xs
xsm
sm
md
lg

“หงหลง-เสี่ยวหลงเปา” ฉ่ำรสซุปเคล้าเส้นสดตำรับเซี่ยงไฮ้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เสี่ยวหลงเปา... ซ่อนซุปเข้ม รสฉ่ำอยู่ภายใน
จากที่เคยคิดว่าชลบุรีมีดีแค่ข้าวหลามและอาหารทะเล ครั้งนี้มีชื่อ “หงหลง ราเมนเส้นสด - เสี่ยวหลงเปา” เพิ่มลงไปในรายการ “ร้านอาหารต้องลอง” ด้วย แถมยังกาเครื่องหมายดอกจันซ้ำๆ ประดับเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

“อร่อยระดับภัตตาคารแต่ตัวร้านติดดิน” คือคำจำกัดความที่เราขอมอบให้อย่างเต็มใจพร้อมกับยกนิ้วโป้งอีกหลายๆ ครั้งให้แก่ทุกความละเมียดละไมที่ใส่ลงไปในเมนูราคาเป็นกันเองของที่นี่ วิทวัส พงศ์ไพรสณฑ์ เจ้าของร้านเชื้อสายจีนแท้ๆ เล่าที่มาที่ไปให้ฟังว่า สาเหตุที่รสชาติระดับภัตตาคารต้องย้ายมาอยู่ข้างทางอย่างทุกวันนี้ เกิดจากความตั้งใจของเขาและลูกพี่ลูกน้องฝีมือดีอีกหนึ่งคนนั่นเอง

พวกเราเป็นคนเซี่ยงไฮ้แต่ย้ายมาที่ไทยตามพ่อแม่ อาเหอ น้องชายผมเคยทำงานอยู่ในภัตตาคารจีน เรียนรู้จากเชฟใหญ่ที่มาจากเซี่ยงไฮ้แท้ๆ ซึมซับวิชาจนได้เป็นเชฟอยู่ในนั้นประมาณ 6-7 ปี ผมทำงานเป็นวิศวะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อยู่ที่นี่ มองเห็นว่าชลบุรียังไม่มีร้านอาหารรสชาติเซี่ยงไฮ้แท้ๆ เลยสักร้าน มีแต่ในภัตตาคารหรูๆ คนทั่วไปไม่ค่อยรู้จัก อยากให้คนไทยได้กินกันเยอะๆ เลยคุยกับน้องแล้วก็ลองเปิดดู” เจ้าของร้านวัย 37 เท้าความให้ฟัง

เมื่อคนเซี่ยงไฮ้มาเปิดร้านแบบเซี่ยงไฮ้ ทุกอย่างจึงยังคงความเป็นต้นตำรับเอาไว้ เริ่มตั้งแต่ชื่อร้าน “หงหลง” แปลว่ามังกรแดง เกิดจากความคิดที่ต้องการสื่อความเป็นจีนด้วยตัวมังกร และสีแดงซึ่งเป็นสีนำโชคของคนจีน หมายถึงความเจริญก้าวหน้า รวมไปถึงกระบวนการทำอาหารอย่างจีนขนานแท้ โดยเส้นราเมนของที่นี่จะใช้วิธีดึงเส้นให้เห็นกันสดๆ เป็นเหมือนการรับประกันความเหนียวนุ่มไปด้วยในตัว เพราะถ้าไม่เหนียวไม่นุ่มจริง ดึงด้วยมือแบบนี้มีแต่ขาดกับขาดแน่นอน

“จริงๆ แล้วเส้นแบบนี้เรียกว่าราเมี่ยนนะ ไม่ใช่ราเมน เส้นราเมี่ยนจะเน้นลวกแป้งร้อนๆ แล้วดึงเส้นกันสดๆ แต่ราเมนเป็นแบบญี่ปุ่น จะใช้วิธีรีดแป้งแล้วตัดแบ่งเอา แต่คนสมัยนี้เรียกปนกันเป็นราเมนไปหมดแล้ว เพราะญี่ปุ่นเอาไปทำให้แพร่หลาย ทั้งที่ต้นตำรับจริงๆ มาจากราเมี่ยนของจีนนี่แหละครับ” อาเหอ หรือนภดล แซ่หยาง เชฟใหญ่ของร้านให้ความรู้เพิ่มเติม

ไม่ปล่อยให้คำอธิบายสรรพคุณลอยผ่านไปเฉยๆ ว่าแล้วก็ลองสั่ง “ราเมนต้มยำไก่ตุ๋น” มาพิสูจน์กันเลย เพียงแรกสัมผัสเมื่อได้ลองลิ้มชิมเส้น ทันทีที่เนื้อฟันตัดผ่านเนื้อแป้งก็รับรู้ได้ถึงความละเมียดของการผสม ทั้งเหนียวทั้งนุ่มสมราคาคุย น้ำต้มยำที่แช่เส้นเอาไว้ก็เด็ดไม่แพ้กัน เปรี้ยวนำเผ็ดตาม รสชาติลงตัวโดยไม่จำเป็นต้องปรุงเพิ่ม ยิ่งผสมเนื้อไก่เข้าไปในคำ ทั้งหนังทั้งเนื้อนิ่มจนแทบละลายในปาก นี่ถ้าไม่ติดว่ากลัวอาหารไม่ย่อย อาจกลืนได้โดยไม่จำเป็นต้องเคี้ยวเลย

ราเมนต้มยำของที่นี่ มีให้เลือกทั้งซี่โครงหมูน้ำแดง หมูตุ๋น ไก่ตุ๋น และเนื้อตุ๋น แต่ถ้าไม่นิยมรสจัด ยังมีรสชาติต้นตำรับให้ได้ลองชิม ตัวน้ำซุปประกอบไปด้วยสมุนไพรจีนหลากหลายชนิด หลักๆ คือผงกะหรี่ ใส่เพื่อเพิ่มความหอม และป๋วยกั๊ก ซึ่งมีสรรพคุณทางยารักษาโรคกระเพาะ ทำให้รู้สึกสบายเนื้อตัว แถมยังช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดีด้วย วันไหนอยากเอาใจผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้าน แนะนำให้แวะมาสั่งเมนูนี้ คงได้เห็นอากงอาม่ายิ้มร่าไปทั้งวัน

รสชาติแปลกใหม่แต่น่าประทับใจต้องยกให้ “เสี่ยวหลงเปา” มองเผินๆ คล้ายเกี๊ยว ห่อหุ้มเนื้อหมูด้วยแป้งบางๆ แต่ซ่อนรสชาติพิเศษไว้ภายใน ทันทีที่กัดผ่านเนื้อนุ่มของชั้นแป้งเข้าไป ความอุ่นของน้ำซุปที่ซ่อนอยู่จะวิ่งผ่านไรฟัน แผ่อาณาเขตความอร่อยให้ซาบซ่านไปทั่วทั้งปาก แต่กว่าจะได้รสสัมผัสละเมียดละไมแบบนี้ ต้องผ่านกรรมวิธีการผลิตซับซ้อนหลายขั้นตอนอยู่เหมือนกัน

เริ่มจากการเอาน้ำซุปกระดูกหมูไปตุ๋นนาน 6 ชั่วโมง ทิ้งไว้จนกระทั่งน้ำที่เคยเต็มหม้อเหือดเหลือเพียงครึ่งเดียวเพื่อให้ได้รสชาติน้ำซุปเข้มข้น จากนั้นจึงนำไปวางในห้องแช่แข็ง ปรับอุณหภูมิจากร้อนให้กลายเป็นเย็น จนน้ำซุปเดิมกลายเป็นวุ้น พอถึงเวลาเสิร์ฟเสี่ยวหลงเปา จึงนำหมูสับบดมาปั้นเป็นก้อน วางไว้ในแป้งที่เตรียมไว้ จากนั้นตักซุปเนื้อวุ้นเติมลงไป แล้วนำไปอุ่นให้ร้อนได้ที่ เนื้อเย็นๆ ของวุ้นจะกลายสภาพเป็นน้ำซุปเข้มข้น หล่อเลี้ยงเนื้อนุ่มๆ ของหมูบดจนได้สัมผัสอุ่นๆ ที่รอคอย

“ขนมจีบกุ้ง” อีกหนึ่งเมนูที่เหนือกว่าคำว่าธรรมดา แวบแรกที่เห็นอาจไม่น่าสนใจนัก แต่ลองมองให้ดีจะตกใจในไซส์ใหญ่อลังการของเนื้อกุ้งซึ่งเกิดจากการอัดกุ้งสองตัวให้อยู่ในชิ้นเดียว กลายเป็นกุ้งอวบๆ ตัวอ้วนๆ ขนาดเต็มปากเต็มคำ ที่สำคัญคือกุ้งที่นี่คัดอย่างดีมาจากตลาด ไม่ใช่กุ้งฟรีซที่ร้านอาหารทั่วไปชอบใช้กัน เรื่องของความสดจึงไม่ต้องพูดถึง ส่วนเรื่องรสชาติ เคี้ยวแล้วจะร้อง “อื้ม!”

ขนมกินเล่นแต่รสชาติไม่ใช่เล่นๆ ของร้านนี้ยังมี “เกี๊ยว” และ “หมั่นโถว” อีกที่น่าลิ้มลอง ตัวเกี๊ยวแบ่งออกเป็นสองแบบ จะเลือกเกี๊ยวต้มเนื้อนิ่มหรือเกี๊ยวซ่าเนื้อกรุบก็ได้ ส่วนไส้ในมีทั้ง “กุยช่ายหมูสับทรงเครื่อง” และ “กะหล่ำแครอทหมูสับทรงเครื่อง” ให้ลองชิม หรือจะหันมารำลึกความหลังเมื่อครั้งยังเด็ก ลองหยิบหมั่นโถวขึ้นมาจิ้มกับนมข้นหวานกินกันเล่นๆ ก็ได้รสชาติไปอีกแบบ... โดยเฉพาะรสชาติต้นตำรับเซี่ยงไฮ้ รับรองว่าได้รับกลับไปแบบเต็มๆ พุงเลยทีเดียว



3 อันดับเมนูเด็ด
1. เสี่ยวหลงเปา : คล้ายเกี๊ยวแต่ชุ่มด้วยน้ำซุปที่ซ่อนอยู่ภายใน กินอุ่นๆ ให้รสอร่อยไม่รู้ลืม
2. ราเมนต้มยำไก่ตุ๋น : ราเมนทำมือเส้นสด พร้อมไก่ตุ๋นเนื้อนุ่มละลายในปาก
3. ขนมจีบกุ้ง : กุ้งอวบๆ สองตัวในชิ้นเดียว เคี้ยวเพลินจนต้องสั่งเพิ่ม



หงหลง ราเมนเส้นสด-เสี่ยวหลงเปา
ตั้งอยู่ริมถนนพระยาสัจจา ถ้าเดินทางมาจากกรุงเทพฯ ให้เปลี่ยนจากเส้นสุขุมวิทเลี้ยวขวาเข้าถนนพระยาสัจจาที่สี่แยกไฟแดงโรงเรียนชลราษฎร์อำรุง (ชลฯ ชาย) เมื่อถึงสามแยกให้เลี้ยวขวา ผ่านโรงพยาบาลเอกชลแล้วขับรถตรงไปอีกประมาณ 500 เมตร ร้านจะอยู่ฝั่งขวา เยื้องกับร้านข้าวต้มยินดี
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 - 20.00 น.
เบอร์ติดต่อ 081-488-8136
 
ข่าวโดย Manager Lite/ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์
ภาพโดย ศุภมิตร ลือรุ่งโรจน์วุฒิ

เสิร์ฟร้อน กินอุ่น อร่อยไม่รู้ลืม
ราเมนเส้นสดในน้ำต้มยำรสแซบ
ทั้งเนื้อทั้งหนังไก่ เนื้อนุ่มละลายในปาก
จีบกุ้งเนื้อแน่นเต็มคำ
เกี๊ยวซ่า กรอบๆ นุ่มๆ ในชิ้นเดียว
ย้อนวัยด้วยหมั่นโถว
เชฟมือดีดึงเส้นสดให้ดู

เจ้าของร้านราคาเป็นมิตร
แน่นขนัดไปด้วยลูกค้าเมืองชลฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น