xs
xsm
sm
md
lg

กวาดล้าง ‘ยาปลุกเซ็กซ์’ เถื่อน ของปลอมไม่กลัว...แต่กลัวไม่ได้สุขสมอารมณ์หมาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ในปัจจุบันยาปลุกเซ็กซ์หาซื้อได้ไม่ยาก และเป็นที่นิยมของคนที่อยากมีสมรรถภาพทางเพศเพิ่มขึ้น ล่าสุด นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ได้ออกมาแถลงข่าวจับกุมแผงลอยขายยาปลุกเซ็กซ์ปลอม ย่านสุขุมวิทจำนวน 10 แผง ย่านคลองถม 7 แผง และย่านเยาวราชอีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนั้นยังมีอุปกรณ์เซ็กซ์ทอยขายอีกด้วย โดยมูลค่าของกลางทั้งสิ้นกว่า 500,000 บาท

ที่น่าตกใจก็คือทั้งหมดเป็นยาปลอมที่มีตัวยาไม่ได้คุณภาพ หรือไม่ก็มีปริมาณเกินขนาดมาตรฐานซึ่งอาจจะนำอันตรายมาสู่ผู้ใช้ได้ แต่แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าการใช้ยาที่ไม่ได้มาตรฐานเหล่านี้ จะนำอันตรายมาสู่ชีวิต แต่คนส่วนมากก็ไม่ได้สนใจ ทั้งยังมีการใช้ยาเหล่านี้กันอย่างกว้างขวาง นั่นเป็นเพราะอะไรกัน?

ทำไมต้องสร้างเสริมสมรรถภาพทางเพศ

นิยามโดยรวมของคำว่า ‘ยาปลุกเซ็กซ์’ ซึ่งถ้าหากจะแบ่งย่อยลงไปแล้ว มีความหมายอยู่ 2 ลักษณะ โดยความหมายแบบแรกนั้น หมายถึง สิ่งที่นำมาใช้กับตนเอง เพราะเชื่อว่ามันจะส่งผลให้สมรรถภาพทางเพศของตนที่ด้อยลงกลับมาคึกคักฟิตปั๋งอีกครั้ง ซึ่งโดยมากจะเป็นมนุษย์เพศชายที่ประสบปัญหาในเรื่องนี้ ส่วนของที่นำมาใช้ก็จะแบ่งย่อยลงไปอีกเป็นยาบำรุงที่มีทั้งรูปแบบของยาสมุนไพรและอาหารเสริมแผนปัจจุบัน (จำพวกวิตามินรวมผสมซิงค์และธาตุเหล็ก) ส่วนอีกแบบก็คือยาที่ออกฤทธิ์ทันทีจำพวกไวอากร้า

ส่วนอีกความหมายหนึ่ง ยาปลุกเซ็กซ์ หมายถึงยาที่ใช้กับคนอื่น ทั้งนี้เพื่อให้เป้าหมายเกิดอารมณ์ทางเพศ ยาเหล่านี้เป็นที่รู้จักกันในนามของ ทิงเจอร์ขาว แมลงวันสเปน ฯลฯ ซึ่งทั้งหมด ก็ไม่มีใครยืนยันได้ว่ามันใช้ได้ผลหรือไม่ หรือว่ามีอันตรายต่อร่างกายเพียงใด

ส่วนในเรื่องของสาเหตุที่ยาเหล่านี้นิยมใช้กันมากในหมู่ชายไทยนั้น ผศ.นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ สูตินารีแพทย์ชื่อดัง ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านเพศศึกษา อธิบายว่า จริงๆ แล้วเซ็กซ์นั้นถือเป็นสิ่งเกิดคู่มากับมนุษยชาติ เพราะฉะนั้น คนเราจึงมีสัญชาตญาณของการเจริญพันธุ์อยู่ในตัวเอง ขึ้นอยู่กับว่าจะแสดงออกหรือไม่ก็เท่านั้นเอง ที่สำคัญเซ็กซ์ยังเป็นสัญลักษณ์สำคัญของการมีความสุขร่วมกัน เมื่อแต่ละคนมีความผูกพันทางกายขึ้นมา ก็จะทำเกิดการติดอกติดใจขึ้น รวมไปถึงการแสวงหาเซ็กซ์ในรูปแบบต่างๆ แต่ปัญหาเมื่อผู้ชายอายุถึงวัยหนึ่งก็จะเกิดความเสื่อมทางเพศ เพราะฉะนั้น จึงต้องหาอะไรสักอย่างเพื่อมาปลุกระดมให้ตัวเองมีสมรรถนะทางเพศเหมือนดั่งเดิม เช่นเดียวกับผู้หญิง เมื่อถึงวัยหนึ่งก็รู้สึกไม่อยากจะมีเซ็กซ์ เพราะฉะนั้น เมื่อผู้ชายอยากมี แต่ผู้หญิงไม่อยากมี ก็เป็นหน้าที่ของผู้ชายที่จะต้องหาอะไรสักอย่างมาปลุกเร้าให้ผู้หญิงอยากมีเซ็กซ์เช่นเดียวกัน และนั่นก็คือที่มาของคำว่า 'ยาปลุกเซ็กซ์'

"เรื่องหนึ่งที่มีการพูดถึงกันมากก็คือ ยาปลุกเซ็กซ์นี้มีจริงๆ หรือไม่ ซึ่งถ้าเราจะใช้คำใกล้เคียงที่สุดก็น่าจะเป็นคำภาษาอังกฤษที่ว่า อะโพดิซิแอ็ค (Aphrodisiac) ซึ่งพ้องมาจากคำว่า อะโพรไดส์ (Aphrodite) ซึ่งเป็นเทพธิดาแห่งความรักของในยุคกรีกโบราณ ซึ่งถือกำเนิดมาจากท้องทะเล คนก็เลยเชื่อมาตั้งแต่ตอนนั้นว่า อาหารที่มาจากทะเล เช่น หอยนางรม หรือหอยอะไรก็แล้วแต่ กินเข้าไปแล้วจะปลุกเร้าอารมณ์ได้ดี แต่ถ้าเรามองทางวิทยาศาสตร์ ก็จะพบหอยต่างๆ นั้นมีแร่ธาตุสังกะสี และคอเลสเตอรอลในระดับสูง ซึ่งคอเลสเตอรอลนี้ถือเป็นสารตั้งต้นในการสร้างฮอร์โมนเพศ เพราะฉะนั้นถ้าได้ไปเยอะ ก็สามารถสร้างฮอร์โมนเพศได้เยอะ ส่วนแร่ธาตุสังกะสีก็จะเป็นตัวกระตุ้นฮอร์โมนขับถ่าย ซึ่งพอรวมๆ กันแล้วก็เลยแปลว่า กินหอยก็น่าจะทำให้ฮอร์โมนเพศชายสูงขึ้นตามทฤษฎี ส่วนผู้หญิงถ้ามีฮอร์โมนเพศชายในระดับที่พอเพียง เวลาโดนปลุกเร้าอารมณ์ก็จะตอบสนองอารมณ์ได้ดีไปด้วย

"นอกจากนี้ยังมีของแปลกๆ อย่างเขากวางอ่อน ซึ่งต้องนำไปแช่เหล้า เพราะมีความเชื่อกันว่าถ้านำไปแช่เหล้าสารจะออกไปอยู่ในเหล้า แต่ในความเป็นจริง ตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดความคึกคักก็คือเหล้าที่กินเข้าไปนั่นแหละ เพราะถ้ากินไปปริมาณนิดหน่อย เส้นเลือดก็จะขยาย หัวใจก็จะเต้นแรง เลือดก็สูบฉีดไปเยอะ ส่วนสติสัมปชัญญะก็เริ่มจะคุมไม่อยู่ อารมณ์ที่ไม่ค่อยจะดีก็ดีขึ้นมากะทันหัน ที่ไม่อยากจะทำก็เริ่มอยากจะทำ แบบนี้แหละมันก็เลยเสมือนว่าถ้ากินยาโด๊ปพวกนี้ไปก็จะคึกคัก คือคนทั่วไปอาจจะคิดว่า อวัยวะเพศนั้นอยู่ที่ระหว่างขา แต่ที่จริงนั้นอยู่ที่ระหว่างหูต่างหาก นั่นก็คือสมอง เพราะสมองเป็นตัวสั่งให้อวัยวะเพศจริงๆ ทำงาน พูดง่ายๆ คือสมองเป็นระดับนายพล แต่คนที่ปฏิบัติการนั่นเป็นระดับนายสิบ ดังนั้นอะไรที่มีผลต่อสมองนั้นก็ย่อมมีต่ออารมณ์ทั้งนั้นแหละ"

เพราะฉะนั้น ยาปลุกเซ็กซ์ที่ระบาดจึงไม่ต่างจากสินค้าที่ออกมาเพื่อสนองความต้องการของผู้คนตามหลักอุปสงค์-อุปทานเท่านั้นเอง เพราะถึงทุกวันนี้ก็ไม่มีใครสามารถยืนยันหรือพิสูจน์ได้ว่า ยาเหล่านั้นจะสามารถช่วยปลุกเซ็กซ์จริงๆ ตามที่กล่าวอ้างหรือไม่

"ของพวกนี้เป็นอุปทานหมู่ เป็นเรื่องที่ถูกชักจูงได้ง่าย คือเขาก็หาคนมาพูดว่าได้ผลอย่างนั้นอย่างนี้ แต่คนรู้ได้อย่างไรว่าได้ผลจริงๆ มีอะไรพิสูจน์ และยิ่งหากมีคนพูดเยอะๆ ว่าใช้แล้วดี เราคนไม่ใช้ก็อาจจะรู้สึกไม่ดีก็ได้ เพราะเราต้องไม่ลืมว่านี่ก็คือการค้าขายอย่างหนึ่ง ซึ่งนำจิตวิทยาเข้ามาช่วย ของพวกนี้ถ้าคุณรักกัน สมองแจ่มใส เรื่องนี้มันก็ดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ยาอะไรมาช่วย"

เมื่อรู้สึกว่าป่วยก็ต้องการการรักษา

ถึงแม้ปัญหาทางเพศของมนุษย์ส่วนใหญ่มักจะเป็นปัญหาด้านจิตใจ อย่างที่หมอพันธ์ศักดิ์ว่าไว้ แต่กระนั้น ปัญหา 'นกเขาไม่ขัน' หรือ 'นกกระจอกไม่ทันจะกินน้ำ' ก็เป็นปัญหาที่มีสาเหตุจากความไม่พร้อมทางร่างกายร่วมด้วย

ในกรณีนี้ การรักษาด้วยยาจึงเป็นหนทางออกทางหนึ่ง โดย ปัญญาภรณ์ ทรงสุนทรวงศ์ เภสัชกรหญิงที่มีความรู้ในด้านนี้ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับยาเสริมสรรถภาพทางเพศที่นิยมใช้กันว่า หากแยกชนิดแล้วยาจะแบ่งออกเป็นยารับประทาน และยาทาเฉพาะที่

“ยารับประทาน อย่างเช่น ยาไวอะกร้า (Viagra) ที่เราเคยได้ยินกัน ยาพวกนี้จะมีผลต่อการขยายตัวของหลอดเลือดแดงที่อวัยวะเพศชาย และทำให้คงตัวในระยะเวลาหนึ่งจนเกิดการร่วมที่สมบูรณ์ได้ ยากลุ่มนี้จะเป็นยาควบคุมพิเศษ ไม่สามารถจำหน่ายได้อย่างแพร่หลาย เพราะถ้ายาเหล่านี้ไม่ถูกควบคุมจนคนใช้อย่างแพร่หลาย แล้วนำไปใช้อย่างไม่ถูกต้องก็จะเป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งตอนนี้นอกจากไวอะกร้าก็มียาคุณสมบัติแบบเดียวกันนี้หลายยี่ห้อ

“ส่วนยาทานั้นจะเป็นยาที่มีฤทธิ์ทำให้เกิดอาการชาที่อวัยวะเพศ ทำให้สามารถร่วมเพศได้นาน แต่ตัวนี้ค่อนข้างปลอดภัย เพราะยาทาจะออกฤทธิ์เฉพาะที่ จึงมีโทษน้อยกว่ายาที่รับประทานเข้าไป แล้วมีผลต่อหลอดเลือด ดังนั้นจึงไม่จัดเป็นยาควบคุม นอกจากนี้ก็จะมีประเภทยาบำรุงกำลังเพศชาย เช่น สมุนไพร โสม ยาเหล่านี้จัดเป็นกลุ่มอาหารเสริมและไม่มีการควบคุมพิเศษ”

ส่วนเรื่องของยาปลอมที่เพิ่งมีข่าวการจับกุมครั้งใหญ่ไปนั้น ปัญญาภรณ์กล่าวว่า มันอาจมาจากการลักลอบเข้ามา ซึ่งทั้งหมดเป็นยาที่ไม่ได้รับการรับรองโดยองค์กรอาหารและยา (อย.) จึงผิดในแง่ของการเป็นยาไม่มีทะเบียน และบางเป็นยาควบคุมพิเศษที่ไม่สามารถขายได้ ถ้าไม่มีการจ่ายยาโดยแพทย์ ฉะนั้น ถ้าเห็นยาเหล่านี้ขายตามข้างถนน ก็ถือได้ว่าเป็นยาปลอม ซึ่งมันทั้งอันตรายที่สันนิษฐานได้ว่าเป็นของที่ไม่มีคุณภาพอีกด้วย

แต่สิ่งที่มนุษย์ใช้ในการเสริมสมรรถภาพทางเพศของตนจึงไม่ได้จำกัดตัวอยู่เพียงแค่ยาแผนปัจจุบัน ตั้งแต่โบร่ำโบราณนานมา เป็นที่รู้กันดีว่าสมุนไพรจีนที่เรียกกันว่า ‘ยาโป๊ว’ นั้น ก็มีส่วนช่วยในการส่งเสริมสมรรถภาพทางเพศเช่นกัน สมชาย สุวรรณศิลา เจ้าของห้างขายยาลิ้มเซ้งฮึงโอสถ กล่าวถึงยาโป๊วสามารถเสริมสรรถภาพทางเพศได้จริงหรือไม่ สมชาย กล่าวเพิ่มเติมว่า

“มันขึ้นอยู่กับคนไข้เป็นหลัก หมอจะมีภูมิรู้ตรวจคนไข้ออกว่าเขาเป็นอะไร ใช่ได้แต่ไม่เหมือนทุกคนหรอก มันอยู่ที่องค์ประกอบของคนไข้ ยกตัวอย่างก๋วยเตี๋ยวชามหนึ่ง มากันสี่คน บางคนปรุงเผ็ด บางคนปรุงหวาน พวกนี้ก็เหมือนองค์ประกอบยาจำเพาะของแต่ละคนด้วย ฉะนั้นการใช้ยาโป๊วจะช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้ผลหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับตัวคนไข้เองด้วย”

นอกจากจะมีตัวยาที่เสริมสมรรถภาพทางเพศ สมุนไพรโบราณบางตัวก็ว่ากันว่าสามารถใช้ในการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศได้ด้วย

“ตามตำราว่านต่างๆ จะทำให้เกิดอารมณ์ได้ อย่างยาโบราณเขาบอกว่า ว่านดอกทอง พอดอกแย้มแล้วมีกลิ่นหอมถ้าผู้หญิงไปดมดอมก็จะเกิดอารมณ์ทางเพศได้ แต่เป็นความจริงแค่ไหนผมไม่ยืนยันเพราะเป็นเพียงหนังสือที่อ่านกันมา”

ปัจจุบันยาโป๊วก็ยังไดัรับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เรียกว่าเป็นตำนานของยาเสริมสมรรถภาพทางเพศมาหลายยุคหลายสมัย สมชายกล่าวทิ้งท้ายว่า การที่คนนิยมบริโภคยาเสริมสมรรถทางเพศนั้นเพราะเขาไม่มีทางเลือก และด้วยยาโบราณมันมีวิวัฒนาการมาเป็นพันๆ ปี มีความน่าเชื่อถือในเรื่องประสิทธิภาพ และต้นตำหรับยาก็มีการถ่ายถอดกันมาก็จะบอกข้อด้อยและข้อดีอยู่แล้วจึงทำให้เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย

ยาปลุกเซ็กซ์จำเป็นหรือไม่?

และถ้าเราจะถามถึง เรื่องของยาปลุกเซ็กซ์หรือยาเสริมสมรรถภาพ ในความเห็นของคนทั่วๆ ไป ก็จะพบว่า พวกเขาและเธอนั้น รู้จักมันดีพอสมควร และถ้าถึงเวลาจำเป็นเขาและเธอก็อาจจะทดลองใช้มันก็ได้

“ผมมองว่าที่คนเราหันมาใช้ยาเหล่านี้เพิ่มมากขึ้น อาจเป็นเพราะเขาขาดความมั่นใจเรื่องสมรรถภาพทางเพศ เพราะบางคนก็มีอายุมากแล้ว หรือบางคนก็อาจจะมีโรคประจำตัว กลัวว่าจะให้ความสุขแก่คู่รักได้ไม่เต็มที่ ก็เลยเอาสิ่งพวกนี้มาเสริมมาเพิ่มมาเติม ก็มีหลายปัจจัยที่ทำให้หันมาใช้กลุ่มยาเหล่านี้ แต่ถ้าเขาไม่มีโรคส่วนตัวแล้วหันไปใช้ น่าจะเกิดจากการที่เขาไม่มั่นใจในตัวเอง เกรงว่าคู่รักจะไม่มีความสุข”

นั่นเป็นความเห็นของ อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล ที่มีต่อเรื่องของการใช้ของยาปลุกเซ็กซ์ ในสังคมบ้านเรา ซึ่งถ้าวันหนึ่งหากเขามีปัญหาเรื่องสมรรถภาพทางเพศขึ้นมาก็คงลองใช้ดู แต่ก็ต้องดูผลข้างเคียงด้วยว่าจะเกิดอะไรตามมาภายหลังรึเปล่า

ส่วนทางด้าน หญิงสาวอย่าง รชยา เล้งรักษา พนักงานบริษัทเอกชน ก็เห็นพ้องต้องกันว่า ถ้าวันหนึ่งตนเองมีปัญหาเรื่องสมรรถภาพทางเพศขึ้นมา ก็คงต้องหันไปพึ่งยาเหล่านี้

แต่ถึงแม้ว่ายาปลุกเซ็กซ์นั้น มันอาจจะเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้มีปัญหา แต่กับบางคนมันไม่ได้มีความจำเป็นเลย

“คนที่เขาใช้ เขาไม่ได้คิดว่ามันจะดีหรือไม่ดีต่อสุขภาพหรือมีผลข้างเคียงหรือไม่หรอก แต่เขาอยากจะมีความสุข อยากจะกระตุ้นให้ทำในสิ่งที่ทำไม่ได้ แต่มันเป็นการกระตุ้น ไม่ใช่การดูแลรักษาหรือบำรุง ผมไม่เห็นด้วยนะ เพราะถ้ามันไม่ไหวแล้วยังไปฝืนมันก็จะพัง เหมือนกับพวกเครื่องยนต์นั่นแหละ”

นั่นเป็นความเห็นของ สุพัฒน์ ธีรภาพสกุลวงศ์ หรือที่รู้จักกันในนามของ เต็กกอ ผู้ซึ่งมีภรรยามากถึง 7 คน แต่ที่ผ่านมาเขาบอกว่ าเขานั้นแรงดีไม่มีตก เขาเชื่อว่าถ้าหากเราดูแลสุขภาพของเราให้แข็งแรง ยาเหล่านี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นเลย

“ดีที่สุดก็จะต้องรักษาสุขภาพให้ดีมีการออกกำลังกายบ้าง แต่สุดท้ายของแบบนี้มันอยู่ที่ความพอดี อะไรก็ตามแต่ถ้าเราทำมันมากไปมันก็เสื่อมได้ทั้งนั้น ถึงผมจะมีภรรยามากแต่ผมก็ไม่ได้ฟุ่มเฟือย เพื่อนผมบางคนยังไม่ได้แต่งงานด้วยซ้ำแต่เขาใช้มากกว่าผมอีก ใช้มากก็ยิ่งเสื่อมเร็ว คือในการทำกิจกรรมเนี่ย มันจะมีระยะของมัน ร่างกายของเรานั้นมีข้อจำกัด ดังนั้นต้องมีการพักให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง ไม่ใช่ว่าตอนที่ทำได้ก็ทำมันอยู่นั่นแหละ ถ้าเป็นอย่างนั้น ความเสื่อมสมรรถภาพมันก็จะมาเร็ว ถ้าไม่รู้จักผ่อน”

..........


ถึงแม้ว่าเรื่องความต้องการทางเพศ จะเป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์ หากแต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ขาดไม่ได้อย่างสิ้นเชิง การที่คนคนหนึ่ง เดินทางใช้ชีวิตมาถึงจุดที่ประกอบกิจไม่ได้ หากยอมรับได้ว่ามันสืบเนื่องมาจากสังขารที่ถดถอยก็คงจะไม่ต้องมานั่งปวดหัว

แต่ทั้งนี้ความต้องการของมนุษย์นั้นไม่มีจุดสิ้นสุด ดังนั้น ยาปลุกเซ็กซ์ ยาเสริมสมรรถภาพ ก็จะยังคงขายดีต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการขายตามแพทย์สั่งหรือการเสาะหาของเถื่อนมาตอบสนองความต้องการของตนเองก็ตาม

>>>>>>>>>>
……….
เรื่อง : ทีมข่าว CLICK
ภาพ : ทีมภาพ CLICK





กำลังโหลดความคิดเห็น