกได้มากแล้ว
“เมื่อก่อนเราก็ประหยัดไฟ แต่ไม่ได้คิดว่าช่วยลดโลกร้อนหรอกนะ เรางก (หัวเราะ) แต่พอได้อ่านข้อมูล พอมีความรู้ มันก็จะแว้บขึ้นมาในหัวว่าไม่สนใจไม่ได้แล้วนะ เราต้องช่วยประหยัดไฟ พอมาอยู่ตรงนี้ก็ทำให้เราคิดถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อย่างชีตที่เรียนมีเยอะมาก เราใช้ด้านเดียวมาตลอดเลย เดี๋ยวนี้เปลี่ยนมาใช้สองด้าน”
วัยรุ่นสมัยนี้ บางคนอาจจะยังไม่เห็นความสำคัญของเรื่องสิ่งแวดล้อมมากนัก เพราะคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว หรือไม่ก็ลืมที่จะใส่ใจสิ่งรอบข้าง ซึ่งตัวมะนาวหลังจากได้ร่วมกิจกรรมกับโครงการฯ มาตลอดก็มีความคิดว่าอยากจะให้วัยรุ่นเห็นถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม และหันมาดูแลอย่างจริงจัง
“มะนาวว่าวัยรุ่นก็ให้ความสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้นนะ แต่ก็มีบางส่วนที่ดูไม่สนใจ แต่พอมีสื่อรณรงค์เรื่องโลกร้อนมาเยอะๆ คนก็ให้ความสนใจมากขึ้น คนจะเริ่มสนใจดูแลตัวเองมากขึ้น อย่างการเลือกรับประทานอาหาร ทุกสิ่งในชีวิตประจำวันมันแทรกซึมเรื่องการรักโลกได้หมด
วัยรุ่นส่วนใหญ่อาจจะจะยังขอเงินคุณพ่อคุณแม่ใช้อยู่ อาจจะยังไม่เห็นค่าเพราะได้มาง่าย ก็อยากจะให้วัยรุ่นปลูกฝังความคิดว่า ทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ หรือได้มาฟรีๆ มันต้องลงแรง ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว สิ่งของที่เราใช้ก็มาจากธรรมชาติ ถ้าไม่มีธรรมชาติเราก็อยู่ไม่ได้หรอก ยกตัวอย่างปีที่ผ่านๆ มา เกิดมหันตภัยทางธรรมชาติเยอะ มีคนเสียชีวิต อันนี้ทำให้คนตระหนักเลยหละว่าทำร้ายธรรมชาติเยอะแล้วนะ แล้วมันเริ่มส่งผลเข้ามาใกล้ตัวมากขึ้น อย่างทุกวันนี้ฝนก็ยังตกผิดฤดูกาล ซึ่งก็เห็นชัดอยู่แล้วว่าเราต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตแล้ว อย่างที่เห็นวัยรุ่นขับรถมาเรียน ก็อยากให้เปลี่ยนมาใช้รถโดยสารประจำทาง หรือรถไฟฟ้า นอกจากประหยัดเวลาแล้ว ยังทำให้ลดมลพิษในท้องถนนได้ด้วย
การที่เราเป็นตัวแทนเรื่องสิ่งแวดล้อมตรงนี้ ทางมหา'ลัยก็ให้ความสนใจ มีมาถาม มาสัมภาษณ์ เพื่อกระจายโครงการรักโลกในมหา'ลัย เราก็รู้สึกเหมือนเป็นกระบอกเสียงอีกกระบอกเสียงหนึ่ง พรีเซ็นเตอร์โครงการนี้ถ้ามีแต่นักแสดง นักข่าว คนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัวหรือเปล่า พอเป็นนักศึกษา เป็นเพื่อนๆ กัน รณรงค์ให้คนหันมาสนใจสิ่แวดล้อม มันก็ดูเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น เราก็แบ่งเวลาเรื่องเเรียนกับทำงาน ต้องใช้ความรับผิดชอบมากขึ้น”
ยังไม่สนใจงานในวงการบันเทิง
พอได้เข้ามาชิมลางในวงการบันเทิงเบื้องหน้าอย่างงานพิธีกร และทำกิจกรรมต่างๆ จากที่เคยเป็นสาวขี้อาย ไม่ค่อยพูด ก็เปลี่ยนเป็นคนที่พูดเก่งมากขึ้น พัฒนาบุคลิกของตัวเองให้ดีขึ้น และมีทักษะการเป็นพิธีกรที่มีความน่ารักสดใส และเป็นตัวของตัวเอง มีน้ำเสียงฉะฉาน และมีความรู้จริงๆ เห็นเธอสนุกสนานกับงานพิธีกรแต่พอถามถึงความสนใจงานในวงการบันเทิงด้านอื่นๆ เธอกลับบอกว่าตอนนี้ยังไม่คิดที่จะทำงานในวงการบันเทิงอย่างเต็มตัว เพราะต้องให้ความสำคัญกับการเรียน และหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบให้ดีก่อน
“งานส่วนใหญ่ก็จะเป็นตัวแทนไปชุมชนต่างๆ ที่มีแนวคิดเกี่ยวกับการรักสิ่งแวดล้อม ไปเป็นพิธีกรภาคสนาม ไปมอบรางวัล ปีนี้ก็ยังทำหน้าที่เป็นตัวแทน เป็นกระบอกเสียงให้สื่อได้รับรู้ว่าโครงการได้ดำเนินไปอย่างไรบ้าง งานพิธีกรอาจจะยังใหม่สำหรับมะนาว แต่ก็พยายามดึงความเป็นตัวเองออกมามากที่สุด เราก็ใช้วิธีดูตัวอย่างจากรายการต่างๆ ดูจากคนรอบตัว แต่ก็ไม่ใช่แบบก็อปปี้เขามา ก็คือต้องดูแล้วมาปรับให้เหมาะสมกับตัวเอง และต้องเป็นสิ่งที่ตัวเองชอบด้วย มะนาวจะมีไฟเยอๆ ตอนโดนจี้ (หัวเราะ) คิดว่าเรายังต้องพัฒนาตัวเองหลายด้านเลยค่ะ เรื่องบุคลิกภาพ เรื่องการพูด เราก็ใช้การพูดตอนที่เรียนเพื่อสอนเด็กอยู่แล้ว แต่งานพิธีกรมันเป็นอีกแนวหนึ่ง ต้องพูดให้น่าเชื่อถือ และต้องมีความรู้จริงๆ เพราะว่าเราเป็นคนที่ไม่ได้รู้ไปซะหมด เราเป็นคนที่ต้องหาความรู้ตลอดเวลาอยู่แล้ว
เมื่อก่อนอาจจะเป็นคนเงียบๆ ไม่กล้าถาม นั่งเงียบ ถึงสงสัยก็ไม่ถาม จะเป็นคนแบบนั้น ตอนนี้เวลาอยู่ในห้องเรียนจะกล้าถามมากขึ้น เหมือนถามมากก็รู้มาก เดี๋ยวนี้ก็จะกล้าพูดมากขึ้น เป็นคนช่างพูดมากขึ้น การแต่งตัวก็ แต่งตัวแบบง่ายๆ ใส่อะไรก็ได้ เดี๋ยวนี้ก็ต้องอยากให้ตัวเองดูดีนิดหนึ่ง เราก็ต้องการพัฒนาตัวเองเรื่องบุคลิกภาพ
ปีนี้ที่มีเพิ่มมาก็จะมีโครงการปันรู้ปันรัก เป็นการทำสื่อการเรียนการสอน ให้กลุ่มนักเรียนในระดับประถม ตามจังหวัดต่างๆ มะนาวก็ได้ใช้สิ่งที่เรียนมาใช้ในการทำกิจกรรม กับเด็กๆ นอกจากจะได้ความสนุกสนาน น้องๆ ก็จะได้ความรู้ที่สอดแทรกเข้าไปด้วย
ส่วนเรื่องงานในวงการบันเทิงตอนนี้มะนาวยังไม่สนใจ เพราะตอนนี้ทั้งเรื่องเรียน เรื่องกิจกรรมก็ค่อนข้างเยอะแล้วเหมือนกัน มะนาวก็เรียนถึงปีสูงๆ แล้ว เรียนใกล้จะจบแล้ว งานที่มหา'ลัยก็ค่อนข้างเยอะ ก็โฟกัสสองอย่างนี้ให้ทำให้ดีก่อน”
ทำดีเพื่อคุณแม่
ด้วยความที่ถูกเลี้ยงดูมาโดยคุณแม่คนเดียว และพี่สาว เพราะคุณพ่อเสียชีวิตตั้งแต่เด็ก ทำให้เธอใกล้ชิด และผูกพันธ์กับคุณแม่มาก บวกกับการเลี้ยงดูแบบปลูกฝังความคิดดีๆ และเหตุผล ทำให้เธอมีความเป็นผู้ใหญ่ มีมุมมองความคิด รับผิดชอบตัวเอง และสังคม เธอมองว่าคุณแม่คือฮีโร่คนเก่งสำหรับเธอ และอยากจะเป็นทำความดีเพื่อทำให้คุณแม่ภูมิใจ
“มะนาวอยู่กับคุณแม่ และพี่สาวชื่อมะเหมี่ยวอายุห่างกัน 6 ปี คุณพ่อเสียชีวิตตั้งแต่เด็ก คุณแม่เลี้ยงดูมะนาวและพี่สาวด้วยตัวคนเดียวมาตลอด คุณแม่ไม่เคยตีมะนาวเลยนะ ท่านจะใช้คำพูด มะนาวคิดว่าท่านก็สอนมะนาวคล้ายๆ กับสอนนักเรียน แต่วิธีการสอนของท่านไม่ใช่การมาบอกตรงๆ เหมือนท่านจะลองให้เราทำไปก่อน ผิดถูกยังไง ท่านมาสอนทีหลัง ว่าเห็นไหม และก็ให้ข้อคิดดีๆ เยอะ เพราะบางอย่าง สิ่งที่เราไม่รู้ถ้ามีคนมาบอกเราก็ยังไม่เชื่อหรอก ยังนึกภาพไม่ออก เพราะฉะนั้นเวลาเราอยากทำอะไร ชอบอะไร ท่านจะบอกว่า ทำเลยลูก
อย่างเรื่องเรียนคุณแม่ไม่เคยบังคับเลยนะ ท่านจะให้อิสระเต็มที่ อยากเรียนอะไรเรียนเลย แต่การที่เราไม่ถูกกดดัน ไม่ถูกบังคับ มันทำให้เรากลายเป็นคนที่อยู่ในกรอบเอง เหมือนท่านดีกับเรา เราก็อยากเป็นคนดีของท่าน ยิ่งคุณแม่เลี้ยงเราคนเดียวมาตลอด เห็นท่านเหนื่อย เราก็ยิ่งไม่ทำตัวไม่ดี ทำให้เราคิดถึงเขาเยอะๆ
การที่เรามีคุณแม่ก็ทำให้เรามีความคิดเรื่องเกี่ยวกับการศึกษาเข้ามาในหัวอยู่ตลอด เพราะว่าเราอยู่ในสถาพแวดล้อมแบบนี้ ยังไงก็เห็นความสำคัญเรื่องการศึกษาที่สุด
มะนาวเรียนที่โรงเรียนในจังหวัดระยองมาตลอด พอเข้ามหา'ลัย ต้องเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ คนเดียว คุณแม่ก็เป็นครูอยู่ที่นั่น พี่สาวก็กลับไปทำงานอยู่ที่บ้าน คิดดูว่าการอยู่คนเดียว ในกรุงเทพฯ จากที่เคยอยู่บ้าน มีคุณแม่ มีพี่สาว แต่อยู่ที่นี่ต้องอยู่คนเดียว ทำเองทุกอย่าง ไม่มีคนมาคอยจ้ำจี้จ้ำไช เวลากินข้าวก็กินข้าวคนเดียว ตอนแรกแทบจะอยู่ไม่ได้ นอนร้องไห้ทุกคืน โทรคุยกับคุณแม่ทุกวัน แต่มะนาวไม่เคยร้องไห้ให้คุณแม่เห็นเลย มีแต่แอบร้องไห้คนเดียว แต่พอเวลาผ่านไป ก็ทำให้เราใช้ชีวิตเป็นมากขึ้น ยังไงเราก็ต้องเข้มแข็งให้คุณแม่เห็น ยังไงก็ต้องอยู่ให้ได้ เราก็คิดว่าคนอื่นเขายังอยู่ได้เลย ทำไมเราจะอยู่ไม่ได้
จากที่เคยเป็นเด็กน้อย พอได้เยอะประสบการณ์หลายๆ อย่าง ทำให้ได้เรียนรู้มากขึ้น เราก็คิดว่าเราน่าจะพัฒนาตัวเองได้ดีกว่านี้ มะนาวได้ทำกิจกรรมเยอะทั้งที่มหา'ลัย และงานของช่องด้วย ได้พบปะเพื่อนใหม่ๆ เมื่อก่อนมะนาวจะเป็นตัวแทนนิสิตงานประเพณีฟุตบอลฯ เป็นนางนพมาศของคณะตอนปี 1 เวลามีงานจุฬาวิชาการ ก็มีกิจกรรมที่เราต้องคิดแล้วว่าจะทำอะไรดี ได้ทำกิจกรรมเยอะแยะ ก็สนุกดี วิชาที่เรียนก็ค่อนข้างจะได้ไปเข้าค่ายเยอะ ค่ายอาสา ทำกิจกรรมให้เด็กตามมูลนิธิฯ เคยไปคัดลีดฯ แล้วได้ แต่ต้องซ้อมหนัก ถึง 4 ทุ่ม ก็เลยไม่สามารถเป็นได้ ก็เสียดาย ไม่งั้นก็อาจจะทำอะไรได้มากกว่านี้”
ความสุขคือการเป็นตัวของตัวเอง
เห็นเธอดูเป็นผู้หญิงที่มีความสุข มีความเป็นตัวของตัวเอง มีความเชื่อมั่น และรักในสิ่งที่ทำ ไลฟ์สไตล์ยามว่างเธอก็คือสิ่งที่ง่ายๆ สบายๆ อย่างอ่านหนังสือ เล่นอินเทอร์เน็ต เธอบอกว่าสิ่งที่ทำให้เธอมีความสุขจริงๆ ก็คือการได้ใช้ชีวิตกับสิ่งที่ตนเองรัก และเลือกที่อยากจะทำจริงๆ ไม่ต้องตามกระแส หรือเลียนแบบใคร
“เวลาว่างมะนาวก็ชอบเล่นอินเทอร์เน็ต จะดูแลตัวเอง ส่วนใหญ่เรื่องสุขภาพ กินอะไรแล้วดี มีกินวิตามินเสริมบ้าง ยิ่งอายุเพิ่มขึ้น เรียนหนัก นอนน้อย ก็ต้องหันมาดูแลตัวเอง ไม่อย่างนั้นจะโทรม แล้วก็มีไปเล่นฟิตเนส ไปสปาบ้าง หาอะไรหลากหลายที่ไม่เคยทำ แล้วก็ทำด้วย ชอบอ่านหนังสือนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ อย่างเรื่องดาวินชีโค้ด ชอบอ่านเรื่องที่เป็นข้อเท็จจริงและเป็นนิยายด้วย อ่านแล้วได้ความรู้ ได้ประสบการณ์ เหมือนเป็นอีกโลกหนึ่ง แนววิทยาศาสตร์ ความรู้ใหม่ๆ ก็ชอบอ่าน
มะนาวเป็นคนชอบเก็บความรู้เล็กๆ น้อยๆ มะนาวคิดว่าทุกอย่างเอาประยุกต์ใช้ได้หมด เราก็ต้องติดตามข่าวบ้าง เพื่อให้ทันโลกนิดหนึ่ง ส่วนตัวจะชอบประดิษฐ์ของสร้างสรรค์ แบบ DIY พอช่วงวันหยุดมะนาวจะใช้เวลาประดิษฐ์ของเล่นน่ารักๆ ชอบอยู่กับอะไรแบบนี้
การอยู่กับตัวเองแล้วรู้ว่าตัวเองมีความสุข ทำในสิ่งที่ชอบ ได้รู้ว่าตัวเองกำลังคิดอะไร อย่างบางคนเหมือนใช้ชีวิตตามคนอื่น ตามกระแส โดยไม่รู้ว่าตัวเองคิดอะไร ทำให้ไม่รู้ว่าตัวเองจะเป็นยังไง แต่พอเราได้รู้ตัวเอง รู้ว่าเราคิดอะไร ชอบอะไร อยากทำอะไร แล้วได้ทำ มะนาวว่ามันเป็นอะไรที่มีความสุขที่สุดแล้ว
ถ้าให้พูดถึงตัวตนมะนาวมีหลากหลายบุคลิก จะห้าวก็ได้ หวานก็ได้ แต่ทุกอย่างก็คือมะนาวนี่แหละ ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม ก็จะเป็นที่ปรับตัวไปตามสถานการณ์นั้นๆ ไม่ได้นั่งเงียบไป หรืออยู่กับอาจารย์จะให้ร่าเริงเกินไปก็ไม่ใช่ เวลาอยู่กับเพื่อนก็จะเฮฮา สนุกสนาน ชอบพูดชอบคุย เป็นคนที่รับฟังคนอื่น อาจจะแก้ปัญหาชีวิตเขาไม่ได้ แต่การรับฟังมันทำให้เขาไว้ใจเรา แล้วเราได้ใจเขาด้วย
มะนาวค่อนข้างมองโลกในแง่บวก ตอนเด็กเราไม่เคยเจอเรื่องแย่ๆ เราก็เป็นคิดในแง่บวกอยู่แล้ว แต่พอเจอเรื่องแย่ๆ ไม่ไว้ใจใคร ก็ทำให้เราเป็นคนเก็บความรู้สึกมากขึ้น พอได้เจอคนที่หลากหลายแบบ ก็ทำให้เราได้ความคิดว่าต้องมองคนหลายๆ มุม แต่เราก็คิดว่าทุกคนไม่มีใครไม่ดีไปซะหมดหรอก ทุกคนมีข้อดีของตัวเองอยู่แล้ว อยู่ที่เขาจะใช้ด้านไหนกับเรา นิสัยไม่ดีก็มี คิดว่าปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ อยู่ที่เราจะทำหรือไม่ทำมากกว่า”
ความรักเป็นสิ่งสวยงาม
หน้าตาน่ารัก แถมยังนิสัยดีขนาดนี้ เชื่อว่าต้องมีหนุ่มๆ มาจีบเยอะแน่ๆ พอถามเรื่องความรัก เธอกลับหัวเราะไปตอบไป “ไม่ค่อยมีคนมาจีบค่ะ ผู้ชายที่รู้จักส่วนใหญ่ก็จะเป็นเพื่อนกันหมดเลย อาจจะเป็นเพราะเราเป็นคนเฮฮา แล้วเราก็ไม่ค่อยมีเวลา เพราะต้องเรียนก่อน ยังเรียนไม่จบก็ไม่สามารถคบใครได้ขนาดนั้น แต่ถ้าถามถึงมุมมองความรัก มะนาวมองว่าความรักเป็นสิ่งที่ดีที่สวยงามที่ใครมีให้กันมันก็มีความสุขอยู่แล้ว แต่ความรักสำหรับมะนาวต้องไม่ทำร้ายใครทั้งตัวเราและคนอื่น ค่อนข้างจะอยู่บนความรับผิดชอบต่ออะไรหลายๆ อย่าง
สเปกชอบคนที่เป็นผู้ใหญ่ เป็นผู้นำ แล้วก็มีความคิด มะนาวไม่ชอบคนไม่ทำอะไร ท้อง่าย หรืออ่อนแอ แล้วชอบคนนิสัยเฮฮาด้วย หายากเนอะ (หัวเราะ) แล้วก็รักที่เราเป็นเรา มีความรับผิดชอบ รู้หน้าที่ของตัวเอง ชอบคนคิ้วเข้มๆ (หัวเราะ)”
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ-สกุล : ภัทรวดี ศรีธาราม
ชื่อเล่น : มะนาว
เกิดวันที่ : 25 พฤษภาคม 2531
ประวัติการศึกษา : มัธยมโรงเรียนระยองวิทยาคม, กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นปีที่ 4 คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ผลงาน : พรีเซนเตอร์โครงการ 7 สีปันรักให้โลกปี 3-4
ข่าวโดยทีมข่าว M-Lite/ASTV สุดสัปดาห์
ภาพโดย พลภัทร วรรณดี