เคยเชื่อกันว่ามหาดไทยเป็นกระทรวงสำคัญในการบริหารราชการแผ่นดินมาทุกยุคทุกสมัย
ด้วยเพราะมีบทบาทอำนาจหน้าที่ดูแลบำบัดทุกข์บำรุงสุข ใกล้ชิดประชาชน
ด้วยเพราะมีบุคลากรสำคัญดูแลประชาชนเต็มพื้นที่ เช่น ผู้ว่าฯ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ
ด้วยเพราะมีงบประมาณพัฒนาท้องถิ่นทุกรูปแบบไม่ว่า อบจ. เทศบาล หรือ อบต.ล้วนอยู่ในกำกับของมหาดไทยทั้งสิ้น
การสืบทอดหลักการบำบัดทุกข์บำรุงสุขไม่ทอดทิ้งประชาชนต่อเนื่องมา มหาดไทยจึงได้รับการยอมรับ เสมือนเสาเอกของกระทรวงฝ่ายพลเรือน เคียงคู่กับกระทรวงกลาโหมที่ถือว่าเป็นเสาหลักของฝ่ายทหาร
ข้าราชการมหาดไทยในอดีต ล้วนเป็นบุคคลที่มีจิตใจพื้นฐานรักประชาชน มีอุดมการณ์เข้ามาทำงาน หลายยุคสมัยที่ผ่านมาคนมหาดไทยได้ต่อสู้เพื่อการปกป้องช่วยเหลือประชาชน จนเป็นตำนานของนักปกครองรุ่นหลังๆ ได้เป็นแบบอย่างมากมาย
จวบจนมหาดไทยปัจจุบัน ยุครัฐมนตรีที่เจ้ากระทรวงมีพื้นฐานจากพ่อค้าและปลัดกระทรวงฯ ที่ได้ตำแหน่งมาจากการรับใช้นักการเมือง และข้ามหัวนักปกครองอาวุโสมา
เราจึงเห็นความเปลี่ยนแปลงการบำบัดทุกข์ของคนมหาดไทยที่เสื่อมลง มองงานไม่ออกสั่งงานไม่เป็น มีแต่งานที่ไม่เป็นแก่นสารสาระต่อพี่น้องประชาชนคนไทยให้เห็นง่ายๆ ในวันนี้
เพราะดีแต่ให้ความสำคัญในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในกระทรวง เราจึงเห็นผู้บริหารกระทรวงเอาแต่นั่งเคาะกะลา หาผลประโยชน์กับการแต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าฯ รองผู้ว่าฯ ปลัดจังหวัด หัวหน้าสำนักงานจังหวัด นายอำเภอระดับ 9 หรือการเข้าโรงเรียนนายอำเภอ จนเกิดภาพลักษณ์ที่เสื่อมศรัทธา
ขณะที่ราษฎรนับล้านๆ คนที่ยังยากจน ไม่มีตำแหน่งและไม่เคยสนใจเรื่องนี้ ยังรอรับการให้ความช่วยเหลือในเรื่องที่เดือดร้อนอยู่เท่านั้น
เพราะดีแต่ให้ความสำคัญในเรื่องการแจกโทรศัพท์แบล็กเบอร์รี่แก่นายอำเภอ เราจึงเห็นนักการเมืองพร่ำพรรณนาความดีเรื่องนี้ ทั้งที่ความจริงคนระดับนายอำเภอไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้
ขณะที่ราษฎรนับล้านๆ คนที่อยู่ห่างไกลในชนบทไม่มีโทรศัพท์ใช้ โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนที่จำเป็นต้องส่งข่าวสารกับทางราชการ ทำไมมหาดไทยไม่แจกคนเหล่านี้บ้าง
ด้วยปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในเวลานี้ มีทั้งเรื่องเก่าและเรื่องใหม่ที่ผุดขึ้นในทุกพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นจังหวัด อำเภอ ตำบลและหมู่บ้าน มหาดไทยต้องทำตอนนี้คือให้ผู้ว่าฯ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นแขนขาของกระทรวงเข้าช่วยเหลือและแก้ไขความเดือดร้อนแก่ประชาชนโดยเร่งด่วน
ความเดือดร้อนเรื่องราคาเครื่องอุปโภค-บริโภคสินค้าราคาแพง แนวทางแก้ไขหรือบรรเทาความเดือดร้อนมีหลายอย่าง การจัดตลาดนัดชุมชนจำหน่ายสินค้าราคาถูก การรณรงค์ให้ประชาชนปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อประหยัดรายจ่าย การจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นจากผู้ผลิตโดยตรง เป็นต้น สามารถเลือกทำได้บ้าง
เวลานี้มหาดไทยต้องหยิบเรื่องนี้เข้ามาดำเนินการโดยเร่งด่วนไม่ต้องรีรอ
ความเดือดร้อนเรื่องความปลอดภัยของราษฎรตามแนวชายแดน ภาพประชาชนอพยพหรือการตั้งศูนย์อพยพคนไทยในแผ่นดินไทยไม่ควรเกิดขึ้น มหาดไทยผู้รับผิดชอบภารกิจหลักนี้ต้องปรับปรุงการปกครองในหมู่บ้านตามแนวชายแดนอย่างไรที่จะให้ประชาชนได้อบอุ่นใจและปลอดภัย การจัดเวรยามหมู่บ้าน การบริหารงานหมู่บ้าน อพป. หรือหมู่บ้าน ปชด. เดิม จะต้องนำมาทบทวนแก้ไขอย่างไร
จึงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มหาดไทยไม่ควรรอ ต้องหันมาทบทวนดำเนินการด่วนในพื้นที่ชายแดนโดยเฉพาะอย่างยิ่งชายแดนกัมพูชาในขณะนี้
ความเดือดร้อนที่ต้องเผชิญกับปัญหาภัยแล้ง มีแนวโน้มว่าจะมีความรุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการขาดน้ำอุปโภค-บริโภค การขาดน้ำเพื่อการเกษตร ปัญหาการว่างงาน และปัญหาความสงบเรียบร้อยที่จะเกิดขึ้นตามมา ในอดีตมหาดไทยใช้นายอำเภอทั้งประเทศเป็นพระเอกจัดทำโครงการเข้าแก้ไขช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์เช่นนี้อย่างหลากหลายเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะแจกน้ำอุปโภค-บริโภคให้แก่ราษฎร การจัดสัปดาห์ซ่อมสร้างภาชนะในการเก็บกักน้ำ การทำฝายแม้วในพื้นที่ การทำโครงการจ้างงานในชนบทคล้ายๆ กับ กสช.ให้ประชาชนมีรายได้ ฯลฯ
มหาดไทยควรตื่นขึ้นมาเร่งแก้ภัยแล้งได้แล้ว อย่างน้อยโครงการเดิมๆ ที่ไม่ล้าสมัยเกินไปก็อาจนำมาปัดฝุ่นใช้ได้ เพียงแต่บุคลากรมหาดไทยทุกฝ่ายเข้าร่วมแก้ไขอย่างจริงจังก็จะประสบผลสำเร็จ
ความเดือดร้อนของประชาชนเร่งด่วน 3 เรื่องข้างต้นนี้ หากเป็นสมัยก่อน คงไม่เหลือกำลังที่กระทรวงมหาดไทยสามารถจัดการกับปัญหาดังกล่าวได้อย่างเบ็ดเสร็จ
แต่ ณ วันนี้ที่สังคมรู้ดีว่า ในเมื่อมีพ่อค้าแก่ๆ เจ้ากระทรวงมีที่ปรึกษาฯ เป็นคนต้องห้ามตามกฎหมาย มีปลัดกระทรวง ผู้ว่าฯ นายอำเภอหรือ ก็ล้วนวิ่งเต้นรับใช้นักการเมืองหรือซื้อตำแหน่งมา การจะไปพึ่งให้ใช้ความรู้ความสามารถเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้พ้นจากความเดือดร้อนที่ว่าแล้ว ให้เลิกคิดไปได้เลย
สิ่งที่ประชาชนอย่างพวกเราคิดได้ตอนนี้ คือ ต้องนำแนวทางมหาดไทยในอดีตมาปรับใช้เอง
สิ่งที่ประชาชนอย่างพวกเราทำได้ตอนนี้ คือ ต้องหันกลับมาช่วยตนเองโดยไม่ต้องรอมหาดไทย
สิ่งที่ประชาชนอย่างพวกเราจะอยู่ได้ตอนนี้ คือ ต้องน้อมนำแนวพระราชดำริในหลวงต่างๆ มาปฏิบัติจริงๆ
เมื่อมหาดไทยทอดทิ้งประชาชนได้ ก็อย่าไปสนใจมันเลย
ด้วยเพราะมีบทบาทอำนาจหน้าที่ดูแลบำบัดทุกข์บำรุงสุข ใกล้ชิดประชาชน
ด้วยเพราะมีบุคลากรสำคัญดูแลประชาชนเต็มพื้นที่ เช่น ผู้ว่าฯ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ
ด้วยเพราะมีงบประมาณพัฒนาท้องถิ่นทุกรูปแบบไม่ว่า อบจ. เทศบาล หรือ อบต.ล้วนอยู่ในกำกับของมหาดไทยทั้งสิ้น
การสืบทอดหลักการบำบัดทุกข์บำรุงสุขไม่ทอดทิ้งประชาชนต่อเนื่องมา มหาดไทยจึงได้รับการยอมรับ เสมือนเสาเอกของกระทรวงฝ่ายพลเรือน เคียงคู่กับกระทรวงกลาโหมที่ถือว่าเป็นเสาหลักของฝ่ายทหาร
ข้าราชการมหาดไทยในอดีต ล้วนเป็นบุคคลที่มีจิตใจพื้นฐานรักประชาชน มีอุดมการณ์เข้ามาทำงาน หลายยุคสมัยที่ผ่านมาคนมหาดไทยได้ต่อสู้เพื่อการปกป้องช่วยเหลือประชาชน จนเป็นตำนานของนักปกครองรุ่นหลังๆ ได้เป็นแบบอย่างมากมาย
จวบจนมหาดไทยปัจจุบัน ยุครัฐมนตรีที่เจ้ากระทรวงมีพื้นฐานจากพ่อค้าและปลัดกระทรวงฯ ที่ได้ตำแหน่งมาจากการรับใช้นักการเมือง และข้ามหัวนักปกครองอาวุโสมา
เราจึงเห็นความเปลี่ยนแปลงการบำบัดทุกข์ของคนมหาดไทยที่เสื่อมลง มองงานไม่ออกสั่งงานไม่เป็น มีแต่งานที่ไม่เป็นแก่นสารสาระต่อพี่น้องประชาชนคนไทยให้เห็นง่ายๆ ในวันนี้
เพราะดีแต่ให้ความสำคัญในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในกระทรวง เราจึงเห็นผู้บริหารกระทรวงเอาแต่นั่งเคาะกะลา หาผลประโยชน์กับการแต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าฯ รองผู้ว่าฯ ปลัดจังหวัด หัวหน้าสำนักงานจังหวัด นายอำเภอระดับ 9 หรือการเข้าโรงเรียนนายอำเภอ จนเกิดภาพลักษณ์ที่เสื่อมศรัทธา
ขณะที่ราษฎรนับล้านๆ คนที่ยังยากจน ไม่มีตำแหน่งและไม่เคยสนใจเรื่องนี้ ยังรอรับการให้ความช่วยเหลือในเรื่องที่เดือดร้อนอยู่เท่านั้น
เพราะดีแต่ให้ความสำคัญในเรื่องการแจกโทรศัพท์แบล็กเบอร์รี่แก่นายอำเภอ เราจึงเห็นนักการเมืองพร่ำพรรณนาความดีเรื่องนี้ ทั้งที่ความจริงคนระดับนายอำเภอไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้
ขณะที่ราษฎรนับล้านๆ คนที่อยู่ห่างไกลในชนบทไม่มีโทรศัพท์ใช้ โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนที่จำเป็นต้องส่งข่าวสารกับทางราชการ ทำไมมหาดไทยไม่แจกคนเหล่านี้บ้าง
ด้วยปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในเวลานี้ มีทั้งเรื่องเก่าและเรื่องใหม่ที่ผุดขึ้นในทุกพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นจังหวัด อำเภอ ตำบลและหมู่บ้าน มหาดไทยต้องทำตอนนี้คือให้ผู้ว่าฯ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นแขนขาของกระทรวงเข้าช่วยเหลือและแก้ไขความเดือดร้อนแก่ประชาชนโดยเร่งด่วน
ความเดือดร้อนเรื่องราคาเครื่องอุปโภค-บริโภคสินค้าราคาแพง แนวทางแก้ไขหรือบรรเทาความเดือดร้อนมีหลายอย่าง การจัดตลาดนัดชุมชนจำหน่ายสินค้าราคาถูก การรณรงค์ให้ประชาชนปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อประหยัดรายจ่าย การจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นจากผู้ผลิตโดยตรง เป็นต้น สามารถเลือกทำได้บ้าง
เวลานี้มหาดไทยต้องหยิบเรื่องนี้เข้ามาดำเนินการโดยเร่งด่วนไม่ต้องรีรอ
ความเดือดร้อนเรื่องความปลอดภัยของราษฎรตามแนวชายแดน ภาพประชาชนอพยพหรือการตั้งศูนย์อพยพคนไทยในแผ่นดินไทยไม่ควรเกิดขึ้น มหาดไทยผู้รับผิดชอบภารกิจหลักนี้ต้องปรับปรุงการปกครองในหมู่บ้านตามแนวชายแดนอย่างไรที่จะให้ประชาชนได้อบอุ่นใจและปลอดภัย การจัดเวรยามหมู่บ้าน การบริหารงานหมู่บ้าน อพป. หรือหมู่บ้าน ปชด. เดิม จะต้องนำมาทบทวนแก้ไขอย่างไร
จึงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มหาดไทยไม่ควรรอ ต้องหันมาทบทวนดำเนินการด่วนในพื้นที่ชายแดนโดยเฉพาะอย่างยิ่งชายแดนกัมพูชาในขณะนี้
ความเดือดร้อนที่ต้องเผชิญกับปัญหาภัยแล้ง มีแนวโน้มว่าจะมีความรุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการขาดน้ำอุปโภค-บริโภค การขาดน้ำเพื่อการเกษตร ปัญหาการว่างงาน และปัญหาความสงบเรียบร้อยที่จะเกิดขึ้นตามมา ในอดีตมหาดไทยใช้นายอำเภอทั้งประเทศเป็นพระเอกจัดทำโครงการเข้าแก้ไขช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์เช่นนี้อย่างหลากหลายเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะแจกน้ำอุปโภค-บริโภคให้แก่ราษฎร การจัดสัปดาห์ซ่อมสร้างภาชนะในการเก็บกักน้ำ การทำฝายแม้วในพื้นที่ การทำโครงการจ้างงานในชนบทคล้ายๆ กับ กสช.ให้ประชาชนมีรายได้ ฯลฯ
มหาดไทยควรตื่นขึ้นมาเร่งแก้ภัยแล้งได้แล้ว อย่างน้อยโครงการเดิมๆ ที่ไม่ล้าสมัยเกินไปก็อาจนำมาปัดฝุ่นใช้ได้ เพียงแต่บุคลากรมหาดไทยทุกฝ่ายเข้าร่วมแก้ไขอย่างจริงจังก็จะประสบผลสำเร็จ
ความเดือดร้อนของประชาชนเร่งด่วน 3 เรื่องข้างต้นนี้ หากเป็นสมัยก่อน คงไม่เหลือกำลังที่กระทรวงมหาดไทยสามารถจัดการกับปัญหาดังกล่าวได้อย่างเบ็ดเสร็จ
แต่ ณ วันนี้ที่สังคมรู้ดีว่า ในเมื่อมีพ่อค้าแก่ๆ เจ้ากระทรวงมีที่ปรึกษาฯ เป็นคนต้องห้ามตามกฎหมาย มีปลัดกระทรวง ผู้ว่าฯ นายอำเภอหรือ ก็ล้วนวิ่งเต้นรับใช้นักการเมืองหรือซื้อตำแหน่งมา การจะไปพึ่งให้ใช้ความรู้ความสามารถเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้พ้นจากความเดือดร้อนที่ว่าแล้ว ให้เลิกคิดไปได้เลย
สิ่งที่ประชาชนอย่างพวกเราคิดได้ตอนนี้ คือ ต้องนำแนวทางมหาดไทยในอดีตมาปรับใช้เอง
สิ่งที่ประชาชนอย่างพวกเราทำได้ตอนนี้ คือ ต้องหันกลับมาช่วยตนเองโดยไม่ต้องรอมหาดไทย
สิ่งที่ประชาชนอย่างพวกเราจะอยู่ได้ตอนนี้ คือ ต้องน้อมนำแนวพระราชดำริในหลวงต่างๆ มาปฏิบัติจริงๆ
เมื่อมหาดไทยทอดทิ้งประชาชนได้ ก็อย่าไปสนใจมันเลย
