ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - หนุ่มพนักงานบริษัทขุดเจาะน้ำมัน ใน จ.สงขลา ถูกคนร้าย 5 คน ดักปล้น โดยใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ทุบกระจกรถ ฉกทองคำหนัก 7 บาท หนีลอยนวล บนถนนทางลัดหลังโรงพยาบาลสงขลา
วันนี้ (19 มิ.ย.) ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ คงเทพ รองสวป.สภ.เมืองสงขลา รับแจ้งว่าเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามปล้นทรัพย์กันบนถนนติณสูลานนท์ ด้านหลังโรงพยาบาลสงขลา ซึ่งเป็นเส้นทางลัดเข้าสู่ตัวเมืองสงขลา เขตเทศบาลตำบลพะวง อ.เมืองสงขลา จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.กัมปนาท พาณิชย์ประเสริฐ ผกก. พ.ต.ท.ถาวร ผลกล้า รอง ผกก.ป.พ.ต.ต.ธเนศ พงษ์รอด สว.สส.
ที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางเปลี่ยวสองข้างทางเป็นป่าสะเม็ด และป่าละเมาะพบรถยนต์กระบะโตโยต้า รุ่นไมตี้เอ็กซ์ สีส้ม ตอนครึ่ง ทะเบียน บย 3403 สงขลา ซึ่งเป็นรถโหลดเตี้ย จอดอยู่ริมถนนที่กระจกรถด้านขวาถูกทุบจนแตกละเอียด โดยมี นายภานุ สุราตโก อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/1 ม.1 ต.ชิงโค อ.สิงหนคร จ.สงขลา พนักงานของบริษัทขุดเจาะน้ำมันแห่งหนึ่งใน จ.สงขลา ซึ่งเป็นเจ้าของรถยืนรอให้การกับตำรวจในสภาพที่ขวัญเสีย
จากการสอบสวน นายภานุ ให้การว่า ขณะเกิดเหตุได้ขับรถยนต์กระบะกลับบ้านพัก เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีรถยนต์กระบะวีโก้ สี่ประตู สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนขับปาดหน้า และขวางถนนเอาไว้ โดยมีกลุ่มชายฉกรรจ์นั่งอยู่ภายในรถ 5 คน ก่อนที่สามคนร้ายซึ่งนั่งอยู่เบาะหลังจะลงจากรถโดยหนึ่งในนั้นได้ถืออาวุธปืนเอ็ม 16 ลงมาด้วย ด้วยความตกใจกลัวตนจึงล๊อคประตูรถไว้
แต่คนร้ายได้ใช้ด้ามปืนเอ็ม 16 ทุบกระจกด้านคนขับจนแตกและลากตัวลงจากรถใช้ปืนจี้ และช่วยกันปลดทรัพย์สินในตัวทั้งสร้อยข้อมือทองคำหนัก 5 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทพร้อมพระเลี่ยมทองและโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง มูลค่ารวมกว่า 2 แสนบาท ก่อนขับรถหลบหนีไปทางถนนลพบุรีราเมศวร์ โดยคนร้ายทั้งห้าคนไม่ได้อำพรางใบหน้าแต่อย่างใดเบื้องต้นตำรวจได้รีบวิทยุประสานไปยังตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงทั้ง อ.หาดใหญ่ อ.บางกล่ำ และ อ.ควนเนียง ที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนีแต่ยังไร้วี่แวว
ทั้งนี้ นายภานุ เผยว่า รถของตนเป็นรถแต่งโหลดเตี้ยและกระจกใสไม่ติดฟีล์มขับได้ไม่เกิน 60กิโลเมตรต่อชั่วโมง คนร้ายจึงเห็นว่ามีทรัพย์สินในตัวจึงได้ขับรถติดตามมาดักปล้น
อย่างไรก็ตาม หลังการสอบสวน นายภานุ เจ้าหน้าที่พอทราบเบาะแสของกลุ่มผู้ต้องสงสัยแล้ว โดยคาดว่าน่าจะเป็นหญิงสาวคนหนึ่งที่ นายภานุ รู้จักกันในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ เมื่อคืนก่อนเกิดเหตุ และพากันไปร่วมหลับนอนก่อนที่จะแยกจากกันในช่วงเช้า กระทั่ง นายภานุ มาถูกดักปล้นจึงเป็นไปได้ว่าคนร้ายกับหญิงคนดังกล่าวน่าจะรู้จักกันเนื่องจากทราบว่านายภานุ มีทรัพย์สินภายในตัวจึงได้วางแผนปล้น
วันนี้ (19 มิ.ย.) ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ คงเทพ รองสวป.สภ.เมืองสงขลา รับแจ้งว่าเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามปล้นทรัพย์กันบนถนนติณสูลานนท์ ด้านหลังโรงพยาบาลสงขลา ซึ่งเป็นเส้นทางลัดเข้าสู่ตัวเมืองสงขลา เขตเทศบาลตำบลพะวง อ.เมืองสงขลา จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.กัมปนาท พาณิชย์ประเสริฐ ผกก. พ.ต.ท.ถาวร ผลกล้า รอง ผกก.ป.พ.ต.ต.ธเนศ พงษ์รอด สว.สส.
ที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางเปลี่ยวสองข้างทางเป็นป่าสะเม็ด และป่าละเมาะพบรถยนต์กระบะโตโยต้า รุ่นไมตี้เอ็กซ์ สีส้ม ตอนครึ่ง ทะเบียน บย 3403 สงขลา ซึ่งเป็นรถโหลดเตี้ย จอดอยู่ริมถนนที่กระจกรถด้านขวาถูกทุบจนแตกละเอียด โดยมี นายภานุ สุราตโก อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/1 ม.1 ต.ชิงโค อ.สิงหนคร จ.สงขลา พนักงานของบริษัทขุดเจาะน้ำมันแห่งหนึ่งใน จ.สงขลา ซึ่งเป็นเจ้าของรถยืนรอให้การกับตำรวจในสภาพที่ขวัญเสีย
จากการสอบสวน นายภานุ ให้การว่า ขณะเกิดเหตุได้ขับรถยนต์กระบะกลับบ้านพัก เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีรถยนต์กระบะวีโก้ สี่ประตู สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนขับปาดหน้า และขวางถนนเอาไว้ โดยมีกลุ่มชายฉกรรจ์นั่งอยู่ภายในรถ 5 คน ก่อนที่สามคนร้ายซึ่งนั่งอยู่เบาะหลังจะลงจากรถโดยหนึ่งในนั้นได้ถืออาวุธปืนเอ็ม 16 ลงมาด้วย ด้วยความตกใจกลัวตนจึงล๊อคประตูรถไว้
แต่คนร้ายได้ใช้ด้ามปืนเอ็ม 16 ทุบกระจกด้านคนขับจนแตกและลากตัวลงจากรถใช้ปืนจี้ และช่วยกันปลดทรัพย์สินในตัวทั้งสร้อยข้อมือทองคำหนัก 5 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทพร้อมพระเลี่ยมทองและโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง มูลค่ารวมกว่า 2 แสนบาท ก่อนขับรถหลบหนีไปทางถนนลพบุรีราเมศวร์ โดยคนร้ายทั้งห้าคนไม่ได้อำพรางใบหน้าแต่อย่างใดเบื้องต้นตำรวจได้รีบวิทยุประสานไปยังตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงทั้ง อ.หาดใหญ่ อ.บางกล่ำ และ อ.ควนเนียง ที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนีแต่ยังไร้วี่แวว
ทั้งนี้ นายภานุ เผยว่า รถของตนเป็นรถแต่งโหลดเตี้ยและกระจกใสไม่ติดฟีล์มขับได้ไม่เกิน 60กิโลเมตรต่อชั่วโมง คนร้ายจึงเห็นว่ามีทรัพย์สินในตัวจึงได้ขับรถติดตามมาดักปล้น
อย่างไรก็ตาม หลังการสอบสวน นายภานุ เจ้าหน้าที่พอทราบเบาะแสของกลุ่มผู้ต้องสงสัยแล้ว โดยคาดว่าน่าจะเป็นหญิงสาวคนหนึ่งที่ นายภานุ รู้จักกันในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ เมื่อคืนก่อนเกิดเหตุ และพากันไปร่วมหลับนอนก่อนที่จะแยกจากกันในช่วงเช้า กระทั่ง นายภานุ มาถูกดักปล้นจึงเป็นไปได้ว่าคนร้ายกับหญิงคนดังกล่าวน่าจะรู้จักกันเนื่องจากทราบว่านายภานุ มีทรัพย์สินภายในตัวจึงได้วางแผนปล้น
