xs
xsm
sm
md
lg

Bar Host - รสสวาทสาวหิวรัก!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บาร์โฮส... แหล่งปลดปล่อยความเหงาของผู้หญิงชั้นสูง
อีกครั้งที่ “ความเหงาและความต้องการ” นำทางให้เธอมายืนอยู่ตรงหน้าสถานประกอบกามเช่นนี้!... หญิงวัยกลางคนสวมชุดราตรีสีเรียบประดับเครื่องเพชรน้ำงามตามเนื้อตัว เธอตรงดิ่งไปยังประตูกระจกทึบแสง มองไม่เห็นความเคลื่อนไหวภายใน มีเพียงตัวอักษรสีแดงบ่งบอกไว้อย่างชัดเจนว่า “รับเฉพาะสุภาพสตรีเท่านั้น” ชายหนุ่มรูปงามนับสิบต่างพร้อมใจกันโค้งคำนับต้อนรับ หนึ่งในนั้นเข้าไปประคองผู้มาเยือนอย่างสุภาพและอาสานำทางไปยังจุดหมาย...
เมื่อบานประตูเปิดกว้าง เผยให้เห็นแสงริบหรี่ภายในเคล้ากับเสียงดนตรีบรรเลงอย่างช้าๆ ทันทีที่ห้องแห่งความลับถูกปิดลง รอยยิ้มของเธอจึงค่อยๆ ปรากฏชัดอยู่ในความมืด คล้ายต้องการบอกว่า “นี่แหละ สวรรค์ที่รอคอย” ใช่... ที่แห่งนี้คือสวรรค์ของผู้หญิงซึ่งหิวรักและกระหายความรู้สึก สวรรค์ที่ผู้หญิงขี้เหงาหลายต่อหลายรายรู้จักกันในนาม “บาร์โฮส” (Bar Host)

ไปด้วยกันหรือเปล่า? ถ้าคำตอบของคุณคือใช่ แนะนำให้ควักกระเป๋าสตางค์ออกมาตรวจเช็กจำนวนแบงก์และบัตรเครดิตให้ดีเสียก่อน เพราะการท่องเที่ยวทริปนี้ “เงิน” คือใบเบิกทางสำคัญสำหรับทุกสิ่ง จากนั้นลองสำรวจตัวเองดูอีกสักที ถ้ามั่นใจว่าคุณคือ “เพศหญิง” มาแต่กำเนิด ไม่ใช่สาวสวยในร่างชาย ก็ก้าวเท้าตามมาได้เลย แล้ว M-Lite จะทำให้ลูกทัวร์ทั้งสาวแรกรุ่นและสาวรุ่นแรกทุกคนกลายร่างเป็น “เจ้าหญิง” ที่ถูกรายล้อมไปด้วยบริวารชายรูปงาม คอยเอาอกเอาใจตลอดทั้งราตรีนี้

สวรรค์บนดินของผู้หญิงชั้นสูง
เมื่อความต้องการเข้าครอบงำ ถ้าเป็นสาวออฟฟิศหรืออาชีพคนเดินดินทั่วๆ ไป แค่แวะไปเที่ยวตามผับตามบาร์ก็สามารถควงแขนเพื่อนชายกลับไปเสพสุขด้วยกันได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แต่สำหรับสาวแก่แม่ม่าย บรรดาผู้มีหน้ามีตาในสังคมทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นคุณหญิงคุณนาย นักธุรกิจสาวชื่อดัง ภริยาผู้มีบรรดาศักดิ์ หรือแม้แต่นักการเมืองหญิงผู้เลื่องชื่อ ถ้าให้ทำแบบเดียวกัน คงต้องถูกเปิดโปงตามหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ในเช้าวันถัดมาเป็นแน่

จึงมีสถานที่ค้าความสุขเปิดขึ้นมารองรับความต้องการของคนกลุ่มนี้อย่างลับๆ โดยที่ปุถุชนคนธรรมดาอย่างเราๆ อาจไม่เคยล่วงรู้มาก่อนเลยด้วยซ้ำ จะมีก็แต่ข่าวซุบซิบที่หลุดออกมาเป็นระลอกๆ ซึ่งล่าสุดลือกันหนาหูว่านักการเมืองหญิงท่านหนึ่งเพิ่งเข้าไปใช้บริการบาร์โฮสบำบัดความเครียดจากการหาเสียงมาหมาดๆ ทีมงานได้ตามรอยเสียงลือเสียงเล่าอ้างเหล่านั้นไป แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวลงพื้นที่สำรวจ เริ่มตระเวนตามย่านสีลมตั้งแต่ซอย 1 ถึงซอย 4 ผ่านสุรวงศ์ ลัดเลาะไปจนถึงนราธิวาสซอย 1 และแวะเวียนไปสังเกตการณ์ในคลับหรูบางแห่งบนรัชดาฯ ซอย 18 จึงได้คำตอบว่าสถานที่เหล่านั้นมีอยู่จริง!

“เราจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนเป็นเจ้าหญิง” คือสโลแกนของธุรกิจประเภทนี้ เพียงก้าวล้ำเข้าไปในดินแดนที่ถูกเนรมิตไว้ จะมีเด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา ผิวพรรณสะอาดสะอ้าน หุ่นสูงกล้ามแน่นคอยเข้ามาเอาอกเอาใจไม่ปล่อยให้ขาดช่วง

เริ่มตั้งแต่วินาทีแรกที่ไปถึง เด็กรับรถจะอาสาพาเก๋งคันงามไปจอดและปล่อยให้พนักงานต้อนรับชายเข้ามาถามไถ่ความต้องการอย่างสุภาพ หากพบว่าผู้มาเยือนไม่ได้รีบร้อนต้องการเพื่อนคุยเพื่อไปต่อนอกสถานที่ จะมีพีอาร์ชายรูปงามอีกคนเข้ามารับช่วงต่อ พาไปหามุมที่ถูกใจ คอยผสมเหล้าให้ หาเรื่องชวนคุย เป็นคู่เต้นรำ ทำได้สารพัด รวมทั้งปล่อยให้ถึงเนื้อถึงตัวกันได้หากเจ้าของเงินต้องการ แต่ถ้ายังไม่ถูกใจก็สามารถเปลี่ยนผู้บริการให้ตรงตามสเปกได้ในทันที

หากคุณผู้หญิงรายไหนเงินหนาหน่อย อยากได้บริการแบบเป็นส่วนตัว เพียงแค่รีเควสต์ไปว่า “ขอแบบวี (VIP)” หรือ “ขอแบบเอฟ (Everything)” ก็เป็นที่รู้กัน พีอาร์หนุ่มจะนำทางคุณไปยังห้องส่วนตัวสุดหรูและเกณฑ์หนุ่มหน้าใส หล่อล่ำติดอันดับ Top 5 ตามเข้าไปบริการในนั้นให้อิ่มเอม ส่วนจะเลือกแบบถูกรุมล้อมเอาใจหรือต้องการอยู่กันแค่สองต่อสอง ก็แล้วแต่เจ้าหญิงจะสั่งการ

รังรักแหล่งลับเฉพาะไฮโซ
เพื่อไม่ให้กระทบต่อลูกค้าหน้าใหญ่ในสังคม ธุรกิจกลิ่นตุๆ เช่นนี้จึงถูกเก็บไว้เป็นความลับสุดยอดชนิดที่ว่าไม่ใช่คนวงในหรือลูกค้าเฉพาะกลุ่มไม่มีทางรู้ ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ยากเกินจะสังเกตเห็น อดีตผู้จัดการบาร์โฮสหรูย่านรัชดาฯ วัย 30 เปิดเผยข้อมูลให้ฟังว่าพื้นที่ดังกล่าวมักแฝงตัวอยู่ตามตึกรามบ้านช่องหลากหลายรูปแบบ หากมีข้อมูลต่อไปนี้อยู่ในมือจะรู้ทันทีว่า ธุรกิจมืดที่แสนลึกลับซับซ้อน แท้จริงเป็นเพียงเส้นผมบังภูเขาเท่านั้นเอง

เริ่มจากตึกสูงเสียดฟ้าหลายแห่งย่านอโศก-รัชดา มองดูภายนอกหน้าตาคล้ายอาคารสำนักงานธรรมดาทั่วไป แต่ใครจะรู้ว่าภายในบรรจุความลับของสาวชั้นสูงเอาไว้อย่างแนบเนียน บางแห่งตั้งอยู่ในโรงแรมหรูๆ มักอำพรางไว้ด้วยห้องหับสำหรับปลดปล่อยเสียงเพลง มีพื้นที่ส่วนกลางใช้เป็นฟลอร์เต้นรำ และโต๊ะเล็กๆ วางอยู่รายรอบ เมื่อต่างฝ่ายต่างพูดคุยกันถูกคอจนอยากจะสานต่อ เพียงพาตัวเองไปยังห้องคาราโอเกะสุดล้ำ โซฟาเนื้อนุ่มที่มีอยู่เดิมก็สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบให้กลายเป็นเตียงได้ในทันที

ล่าสุดแฝงมาในรูปแบบสปอร์ตคลับ แบ่งออกเป็นสองโซนคือส่วนของฟิตเนสซึ่งกั้นด้วยกระจกใสและส่วนของห้องอาหาร ลูกค้าจะเข้ามานั่ง ทำทีเหมือนมาเพื่อสั่งอาหาร แต่แท้จริงกำลังพุ่งความสนใจไปที่เด็กหนุ่มหล่อล่ำซึ่งกำลังออกกำลังกายอยู่ในห้องกระจก เมื่อเสพสุขทางตาจนบังเกิดความพึงพอใจแล้ว บริกรหนุ่มจะเดินเข้ามาถามไถ่คล้ายกำลังจดรายการอาหาร แต่เมนูที่เสิร์ฟให้กลับกลายเป็นเนื้อแน่นๆ ของชายหนุ่มแทน แถมยังปล่อยให้ละเลงรสชาติกันได้อย่างเต็มที่ในห้องส่วนตัวที่จัดเตรียมไว้ให้ โดยคิดค่าบริการเป็นรายชั่วโมง

แต่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดคงหนีไม่พ้นบาร์โฮสแบบคลาสสิกดั้งเดิม มีลักษณะเหมือนผับบาร์ทั่วๆ ไป ต่างกันแค่เพียงพนักงานทั้งหมดเป็นผู้ชายหล่อล่ำหน้าตาดี คอยผลัดเปลี่ยนเข้ามาเอาอกเอาใจ ทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ต่างมีความรู้สึกเหมือนว่ากำลังอยู่ในดงดารา ส่วนใหญ่จึงชอบเดินทางมาเสพบรรยากาศและคัดสรรสินค้าด้วยตนเอง

ยกเว้นบางรายที่มีฐานะทางสังคมค้ำคอไว้สูงมาก ลูกค้าประเภทนี้มักถือคติปลอดภัยไว้ก่อน พวกเธอจะใช้นายทหารคนสนิทหรือเลขาฯ ส่วนตัวที่ไว้วางใจได้มาทำหน้าที่เลือกแทน เมื่อตกลงราคากันเรียบร้อย จะมีรถตู้ส่วนตัวมารับให้เดินทางไปบริการแบบ Delivery จัดส่งถึงที่กันเลยทีเดียว

นอกจากวิธีซื้อขายแบบลับลวงพรางแล้ว เจ้าของสถานบันเทิงดังกล่าวยังมีโปรโมชันพิเศษให้เหล่าลูกค้าผู้หิวรักได้ตาลุกวาวกันยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสาวแก่แม่ม่ายที่ครั่นเนื้อครั่นตัวบ่อยครั้ง สามารถเซ็นสัญญาเป็นสมาชิกและจ่ายเงินให้แก่บาร์โฮสเจ้าประจำเอาไว้เป็นรายปีได้เลย ราคาค่างวดก็ไม่เท่าไหร่ แค่เพียงหลักแสนเท่านั้นเอง คนธรรมดาทั่วไปอาจมองว่าเป็นจำนวนเงินที่สูงเกินไปสำหรับความสุขเพียงชั่วข้ามคืน แต่สำหรับผู้หญิงขี้เหงากระเป๋าหนักแล้ว เพื่อแลกกับสิทธิพิเศษในการเข้าถึงหนุ่มๆ นักรักระดับฮอตฮิตติดชาร์ตได้ก่อนใคร พวกเธอยินดีควักเงินจ่ายให้โดยไม่มีปริปากบ่นแม้แต่คำเดียว

หญ้าอ่อนราคาแพง
อย่างที่เตือนกันไว้ตั้งแต่แรกว่าการท่องเที่ยวทริปนี้ “แบงก์” คือ “ใบเบิกทาง” ที่สำคัญที่สุด โดยเฉพาะสาวแก่ที่อยากลิ้มลองหญ้าอ่อนๆ กระเป๋าของพวกเธอจะต้องหนักเอาการเพื่อเตรียมเสียให้แก่เบี้ยบ้ายรายทางจำนวนนับไม่ถ้วน คนที่ยังอ่อนประสบการณ์ในเรื่องนี้คงสงสัยว่าแค่ค่าตัวของผู้ชายคนเดียวมันจะแพงอะไรกันนักกันหนา จึงขอถือโอกาสสาธยายขั้นตอนการหิ้วผู้ชายป้ายเหลืองกลับบ้านให้ฟังอย่างละเอียดตั้งแต่แรกเดินเครื่องไปจนเสร็จกิจ

ประเดิมด่านแรกกันด้วย “ค่าเปิดเหล้า” ซึ่งเหมารวมไปถึงน้ำเมาชนิดอื่นอย่างเบียร์ ค็อกเทล และแชมเปญด้วย หากลองได้ก้าวเท้าเข้าไปสูดอากาศและเสพแสงสีภายในแล้ว ไม่ว่าคุณจะคอแห้งหรือไม่ ก็จำต้องสั่งเครื่องดื่มทิ้งเอาไว้ ถือเป็นค่าผ่านประตูและค่าเช่าโซฟาชั่วคราว ในช่วงนี้พนักงานชายผู้ทำหน้าที่รับออเดอร์จะพยายามเชียร์ให้เปิดเหล้า โดยอ้างโปรโมชันแถมมิกเซอร์บ้างล่ะ อ้างว่าจะมีเด็กๆ มานั่งชงนั่งดื่มเป็นเพื่อนบ้างล่ะ แต่ถ้ายังไม่อยากกระเป๋าพร่องไปอย่างรวดเร็วตั้งแต่วินาทีแรกๆ แนะนำให้ตัดบทด้วยการสั่งเบียร์จะดีกว่า ด้วยราคาเพียง 300-400 บาทต่อขวด เทียบกับค่าเหล้าราคา 2,500 บาทแล้ว ถือว่าคุ้มกว่าเยอะ

ด่านต่อไปคือ “ค่าดริงก์” ถ้าคิดจะสั่งเครื่องดื่มครั้งเดียวแล้วนั่งชิลไปเรื่อยๆ แนะนำให้เตรียมขนของกลับบ้านไปได้เลย เพราะถ้ายอมลงทุนแค่นั้น คงไม่มีวันได้เห็นหน้าเนียนๆ ของหนุ่มๆ ในระยะประชิดแน่นอน ดังนั้นถ้าอยากได้เนื้อแน่นๆ กล้ามฟิตๆ มานั่งอิงแอบแนบกาย ต้องยอมจ่ายขั้นต่ำ 2 ดริงก์ต่อหนึ่งคน แล้วพีอาร์หน้าหยกจะคอยเข้ามาเอาอกเอาใจคุณตลอดคืน สนนราคาอยู่ที่ดริงก์ละ 300-500 บาท และถ้ายิ่งนั่งนาน จำนวนดริงก์ก็จะยิ่งสูงขึ้นเป็นทวีคูณ

หลังจากเปิดโอกาสให้พูดคุยลูบไล้กันจนเครื่องร้อนได้ที่แล้ว ก็ได้เวลาโยกย้ายสถานที่เพื่อสานต่ออารมณ์กันเสียที ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่คุณสาวๆ จะต้องหยิบแบงก์หนาๆ ขึ้นมากรุยทางอีกครั้งเพื่อจ่าย “ค่าออฟ” ให้แก่ผู้คุมบาร์โฮส แบงก์สีเทาสามใบคืออัตราค่าตอบแทนขั้นต่ำที่ชายขายบริการควรได้รับต่อการเหมารายคืน แต่พีอาร์ชายหลายคนสามารถโก่งราคาให้สูงกว่าเกณฑ์ได้ด้วยลูกล่อลูกชนและกลวิธีการเอาใจเฉพาะตัว ในขณะที่บางรายอาจไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายามมากมายขนาดนั้น แค่ใช้หน้าหล่อขั้นเทพและหุ่นนายแบบเข้าแลก ต่อให้ตั้งราคาไว้สูงลิบถึง 17,000 บาทต่อ 2 ชั่วโมง หรือ 27,000 บาทต่อ 3 ชั่วโมง ก็ขายสำเร็จมานักต่อนักแล้ว

พีอาร์ชายบางคนอาจไม่ได้หล่อเลิศอย่างดารา แต่ยังคงต้องการอัปราคาค่าตัวของตัวเองอยู่ จึงมีการตั้งเงื่อนไขเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับกิจกรรมบนเตียงเพิ่มเข้าไป เพื่อสร้างรายได้เสริมนอกเหนือไปจากค่าออฟที่ตกลงกันไว้ คือให้สาวนักเที่ยวเลือกเอาว่าจะใช้บริการแบบใส่ถุงหรือไม่ ถ้าใส่จะคิดราคาตามอัตราปกติ แต่ถ้าเลือกอย่างหลัง จากที่เคยตกลงกันไว้ว่าจะจ่ายหลักพัน ราคาจะพุ่งสูงปรี๊ดขึ้นไปถึงหลักหมื่นทันที ถือเป็นค่าเสียวที่เรียกกันตามภาษาดิบๆ ว่า “ค่าน้ำแตก” นั่นแหละ

นี่ยังไม่รวมราคา “ค่าพิศวาสเป็นส่วนตัว” และ “ค่าออดอ้อนเอาใจ” อีกนับครั้งไม่ถ้วนที่ทำให้บรรดาแม่ยกทั้งหลายใจอ่อนระทวยจนต้องทิปให้แก่โฮสหนุ่มหน้าเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้าถามว่าประสบการณ์เสพสุขกับหนุ่มนักบริการครั้งหนึ่งต้องจ่ายแพงแค่ไหน คงต้องให้กลับขึ้นไปคำนวณกันตั้งแต่ค่าผ่านด่านแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้ายกันดู แล้วจะรู้ว่าถ้าต้องเสียแบบนี้ต่อเนื่องเป็นเดือนๆ อาจสามารถผ่อนรถหรูๆ สักคันได้เลย

เฮฮาราคาย่อมเยา
แล้วถ้าไม่ใช่ไฮโซเงินหนาล่ะ จะเที่ยวแบบนี้ได้ไหม? หลายคนคงอยากรู้เหมือนๆ กัน ซึ่งคำตอบก็คือได้ แต่แค่รูปแบบจะต่างออกไปจากเดิม คือไม่เน้นความโก้หรูของสถานที่มากนัก ตัวพนักงานผู้ให้บริการก็อาจไม่ใช่ระดับเอคลาสประเภทหล่อล่ำไร้ที่ติไปเสียทุกคน แต่จะเน้นวาทศิลป์เป็นเลิศ พูดคุยเอาใจเก่งมาเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนเรื่องรูปร่างหน้าตาจะกลายเป็นเรื่องเสริมไป พูดง่ายๆ ว่าเน้นคารมเป็นต่อ แต่ถ้ารูปหล่อด้วยก็จะช่วยเสริมให้กลายเป็นดาวเด่นของบาร์โฮสแห่งนั้นไปโดยปริยาย

ส่วนที่แตกต่างอย่างเห็นชัดอีกข้อหนึ่งก็คือกลุ่มลูกค้าจะเป็นสาวนักศึกษาและสาวออฟฟิศเสียส่วนใหญ่ ไม่ใช่สาวสังคมชั้นสูงอย่างประเภทแรก ทำให้บรรยากาศโดยรวมค่อนไปในทางเอาใจวัยรุ่น คือเน้นความเฮฮาเป็นกันเองมากกว่าเรื่องพิธีรีตอง จึงแทบไม่มีกิริยาสุภาพนอบน้อมจนน่าขนลุกเล็ดลอดมาให้เห็น ส่วนจังหวะเพลงก็เน้นสร้างบรรยากาศด้วยแนวป็อบแดนซ์คล้ายผับบาร์ทั่วไป ไม่ใช่แนวเพลงคลาสสิกจังหวะเนิบช้าอย่างที่บาร์โฮสชั้นสูงเลือกเปิด แต่ที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยก็คือวัฒนธรรมเลี้ยงดริงก์พนักงานชายซึ่งยังคงขั้นตอนเดิมเอาไว้ทุกกระเบียดนิ้ว

เรื่องสถานที่ตั้งก็ไม่ได้ลึกลับซับซ้อนอะไรมาก เพราะเปิดกันในคราบร้านเหล้านั่งชิลทั่วๆ ไป ดังนั้นแค่ลองเสิร์ชคำว่า “บาร์โฮส” ในอินเทอร์เน็ตดูก็จะพบข้อมูลผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด หลายร้านถึงกับสร้างเว็บไซต์โปรโมตอย่างเป็นทางการ ทั้งยังประกาศเอาไว้อย่างชัดเจนว่า “ตำแหน่งโฮสเป็นงานที่มีเกียรติ ทำหน้าที่คอยให้ความอบอุ่นแก่ลูกค้า ไม่มีการค้าประเวณีหรือบริการพิเศษทั้งในและนอกสถานที่แต่อย่างใด” แต่เอาเข้าจริงพอถึงเวลาปฏิบัติ โฮสชายที่ทำงานอยู่ในนั้นก็ออกอาการปากไม่ตรงกับใจ เมื่อถามว่าออฟได้ไหม กลับแจกนามบัตรหรือให้เบอร์ส่วนตัว แล้วตอบเลี่ยงๆ เป็นแพตเทิร์นเดียวกันว่า “พี่มีอะไรโทร.หาผมแล้วกันครับ”

ขณะเดียวกันเพื่อไม่ให้ลูกค้าขาประจำเกิดความเบื่อหน่าย บาร์โฮสวัยรุ่นหลายแห่งจึงมีธรรมเนียมการจัดงาน “ปาร์ตี้แฟนซี” ขึ้นปีละหลายหน โดยทางร้านจะกำหนดธีมงานขึ้นมาว่าต้องการให้พนักงานชายแต่งตัวแนวไหน แต่ละที่มีลูกเล่นแตกต่างกันไป มีทั้งธีมที่คิดขึ้นเองอย่าง “ซูเปอร์ฮีโร่” ปล่อยให้เหล่าโฮสแปลงกายเป็นซูเปอร์แมน สไปเดอร์แมน ดราก้อนบอล ฯลฯ ในค่ำคืนนั้นเพื่อเรียกคะแนนจากลูกค้าสาวๆ หรือธีม “บอดี้การ์ดมาดเท่” สวมสูทใส่แว่นตาดำ ทั้งยังมีการแต่งตัวตามงานเทศกาลในช่วงนั้นๆ อย่างวันวาเลนไทน์ ปีใหม่ และวันสงกรานต์ ถือเป็นการสร้างสีสันให้แก่ธุรกิจสีมืดเช่นนี้ได้อีกรูปแบบหนึ่ง

เหตุที่ต้องเรียกใช้บริการ
แล้วอะไรทำให้พวกเธอมาเที่ยวในสถานที่แบบนี้? แน่นอนว่า “แรงขับเคลื่อนทางเพศ” คือเหตุผลข้อสำคัญที่นำทางฝ่ายหญิงให้มาหาฝ่ายชาย แต่ลึกลงไปแล้วลูกค้าที่แวะเวียนมาก็ไม่ต่างไปจากผู้ป่วยที่ต้องการการบำบัด ซึ่งทำได้ทั้งการบำบัดความใคร่และรักษาเยียวยาจิตใจไปด้วยพร้อมๆ กัน

“คนที่มานั่งตรงนี้คือคนที่ต้องการเพื่อนคุย หลายคนมานั่งเพื่อระบาย นั่งเล่าเรื่องราวชีวิตให้ฟัง เราก็จะคอยจับมือปลอบใจ พูดให้เขารู้สึกดีขึ้น บางทีก็แอบรู้สึกว่าตัวเองเป็นจิตแพทย์เหมือนกันนะ (ยิ้ม) รู้สึกเหมือนกับว่าเรากำลังเยียวยารักษาเขาอยู่” กอล์ฟ โฮสวัย 23 ซึ่งทำงานย่านสีลม บอกเล่าความรู้สึกให้ฟัง

เรื่องที่ลูกค้ามาปรับทุกข์กับพนักงานส่วนใหญ่หนีไม่พ้นปัญหาหัวใจ ถ้ารายไหนมีสามีเป็นตัวเป็นตัวอยู่แล้ว มักตัดพ้อต่อว่าเรื่องถูกนอกใจ แต่ถ้ายังสาวหรือยังโสด มักแสดงท่าทีน้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตา และในระหว่างที่บอกเล่าเรื่องราวชีวิตตัวเอง สาวผู้อมทุกข์ทั้งหลายก็มักจะแสวงหาความอบอุ่นด้วยการขอสัมผัสเนื้อตัวพนักงานชาย เมื่อได้ลูบไล้จนอิ่มเอมจึงแสดงอาการพึงพอใจออกมา ทำทีคล้ายกับว่าเนื้อหนังของชายแปลกหน้าที่อยู่ข้างกายในขณะนั้นคืออ้อมอกอันอบอุ่นที่หามานานอย่างไรอย่างนั้น

พูดตรงๆ นะ ผมว่าคนที่มาเที่ยวแบบนี้เป็นพวกขาดความอบอุ่น แต่คงเป็นธรรมดาของมนุษย์ทุกคนแหละที่ชอบอะไรสวยๆ งามๆ พอเงยหน้าขึ้นไปเห็นคนที่อยู่ข้างๆ ขาว หล่อ จมูกโด่ง ผิวดี ก็ต้องมีความสุขอยู่แล้ว ไม่มีใครหรอกที่อยากได้คนง่อยๆ หน้าปลวกๆ หุ่นเผละๆ มานั่งข้างๆ เห็นแล้วมันไม่เจริญหูเจริญตา การได้มาเห็นผู้ชายหน้าหล่อๆ คงช่วยให้เขาหายเครียดได้” หนุ่มนักเที่ยวหน้าตาดีแสดงความคิดเห็นเอาไว้

หม้ายสาววัย 50 ผู้ใช้ชีวิตวัยสาวอยู่ในวงการค้ามนุษย์เล่าให้ฟังว่า เห็นมาหลายต่อหลายรายแล้วที่เข้ามาใช้บริการบาร์โฮสเพื่อกลบปมด้อยของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นหญิงขายบริการ คนเคยจนมาก่อน หรือแม้กระทั่งสาวแก่แม่หม้ายที่ต้องการแสดงพลังอำนาจของตัวเอง

“มีเพื่อนคนหนึ่งเป็นผู้หญิงหาตังค์ มีงานมีการทำงานบริษัทนี่แหละ แต่รับจ็อบขายตัวให้ต่างชาติ พอได้เงินมาก็เอาไปซื้อผู้ชายคลายเครียด เพราะเวลาทำงานพวกนี้มันเลือกไม่ได้ไงว่าต้องนอนกับคนแบบไหน พอมีโอกาสก็อยากเลือกได้บ้าง เอาเงินมาวาง เลือกผู้ชายหล่อๆ ล่ำๆ มานอนได้เลย บางคนโดนกดขี่มาเยอะสมัยที่ขายตัว เคยมีคนดูถูก เคยจนมาก่อน พอมีเงินก็ใช้เงินฟาดหัวเลย

“เคยไปนั่งคุยกับไอ้พวกเด็กขายฯ ผู้ชาย มันเล่าให้ฟังว่าเจอผู้หญิงเก็บกดบ่อยมาก มีสั่งให้ดูดนิ้วหัวแม่ตีน ขว้างที่เขี่ยบุหรี่ให้ฝุ่นเพ่นพ่านแล้วบอกให้เก็บ มีสาดน้ำใส่ ยั่วโมโหทุกอย่าง แต่เด็กโฮสก็ทำ เพราะรู้ว่าผู้หญิงพวกนี้ทิปหนัก ทำตามใจไปเผลอๆ แถมให้เป็นพันๆ หรือพวกป้าแก่ๆ ก็มีจิตๆ อยู่เหมือนกัน สั่งให้เด็กผู้ชายมีอะไรกันให้ดู พี่ว่าพื้นฐานจิตใจคนพวกนี้คงไม่ค่อยปกติ อาจจะเคยถูกข่มเหงหรือถูกสามีตบตี ก็เลยมีความรู้สึกอยากเอาชนะผู้ชายอยู่ตลอดเวลา แล้วก็มาลงกับเด็กพวกนี้” ผู้คร่ำหวอดถ่ายทอดประสบการณ์ให้ฟัง

นอกจากนี้ยังมีผู้หญิงอีกจำนวนหนึ่งที่ใช้บริการคลับผู้หญิงเพราะความอยากรู้อยากลอง โดยเฉพาะวัยรุ่นสาวที่มักชักชวนกันเข้าไปเป็นกลุ่ม ได้แตะเนื้อต้องตัว พูดจาหยอกล้อเพศตรงข้าม ก็ถือเป็นเรื่องสนุกสนาน เป็นกิจกรรมแปลกใหม่ที่สร้างเสียงหัวเราะได้อีกรูปแบบหนึ่ง หรือแม้แต่ลูกค้าวัยดึกอายุขึ้นต้นด้วยเลขห้าก็มีเหมือนกัน ส่วนใหญ่มักเข้าไปเพื่อหาเพื่อนคุย ใช้วิธีแลกเบอร์โทรศัพท์กับพีอาร์หนุ่มๆ เอาไว้ เหงาเมื่อไหร่ก็โทร.ไปขอคุยหรือโทร.เพื่อนัดหมายเรียกใช้บริการ

เบื้องหลังผู้ชายป้ายเหลือง
ในเมื่ออาชีพผู้ชายป้ายเหลืองหรือชายหนุ่มผู้ทำหน้าที่โฮสเป็นงานที่ได้เงินมาโดยง่าย สาเหตุที่ทำให้พวกเขาหันมาทำอาชีพนี้จึงหนีไม่พ้น “บ้านจน ต้องการเงิน และต้องการเรียน” บางคนอายุยังไม่ถึง 30 ด้วยซ้ำแต่มีลูกก่อนวัยอันควร จึงมีภาระหนักอึ้งให้ต้องดูแลมากกว่าเพื่อนผู้ชายวัยเดียวกัน บางคนเริ่มเดินทางสายนี้เพราะต้องการเงินไปจ่ายค่าเทอม และอีกหลายคนยังคงทำอาชีพนี้ต่อไปเพราะความเคยชิน

“บางคนมาบ่นให้ผมฟังว่าต้องทำเพราะต้องเลี้ยงเมียจริงๆ เขาต้องรับผิดชอบหน้าที่หัวหน้าครอบครัวตั้งแต่อายุ 20 คนที่เรียนปริญญาตรี อยู่มหาวิทยาลัยดังๆ ยังมีเลย เขาอยากเรียนแต่ค่าเทอมสูงมากก็เลยต้องหาเลี้ยงตัวเอง ผมฟังแล้วก็สงสารคนพวกนี้นะแต่มันก็สงสารได้ไม่ค่อยสะดวกใจเท่าไหร่ เพราะจริงๆ แล้วก็ยังมีงานอื่นให้ทำอีกตั้งเยอะแยะ แต่แค่เขาขี้เกียจและอยากได้เงินเร็วก็เลยเลือกวิธีนี้ ผมว่ามันเป็นทางออกของคนรักสบายมากกว่าพล อดีตผู้จัดการบาร์โฮสวัย 30 เล่าประสบการณ์ให้ฟัง ก่อนขยายความต่อว่างานประเภทนี้ได้เงินง่ายขนาดไหน

“เพื่อนผมที่เป็นโฮส เคยทำงานวันเดียวได้ 9,000 บาท คือวันหนึ่งออกไปหาลูกค้าสามราย คิดรอบละ 3,000 เริ่มทำงานตั้งแต่บ่ายสามจนถึงเที่ยงคืน ทั้งหมดเป็นลูกค้าที่ติดต่อกันไว้ตอนอยู่ในบาร์นั่นแหละ บางคนรายได้ต่อเดือนเป็นแสน แถมคนไหนลูกค้าติดมากๆ ทำยอดให้ร้านได้สูงๆ จะได้โบนัสเพิ่มด้วย แล้วถ้าคนไหนหน้าหล่อๆ หุ่นดีๆ ทำให้ลูกค้าติดใจได้มากๆ ผู้หญิงเขากองเงินเอาไว้ให้เลยนะ เดือนละ 50,000

เพื่อนหลายคนเก็บเงินจากอาชีพนี้เอาไปโปะบ้านผ่อนรถ ซื้อบ้านราคาสองล้านให้แม่อยู่ได้สบายๆ ภายในเวลาไม่กี่ปี หลายคนเก็บเงินสร้างตัว ไปทำอาชีพใหม่ได้แล้ว แต่สุดท้ายก็กลับมาทำเหมือนเดิม เพราะเงินที่มีมันไม่พอใช้ เหมือนเขาคุ้นชินกับการได้เงินมามากๆ ภายในคืนเดียวแล้ว ทำให้รู้สึกว่าเงินเดือนที่ได้จากงานธรรมดามันน้อยเกินไป บางคนออกไปแล้ว กลับมาทำใหม่ เลยทำทั้งสองอย่างไปพร้อมกัน คือทำงานออฟฟิศด้วย พอตกเย็นค่อยมารับจ็อบทำโฮส” พลยกตัวอย่างให้ฟัง

ยังมีพีอาร์หนุ่มบางรายที่เข้ามาทำงานด้วยเหตุผลที่ต่างออกไป เพราะพวกเขาเคยเป็นแรงงานต่างด้าวมาก่อน แต่ถูกเอามาขัดสีฉวีวรรณ เข้าคอร์สพัฒนาบุคลิกภาพ เรียนรู้เรื่องมารยาท จนออกมาเป็นชายหนุ่มรูปงามค่าตัวสูงในที่สุด โดยเฉพาะแรงงานที่มาจากจีนแผ่นดินใหญ่ยิ่งได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงหลัง ด้วยกระแสเกาหลีที่ยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง ทำให้หนุ่มตี๋ตาชั้นเดียวกลายเป็นที่ต้องการของตลาดขึ้นมาทันที และถึงแม้ว่าคนกลุ่มนี้อยากจะถอนตัวจากการขายบริการและออกไปทำอาชีพสุจริตสักแค่ไหนก็ไม่สามารถทำได้ เพราะมีเรื่องของบุญคุณในการชุบเลี้ยงเข้ามาเกี่ยวข้อง คล้ายกับเป็นสัญญาใจให้ต้องชดใช้กันไม่มีวันหมดสิ้น

และที่ขาดไม่ได้คงเป็นแนวคิดที่ว่า “น้ำทุกหยดมีค่า” ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผู้ชายขายน้ำหลายรายยังคงประกอบอาชีพนี้ต่อไปอย่างภาคภูมิใจ เพราะเมื่อเทียบกับเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันที่ชอบตระเวนราตรี เสียเซ็กซ์ฟรีๆ ให้แก่หญิงแปลกหน้าแล้ว มีเซ็กซ์แลกกับเงินย่อมดีกว่า อย่างที่หนุ่มขายบริการมักจะท่องจำให้ขึ้นใจเอาไว้ว่า “น้ำแตกแล้วแยกทาง พอจบกันก็มีแต่เสียความรู้สึก แต่ทำงานขายเซ็กซ์ พอน้ำแตกแยกทางเมื่อไหร่ ได้ความรู้สึก แถมยังได้เงินอีกต่างหาก”

หวังว่าทัวร์ครั้งนี้ของ M-Lite จะช่วยเปิดหูเปิดตาให้ได้มองเห็นซอกหลืบของสังคมที่ซ่อนไว้ และช่วยเปิดใจให้หลายคนยอมรับมุมมืดในสังคมเพิ่มมากขึ้น... ขอเพียงยอมรับว่าสิ่งเหล่านี้มีอยู่จริงเพื่อนำไปสู่หนทางเยียวยาและแก้ไข ไม่ใช่การยอมรับเพื่อเปิดทางให้ธุรกิจเน่าเฟะชอนไชสังคม



เกร็ดเล็กๆ ของผู้ชายขายน้ำ
บาร์โฮสระดับล่างบางแห่งอนุญาตให้ผู้ชายเข้าไปใช้บริการร่วมกันได้ พนักงานชายจึงจำเป็นต้องต้อนรับให้ได้ทั้งสองเพศอย่างไม่มีการแบ่งแยก เมื่อถูกเรียกให้ไปนั่งเป็นเพื่อนคุย ต้องให้บริการอย่างไม่อิดออด ถึงแม้ใจจะไม่มีความเบี่ยงเบนภายในจิตใจก็จำต้องฝืนพลีกายให้เพศเดียวกันลูบไล้ และเมื่อถูกออฟออกไปบริการก็ไม่สามารถบอกปัดได้ จึงจำเป็นต้องใช้วิธีเอาตัวรอดแบบส่งเดชไปก่อน คือให้ความสุขแก่ลูกค้าด้วยการใช้มือไป แล้วค่อยสัญญาว่าครั้งหน้าจะบริการแบบ Full Option!... ถ้าใช้วิธีนี้แล้วรอดก็ดีไป แต่ถ้าลูกค้าคนเดิมกลับมาทวงสัญญาอีกเมื่อไหร่ ก็ตัวใครตัวมัน

สำหรับประเทศไทย การซื้อขายผู้ชายยังไม่ได้รับการยอมรับและทำกันแบบเปิดเผยเท่ากับผู้หญิง บาร์โฮสจึงต้องแฝงอยู่ในธุรกิจร้านค้าประเภทต่างๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือประเภทสปอร์ตคลับ มองเผินๆ แล้วอาจดูไม่รู้ แต่ความจริงคนที่กำลังออกกำลังกาย ยกเวต เพิ่มซิกซ์แพกอยู่ในห้องกระจกนั่นแหละคือผู้ชายขายบริการ และเพื่อให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างนิ่งเนียนที่สุด หนุ่มๆ หน้าหล่อทั้งหลายจะไม่มีเบอร์ติดอยู่กับตัวเหมือนการซื้อบริการนางงามตู้กระจก แต่พวกเขาจะพยายามสร้างเอกลักษณ์ภายในตัว เช่น ระเบิดรูหู เพิ่มรอยสัก หรือย้อมผม ฯลฯ เพื่อให้ลูกค้าจดจำได้และสามารถเรียกใช้งานได้อย่างรวดเร็วทันใจ

คนที่ต้องทำอาชีพโฮสเพราะจำเป็นก็มี แต่โฮสที่ชอบเรียกร้องความสงสารก็มีอยู่เยอะเหมือนกัน ผู้ซื้อบริการจึงควรระวังกลลวงขอความเห็นใจเอาไว้ให้ดี เพราะคุณอาจตกเป็นเหยื่อ เผลอจ่ายราคาค่าสงสารให้แก่คนพวกนี้ได้โดยไม่รู้ตัว วิธีสังเกตง่ายๆ คือ หากเรียกมานั่งคุยแล้วมักเข้าเรื่องตัวเองเป็นหลัก พยายามเล่าเรื่องเศร้าเคล้าน้ำตา อธิบายว่าสาเหตุที่มาทำงานเพราะพ่อป่วย แม่ตาย แม่ยายเสีย ลูกเมียไม่สบาย ฯลฯ พูดถึงปัญหาชีวิตสารพัด... แท้จริงแล้วคนกลุ่มนี้ไม่เป็นพิษเป็นภัยอะไร แต่ควรรู้เท่าทันเอาไว้จะดีกว่า

พีอาร์หนุ่มที่ไม่ได้ขัดสนทางการเงินมากนักจะค่อนข้างเลือกรับงานสักหน่อย โดยเฉพาะงานที่ผู้ว่าจ้างอายุคราวแม่ หน้าหย่อนอกคล้อยไปตามกาลเวลา ถ้ามีการออฟกันเกิดขึ้น ฝ่ายผู้ให้บริการมักเลือกแบบพลีกายเป็นรายชั่วโมงมากกว่าจะเลือกค้างคืน ด้วยเหตุผลที่ว่า “ไม่อยากผวาตอนตื่นนอน”



รู้หรือไม่?
บาร์โฮสหรือโฮสคลับเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2509 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จากนั้นก็ได้รับความนิยมอย่างสูงจนมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 200 แห่งในปี 2539 ปัจจุบันสามารถพบเห็นได้ทั่วไป แต่จะพบได้มากในเมืองย่อยๆ ของกรุงโตเกียวอย่างเมือง คาบูกิโช, โอซากาและเมืองนัมบะ
ลูกค้าส่วนใหญ่เข้าไปใช้บริการสถานประกอบการดังกล่าวเพื่อพบปะพูดคุยกับพนักงานชาย ซึ่งทำหน้าที่คอยรับฟังและให้คำปรึกษาปัญหาชีวิตของลูกค้าผู้หญิงโดยไม่มีเรื่องเซ็กซ์เข้ามาเกี่ยวข้อง
ทั้งนี้งานวิจัยระบุว่าบาร์โฮสถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับความรู้สึกของผู้หญิงส่วนใหญ่ในสังคมญี่ปุ่นที่มองเห็นว่าเพศชายไม่มีความเข้าใจในเพศหญิง และดำเนินการเพื่อสนองความต้องการของผู้หญิงที่ขาดความรัก



เรียนรู้ “คำ”
“Host” (โฮส) หมายถึงพนักงานชายผู้รับหน้าที่สร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าผู้หญิง โดยการให้คำปรึกษา พูดคุยเป็นเพื่อน แต่เมื่อนำมาใช้ในบริบทสังคมไทยแล้ว อาจหมายความรวมถึงผู้ชายหน้าตาดีผู้รับหน้าที่สร้างความพึงพอใจทางเพศให้แก่ลูกค้าผู้หญิงด้วย

“พีอาร์ชาย” หมายถึงพนักงานต้อนรับผู้ชาย แต่เมื่อใช้ในกลุ่มนักเที่ยวจะมีความหมายแฝงว่าเป็นผู้ชายขายบริการนั่นเอง

“ผู้ชายป้ายเหลือง” หมายถึงพนักงานชายซึ่งทำงานเป็นโฮส

“ผู้ชายขายน้ำ” หมายถึงผู้ชายขายบริการ มักใช้กับพนักงานที่ทำงานอยู่ในบาร์เกย์

“Bar Host” (บาร์โฮส) หมายถึงสถานบันเทิงที่มีพนักงานชายคอยอำนวยความสะดวก ซึ่งรับเฉพาะลูกค้าผู้หญิงเท่านั้น

“Lady Club” (เลดี้คลับ) หมายถึงคลับสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ ให้ความหมายเหมือนคำว่าบาร์โฮส

“Eve” (อ่านว่า เอฟ) ย่อมาจากคำว่า “Everything” แปลว่าทุกอย่าง ใช้เฉพาะในวงการขายบริการเพื่ออธิบายสิ่งที่ต้องการ หมายถึงจัดเตรียมทุกอย่างให้พร้อมและดูดีที่สุด ตั้งแต่เรื่องเครื่องดื่ม โฮส การบริการ รวมถึงห้องส่วนตัว

“V” (อ่านว่า วี) ย่อมาจากคำว่า “VIP” แปลว่าพิเศษ ให้ความหมายเหมือนกับคำว่า “Eve” แต่ส่วนใหญ่จะใช้เรียกแทนประเภทห้องส่วนตัวมากกว่า (ห้อง VIP) ซึ่งมักเป็นห้องปิดเฉพาะแขกพิเศษ ตกแต่งสวยงาม มีเครื่องอำนวยความสะดวกพร้อมสรรพ และระบบรักษาความปลอดภัยดีเยี่ยม

ข่าวโดย Manager Lite/ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์
ภาพโดย ทีมภาพคลิก

บรรยากาศภายในโฮสคลับบนถนนรัชดาฯ
บริการลูกค้าประหนึ่งเจ้าหญิง
นั่งเรียงแถวโชว์ตัวเพื่อเรียกแขก
โฮสหนุ่มประจำคลับสีลม
พีอาร์หล่อล่ำคอยให้บริการอยู่ภายใน
เน้นความมืด-ห้ามถ่ายรูป เพื่อปกปิดความลับของลูกค้า
บางแห่งแฝงอยู่ในคราบคลับเต้นรำของผู้ใหญ่ เพื่อสาวสังคมชั้นสูง
เต้นรำเป็นเพื่อนเอาใจลูกค้าสูงวัย
โฆษณาภายในเว็บส่วนตัวอย่างโจ่งแจ้ง
ยิ่งหน้าตาดี ยิ่งราคาสูง

ลูกค้าสาวๆ ที่แวะเวียนเข้ามา
**โปรดสังเกตวงดนตรีซึ่งอยู่เบื้องหลัง
จัดปาร์ตี้แฟนซีเพิ่มรสชาติ
ตั้งอยู่บนตึกเก่า นราธิวาสซ.1
ซ่อนอยู่ในคฤหาสน์หรู รัชดาฯ ซ.18
โฮสหนุ่มมากมาย รอต้อนรับหน้าประตู
กำลังโหลดความคิดเห็น