“เปลือยท่อนบน โชว์ซิกแพก ทั้งยังวาดลีลาได้อย่างมืออาชีพ” ทั้งหมดคือภาพติดตาที่นำทางเรามาเจอกับเขาในวันนี้... “เม้าส์ ณัชชา จันทพันธ์” ส่วนเรื่องที่พูดคุยกันย่อมหนีไม่พ้นหัวข้อที่สาวๆ อยากรู้และหนุ่มๆ อยากลองอย่างแน่นอน!
ถ้าได้กดรีโมตไปดูละครทางช่อง Modern 9 บ้างในช่วงที่ผ่านมา จะพบกับกองทัพหนุ่มๆ หน้าใสเรียงแถวมาโชว์ความฟิตกันให้ละลานตา หนึ่งในนั้นคือ “เม้าส์ ณัชชา จันทพันธ์” ซึ่งรับบทนักกีฬาว่ายน้ำในละครเรื่อง “โลมา กล้าท้าฝัน” จึงไม่แปลกที่ทั้งสาวน้อยสาวใหญ่ทั้งแท้และเทียมจะยังคงติดตาตรึงใจกับหุ่นแน่นๆ และลีลาว่ายน้ำสวยๆ ของเขาอยู่ถึงแม้ละครจะจบไปแล้วก็ตาม M-Healthy จึงขอเดินตามควันหลงนั้นเพื่อเฉลยวิธีฟิตหุ่นหลังเลนส์ของหนุ่มหน้าใสรายนี้...
ใบ้ให้นิดหนึ่งว่าไม่ใช่กีฬาว่ายน้ำหรือเน้นเข้าฟิตเนสอย่างที่ใครๆ คาดไว้
โลมาหลังเลนส์
แทบจะมีฉากว่ายน้ำมากกว่าพูดคุยกันเสียด้วยซ้ำ สำหรับละครเรื่อง “โลมา กล้าท้าฝัน” ที่เม้าส์ อดีตนักร้องบอยแบนด์วง B.O.Y. แสดงไว้ ทีมงานจึงคาดหวังไว้เต็มที่ว่าทั้งสองฝ่ายจะได้พูดคุยกันอย่างออกรสเกี่ยวกับกีฬาชนิดนี้ แต่เมื่อเจอตัวเป็นๆ หนุ่มหน้าทะเล้นกลับตอบแบบไม่อ้อมค้อมว่า “ที่เห็นว่าว่ายเก่งๆ ในเรื่องนั่น จริงๆ แล้วว่ายได้สองท่าเองนะ คือก่อนหน้านี้ว่ายฟรีสไตล์ได้ตั้งแต่เด็กๆ แล้วก็เพิ่งมาหัดกรรเชียงเพิ่มอีกท่าตอนก่อนถ่ายทำนี่แหละครับ” ผู้สัมภาษณ์จึงขอให้แนะนำทริกบางส่วนที่เม้าส์เก็บเล็กผสมน้อยจากการเวิร์กชอปในกองมาเล่าให้ฟังแทน
“ก่อนจะถ่ายทำ ทุกคนจะได้ซ้อมกับพี่วู้ดดี้ (วรวุฒิ อำไพวรรณ) ก่อน ซึ่งพี่เขาเป็นนักกีฬาทีมชาติครับ แล้วเขาก็แสดงเป็นโค้ชในเรื่องด้วย เวิร์กชอปกันจริงจังเหมือนกัน ส่วนใหญ่จะไม่เน้นว่ายเร็วมาก แต่เน้นท่าทางไว้ก่อน คือต้องว่ายให้ถูกต้องที่สุด คนดูจะได้เชื่อจริงๆ ว่าเราคือนักกีฬาว่ายน้ำอย่างที่สวมบทบาทอยู่ เผื่อจะได้เอาไปใช้เป็นตัวอย่างในการว่ายได้ด้วย”
“ถ้าเทียบกับตอนเด็กๆ ที่เคยเรียนว่ายน้ำมา ผมว่าผมยังว่ายได้ไม่ถูกเท่าไหร่เลยนะ คงเพราะตอนเด็กๆ ความอดทนต่ำด้วยมั้งครับ พอว่ายแล้วมันหิวข้าว เราก็ขอครูกินข้าว แต่เขาไม่อนุญาต บอกว่าต้องว่ายให้เสร็จก่อน ไม่งั้นจะจุก แต่พอถูกห้ามหลายๆ ครั้งเข้าเราก็ไม่ไหว ก็เลยเลิกเรียนไปเลย หิว (หัวเราะ) ทำให้ได้ความรู้มาแบบครึ่งๆ กลางๆ เพราะเรียนไม่จบคอร์ส พอมีคนมาสอนอีกทีตอนโตถึงได้รู้ว่าเรายังว่ายน้ำไม่เป็นจริงๆ แค่ว่ายได้เฉยๆ” เม้าส์ย้อนวัย ก่อนเริ่มรวบรวมเคล็ดลับมานำเสนอ
“มันมีทริกอยู่เหมือนกันครับ อย่างตอนว่าย ถ้าหัวเราเชิด ถึงหัวจะอยู่ใต้น้ำแต่ก็จะทำให้ไปได้ช้าอยู่ดี เพราะหน้าจะต้านน้ำ ต้องพยายามก้มหน้าให้ขนานกับน้ำถึงจะดี หรืออย่างการวางมือบนน้ำตอนทำท่าฟรีสไตล์ ถ้าเราวางแบบต้านๆ น้ำ เอาฝ่ามือวางแปะไปบนแผ่นน้ำเลย มันก็จะทำให้ว่ายช้าลงเยอะ เราต้องวางมือแบบพุ่งไปข้างหน้าครับ ถึงจะว่ายได้เร็ว” โค้ชเฉพาะกิจไม่ลืมทำท่าประกอบ
“แล้วก็ต้องหัดกลับตัวในน้ำด้วยนะเรื่องนี้” เขาเปิดประเด็นใหม่ขึ้นมาและเริ่มอธิบายต่อ “วันแรกๆ ที่หัด ผมยังทำไม่ได้เหมือนกัน แอบหงุดหงิดตัวเองว่าทำไมทำไม่ได้สักที แต่พี่เขาบอกว่าเราต้องปรับตัวให้ชินก่อน ง่ายๆ เลยคือเริ่มจากหัดม้วนหน้ากับพื้น คืนนั้นทั้งคืนผมเลยกลับไปหัดม้วนหน้าที่บ้าน พอไปฝึกอีกทีหนึ่งก็ค่อยๆ ทำได้ มันไม่ยากอย่างที่คิดจริงๆ ครับ ทำแป๊บเดียวได้เลย แค่ต้องเอาหัวมุดไปที่ท้องแล้วเป่าลมออก ที่สำคัญคือต้องใช้มือช่วยกวักน้ำด้วย แล้วตัวเราก็จะหมุนได้เอง” ถ้าอยากรู้ว่าทฤษฎีนี้ใช้ได้จริงหรือเปล่า คงต้องลองทดสอบดู
มือโปรฯ ตัวจริง
ถึงจะคุยเรื่องทริกในการว่ายน้ำให้ฟังด้วยแววตาสนุกสนานขนาดไหน แต่ถ้าให้เลือกเป็นกีฬาที่เล่นประจำ เม้าส์กลับส่ายหน้าทันทีพร้อมให้เหตุผลว่า “ไม่เอาดีกว่า มันดำครับ” ถ้าประเทศไทยมีสระน้ำเกลือหรือสระแบบโอโซน รักษาผิวอย่างที่ใช้ถ่ายทำในละคร อาจเปลี่ยนใจเขาได้ แต่สระแบบนี้แทบหาไม่ได้เลยแม้กระทั่งในกรุงเทพฯ เอง เม้าส์จึงขอหลีกเลี่ยงดีกว่า ซึ่งเป็นสาเหตุเดียวกับที่อดีตโปรกอล์ฟอย่างเขาตัดสินใจเลิกเล่นกอล์ฟ
“ผมเคยไปเข้าแข่งแล้วถูกบรรจุเป็นโปร ตอนนั้นอายุสัก 14-15 ได้ แต่เลิกเล่นไปนานแล้วครับเพราะเล่นแล้วดำ (ยิ้ม) ยิ่งตอนไปออกรอบนี่ แดดแรงมาก ตัวดำเมี่ยมเลย ตอนนั้นเป็นช่วงที่เข้าวงการใหม่ๆ ด้วย ก็เลยต้องรักษาผิว แล้วจากนั้นก็ไม่ได้เล่นจริงๆ จังๆ อีกเลย แต่ถ้ามีรายการแข่งการกุศล ผมก็ยังไปเล่นบ้างนะ”
ไม่ใช่แค่เม้าส์คนเดียวเท่านั้นที่เป็นโปรกอล์ฟ แต่คนในครอบครัวคนอื่นก็มีฝีมือไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน และที่เป็นแบบนี้ได้ก็เพราะการเคี่ยวเข็ญของคุณพ่อมาตั้งแต่ยังตัวกะเปี๊ยกนั่นเอง
“พ่อเขามีความใฝ่ฝันว่าอยากให้ลูกเป็นโปรกอล์ฟครับ หรือไม่ก็อยากให้ทำงานสายนี้ ลูกทุกคนก็เลยเล่นได้หมด เริ่มเล่นกันตั้งแต่ 6-7 ขวบเลยครับ หลังเลิกเรียนปุ๊บก็จะดิ่งไปสนามกอล์ฟ เป็นกิจวัตรประจำวันที่ต้องทำ แต่ตอนนี้เหลือพี่คนโต (นรเชษฐ์ จันทพันธ์) ตีอยู่คนเดียวแล้ว เขาเคยเป็นทีมชาติด้วย เป็นทั้งโปรตีทั้งโปรสอนเลย ส่วนผมเคยเป็นโปรสอนอยู่แค่ครั้งเดียว (ยิ้ม)”
หลายคนนับว่ากอล์ฟเป็นกีฬา แต่ไม่ถือว่าเป็นการออกกำลังกาย เพราะไม่ค่อยได้ออกแรงเท่าใดนัก เม้าส์เองก็เห็นด้วยกับแนวความคิดนี้บางส่วน แต่ยังไม่อยากให้เหล่าคนรักกอล์ฟน้อยใจ เพราะยังมีข้อดีอีกหลายอย่างที่ถูกมองข้ามไป
“คนอาจจะมองว่าเล่นกอล์ฟไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเท่าไหร่ เห็นคนที่ท้วมๆ หรือคนที่ไม่ค่อยมีแรงก็เล่นได้ อันนี้มันก็ใช่ครับ เพราะกอล์ฟเป็นกีฬาที่ไม่ต้องใช้แรงมากจริงๆ ที่เห็นว่าตีได้ไกล จริงๆ แล้วใช้แค่หัวไหล่เหวี่ยงเท่านั้นเอง ถ้าเทียบกับกีฬาอย่างอื่น เช่น ฟุตบอล บาสฯ หรือว่ายน้ำ แบบนั้นจะใช้ร่างกายมากกว่า ทำให้หัวใจเต้นถี่กว่า”
“แต่จริงๆ แล้วเล่นกอล์ฟก็ถือว่าได้ออกกำลังเหมือนกันนะ ออกรอบทีหนึ่งต้องเดินตั้ง 18 หลุม รวมๆ แล้วก็หลายกิโลอยู่เหมือนกัน การเหวี่ยงไม้บ่อยๆ ก็ทำให้กล้ามเนื้อแขนแข็งแรงด้วย เล่นแล้วเห็นได้ชัดเลยว่าไหล่จะกว้างกว่าคนทั่วไป ที่สำคัญคือได้เรื่องสมาธิมากๆ แต่ถ้าอยากหุ่นเฟิร์มจริงๆ อาจจะต้องใช้กีฬาชนิดอื่นเข้ามาช่วยเสริมด้วยครับ” ผู้มีประสบการณ์แนะนำ
โปรแกรมตามใจฉัน
ถึงเม้าส์จะไม่ได้มายืนเปลือยอกโชว์ซิกแพกอยู่ริมสระน้ำให้เห็นอย่างในละคร แต่แค่พิจารณาจากแนวไหล่และกล้ามแขนที่แนบไปกับเนื้อผ้าบางส่วน ดูก็รู้ว่ากว่าจะได้รูปร่างอย่างที่เห็นต้องผ่านการดูแลมาอย่างดี และถ้าให้เดาเล่นๆ คงหนีไม่พ้นการเข้าฟิตเนสเป็นแน่ ผู้สัมภาษณ์จึงลองถามนักร้องหนุ่มวัย 20 ที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ปรากฏว่าคำตอบที่ได้รับกลับผิดคาดไปเยอะเหมือนกัน
“แทบจะไม่ค่อยได้เข้าฟิตเนสเลยครับ ช่วงที่เล่นแรกๆ อาจจะเข้าบ้าง แต่ตอนนี้ไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ผมจะตีแบดฯ มากกว่า (ยิ้ม) จะเล่นกับคุณแม่แล้วก็พี่ๆ เป็นประจำตอนประมาณ 3-4 ทุ่ม เพราะมีสนามอยู่ข้างบ้านพอดี เล่นครั้งหนึ่งก็ตกประมาณหนึ่งชั่วโมงได้ อาทิตย์หนึ่งไปเล่นสัก 2-3 ครั้งครับ” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายรับฟังด้วยสีหน้าแปลกใจ ผู้พูดจึงให้ข้อมูลเพิ่มเติม
“คนส่วนใหญ่อาจจะมองว่าแบดฯ เป็นกีฬาของผู้หญิง เพราะผู้ชายจะชอบเล่นกีฬาหนักๆ อย่างบาสฯ หรือฟุตบอลมากกว่า ซึ่งอันนั้นผมก็เล่นนะ แต่จะเอาไว้เล่นกับเพื่อนๆ ยิ่งสมัยมัธยมฯ นี่เล่นประจำเลย แต่พักหลังๆ ถ้าไม่ออกกำลังกายคนเดียวก็จะไปกับที่บ้าน ก็เลยหันมาเล่นแบดฯ ซึ่งผมว่ามันก็สนุกดีนะ ยิ่งตอนจับคู่เล่นกันเป็นทีม ได้เหงื่อดีมาก แล้ววันไหนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับคุณแม่ ยิ่งมันใหญ่เลย เพราะคุณแม่จะเล่นเก่งมาก เขามีทักษะมาตั้งแต่ตอนสาวๆ ลูกตบเขาร้ายกาจมาก (หัวเราะ) แถมยังช้อนลูกเก็บไวอีกต่างหาก ส่วนผมจะชนะได้ อาศัยว่าแรงเยอะกว่า” เม้าส์เล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงสนุกสนาน
แต่ถ้าวันไหนมีงานตั้งแต่เช้า หรือไม่อยู่ในอารมณ์เล่นแบดมินตัน เขาก็ยังมีทางเลือกอื่นอีก เรียกได้ว่าไม่จำเป็นต้องบังคับตัวเองให้เล่นกีฬาหรือออกกำลังกายแต่ในรูปแบบเดิมๆ เน้นความต้องการเป็นหลัก แค่ต้องปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอเป็นพอ
“ผมชอบเต้นที่บ้านด้วยครับ เปิดเพลงที่บ้าน ซ้อมเต้น เป็นอะไรที่รีแลกซ์สุดแล้ว ส่วนใหญ่ผมจะเต้นอาร์แอนด์บี แต่ไม่ได้ฟิกซ์ว่าต้องเต้นกี่ครั้งต่อสัปดาห์ ว่างตอนไหนก็เต้น บางวันก็จะเปลี่ยนเป็นวิ่งออกกำลังแทน ชอบวิ่งตอนกลางคืนก่อนนอนครับ เพราะผมตื่นมาวิ่งตอนเช้าไม่ไหว (ยิ้ม) วิ่งรอบหมู่บ้านประมาณครึ่งชั่วโมง ผมว่าได้วิ่งก่อนนอนก็ดีนะ มันทำให้ได้เหงื่อ พอรู้สึกเหนื่อยก็จะหลับสบาย ส่วนใหญ่จะไม่ฟิกซ์ว่าจะเต้น จะเล่นแบดฯ หรือจะเข้าฟิตเนส แต่อย่างน้อยอาทิตย์หนึ่งต้องออกกำลังกาย ถ้าไม่อย่างงั้นจะเป็นอะไรที่หงุดหงิดมาก”
เรื่องการดูแลผิวหน้าเม้าส์ก็ใช้โปรแกรมตามใจฉันอีกเหมือนกัน คือไม่ได้กำหนดตายตัวว่าจะต้องหาหมอสิวหรือเข้าสถาบันเสริมความงามอาทิตย์ละกี่ครั้ง หรือต้องเข้าเป็นประจำเหมือนดาราคนอื่นๆ แต่จะเลือกเข้าเมื่อจำเป็น และเน้นเลือกผลิตภัณฑ์ตามท้องตลาดที่เหมาะกับตัวเอง
“รู้สึกว่าหมอตามคลินิกจะชอบเลี้ยงไข้ คือเวลาไปรักษามันหายนะ แต่พอเลิกใช้ยาหมอ หน้าก็จะเห่อขึ้นมาเหมือนเดิม ก็เลยพยายามหาซื้อมาใช้เอง เพราะถ้าใช้ยาของหมอ เขาให้มาขวดแค่เนี้ย (จรดนิ้วโป้งกับนิ้วชี้เพื่อให้เห็นว่าเล็กขนาดไหน) ซึ่งถ้าเราไปหาซื้อเอง ขวดใหญ่ๆ พันกว่าบาท ใช้ได้นานกว่าเยอะ ตัวยาก็ไม่ต่างกันมาก แต่ต้องเลือกให้เป็น”
“ตอนแรกๆ ผมก็เลือกไม่ค่อยเป็นเหมือนกัน ใช้วิธีปรึกษาคนที่เขามีผิวหน้าคล้ายกับเรา ถามว่าเขาใช้อะไร แล้วก็ลองหามาใช้ตามดู ตอนนี้ที่กินประจำคือตัวยาที่ช่วยดูดน้ำมันออกจากผิว กินแล้วหน้าแห้ง ผิวแห้ง สิวไม่ขึ้น หรือพอรู้สึกว่าสิวกำลังจะขึ้น ซื้ออันนี้มากิน สิวยุบเลย จริงๆ นะ”
หาข้อมูลเอง ทดลองใช้เอง แถมยังบอกต่อด้วยน้ำเสียงมั่นใจได้แบบนี้ นี่แหละถึงเรียกว่าผู้ชายดูแลตัวเองตัวจริง
ซิกแพกแน่น แค่ 8 นาที!
เหลือเชื่อแต่เชื่อได้จริง! เพราะผู้ชายสุขภาพดีอย่างเม้าส์พิสูจน์มาแล้วว่าเพียงแค่ยอมสละเวลาบริหารร่างกายอยู่กับที่ประมาณ 8 นาที ก็สามารถมีหุ่นฟิตแอนด์เฟิร์มได้โดยไม่ต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือหรือตัวช่วยใดๆ ทั้งสิ้น เริ่มจากเปิดยูทูบแล้วเสิร์ชคำว่า “ABS Sixpack” ดู จะเจอคลิปออกกำลังกายแอนิเมชั่นของฝั่งตะวันตก จากนั้นให้ทำท่าบริหารไปเลียนแบบให้เป๊ะที่สุด ทำแบบนี้ทุกวัน แล้วจะได้หุ่นฟิตๆ แบบไม่จำเป็นต้องเข้าฟิตเนสเลย
“วันหนึ่งทำแค่ 8 นาทีก็ได้แล้วครับ นี่ไง (เม้าส์ใช้กาแล็กซี่แท็บเปิดคลิปให้ดู) ถ้าทำแบบนี้ทุกวัน กล้ามก็ขึ้นแล้วครับ ยิ่งไม่ค่อยมีเวลายกเวตหรือเข้าฟิตเนส แนะนำเลย ได้ผลจริงๆ ในนี้มันจะมีท่าซิตอัพติดกันประมาณ 40 ครั้ง ทำตามตัวการ์ตูนนี้เลย ห้ามพัก ห้ามวางหลัง พอเปลี่ยนท่าหนึ่ง เขาถึงจะให้พัก 15 วิ แล้วก็ทำท่าอื่นต่อ เป็นเซ็ตๆ ไป ในนี้มีท่าวิดพื้นด้วย เพราะฉะนั้นถ้าไม่ยกเวตก็ได้ช่วงแขนจากท่าพวกนี้อยู่แล้ว อยู่บ้านผมก็ทำตามคลิปนี้แหละครับ ทำทุกวันมันช่วยได้จริงๆ นะ ผมแทบไม่ได้เข้ายิมด้วยซ้ำ แต่ถ้าใครมีเวลายกเวตด้วยแล้วออกกำลังตามคลิปด้วยก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่”
โดยเฉพาะเด็กผู้ชายวัยละอ่อนที่นิยมเข้าฟิตเนสกันตั้งแต่หัวยังเกรียนๆ อายุยังไม่ถึง 18 ก็เริ่มฟิตหุ่นกันแล้ว เม้าส์แนะนำว่าให้ออกกำลังกายกล้ามเนื้อแบบเบาะๆ ด้วยคลิปนี้ดีกว่า เมื่อร่างกายพร้อมเต็มที่จะเล่นกล้าม ยกเหล็กกันหนักขนาดไหนก็ยังไม่สาย
“ผมเป็นคนหนึ่งที่เริ่มเล่นเวตตั้งแต่อายุ 14 นะ เพราะตอนเด็กๆ ตัวผอมมาก อยากกล้ามโตๆ ก็เลยเล่น แล้วหุ่นก็ฟิตขึ้นจริงๆ ตัวใหญ่เลย แต่ผมว่าเราอาจจะรีบเล่นเกินไปก็เลยทำให้ตัวสูงไม่เท่าเพื่อนคนอื่นๆ คือถ้าอายุน้อยๆ แล้วเล่นท่าไม่หนักมาก อย่างวิดพื้นก็โอเค แต่ถ้าต้องยกดรัมเบลในท่ายืน ยกเหนือหัวขึ้นลงบ่อยๆ อาจจะทำให้กระดูกมันทรุดได้ เพราะฉะนั้นถ้าไม่ได้ต้องเร่งฟิตกล้ามเพื่อไปทำอะไร ถ้ารอได้ก็อยากให้รอก่อน ให้อายุ 18 แล้วค่อยเล่น รอให้ร่างกายของเราโตเต็มที่ก่อน ไม่ต้องรีบเล่นมากหรอก เพราะถ้าอยากมีกล้าม มีซิกแพกมันไม่ได้ใช้เวลานาน เล่นประมาณ 6 เดือน ถ้าฟิตจริงๆ ก็ขึ้นแล้ว” วัยรุ่นใจร้อนทั้งหลายฟังเอาไว้
ข่าวโดย Manager Lite/ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์
ภาพโดย อดิศร ฉาบสูงเนิน