กระต่ายที่เราเห็นทั่วไปจะมีสีขาว สีน้ำตาล หรือไม่ก็สีเทาดำ แต่สีแดงนี่สิ! ยังไม่เคยเห็นว่าที่ไหนจะมีเลย แต่มีคนกระซิบบอกทีมงาน m-pet มาว่า คุณบาส - วุฒิชัย ทองนพเก้า เจ้าของฟาร์ม KB Rabbit Range เขามีกระต่ายสีแดง เราจึงไม่รอช้าเพราะตื่นเต้น เกิดมายังไม่เคยเห็น จะมีหน้าตาแปลกแตกต่างไปจากกระต่ายตัวอื่นๆยังไงนะ? สีขนสดๆ ของมันคงสะดุดตา ขนนุ่มๆ คงน่ากอด น่ารัก น่าเอ็นดู แต่ที่เป็นไฮไลท์ คือเจ้ากระต่ายแดงถือเป็นตัวแรกในประเทศไทย
2 ปีหลังมานี้ กระต่ายได้เป็นที่นิยมในกลุ่มคนรักสัตว์มากขึ้น หลายคนได้จองเป็นสัตว์เลี้ยงประจำบ้านกันไปแล้ว กระต่ายได้ขยายสายพันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เจ้ากระต่ายสีแดงตัวนี้ก็เช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับคนชอบเลี้ยงกระต่าย มีลูกค้าทั้งเก่าและใหม่ต่างพากันแวะเวียนมาทักทายกันไม่ขาดสายเลย
ทำไมต้องเลี้ยงกระต่าย?
เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน จากที่คุณบาส เป็นคนชอบกระต่ายอยู่แล้ว จึงสนใจซื้อกระต่ายแต่ละพันธุ์มาเลี้ยง และสามารถเพาะพันธุ์ได้เองจนมีมากถึง 70 ตัว หลังจากที่เลี้ยงมาประมาณ 5 ปีกว่า และเลี้ยงกระต่ายในลักษณะฟาร์มเพื่อเปิดร้านขายให้กับผู้ที่อยากเลี้ยงมาเป็นเวลาประมาณ 4-5 ปีแล้ว ประสบการณ์การเลี้ยงกระต่ายจึงแทบจะทุกสายพันธุ์และทุกสี ซึ่งตอนนี้กระต่ายที่เลี้ยงไว้ทั้งหมดมีประมาณ 300 ตัวเลยทีเดียว
“ผมชอบเลี้ยงสัตว์ เลี้ยงสัตว์มาตั้งแต่เด็กๆ ว่างไม่ได้ต้องมีสัตว์เลี้ยง แต่ที่มาสนใจกระต่ายจริงๆ เพราะเห็นว่ากระต่ายเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่ายไม่ส่งเสียงดังและสามารถเพาะพันธุ์ได้เร็วทำให้เราเห็นพัฒนาการของเขาได้ทันใจดี เมื่อเรามาผสมพันธุ์เอง ทำให้ได้กระต่ายที่มีลักษณะตามที่เราชอบหลายๆตัว จึงสามารถทำได้เองอย่างที่เราชอบโดยไม่ต้องไปตระเวนซื้อ จึงเป็นความคิดที่ว่าเราไม่อยากซื้อ แต่เราอยากทำขึ้นมาเอง ให้มันได้สวยๆอย่างที่เราชอบ และเลี้ยงหลายๆ ตัวในบ้าน
ผมเริ่มเลี้ยงกระต่ายตั้งแต่ปี 2544 แต่ตอนนั้นบ้านเรามีแต่พันธุ์ผสมที่เราคิดว่าเป็นพันธุ์แท้เลี้ยงอยู่ประมาณ 3 ปีที่แล้ว ก็ได้มีโอกาสรู้จักพี่ที่ชอบกระต่ายเหมือนกัน พี่เขาเป็นคนเปิดโลกให้เราได้เห็นกระต่ายสายพันธุ์แท้จริงๆ และพี่คนนี้ก็ได้นำเข้ากระต่ายสายพันธุ์ต่างๆเข้ามาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้เราเริ่มคิดอยากจะเลี้ยงกระต่ายอย่างจริงจัง จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็มีกระต่ายอยู่ 10 สายพันธุ์ เป็นกระต่ายพ่อแม่พันธุ์ที่นำเข้ามาจากอเมริกาทั้งหมดประมาณ 100 กว่าตัว ถ้ารวมที่ฟาร์มทั้งหมดก็มีกระต่ายประมาณ 300 ตัว”
แรกที่รู้จักกระต่ายสีแดง
จากการที่ได้รู้จักกับรุ่นพี่คนหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยความที่ชอบกระต่ายเหมือนกัน จึงแลกเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับกระต่ายมาตลอด จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการรู้จักและชอบกระต่ายพันธุ์ Thrianta ซึ่งเป็นกระต่ายสายพันธุ์ใหม่ และหลังจากนั้นจึงได้ศึกษาและนำเข้ามาเลี้ยงในประเทศไทย
“ด้วยความบังเอิญและความโชคดีที่มีฟาร์มเลี้ยงกระต่าย Thrianta ได้อยู่แถวนั้นพอดี ตอนนั้นจึงสั่งซื้อกระต่าย พันธุ์นี้ เป็นเพศผู้มาหนึ่งตัวก่อนเมื่อปลายปี 2008 ตั้งชื่อให้ว่า “ชงชา” และหลังจากนั้นอีกประมาณ 1 ปีก็นำตัวเมียเข้ามาอีกครั้งเมื่อปลายปี 2009 ให้ชื่อว่า “น้ำหวาน” ตอนแรกคิดแค่ว่าจะเอามาลองเลี้ยงดูเฉยๆ เพราะกระต่ายไม่ใช่ว่าทุกพันธุ์สามารถนำมาเลี้ยงบ้านเราได้ เป็นเฉพาะบางสายพันธุ์เท่านั้น บางสายพันธุ์เมื่อนำเข้ามาแล้วไม่สามารถมีลูกได้ ตอนที่นำกระต่าย Thrianta เข้ามาจึงเป็นการเสี่ยงดู ตอนแรกคิดว่าสีต้องเพี้ยน เห็นอยู่ที่ต่างประเทศ มีสีขนแดงๆ แต่พอมาอยู่บ้านเรา มันมีความชื้นจากอากาศ ซึ่งทำให้สีขนของกระต่ายเปลี่ยนได้เหมือนกัน และพอเลี้ยงไปได้สักพัก สีขนก็ยังคงสภาพเดิมไม่เปลี่ยนไป ก็เลยนำตัวเมียเข้ามาเมื่อปีที่แล้ว”
ลักษณะที่โดดเด่นของ Thrianta คือ ขนสี ซึ่งมีลักษณะเป็นสีแดงเพลิงเมื่อถูกแสงอาทิตย์ แต่ถ้าอยู่ในที่ร่มขนจะเป็นสีน้ำตาลเข้มอมส้ม ลักษณะของขนสีที่สวยงามต้องเป็นสีสด ไม่ด่างหรือมีความเข้มเสมอกันทั่วตัว ซึ่งเป็นการแสดงการทำงานของยีนส์เม็ดสีของกระต่าย ดังนั้นกระต่ายพันธุ์ Thrianta จึงมีลักษณะเด่นที่สี และเป็นลักษณะสีที่เฉพาะตัวคือมีสีเดียวเท่านั้น และเป็นพันธุ์เดียวที่มีอยู่ในตอนนี้ ไม่เหมือนพันธุ์อื่นๆ ซึ่งบางพันธุ์จะมีหลากหลายสีแล้วแต่พันธุกรรมของแต่ละตัว แต่กระต่ายพันธุ์ Thrianta จะมีเฉพาะสีแดงเพลิงเท่านั้น
“กระต่ายพันธุ์ Thrianta จะมีเป็นสีแดงเพลิงเท่านั้น เป็นตามหลักพันธุกรรมของกระต่ายพันธุ์นี้ และลูกที่ออกมาก็จะเป็นสีนี้เช่นกัน จะไม่เปลี่ยนเป็นสีอื่น เป็นตามลักษณะพันธุกรรมของกระต่ายพันธุ์ Thrianta ดังนั้นคนเลี้ยงกระต่ายทั่วไปจึงอยากให้กระต่ายเป็นสีนี้ทั้งนั้น เพราะยังไม่เคยมีเลยในประเทศไทย”
Thrianta 2ตัวแรกในไทย
เจ้าของฟาร์ม KB Rabbit Range คอนเฟิร์มกับเราว่า กระต่ายพันธุ์ Thrianta สายพันธุ์ล่าสุดที่นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา มีเพียง 2 ตัวในเมืองไทยและอยู่ที่ฟาร์มนี้เท่านั้น ซึ่งในต่างประเทศโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา สายพันธุ์นี้ได้กำลังเป็นที่นิยมของกลุ่มคนเลี้ยงกระต่ายและได้ขยายพันธุ์กันอย่างแพร่หลายแล้ว
KB Rabbit Range เป็นฟาร์มกระต่ายสายพันธุ์แท้ที่มีพ่อแม่พันธุ์นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกามากกว่าร้อยตัว และมากที่สุดในประเทศไทย กระต่ายในฟาร์มทุกตัวได้ผ่านการคัดสรรโดย กรรมการของสมาคม ARBA (American Rabbit Breeders Association) และ Breeder ชั้นนำของอเมริกา คนซื้อจึงมั่นใจได้ว่ากระต่ายจากฟาร์ม KB Rabbit Range มีลักษณะที่ตรงตามมาตรฐานสายพันธุ์และปราศจากโรคทางพันธุกรรมอย่างแน่นอน
“สัตว์เลี้ยงจะมีการแบ่งมาตรฐานโดย 2 สมาคมใหญ่ หลักๆคือ ยุโรป และอเมริกา แต่ทางอเมริกาจะเพาะพันธุ์สัตว์ที่มีลักษณะสวยกว่ายุโรป ซึ่งที่เห็นได้ชัดคือกระต่ายที่มีพันธุ์เดียวกัน แต่มีหน้าตาไม่เหมือนกันเลย และโดยส่วนตัวเมื่อเรามองแล้วรู้สึกว่าพันธุ์ที่มาจากอเมริกามีหน้าตาน่ารักและสวยกว่า แต่พันธุ์จากยุโรป เราไม่เห็นถึงความเด่นของพันธุ์เลยแต่ในพื้นฐานของสาย พันธุ์ก็จะเป็นลักษณะคล้ายๆ กัน ดังนั้น เริ่มแรกจึงนำเข้ามาจากสหรัฐฯ และตอนนี้ก็นำเข้ามาอยู่เรื่อยๆ
กระต่ายที่ร้าน เราจะนำเข้ามาจากสหรัฐฯ ทั้งหมด กระต่ายพันธุ์ Thrianta ก็ยังมีอยู่ที่สหรัฐฯเป็นที่เดียว และได้ขยายพันธุ์อย่างแพร่หลาย มีจำนวนคนที่นิยมเลี้ยงในสหรัฐฯเพิ่มมากขึ้น ในยุโรปยังไม่มีสายพันธุ์นี้เลย ดังนั้นสาเหตุที่นำเข้ามาเพราะความชอบเป็นเหตุผลหลัก อย่างคนที่ไม่เคยเลี้ยงกระต่ายมาก่อนจะคิดว่า มันเป็นแค่สีธรรมดาๆสีหนึ่งเท่านั้น แต่ถ้ารู้จักกระต่ายจริงๆแล้วจะรู้ว่าสีแบบนี้ไม่มีในกระต่ายมาก่อน”
ผสมพันธุ์สุดแสนจะง่ายดาย
กระต่ายเป็นสัตว์ที่ผสมพันธุ์และได้ลูกไว ในระยะเวลาเพียง 1 ปี สามารถให้ลูกได้ 7-8 คอก จึงเท่ากับว่ามีลูกได้กว่า 40 ตัว/ปี เลยทีเดียว นี่เป็นความอัศจรรย์ของกระต่าย จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมกระต่ายจึงเยอะแยะ มีหลากหลายสายพันธุ์และหลายสีเต็มไปหมด
“กระต่ายไม่มีช่วงเวลาการผสมพันธุ์ เป็นสัตว์ที่สามารถผสมได้ตลอด แต่ถ้ากระต่ายที่ไม่ได้ผสมพันธุ์เป็นเวลานาน จะมีโอกาสเกิดการเป็นหมันชั่วคราวในทั้งตัวผู้ ตัวเมีย ตรงนี้มียาแก้หมัน ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการผสมพันธุ์ ดังนั้นจึงต้องให้เขาผสมพันธุ์กันเรื่อยๆจนกว่าจะท้อง นั่นก็จะแสดงว่าหมันหลุดแล้ว”
กระต่ายพันธุ์ Thrianta จะมีความพร้อมที่จะผสมพันธุ์เมื่ออายุ 8 เดือนขึ้นไป (ทุกสายพันธุ์) มีระยะเวลาในการตั้งท้อง ประมาณ 28-33 วัน ก็คือเดือนหนึ่งนั่นเอง ส่วนลูกที่ออกมาขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ถ้าเป็นพันธุ์ Thrianta คอกหนึ่งจะมีตั้งแต่ 4-6 ตัว สามารถหย่านมได้เมื่ออายุ 1 เดือนครึ่ง มีอายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 6-7 ปี และมีน้ำหนักโตเต็มวัยไม่เกิน 2.5 กิโลกรัม
จะเห็นได้ว่ากระต่ายเป็นสัตว์ที่สามารถขยายพันธุ์ได้เร็ว เพราะใช้เวลาการตั้งท้องเพียงแค่เดือนเดียว ดังนั้นเวลาเพาะพันธุ์จึงมีรอบการตั้งครรภ์ที่เยอะกว่าสัตว์อื่นๆที่คนนิยมเลี้ยงอีกหลายชนิด คุณบาสได้บอกอีกว่า การที่กระต่ายให้รอบตั้งท้องที่เร็ว ทำให้เราได้ลุ้น รู้สึกสนุกกับมัน ยิ่งเมื่อได้รู้จักคณะกรรมการที่ตัดสินการประกวดกระต่ายในสหรัฐอเมริกา และจากการได้เข้าประกวดกระต่ายเรื่อยๆในทุกปี ทำให้เราสนุกและอยากเพาะพันธุ์กระต่ายต่อไป
ลักษณะดี ทำเงินดี
การที่นำกระต่าย Thrianta เข้ามาจากประเทศอเมริกา เพราะความชอบเป็นการส่วนตัวของเจ้าของเอง จึงไม่ได้คิดจะเอามาขายต่อ ซึ่งถ้าสามารถขายได้ ก็คงเป็นผลพลอยได้ที่ตามมา เนื่องจากกระต่ายตัวใหญ่และมีสีเดียว คนเลี้ยงทั่วไปจะไม่นิยมเลี้ยง จึงขายสู้กระต่ายตัวเล็กๆไม่ได้
“มีคนเลี้ยงกลุ่มน้อยเท่านั้นที่จะชอบกระต่ายพันธุ์นี้ ลูกค้าที่เข้ามาที่ร้าน บางคนก็จะถามว่ากระต่ายพันธุ์อะไร? ซึ่งเป็นส่วนน้อยเท่านั้นที่จะถาม แต่ไม่คิดจะเลี้ยง เขาจะบอกว่าคงเลี้ยงไม่ได้เพราะตัวมันใหญ่ไป ดังนั้นในแง่ของตลาดคนเลี้ยงกระต่าย กระต่ายพันธุ์ Thrianta จึงขายได้ยาก ส่วนกระต่ายพันธุ์อื่นๆที่มีในร้านก็ขายได้เรื่อยๆ ซึ่งในช่วงนี้มีลูกค้าทั้งเก่าและใหม่เข้ามาเยอะเลยทีเดียว ประมาณ 30-40 คน/เดือน”
ราคาขายกระต่าย Thrianta อยู่ที่ประมาณ 6,000-8,000 บาท/ตัว ในลักษณะดีทั่วไป แต่ถ้ากระต่ายออกมาแล้วมีลักษณะที่สวยงามตามเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งดูจากลักษณะของสี หัว ลำตัว สะโพกบั้นท้าย ซึ่งทุกส่วนของอวัยวะต้องสมส่วนกับร่างกาย แต่หลักๆจะดูที่โครงสร้างของบอดี้ ลักษณะที่สวยงามก็ขายได้ราคาเป็นหลักหมื่น ซึ่งกระต่ายในคอกเดียวกันบางตัวก็มีลักษณะไม่เหมือนกัน ราคาก็จะต่างกันไปด้วย ส่วนเรื่องสี ส่วนใหญ่จะออกมามีสีที่เหมือนกันหรือใกล้เคียงกัน ตามลักษณะของยีนส์เฉพาะในแต่ละสายพันธุ์ ซึ่งพันธุ์นี้จะเป็นทรงหมอบ มีลักษณะคล้ายมีดอีโต้ ดังนั้น การที่มีโครงสร้างร่างกายดีจะมีราคาที่สูงมาก บางตัวมีราคาหลายหมื่นเลยทีเดียว
เลี้ยงง่ายไม่ยาก
อาหารที่ให้จะเป็นอาหารสำเร็จรูปสำหรับกระต่าย โดยทางฟาร์มจะให้เป็นรูปแบบเม็ดแบบเดียว เพื่อไม่ให้กระต่ายเลือกกินได้ ก็จะช่วยตัดปัญหาการขาดสารอาหารไปในทางอ้อม อาหารที่ฟาร์มเลือกใช้จะเป็น Kaytee อาหารเกรดพรีเมียมและซูเปอร์พรีเมียมจากประเทศสหรัฐอเมริกา หลากหลายสูตรไม่ว่าจะเป็น Exact Rainbow ,Timothy Complete , Forti - Diet และ Supreme และจะให้อาหารกระต่ายในตอนเย็นวันละ 1 มื้อเท่านั้น แต่ตอนกลางวันจะให้หญ้าแห้ง Timothy เพื่อให้ระบบขับถ่ายเป็นไปอย่างสมบูรณ์ ส่วนการให้น้ำเป็นระบบอัตโนมัติกระต่ายจะได้รับน้ำสะอาดตลอด 24 ชม.
“สำหรับคนเลี้ยงทางบ้าน อาหารที่ใช้เลี้ยงกระต่าย ควรเป็นหญ้าแห้งและอาหารเม็ดที่ผลิตได้คุณภาพ มาตรฐานสำหรับกระต่ายโดยเฉพาะ ควรเลี้ยงให้เหมาะสมกับกระต่าย ซึ่งอยู่กับคนเลี้ยงต้องดูกระต่ายของเราเอง ถ้าตัวเล็กไปก็ให้อาหารเยอะหน่อย แต่ถ้าตัวใหญ่ไปก็ให้น้อยลง อาหารเม็ดควรให้ในตอนเย็น ส่วนตอนเช้าควรให้เฉพาะหญ้า และมีขวดน้ำ 1 ขวด ที่ใช้สำหรับกระต่ายโดยเฉพาะซึ่งมีขายตามร้านค้าทั่วไป ถ้าเราให้อาหารที่ดี อาหารจำพวกวิตามินจึงไม่จำเป็นสำหรับกระต่าย กระต่ายควรอยู่ในกรงที่มีขนาดกว้างประมาณ 60x50 ซม. และจำกัดแค่ 1 ตัว/กรง เท่านั้น ก็สามารถเลี้ยงได้ตั้งแต่เล็กจนโต”
นอกจากนี้ ทางฟาร์มยังมีกรงสำหรับใช้เลี้ยงกระต่ายขายและสามารถสั่งทำได้ วัสดุที่ใช้ในการทำจะเลือกใช้ลวด Steel ขนาด 2 mm. ขึ้นไป ในการขึ้นโครงกรงแล้วก็นำมาชุบซิงก์ โดยเป็นการชุบแบบใช้ไฟฟ้า วิธีนี้เป็นที่ยอมรับว่าปลอดภัยต่อสิ่งมีชีวิตตามหลักมาตรฐานสากล และด้วยขนาดของตัวลวดที่มีขนาดถึง 2 mm. ทำให้กระต่ายรู้สึกสบายไม่เจ็บเท้าและเป็นแผลกดทับตามมา มี 2 ขนาด คือ 18”x24”x18” มีกว่า 190 ใบ โดยใช้เลี้ยง พ่อพันธุ์และแม่พันธุ์
และขนาด 18”x15”x18” มีกว่า 120 ใบ ใช้เลี้ยงกระต่ายอายุไม่เกิน 6 เดือน หรือกระต่ายเตรียมขึ้นเป็นพ่อแม่พันธุ์
ตอนนี้คุณบาสได้รับโอกาสให้เป็น ประธานชมรม Rabbit Breeders Society of Thailand ตั้งแต่ปี 2009 และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อชมรมมาเป็น Siam Rabbit Clubเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เพื่อให้สามารถจดจำได้ง่ายกว่า ซึ่งทางชมรมได้พยายามผลักดันให้มีงานประกวดดีๆ มีมาตรฐานเกิดขึ้นในเมืองไทยและพยายามสื่อสารให้ผู้เลี้ยงกระต่ายพัฒนากระต่ายสายพันธุ์ที่ตนเองสนใจไปในทิศทางเดียวกัน คือมาตรฐานสากลที่ผู้เลี้ยงส่วนใหญ่ในโลกยอมรับ และอยากที่จะเพาะกระต่ายให้สวยอย่างที่ตั้งใจและได้มาตรฐานสากล ส่วนเรื่องการตลาดมุ่งหวังที่จะส่งออกมากกว่าเพราะที่ฟาร์มได้ส่งออกไป เวียดนาม,มาเลเซีย บ้างแล้ว ขอแค่เพียงว่าสามารถเพาะพันธุ์กระต่ายที่มีคุณภาพออกมาได้ ตลาดยังคงต้องการกระต่ายที่มีคุณภาพอีกมากมาย
“อยากจะฝากถึงผู้ที่คิดจะเลี้ยงกระต่ายไม่ว่าจะเลี้ยงเพื่อเป็นเพื่อนหรือเพื่อเพาะขยายพันธุ์ ขอให้ศึกษาหาข้อมูลก่อน ว่าแต่ละสายพันธุ์หน้าตาเป็นยังไง แบบไหนถึงจะเหมาะกับเรา ขอให้มีใจรักกระต่ายเป็นพื้นฐานหลักอย่าเพียงแต่จะแสวงหาผลประโยชน์จากกระต่าย เพราะหากคุณไม่ได้มีใจรักแล้วก็ไม่สามารถทำมันออกมาได้ดี”
ถ้าคนไหนสนใจอยากเลี้ยงกระต่ายสายพันธุ์แท้จากอเมริกา คุณบาส ยินดีให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพและปัญหาการเลี้ยงดู ได้ที่จตุจักรพลาซ่า โซน D ซอย 11 ห้องที่ D36-D37 โทร. 08-6562-5312 อีเมล : kbrabbitrange@hotmail.com หรือเว็บไซต์ : www.kbrabbit.com
ข่าวโดย M-Lite/ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์
ภาพโดย วรวิทย์ พานิชนันท์