เมื่อฟิตเนสกลายเป็น "แหล่งเพาะเกย์" มากกว่าจะเป็น "แหล่งเพาะกล้าม" ไปแล้วในยุคปัจจุบัน “กำปั้น พีระ พาณิชย์พงส์” จึงขอแต่งตั้งตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการฟิตปั๋ง ทวงบัลลังก์ความเป็นชายในฟิตเนสกลับมาให้ผู้ชายแท้ๆ ได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันแบบไม่จำเป็นต้องเขินอายอีกต่อไป รับรองว่ามีแต่เคล็ดลับเด็ดๆ ให้ได้ยิ้มร่าโดยที่ไม่ต้องแบ่งแยก เพราะงานนี้... จะแมนหรือไม่แมนก็ได้ผลเหมือนๆ กัน
ชายแท้ = สูบบุหรี่, กินเหล้า, ปล่อยตัว, ลงพุง, ไม่ทาหน้า, ไม่ไปหาหมอสิว และไม่เข้าฟิตเนส ฯลฯ ความเชื่อเหล่านี้ถูกกำจัดไปจากสารบบของ M-Lite หมดแล้ว หลังจากได้นั่งคุยกับผู้ชายที่ชื่อ “กำปั้น พีระ พาณิชย์พงส์” หรือ “กำปั้น บาซู” ในความทรงจำของใครหลายๆ คน เพราะเขาคืออีกหนึ่งคนที่ใช้ชีวิตแบบขั้วตรงข้ามของนิยามความเป็นชายที่กล่าวมาทั้งหมด แต่ยังมีความแมนอยู่ในตัวอย่างเต็มเปี่ยม อย่างที่ทีมงานสัมผัสได้จากการเดินทางมาพิสูจน์ถึงฟิตเนสใจกลางเมือง พื้นที่ที่เขาใช้ฟิตเปรี๊ยะความเป็นชายเป็นประจำ
ชายไม่แท้หรือแค่ดูแลตัวเอง?
“มีผู้ชายอีกหลายคนเลยครับยังอายที่จะออกกำลังกายอยู่ โดยเฉพาะการเข้าฟิตเนส เพื่อนผมบางคนไม่ยอมเข้าเลย มันบอกว่ามีผู้ชายอยู่แค่สองประเภทเท่านั้นแหละที่ชอบเข้าฟิตเนสคือ ถ้าไม่ใช่เมโทรฯ ก็เป็นเกย์ เหมือนเป็นความเชื่อไปแล้วว่าถ้าเป็นผู้ชายที่แมนๆ ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเข้าฟิตเนส หรือที่บอกว่าชายแท้ต้องลงพุงอะไรประมาณนั้น ผมว่าเราน่าจะเปลี่ยนความเชื่อแบบนี้กันได้แล้ว ไม่อยากให้เหมารวมว่าใครเข้าฟิตเนสแล้วต้องเป็นแบบนั้นทั้งหมด อยากให้มองแค่ว่าคนเข้าฟิตเนสก็แค่คนที่รู้จักดูแลตัวเอง ไม่อยากให้แบ่งแยกกันครับ”
กำปั้นถ่ายทอดความคิดของตัวเองให้ฟัง เพื่อให้หลายๆ คนกำจัดความคิดที่ว่า “ฟิตเนสคือแหล่งเพาะกล้ามและแหล่งเพาะเกย์” ไปเรียบร้อยแล้ว
ถ้าตัดเรื่องรสนิยมทางเพศออกไป แล้วมองแค่เรื่องออกกำลังกายเป็นหลัก จะเห็นว่าคนที่ออกกำลังกายทุกคนดูดีกว่าคนที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเองอย่างเห็นได้ชัด กำปั้นจึงไม่อยากให้ผู้ชายอีกหลายๆ คนละทิ้งเรื่องสุขภาพเพียงเพราะกลัวว่าจะถูกคนอื่นมองว่าไม่แมนพอ เขาบอกว่ามันเป็นเหตุผลที่ไร้สาระเกินไป ทางที่ดีควรหันมาดูแลสุขภาพกันดีกว่า แล้วเรื่องอื่นค่อยว่ากัน
“ผมว่าคนที่ออกกำลังกายกับคนที่ไม่ออก ผลมันจะต่างกันจนเห็นได้ชัดเลยนะ ผมเคยเจอเพื่อนเก่าสมัยเรียนครั้งหนึ่งหลังจากไม่ได้เจอกันนาน ตกใจมาก รู้สึกว่าหน้าเขาไปเร็วมากเมื่อเทียบกับเราที่พยายามออกกำลังกาย รู้เลยครับว่าการออกกำลังแล้วก็ดูแลตัวเองมันช่วยได้จริงๆ ยิ่งพออายุมากขึ้นยิ่งเห็นชัดเลย ตอนนี้ก็ 33 แล้ว (หัวเราะ) รู้ตัวเลยว่าคอลลาเจนในผิวหนังมันเสื่อมลงจริงๆ โดยเฉพาะอาชีพอย่างเราที่ต้องอยู่หน้ากล้อง ถูกแสงไฟแล้วก็แต่งหน้าบ่อยๆ ทำให้เครื่องสำอางเข้าไปอุดตัน เกิดสิวง่ายมาก ผมว่าบางครั้งการเข้าสถาบันเสริมความงามเพื่อผลัดเซลล์ผิว เอาสิ่งสกปรกออกจากหน้าเราก็จำเป็นเหมือนกันนะ” ว่าแล้วผู้ชายดูแลตัวเองอย่างกำปั้นก็แนะนำเรื่องดูแลผิวหน้าเพิ่มเติม
“ผิวหน้าก็เหมือนกับผิวตัวของเรานี่แหละครับ ผิวที่แขน ขา เราบริหารให้กล้ามเนื้อแน่นได้ เราก็น่าจะหาวิธีบริหารหน้าเหมือนกัน อันนี้เป็นความคิดของผมเองนะ ผมก็เลยไปหาข้อมูล แล้วก็เจอวิธีช็อตด้วยไฟฟ้า กระตุ้นให้เซลล์ผิวปรับตัวด้วยวิธีธรรมชาติ ตอนนี้ผมก็ทำอยู่ครับ ผมว่าดีกว่าใช้เลเซอร์หรือฉีดหน้าอีก เพราะเราไม่ได้เอาสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในหน้า แต่แค่ใช้ไฟฟ้ากระตุ้นเฉยๆ” เมื่อถูกทีมงานแซวว่าเป็นคนดูแลตัวเองมากกว่าที่คิดไว้ คำอธิบายยาวๆ จึงพรั่งพรูออกมาจากปากของเขา
“อืม... ก็จริงครับ (ยิ้ม) คนอื่นฟังแล้วคงคิดว่าผมดูแลตัวเองเกินผู้ชาย แต่ผมว่ามันจำเป็นนะในเมื่อผมยังต้องใช้หน้าตาทำมาหากิน แล้วความจริงผมก็ไม่ได้สำอางอะไรมากนะ แค่ทาครีมที่หน้าบ้าง ส่วนที่ตัวก็ไม่ค่อยได้ทาด้วยซ้ำ ทาแค่ตอนที่รู้สึกว่าแห้งจริงๆ ผมว่าผู้ชายทำแค่นี้ไม่เรียกว่าเมโทรฯ หรอกครับ เราไม่จำเป็นต้องกลัวว่าใครจะมองว่าไม่แมนแค่เพราะว่าเราดูแลตัวเอง ผมว่าผู้ชายที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวนั่นแหละควรจะต้องเปลี่ยนความคิด”
“ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับผู้ชายที่ผิดๆ อีกหลายเรื่องเลยครับ คือนอกจากจะเชื่อกันว่าคนที่ดูแลตัวเองมากๆ คือผู้ชายที่ไม่ใช่ผู้ชาย เชื่อว่าผู้ชายต้องไว้พุงแล้วก็ปล่อยเนื้อปล่อยตัว สูบบุหรี่ ไม่ดูแลผิว ไม่ทาครีม ผมว่าเราน่าจะเปลี่ยนความคิดแบบนี้ได้แล้ว อย่างเรื่องสูบบุหรี่ ผู้ชายบางคนจะชอบคิดเข้าข้างตัวเองว่ากลิ่นบุหรี่มันมีเสน่ห์ คิดว่าเป็นกลิ่นที่ช่วยให้ผู้ชายดูแมนมากขึ้น ผมว่ามันไม่ใช่นะ มีผู้หญิงตั้งหลายคนที่เขาไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ เหม็นด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นถ้าคิดว่าสูบแล้วเท่ ผมว่าเลิกดีกว่าครับ เพราะมันไม่ได้เท่เลย” กำปั้นไม่ได้พูดเพื่อสั่งสอนใคร แต่ตั้งใจจะแนะนำจากประสบการณ์ของคนที่เลิกสูบบุหรี่มาได้ 5 ปีแล้วต่างหาก
“เคยสูบช่วง 20-25 ครับ แต่พักหลังๆ รู้สึกว่าซ้อมเต้นหนักๆ แล้วหายใจถี่มาก เหนื่อยกว่าปกติ แล้วตอนนั้นผมไปเรียนต่อที่อเมริกา เราก็ไปเห็นว่าคนรุ่นใหม่ของที่นู่นเขาไม่สูบบุหรี่กันแล้วนะ เหมือนกับว่าทัศนคติแบบเดิมๆ ที่ว่าสูบบุหรี่แล้วเท่มันเปลี่ยนไปหมดแล้ว ตอนนั้นเป็นสมัยแรกๆ เลยที่ติดป้ายว่าถ้าใครจะสูบต้องแยกไปสูบที่ๆ เขาจัดไว้ให้ เหมือนเป็นกลุ่มคนที่สังคมรังเกียจ ก็เลยกลายเป็นจุดเปลี่ยนเล็กๆ ให้ผมเลิกบุหรี่อย่างจริงจัง คิดกับตัวเองว่าในเมื่อมันไม่เท่แล้ว ก็ไม่รู้จะสูบไปทำไม (หัวเราะ)”
อยากเซ็กซี่ยกมือขึ้น!
ถูกแล้ว... คำว่า “เซ็กซี่” ใช้กับผู้ชายได้จริงๆ แต่จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อคุณผู้ชายทั้งหลายหันมาเล่นกล้ามแล้วเท่านั้น โดยเฉพาะส่วนกล้ามท้อง ถ้าฟิตจนทำให้เกิดแพกได้ รับรองว่าเนื้อหอมขึ้นมาเป็นแถว ไม่เชื่อถามกำปั้นดูได้เลย
“เพื่อนผมหลายคนที่บ้าออกกำลังเหมือนๆ กันจะชอบแข่งกันสร้างกล้าม ได้ 4 แพกบ้าง 6 แพกบ้าง แล้วแต่ความขยัน หรือคนที่ฟิตจริงๆ เดี๋ยวนี้ไม่ได้มีกันแค่ 6 แพกแล้ว เขาเล่นแอดวานซ์ไปถึง 8 แพกก็มี แล้วแต่ใครชอบแบบไหน ส่วนผมหยุดอยู่ที่ 6 แพกก็พอครับ แต่จะเน้นเล่นให้มองเห็นชัดที่สุด ซึ่งเป็นอะไรที่ยากมาก” คนอธิบายไม่ลืมเน้นเสียงคำว่า “ยาก” และ “มาก” เพื่อให้ผู้ฟังมีอารมณ์ร่วม ก่อนเริ่มอธิบายระดับความยากที่ประกาศเอาไว้
“เป็นที่รู้กันในหมู่คนเล่นเลยว่าเป็นส่วนที่ขึ้นยากที่สุด ยากกว่ากล้ามแขนอีก แล้วยิ่งถ้าใครทำให้มันขึ้นชัดๆ ได้ แสดงว่ามีวินัยสูงมาก คือนอกจากต้องฟิตหุ่นทุกวันแล้ว แสดงว่าเขาควบคุมอาหารได้ดีมากๆ ด้วยไม่อย่างนั้นไม่มีวันมีแพกบนท้องได้เลย คือถึงเราจะพยายามซิตอัพมากแค่ไหน แต่ถ้าไขมันส่วนเกินในร่างกายยังมีอยู่เยอะ มันก็จะบังกล้ามหมด ทำให้ร่องกล้ามดูไม่ลึกพอ เพราะฉะนั้นถ้าอยากให้เห็นเป็นแพก ต้องพยายามรีดไขมันให้เหลือน้อยที่สุด อย่างช่วงที่ผมฟิตมากๆ ปริมาณ Fat ในร่างกายเหลือแค่ 2-16 เปอร์เซ็นต์เองนะ ซึ่งถือเป็นค่าที่ต่ำมากๆ เมื่อเทียบกับคนทั่วๆ ไป แต่กว่าจะทำได้ก็เหนื่อยสุดๆ เลยครับ”
แต่อย่าเพิ่งท้อ! ถ้าอยากจะมีหุ่นแน่นฟิตเปรี๊ยะจริงๆ กำปั้นแนะนำให้หาแรงบันดาลใจให้แก่ตัวเอง ซึ่งต้องเป็นแรงผลักดันที่มากพอที่จะผลักให้ไม่เลิกล้มความตั้งใจไปง่ายๆ โดยเฉพาะมือใหม่หัดเพาะกล้ามทั้งหลาย ขอให้อดทนเอาไว้ รับรองว่าผลรับที่ได้เกินคุ้มอย่างแน่นอน
“การออกกำลังกายมันเป็นสิ่งที่ทรมาน (หัวเราะ) จริงๆ นะ คิดดูสิครับว่าจู่ๆ เราก็บังคับให้ร่างกายไปยกเหล็ก ยกของหนัก เพื่อสร้างกล้ามเนื้อขึ้นมาใหม่ กว่าจะปรับตัวได้ก็ต้องทนปวดตัวอยู่ตั้งนาน ทรมานมากๆ เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากเลิกเล่นก่อนเวลาต้องพยายามหาแรงบันดาลใจให้ตัวเอง อย่างผมที่ผ่านมาได้จนถึงตอนนี้ก็เพราะมีแรงกระตุ้นเรื่องการออกอัลบั้มใหม่อยู่ ซึ่งเป็นอัลบั้มเดี่ยวครั้งแรกในชีวิต เป็นความฝันของผมมาตั้งนานแล้ว และคอนเซ็ปต์ของเพลงต้องโชว์เต้นโชว์บอดี้ด้วย ผมก็เลยเริ่มเล่นฟิตเนสอย่างจริงจังช่วงก่อนถ่ายเอ็มวีประมาณ 3 สัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงที่ผมเฟิร์มที่สุดแล้ว” หนุ่มกล้ามโตเล่าต่อ
“จำได้ว่ากล้ามท้องตอนนั้นชัดกว่าตอนนี้เยอะ ตอนนั้นรู้สึกดีกับหุ่นของตัวเองมากๆ มันเป็นเหมือนผลผลิตของความพยายามของเรา โดยเฉพาะส่วนกล้ามท้อง ผมว่ามันเป็นส่วนที่เซ็กซี่ที่สุดของผู้ชายเลยนะ ลองถามผู้หญิงดูก็ได้ (ยิ้มขี้เล่นพร้อมกับหัวเราะตบท้าย) เปล่าหรอกครับ... อันนั้นมันก็เป็นผลพลอยได้ส่วนหนึ่ง แต่จริงๆ แล้วผมว่ามันเซ็กซี่ตรงความยากนี่แหละ ทำให้รู้สึกว่าท้าทายดี” เอาล่ะ! หนุ่มๆ ท่านใดยังไม่มีแรงบันดาลใจส่วนตัว แนะนำให้นึกถึงหน้าสาวๆ ในฝันไว้ แล้วคุณจะอยากมีซิกแพกขึ้นมาทันที
โปรแกรมฟิตปั๋งในฟิตเนส
ถึงแม้ซิกแพกจะสามารถทำให้สาวๆ กรี๊ดได้ แต่ถ้ามีแค่ส่วนท้องที่แน่นเปรี๊ยะแล้วส่วนอื่นเหลว เสน่ห์ที่มีคงใช้งานได้ไม่ดีพอ จึงจำเป็นต้องเล่นกล้ามทั้งตัวเพื่อให้ร่างกายทุกส่วนได้รูป สำหรับคนที่กำลังคิดว่าจะลองเล่นเองดูก่อน นักเพาะกล้ามรุ่นพี่มีคำแนะนำมาฝากกัน
“แรกๆ ผมก็เล่นเองเหมือนกัน ยังไม่มีเทรนเนอร์มาคอยดูแล ก็ไปได้เรื่อยๆ นะ แต่รู้สึกว่ามันไม่ค่อยพัฒนาเท่าไหร่ เหมือนกับเราไม่ค่อยกล้ายกน้ำหนักมากๆ เพราะกลัวจะพลาด เส้นพลิกแล้วจะบาดเจ็บ หลังๆ ก็เลยให้เทรนเนอร์ช่วยดูแลครับ เลยทำให้รู้ว่าเล่นแบบไม่พะวงพัฒนาเร็วกว่าเยอะ แล้วตอนหัดอยู่คนเดียวแรกๆ จะท้อบ่อยมาก แต่พอได้คนมาช่วยเชียร์ บอกว่าอีกนิดนะพี่ มีคนมาจัดโปรแกรมการใช้เครื่องออกกำลังกายให้ มันได้ผลมากกว่า แล้วก็สนุกกว่าด้วย เพราะมีคนให้ปรึกษาให้คุยกันได้ตลอด” คนที่ยังยึดความตั้งใจเดิมว่าจะลองเล่นเองดูก่อน สามารถเอาโปรแกรมฟิตกล้ามต่อไปนี้ไปใช้ได้ ไม่สงวนลิขสิทธิ์
“ถ้าจะให้เล่นทุกอย่างวันเดียวคงเป็นไปไม่ได้ กล้ามเนื้อจะล้าเกินไป ผมจะแบ่งร่างกายเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือหน้าอก, ไหล่ และหลัง อยู่ในกลุ่มหนึ่ง ส่วนอีกกลุ่มคือช่วงแขน, ขา และหน้าท้อง แล้วเวลาเล่นผมจะเลือกจับคู่อย่างละกลุ่มคือ วันนี้เล่นอกกับแขน อีกวันเล่นไหล่กับหน้าท้อง แต่จะไม่จับคู่กลุ่มเดียวกัน เพราะถ้าเล่นหน้าอกต่อด้วยเล่นหลังหรือไหล่ มันจะล้าเกินไป เพราะเป็นกล้ามเนื้อบริเวณใกล้ๆ กัน”
“คือจริงๆ แล้วรายละเอียดเรื่องกล้ามเนื้อแต่ละส่วนมันยิบย่อยมากครับ แต่ผมจะสรุปสั้นๆ ให้ฟัง อย่างช่วงกล้ามท้อง นอกจากแพกบน แพกกลาง แพกล่าง แล้วยังมีข้างๆ อีกสองด้านด้วย บางคนมีแพกตรงหน้าท้องครบ 6 แล้วนะ แต่ด้านข้างยังมีห่วงยางอยู่ ก็ต้องพยายามเบิร์นส่วนเกินออก ซึ่งผมจะใช้การวิ่งบนลู่ ท่าเตะกระสอบของมวยไทย แล้วก็ฮูลาฮุบเข้ามาช่วยเสริม แต่ถ้าอยากจะฟิตจริงๆ ต้องควบคุมการกินด้วย สูตรที่ผมเคยใช้คือกินข้าวได้ แต่กินน้อยหน่อย คือเราไม่ต้องถึงกับอดข้าว เพราะถ้าร่างกายขาดแป้ง สมองจะเบลอ จะทำอย่างอื่นในชีวิตไม่ได้เลย ให้เน้นกับมากกว่า แต่ต้องเป็นประเภทไม่มีไขมันแต่ให้พลังงานนะ” เมื่อเห็นว่าผู้ฟังยังทำหน้าสงสัย เจ้าของสูตรจึงยกตัวอย่างเมนูให้ฟังอย่างละเอียด
“เวลาควบคุมอาหาร คนอื่นเขาจะกินสลัดกัน แต่ผมเป็นคนไม่ค่อยชอบกินผักสด กินแล้วรู้สึกไม่ค่อยถูกปาก กินได้แป๊บๆ ก็เบื่อ ก็เลยคิดเมนูขึ้นมาเอง เป็นผักลวกกินกับน้ำพริกแล้วก็ปลา แซ่บด้วยสุขภาพดีด้วย (ยิ้ม) วันไหนเบื่อปลาชนิดเดิมก็เปลี่ยนเป็นปลาแซลมอนดู เป็นแซลมอนราดน้ำพริก อร่อยมากครับ แล้วถ้าอยากได้พลังงาน แนะนำให้กินไข่ต้มแทนข้าวไปได้เลย ประมาณวันละ 10 ฟอง แต่ห้ามกินไข่แดงนะ กินไข่ขาวได้อย่างเดียว เพราะไข่แดงมันมีคอเลสเตอรอลทำให้อ้วน ส่วนของทอดของมัน เป็นไปได้อย่าแตะครับ แต่สำหรับผม ผมจะปล่อยให้วันอาทิตย์เป็นวันครอบครัวแล้วก็เป็นวันฟรีหนึ่งวัน คืออยากกินอะไรก็กิน แต่ไม่ใช่กินเยอะเกินไปนะ แค่กินให้หายอยาก จะได้ไม่ทรมาน ที่สำคัญคือจะได้มีความสุขกับคนในครอบครัวได้ ไปเที่ยวไปกินข้าวด้วยกันได้ตามปกติ” ถ้าทำได้แบบนี้ รับรองว่าทั้งหุ่นดีทั้งเป็นแฟมิลี่แมน ถูกใจสาวๆ อย่างแน่นอน
ท่าพิเศษเสริมสมรรถภาพเพศชาย!
นั่งคุยกันอยู่นาน ถึงเวลาพิสูจน์ทฤษฎีกันเสียหน่อย กำปั้นจึงเริ่มพาเราเดินชมส่วนต่างๆ ของฟิตเนส และสาธิตการออกกำลังกายแต่ละส่วนให้ดู เริ่มจากยกเวตเพิ่มกล้ามแขนก่อน กำปั้นบอกเคล็ดลับเล็กๆ ในการเพิ่มระดับการยกว่า ให้เอาน้ำหนักตัวมาหารสอง จะได้น้ำหนักของเวตที่สูงที่สุดที่เราควรจะยก ส่วนกำปั้นหนัก 66 กิโลกรัม หารแล้วได้น้ำหนัก 33 แต่หันไปดูน้ำหนักที่เขายกคือ 100 กิโลกรัม... ต้องบอกว่าควรใช้วิจารณญาณในการชมและควรมีเทรนเนอร์ให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดด้วย
จากนั้นจึงพาไปดูเครื่องซิตอัพเพื่อเพิ่มซิกแพก ต่อด้วยเครื่องบริหารกล้ามเนื้อช่วงหลัง กำปั้นสาธิตโดยยกตัวขึ้นโหนเครื่อง แล้วปล่อยตัวห้อยลงมา เหลือแค่มือสองข้างยึดไว้ จากนั้นยกตัวขึ้นลง นับเป็นเซต จนมาถึงท่าที่ยากที่สุดของท่าบริหารช่วงหลังคือยกตัวขึ้นพร้อมๆ กับเตะขาตั้งฉาก ให้อยู่ในระนาบเดียวกันกับพื้น แต่ถ้าทำท่าเดียวกันนี้ พร้อมๆ กับบิดตัวซ้ายขวา จะช่วยลดห่วงยางได้ในคราวเดียว
แล้วก็มาถึงท่าที่ชายหนุ่มทุกคนรอคอย ระหว่างออกกำลังกายขาให้ดู จู่ๆ กำปั้นก็อมยิ้มแล้วหันมาบอกกับเราว่า “พี่เขียนแนะนำท่านี้ก็ได้นะ เป็นท่าเล่นช่วงขาส่วนหลัง เวลาเล่นส่วนนี้มันจะช่วยให้ร่างกายหลั่ง Growth ฮอร์โมน มันเป็นตัวที่ช่วยในเรื่องสมรรถภาพทางเพศของผู้ชาย” ทีมงานหูผึ่งตั้งใจฟัง และตามสืบจึงรู้ว่าชื่อท่า “Squat” และ “Stiff-Deadlift” ใครอยากเพิ่มสมรรถภาพให้แก่ตัวเอง ท่องเอาไว้อย่าให้ลืมเชียวล่ะ
เมื่อเห็นว่าทีมงานเริ่มหันมาสนใจท่าบริหารเพื่อเพิ่มสมรรถภาพของเพศชาย เทรนเนอร์คนเดิมจึงช่วยแนะนำอีกท่าหนึ่งให้ สรรพคุณของมันทำให้กำปั้นถึงกับร้องโอ้โห! ออกมาแล้วพูดว่า “ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะเนี่ย ไม่เคยเล่นเครื่องนี้มาก่อนด้วย” ท่านี้ชื่อว่า “Hip Abducter” เป็นท่าที่ผู้หญิงส่วนใหญ่นิยมทำกันเพื่อกระชับต้นขาด้านในไม่ให้หย่อนคล้อย วิธีการคือนั่งลงบนเครื่องแล้วดันขาเข้าออกตามวงล้อรูปครึ่งวงกลม ทำเซตละ 12-15 ครั้ง จะช่วยให้กล้ามเนื้อขาหนีบกระชับ ส่วนผู้ชายมีผลพลอยได้ยิ่งกว่านั้น คือช่วยให้พื้นที่ส่วนบุคคลกระชับและแข็งแรงมากขึ้น “เวลาใช้ร่างกายส่วนนั้นจะได้ไม่เหนื่อยง่ายไงครับ” เทรนเนอร์พูดไปยิ้มไป โดยพยายามพูดอ้อมค้อมที่สุดเพื่อให้เข้าใจกันอย่างถ้วนหน้า... เคล็ดลับเด็ดขนาดนี้ หนุ่มไม่หนุ่มทั้งหลายที่รักสุขภาพ ทราบแล้วปฏิบัติ!
ข่าวโดย Manager Lite/ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์
ภาพโดย อดิศร ฉาบสูงเนิน