xs
xsm
sm
md
lg

กล้า ตรง แรง สไตล์มือปราบปลาปักเป้า พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วาณิชบุตร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เส้นทางของตำรวจ ‘มือปราบปลาปักเป้า’ จนถึง ‘มือปราบน้องแน็ท’ ต้องเรียกว่าโลดโผนโจนทะยาน และด้วยความที่พูดจาเสียงดัง บางอารมณ์ก็ติดตลกร้าย แถมชนดะกับนักการเมืองไม่เลือกหน้า ทำให้ พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วาณิชบุตร รองผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี เด้งไปเด้งมาหลายครั้ง แต่ล่าสุดก็ยังไม่วายเปิดศึกกับ ‘วอลเปเปอร์’ กรณีโยกย้ายตำรวจเมื่อปลายปีที่ผ่านมา จนกลายเป็นข่าวใหญ่โต

หลังจากฝุ่นควันเริ่มสงบลงบ้าง เขาก็เปิดโอกาสให้เราบุกถึงห้องทำงานที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อพูดคุยแบบเป็นกันเอง ปลดปล่อยสีสันของเส้นทางชีวิตที่ผกผัน บอกเล่าชีวิตตำรวจมือปราบอย่างสนุกสนาน ตรงไปตรงมา รวมถึงเปิดเผยว่าทำไมต้องสั่งอาหารเลี้ยงผู้ต้องหาครั้งเป็นผู้การอ่างทอง

มีรูปปั้นเทพเจ้ากวนอูไว้ในห้องตั้งแต่เมื่อไหร่
เทพเจ้ากวนอู ถ้าใครไม่แน่จริงอย่าไปเคารพบูชา ถ้าเคารพบูชาแล้วทุจริต โดนร้อยเท่า แต่ถ้ากราบไหว้เคารพบูชาแล้วปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ไม่โกงกิน จะเจริญร้อยเท่า

ตั้งแต่เด็กๆ ประมาณสิบกว่าขวบ ฝันถึงผีหน้าแดงอยู่หลายปี ก็ไม่รู้จะไปเล่าให้ใครฟัง เดี๋ยวเขาจะหาว่าบ้า ผมก็ไม่รู้ว่าผีหน้าแดงคืออะไร ดูในทีวีก็ไม่เคยเห็นผีหน้าแดง ดูแล้วก็ไม่ใช่ผีไทยนี่หว่า พอวันตรุษจีน ลูกน้องของพ่อจะต้องเอาของมาไหว้ พ่อก็แจกอั่งเปา เราอยู่ข้างบน เดินลงมาถึงเวลากินข้าวเจอผีหน้าแดงอยู่บนโต๊ะ เราวิ่งขึ้นบันไดเลย แม่ๆๆ เขาเอาผีหน้าแดง อะไร ผีหน้าแดงเป็นยังไงวะ

เราก็ลงมา ตกใจ ขนหัวลุก ถามพ่อว่านี่คืออะไร พ่อว่านี่ไม่ใช่ผีหน้าแดง แต่เป็นเทพเจ้ากวนอู เทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ ซื่อตรง และกล้าหาญ หลังจากนั้นก็ค้นคว้ามาโดยตลอด มีอยู่สองบรรทัดเท่านั้นที่สรุปได้คือ ไพร่พลไม่ทำชั่ว ถ้าขุนศึก ขุนพล ไม่คิดชั่ว เหมือนกับของเรา ถ้าผู้การมันไม่เอาตังค์ คนอื่นก็เอาลำบาก

คุณเป็นคนเดียวในครอบครัวที่เป็นตำรวจ
อีก 7 คนค้าขายหมด มีไอ้วิสุทธิ์คนเดียวที่ทะลึ่งมาเป็นตำรวจ และตั้งแต่เด็กเกลียดตำรวจ ทำไมจึงเกลียด สมัยก่อนแม่สั่ง น้อย (ชื่อเล่น) อาบน้ำ ไม่เอาเดี๋ยวก่อน ไม่อาบน้ำเดี๋ยวเรียกตำรวจจับนะ มันก็ฝังในใจว่าตำรวจคงจะร้าย ในชีวิตไม่เคยคิดอยากจะเป็นตำรวจเลย และก็โคตรเกลียดตำรวจเลย

พอจบนิติศาสตร์ราม ในสันดานเป็นคนชอบตรงๆ ตั้งแต่เด็ก ก็เลยคิดว่าต้องเป็นอัยการหรือผู้พิพากษา ตอนนั้นเขามีหลักเกณฑ์ว่าต้องผ่านงานด้านนิติกรหรือทนายความไม่น้อยกว่า 2 ปี จึงจะสอบได้ เลยไปสมัครงานที่สำนักงานทนายความแห่งหนึ่ง ทำงานอยู่ปีแปดเดือนก็มีการเปิดรับสมัครสอบตำรวจ โดยรับนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ สอบมาเป็นนายร้อยตำรวจชั้นสัญญาบัตรเรียกว่านักเรียนนายร้อยตำรวจพิเศษ อบรม 1 ปี วันดีคืนดี เพื่อนคนหนึ่งซื้อใบสมัครสอบ โทร.มาให้ไปสอบ รองฯ ก็บอกว่าไม่ไป หลังจากนั้นอีกสองวันมันขับรถมาที่บ้านให้ไปสอบ บอกกูไม่เอา จะมาบังคับให้ไปสอบทำไม มันบอกกูจะลอกมึง เพราะมึงเก่งกฎหมาย

รองฯ ได้เบอร์ 70 ของมันได้ 71 มันจัดการให้เราหมด ขอร้องเรา โอเค เมื่อมึงขอร้องเราก็ไปให้มันลอก แต่ดวงคนเรามันจะไม่ได้เป็น แต่เราจะได้เป็น พอไปถึงวันสอบ เจ้ากรรมเบอร์ 70 ทะลึ่งไปอยู่ท้ายห้อง ส่วนเบอร์ 71 ดันไปต่ออยู่หน้าห้อง ซวยฉิบหาย เราก็บอกว่าช่วยอะไรมึงไม่ได้

เราก็ไม่ดู เพราะเราไม่อยากเป็นตำรวจ แต่เขาห้ามออกจากห้องก่อน ก็นั่งเซ็งอยู่ 15 นาที ตำรวจที่คุม เฮ้ย ไม่ทำข้อสอบเหรอ ทำไม่ได้เหรอ เราก็มองหน้ามัน มึงไม่ดูหนังสือแล้วมาสอบตำรวจทำไมวะ แล้วจะเป็นตำรวจได้เหรอวะ ผมบอกว่าผมกำลังคิดว่าจะทำหรือไม่ทำ แล้วมึงมาสอบ มาคิดทำไม เขียนไปเถอะ เผื่อได้ เราก็พลิกข้อสอบมาดู หมูๆ ทั้งนั้น เขียนไปครบ เสร็จแล้วก็ยังไม่ให้ออกอีก

ปรากฏว่า เราสอบติดข้อเขียน เพื่อนตก แต่เราก็เฉยๆ แต่ยังต้องมีสอบพละอีก ติดอีก ไม่เอา อันดับ 3 คือสัมภาษณ์ ก็ไม่อยากไป ไอ้กลุ่มเดิมก็บอกให้ไปลองอีก ไปก็ไป ในห้องมีกรรมการอยู่ 4 คน เขาถามว่าถ้าคุณได้เป็นตำรวจคุณจะเป็นตำรวจที่ดีได้หรือไม่ โทษนะครับ คนเราจะเป็นคนดี ไม่จำเป็นต้องเป็นตำรวจหรอก ถ้าจะดี มันดีด้วยตัวมันเอง ด้วยจิตสำนึก ด้วยคุณธรรม จริยธรรม ไม่จำเป็นว่าผมเป็นตำรวจแล้วจะต้องทำดี ผมอยู่บ้านเฉยๆ ก็เป็นคนดีได้ คือตอบกวนส้นตีนแม่งไปเลย ติดอีก

ยังไม่ผ่านอีกนะ ตรวจโรคอีก เราก็จะไม่เอาอีก ไปหาซินแส เขาบอกยังไงลื้อต้องเป็นตำรวจ มาพูดตอนหลังนะ แต่ตอนแรกเขาพูดว่า อั๊วบอกลื้ออย่างเดียวว่าลื้อต้องไปตรวจร่างกาย เพราะเขาตรวจให้ลื้อฟรีอยู่แล้ว ลื้อจะเป็นตำรวจหรือเปล่า ช่างมัน ลื้อจะได้รู้ว่าเป็นโรคอะไร ของฟรีลื้อไปตรวจซะ เออ ซินแสแนะนำดี

ผ่านอีก ก่อนวันมอบตัวสองวัน เหล่าเครือญาติ เพื่อนๆ ขอร้องให้เราไปอบรม 1 ปี บ้านเราค้าขายมาทั้งชีวิต ไม่มีใครรับราชการเลย ก็อยากให้มีสักคนรับราชการ เราก็ไม่เอา คนทั้งตระกูลด่า เหมือนกับไม่เสียสละตัวเอง วันต่อมาไปหาซินแส ซินแสบอกว่าลื้ออย่าไปฝึนลิขิต ลื้อจะเป็นตำรวจที่ดีและมีอำนาจ แต่ลื้อไม่มีอำนาจสูงสุดหรอก ลื้อได้แค่ระดับหนึ่ง แล้วลื้อจะต้องเปลี่ยนไปมีอำนาจอย่างอื่น แต่ลื้อต้องเป็นตำรวจ

คุณคงเป็นคนรักเพื่อนมาก
รักไม่รักไม่รู้ แต่ผมตายแทนเพื่อนได้ ขอให้เพื่อนดีนะ

อย่างเพื่อนขอลอกขอสอบคุณช่วย แล้วถ้าเพื่อนมาขอให้ช่วยเรื่องใบสั่งให้หน่อย คุณช่วยมั้ย
ไม่ช่วย แต่การที่เขามาลอกข้อสอบผม ตอนนั้นเราก็ช่วยเพื่อน ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องผิดอะไร เขามาขอร้องเรา เราไม่ได้ไปทุจริตเอาผลประโยชน์ โกงเงินเขา อย่างนี้เราไม่เอา เฮ้ย มึงช่วยปีนไปขโมยข้อสอบมาให้หน่อย อย่างนี้ไม่เอา อันนี้มันชัดเจน แต่นี่มันเป็นความรู้ของเรา อยากจะลอกเรา เราคิดตอนนั้นอยากจะช่วยเพื่อน

แล้วเส้นทางหลังจากนั้น
คือทุกอย่างมันเร่งรัด หนักมากๆ แต่มันได้ร่างกาย บางทีกวนส้นตีน เอ้า เย็นนี้ปล่อย แต่งตัวเตรียมกลับ เอ้า ฝึกนิดหน่อย ดูความพร้อม หน้าเดิน แม่งให้เดินลงน้ำ ไม่บอกหยุด ก็ต้องเดิน เอ้า อาทิตย์นี้ไม่ปล่อยกลับ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ต่อ แล้วก็มาฝึกที่ สน.ทองหล่อ ตั้งแต่สืบสวน สอบสวน ปราบปราม จราจร สายตรวจ ต้องรู้หมด

หลังจากนั้นกำลังจะเลือก สน. ปรากฏว่ามีผู้ใหญ่อยากได้ตัวเพราะเห็นประวัติว่าเรากำลังจะสอบอัยการ พล.ต.อ.แสวง ธีระสวัสดิ์ ตอนนั้นเป็นผู้การกองวิชาการกรมตำรวจ ดูแลเรื่องกฎหมาย ก็ทาบทามเรา เลยมาเป็นรองสารวัตรประจำแผนกกฎหมายกองวิชาการ พอท่านแสวงย้ายไปเป็นผู้การนครบาลใต้ก็ดึงวิสุทธิ์ไป

ตอนนั้นท่าน พล.ต.อ.สุพาสน์ จีระพันธ์ ตอนนั้นเป็น พล.ต.ต. ก็ดูสำนวนเราแล้วเห็นว่ามีแวว ก็เลยขอให้ผมไปทำงานด้วยจะให้เป็นนายเวร อยู่ไป อยู่มา ท่านสุพาสน์ขึ้นมาเป็นผู้บัญชาการสอบสวนกลาง เราก็เคว้งสิ แต่ผมก็อยู่ที่เดิมต่อกับ พล.ต.ต.บำรุง กาญจนวัฒน์ อีกพักหนึ่ง หลังจากนั้น ท่านสุพาสน์กับท่านบำรุงทะเลาะกัน ซวย เราก็เป็นคนตรงๆ เมื่อเขาทำเรา เราก็บอกว่า ท่านอาจารย์สุพาสน์เป็นฝ่ายถูก เพราะผมเห็นอย่างนี้ๆ พล.ต.ต.บำรุง บอก เฮ้ย อย่างนี้คุณก็ทรยศผมสิ (พูดเสียงดัง) คุณเป็นนายเวรผม คุณไปเข้าข้างศัตรูผม ศัตรูอะไร ผมพูดตรงๆ เห็นอะไรมาก็เล่าอย่างนั้น เฮ้ย อย่างนี้ผมก็ปลดคุณออกจากนายเวรสิ ไม่ต้องปลดครับ นายเวรจะมีสายขาวๆ ผมแกะโยนแม่งบนโต๊ะเลย ไม่ต้องปลดหรอก ไม่สนใจ

ตอนคุณไปเป็นผู้การที่อ่างทอง เอาอาหารมาเลี้ยงผู้ต้องหาตอนแถลงข่าว อารมณ์นั้นคิดอะไรอยู่
 คือหลังจากเด้งไปเด้งมา ย้ายไปเป็นผู้การอ่างทองก็จับเกลี้ยง ไม่ว่านักการเมืองค่ายไหน ผิดกฎหมายจับหมด เด็กแว้นตอนนั้นก็พวกลูกหลานนักการเมือง รองจับดำเนินคดีหมด ยึดรถ มันบอกขอคืน กูไม่ให้คืน มึงอยากร้องก็ร้องไป ถ้าจะเอาคืน มึงต้องเอาท่อไอเสียมาเปลี่ยนก่อน มันบอกไม่มี ทิ้งไปแล้ว ก็เรื่องของมึง ไม่ใช่เรื่องของกู มึงทิ้งไปก็ต้องไปซื้อมาใหม่ เอาช่างมาด้วย เปลี่ยนเสร็จแล้วต้องสตาร์ทให้ดู เสียงไม่ดัง อุปกรณ์ส่วนควบถูกต้องทุกอย่าง ปรับเสร็จ ก็เอารถออกไปได้

เชื่อมั้ยไปอยู่สามสี่เดือน เด็กแว้นเกลี้ยง เพราะหัวโจกมันแสบ พอถูกจับปั๊บ นักการเมืองกริ๊งมา ปล่อย ลิ้วล้อก็ เฮ้ย ลูกพี่กูแน่ แม่งก็ปื๊นๆ ไป ปรับ 400 ออกไปก็ปื๊นๆ ว่าไงจ่า มันไม่ใช่ เมื่อไหร่จะปรับหมดล่ะ

แล้วก็ไปจับยาเสพติด ครั้งแรกจับได้ 6 หมื่นกว่าเม็ด เทถุงยาใส่ในกระดาษ ขนาดไปล่อซื้อยังพูดมาก เอาถุงยาให้แม่งคาบเลยจะได้ไม่ต้องพูดมาก กรมคุ้มครองสิทธิฯ พวกสิทธิมนุษยชนแม่งรุมอัดเละเทะ ไม่เป็นไร ครั้งที่ 2 อีก 4 หมื่นกว่าเม็ด ไม่ให้กูคาบก็ได้ ทำป้ายชื่อเลย แขวนป้ายเลย ‘เดนมนุษย์’ ‘อมนุษย์’ โดนอีก

หลังจากนั้นจับได้อีก 5-6 หมื่นเม็ด ทำยังไงดีวะ ทำอะไรก็โดนด่า พอจับได้ปั๊บ มึงไปซื้อข้าวผัดมาห่อหนึ่ง น้ำแดงมาขวดหนึ่ง ก่อนแถลงข่าวบอกว่า กรมคุ้มครองสิทธิฯ บอกว่าวิสุทธิ์ชอบประจานผู้ต้องหา ไม่ดูแลผู้ต้องหา เมื่อกรมคุ้มครองสิทธิฯ บอกว่าต้องดูแล ผมก็เลยเอาข้าวผัด ไข่ดาว เอ้า มึงกินซะ กินไป กินเสร็จ ติดคอ เอ้า น้ำแดงกินไป กรมคุ้มครองสิทธิฯ บอกให้กูดูแลมึง เดี๋ยวเย็นนี้กูทำสำนวนเสร็จ กูจะเอามึงขัง กูจะมีพัดลมให้มึงด้วย

อีกด้านหนึ่งก็หยิบเข็มฉีดยามา มึงอย่าเพิ่งกิน หยุดก่อน สมัยก่อนมึงค้ายา ถ้าศาลตัดสินประหารชีวิต มึงต้องถูกยิงทิ้ง แต่กฎหมายเขาเปลี่ยนใหม่เป็นฉีดยา มึงกินให้เสร็จ ถ้าศาลตัดสินเมื่อไหร่ มึงโดนไอ้นี่

เอาอีก กรมคุ้มครองสิทธิฯ บอกทำเกินกว่าเหตุ กูจะบ้าตาย หลังจากนั้นก่อนจะย้ายก็จับได้อีกหมื่นหกพันเม็ด แถลงอะไรแม่งก็ด่า ทำยังไงวะ ก็โทรหาเจ้าอาวาสวัดป่าแก้ว ให้หลวงพี่มาเทศน์มันหน่อยหลังจากผมแถลงเสร็จ กูไม่รู้จะทำยังไงกับพวกมึงแล้ว เบื่อเหลือเกิน จับมา ทำอะไรกรมคุ้มครองสิทธิก็บอกพวกมึงน่ารักทั้งนั้น พวกมึงเป็นคนดีกันทั้งนั้น มีกูเลวอยู่คนเดียว กูไม่พูดอะไรมากวันนี้ เชิญหลวงพ่อเทศน์ อ้าว มึงกราบเท้าซะ ติดคุกออกมาจะได้รู้ว่าบาปบุญคุณโทษเป็นอย่างไร กูทำอะไรมึงไม่ได้แล้ว กูต้องโอ๋มึง

พอย้ายไปอยู่ภาค 9 ก็จับแหลก น้ำมันเถื่อน ของหนีภาษี ไม่ว่านักการเมืองท้องถิ่น นักการเมืองระดับชาติ หัวคะแนน อบต. อบจ. เด้งมานี่อีกแล้ว เลยออกมาบอกว่าย้ายวิสุทธิ์น่ะย้ายได้ ไม่เคยยึดติดกับอะไร อยู่ไหนก็ทำงาน แน่จริงก็ย้ายมา มันก็ย้ายจริงๆ

จึงเกิดเป็นกรณีการร้องเรียนจนเป็นข่าวเมื่อปีที่ผ่านมา
อยากจะบอกนะครับว่าไม่ได้สู้เพื่อตนเอง แต่สู้ให้กับความถูกต้องและชอบธรรม ให้กับข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม รวมทั้งรัฐวิสาหกิจ นักการเมืองแทรกแซงทุกกระทรวง ทบวง กรม ก่อนนั้นก็ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งนายอำเภอ ถ้าถูกต้องจริง ไปยกเลิกคำสั่งทำไม อย่าว่าแต่งตั้งเลย ขนาดฝากเด็กเข้าโรงเรียนก็ยังยุ่งกับเขา บ้านเมืองจะเป็นยังไง แล้วก็ลิ่วล้อท่านนายกฯ ก็แสบๆ ทั้งนั้น มีแต่เรื่องอำนาจ ผลประโยชน์ ไอ้พวกนี้มันรักชาติด้วยปาก ไม่ได้รักชาติ รักสถาบันด้วยใจ

มีความเห็นเรื่องปฏิรูปตำรวจหรือเปล่า
ต้องปฏิรูป เพราะปล่อยให้เน่ามานาน อันดับแรก องค์กรตำรวจต้องเป็นองค์กรอิสระเหมือนอัยการกับศาล ดูซิเขาแต่งตั้งอัยการสูงสุดครึ่งชั่วโมงเขาแต่งตั้งเสร็จ แต่งตั้งประธานศาลฎีกาแต่งตั้งเสร็จ แต่งตั้ง ผบ.ตร. ปีหนึ่งยังรักษาการณ์อยู่เลย จะไปทำอะไรกิน เพราะอะไร ก็เพราะนักการเมืองกว่าจะมาเป็นรัฐบาลมันมีหลายพรรคเข้ามาจัดตั้ง ไอ้นั่นก็จะเอานี่ ไอ้นี่ก็จะเอานั่น แม่งไม่ได้สักคน เพราะทุกคนก็อยากเอาหัว ผบ.ตร. ไว้ เพื่อได้หัวแล้วก็จะได้ผู้การ ผู้กำกับอยู่ในพื้นที่ตัวเอง เพื่อสะดวกในการซื้อเสียง ลูกน้องทำผิดก็ขอได้

เพราะฉะนั้นการต่อสู้ต่อไป ผมจะพยายามทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นองค์กรอิสระให้ได้ โดยไม่ต้องขึ้นกับนักการเมือง เพราะตำรวจสำคัญมาก เป็นต้นน้ำของกระบวนการยุติธรรม

ตำรวจเหมือนกัน ชอบวิ่งหานักการเมือง นักการเมืองก็ชอบวิ่งหาตำรวจ เพราะนักการเมืองต้องการเอาข้าราชการไปอยู่ในมือ บางทีก็เอาตำแหน่งมาขายให้ ไอ้คนที่ไปซื้อตำแหน่ง ก็ต้องถอนทุนบวกกำไร เป็นขี้ข้านักการเมือง ไม่ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้ได้รับความเป็นธรรม แน่นอน ประชาชนก็จะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากข้าราชการเช่นเดียวกัน บ้านเมืองมันจึงวุ่นวายกลายเป็นตำรวจมะเขือเทศ เพราะใครมีอำนาจก็ตั้งพวกตัวเองมา พอตัวเองหมดอำนาจ อีกพวกขึ้นมาก็ย้ายล้างบาง บางทีย้ายไม่หมด วิ่งเก่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติมั่วกันหมด ประเทศจีนมีสามก๊ก ประเทศไทยแม่งมีสามสิบก๊ก มีเหรอประเทศไหน นายกฯ ติดไฟแดง ไม่มี อูกันดาก็ไม่มีนายกฯ ติดไปแดง

ที่ซินแสพูดไว้ว่าจะมีอำนาจแต่จะไม่ขึ้นถึงสูงสุด ต้องเปลี่ยนอำนาจ คุณเคยคิดจะเป็นนักการเมืองหรือเปล่า
เคยคิด เดี๋ยวนี้ไม่คิดแล้ว ตั้งแต่เห็นนักการเมืองน้ำเน่าแบบนี้นะ ไม่อยากคิดแล้ว กลัวเปรอะตัวเอง ถ้าจะเล่นการเมืองนะ สมมตินะ ก็อยากเป็น ส.ว. อยากจะเป็นหมา แล้วก็เห่า พอใครจะทำอะไรไม่ดี จะเห่า เห่าตรงไหน เห่าทางสื่อ เห่าในสภา จะตั้งกระทู้ถาม และถ้าเห็นว่าชัดจะกัดแม่งเลย ถ้าอยากเล่นก็เล่นตรงนี้ เป็นอิสระ ตั้งมันทุกกระทู้แหละ ใครโกง ใครกิน นักการเมืองดี มีจริง ไม่เถียง แต่ส่วนใหญ่เน่าๆ ทั้งนั้นแหละ

**************

เรื่อง: กฤษฎา ศุภวรรธนะกุล
ภาพ: วรวิทย์ พานิชนันท์







กำลังโหลดความคิดเห็น