เล่นเอาหนุ่มๆ หัวใจสลายไปแล้วหลายคน เมื่อสาวหมวยสวยเซ็กซี่อย่าง บลู เอริกา พลอยอัมพร ประกาศแต่งงานสายฟ้าแลบกับหนุ่มนอกวงการ พร้อมกับยุติการถ่ายภาพวาบหวิวอย่างเป็นทางการตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว ถึงแม้ไม่ได้เห็นเธอตามหน้าปกนิตยสารเซ็กซี่และทางละครทีวีมาสักพัก เจอเธออีกครั้งในงานโชว์ตัว ผิวขาวใสบวกกับรอยยิ้มพิมพ์ใจยังคงสะกดให้สื่อต่างรุมสัมภาษณ์เธอ และ M-Healthy ก็เป็นอีกหนึ่งรายที่อยากรู้ว่าอะไรทำให้เธอยังคงสวยโดนใจอย่างเสมอต้นเสมอปลายเช่นนี้
เมื่อได้เวลานัดหมาย สาวหน้าหมวยผมยาวรูปร่างสูงโปร่งก็เดินเข้ามาในร้านกาแฟเจ้าประจำ ใต้คอนโดฯ ของเธอเอง บลูสวมเสื้อแขนยาวสีดำแถบขาวและกระโปรงยีนส์สบายๆ ทำให้ดูทะมัดทะแมงกว่าภาพที่เราเคยเห็น ยังไม่ทันได้เอ่ยถามอะไร หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าก็กล่าวทักทายและอธิบายว่า “ชุดออกแนวสปอร์ตหน่อยนะคะ เพิ่งไปอ่านข่าวกีฬามา” ด้วยความคลั่งไคล้กีฬาฟุตบอลเป็นทุนเดิม ปัจจุบันบลูจึงเลือกทำหน้าที่ผู้ประกาศข่าวประจำรายการ “Sports Plus News” ช่อง Live TV หลายคนอาจชินกับลุคหวานปนเปรี้ยวของเธอมากกว่า แต่บลูยืนยันว่าเธอเป็นสปอร์ตเกิร์ลมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
กีฬาเป็นยาวิเศษ
ดูเหมือนเราจะได้เคล็ดลับหุ่นสวยจากบลูเร็วกว่าที่คาดคิดไว้ เธอเล่าให้ฟังว่าเป็นนักกีฬาตัวยงมาตั้งแต่สมัยเรียน โดยเฉพาะบาสเกตบอล หลายคนอาจนึกไม่ถึงว่าผิวขาวๆ หน้าหวานๆ อย่างบลูจะเคยเอาจริงเอาจังถึงขั้นได้รับเหรียญทองจากการแข่งขันระดับโรงเรียนมาแล้ว แต่เมื่อพิจารณาจากรูปร่างสูงโปร่ง ท่อนแขนและเรียวขาที่กระชับได้รูป จึงทำให้เราได้คำตอบ ถึงแม้ว่าปัจจุบันบลูจะไม่มีโอกาสได้เล่นบาสฯ แล้ว แต่เธอก็ยังคงออกกำลังกระชับกล้ามเนื้อด้วยกีฬาที่ตัวเองชื่นชอบไม่ต่างจากเดิม
“เป็นตัวแทนแข่งบาสฯ มาตั้งแต่ตอน ม.1 จนถึงม.ปลายเลย ได้เหรียญทองด้วยนะ (ยิ้ม) ใครเห็นตอนนั้นอาจจะคิดว่าเราเป็นทอมก็ได้ เพราะว่าดูห้าวๆ อยู่เหมือนกัน (หัวเราะ) ที่ชอบเล่นเพราะรู้สึกมีความสุขเวลาได้เล่นบาสฯ ค่ะ เหมือนเป็นกิจกรรมสนุกๆ ที่ได้ทำกับเพื่อน แต่พอเข้ามหาวิทยาลัยมันไม่มีสังคมแบบนั้นแล้ว ไม่มีกลุ่มผู้หญิงที่จะรวมตัวกันเพื่อเล่นกีฬา ก็เลยเปลี่ยนมาเล่นกีฬาอย่างอื่นแทน” บลูเท้าความให้ฟังก่อนขยายความต่อ
“ตอนแรกลองอยู่ 2 อย่างค่ะคือว่ายน้ำแล้วก็เข้าฟิตเนส แต่ชอบว่ายน้ำมากกว่า เพราะรู้สึกว่าเวลาเข้าฟิตเนสแล้วเครียดเกินไป ว่ายน้ำเป็นอะไรที่ไม่ต้องกดดันตัวเองดี เวลาวิ่งบนลู่วิ่งแล้วรู้สึกไม่มีความสุขค่ะ จะคิดตลอดว่าเมื่อไหร่จะ 5 นาที (ถอนหายใจ) คิดว่าถ้าจะเลือกเล่นกีฬาอะไร ต้องเลือกที่ทำแล้วมีความสุขค่ะ”
หลังจากออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำ ปกติแล้วบลูจะต่อด้วยการอบผิวตามคอร์สที่ซื้อไว้ ซึ่งมีทั้งแบบห้องเซาน่า อบตัวด้วยไอร้อน และห้องสตรีม อบด้วยไอเย็น แต่ละครั้งเธอจะเลือกใช้บริการต่างกันไป แล้วแต่ความต้องการ เมื่อถามว่าวิธีการดังกล่าวคือเคล็ดลับผิวขาวใสอย่างที่เป็นอยู่ใช่หรือไม่ สาวผิวสวยนิ่งคิดก่อนให้คำตอบ
“ไม่รู้ว่าที่ทำได้ผลกับผิวมากน้อยแค่ไหนเหมือนกัน แต่ตัวบลูเองบลูก็รู้สึกดีขึ้นนะ รู้สึกว่าผิวชุ่มชื้นขึ้น แล้วอีกอย่างบลูจะเป็นคนติดทาโลชั่น จะทาหลังอาบน้ำทุกครั้ง คิดว่าน่าจะเป็นตัวช่วยนึงด้วย เห็นคนอื่นมาทักเหมือนกันว่าเราผิวเนียน ส่วนหนึ่งคิดว่าเป็นเพราะได้ผิวคุณพ่อคุณแม่มา เขาจะผิวดีอยู่แล้ว แล้วอีกอย่างคือเป็นเพราะเราดูแลตัวเองด้วย บลูก็พยายามบำรุงต่อเนื่องมาเรื่อยๆ คิดว่ามันช่วยได้ค่ะ (ยิ้ม)”
ไม่อด แต่ลดแป้ง
เมื่อถามว่าเธอมีวิธีเลือกทานอาหารแบบไหน บลูยิ้มอายๆ เพราะไม่แน่ใจว่าวิธีของตัวเองจะเรียกได้ว่าเฮลตี้ พร้อมกับอธิบายว่า “เป็นคนไม่ค่อยทานผักเท่าไหร่ค่ะ จะทานแค่บางชนิดที่ชอบจริงๆ อย่างผักบุ้ง หรือผักนิ่มๆ ในแกงจืดหรือสุกี้จะชอบมาก แต่ไม่ค่อยชอบทานผักสด ก็เลยทำให้ทานพวกสลัดไม่ค่อยถนัด” คนที่อยากควบคุมน้ำหนักส่วนใหญ่มักเลือกทานผักสดหรือสลัด แต่เมื่อไม่สามารถฝืนใจได้ บลูจึงแก้ปัญหาด้วยการทานผลไม้ให้ได้มากที่สุด เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องระบบขับถ่าย
“ถ้าออกไปธุระข้างนอก ตอนกลับบ้านจะพยายามแวะซื้อผลไม้กลับมาแช่เย็นเอาไว้ด้วย มีติดบ้านไว้ จะได้ทานได้ตลอด ส่วนใหญ่จะซื้อกล้วย มะม่วง เงาะ มะละกอ มาทาน ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย คนที่ไม่ชอบทานผักสดเหมือนกันกับบลู แนะนำให้ดื่มน้ำผักผลไม้รวมแทน ถ้าเราไม่มีเวลาคั้นเองก็ซื้อที่เขาทำสำเร็จเป็นกล่องๆ มาทานก็ได้ บลูก็ทำอย่างนั้นเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดบังคับตัวเองว่าต้องทานทุกวันนะ แค่พยายามจะทานให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ”
สาวๆ ในวงการหลายคนอาจใช้วิธีลดน้ำหนักด้วยการงดอาหารเย็น หรือกำหนดเวลาที่แน่ชัดลงไปเลยว่าจะทานมื้อสุดท้ายเมื่อเวลาเท่าไหร่ แต่สำหรับบลูเธอไม่สามารถทำอย่างนั้นได้เพราะมีโรคกระเพาะเป็นอุปสรรค จึงใช้วิธีลดแป้ง ลดปริมาณการกินลงแทน
“เคยพยายามไม่กินมื้อเย็นเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็เป็นโรคกระเพาะ ปวดท้อง หรือนอนไม่หลับเพราะหิว เลยรู้สึกว่ามันคงจะมีวิธีอื่นที่เราไม่ต้องอดอาหาร คือจะเลือกทานปลา หมู ไก่ หรือเนื้ออย่างอื่นที่ไม่ติดมัน ที่สำคัญคือต้องลดแป้ง จากแต่ก่อนที่เคยทานข้าวเบิ้ล 2 จาน อันนี้ไม่ได้โม้นะ (หัวเราะ) ก็จะทานแค่พออิ่ม ยิ่งเวลาเราออกทีวี เป็นที่รู้กันว่าน้ำหนักจะบวกขึ้นไปอีก 10 กิโล ก็เลยต้องพยายามควบคุมอยู่บ้างเหมือนกัน แต่จะไม่อดหรือลดจนผอม จนไม่มีเนื้อหนังค่ะ”
ยาบวกวิตามิน โรคหายเป็นปลิดทิ้ง
“ดูใต้ตาสิคะ” บลูชี้ให้ดูทันที หลังถูกถามว่าเธอมีโรคประจำตัวอะไรหรือเปล่า เมื่อเห็นว่าหน้าของคนฟังเต็มไปด้วยความสงสัย เธอจึงอธิบายให้ฟัง “คนที่รู้หรือเป็นเหมือนกัน เห็นหน้าเราปุ๊บจะดูออกเลยว่าเป็นภูมิแพ้ คือใต้ตาจะคล้ำกว่าคนปกติค่ะ ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าตัวเองแพ้อะไรบ้าง รู้แค่ว่าส่วนใหญ่จะเพลียง่าย แล้วถ้าอดนอนจะเป็นหนักกว่าคนอื่นเขา เมื่อก่อนเคยทำงานหนักๆ อยู่ 4-5 วัน คนอื่นเขาก็จะโอเคกันอยู่ แต่บลูหลังจากนั้น 2 วันป่วยหนักเลย”
นอกจากภูมิแพ้แล้ว บลูยังมีโรคประจำตัวเรียงคิวให้ขานชื่ออีกเป็นตั้ง ทั้งไมเกรน ความดันต่ำ โลหิตจาง และอาการปวดท้องประจำเดือน เรียกได้ว่าจำกันไม่หวาดไม่ไหว แต่ที่เธอยังแข็งแรง สดใสร่าเริงได้อย่างที่เห็น เป็นเพราะรู้จักดูแลตัวเอง ถ้ารู้จักทานยา ทานวิตามินเสริม และดูแลให้ตรงจุด บลูยืนยันว่าหายห่วงแน่นอน
“ไม่รู้เหมือนกันว่าจุดไหนที่ทำให้เราเครียดถึงขั้นเป็นไมเกรน แต่พอรู้ว่าเป็นแล้วก็จะพยายามดูแลตัวเองมากกว่าเดิม ถ้าช่วงไหนทำงานหนักๆ แล้วก็อดนอนด้วย พอเริ่มปวดหัวก็จะกินยาดักไว้ก่อนเลย ที่สำคัญต้องพยายามออกกำลังกาย ส่วนใหญ่ถ้าป่วย ไม่ว่าโรคอะไรก็ตาม ไปหาหมอเขาจะบอกเลยว่าให้ออกกำลังกาย แก้ได้ทุกโรค” บลูยืนยันหนักแน่น ก่อนเผยว่าที่รู้ดีอย่างนี้ไม่ใช่เพราะอะไร แต่เป็นเพราะมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ นี่เอง
“จะโชคดีหน่อยตรงที่แฟนทำงานเกี่ยวกับด้านยา เขาเลยรู้เรื่องยาเยอะ พยายามเอาวิตามินตัวนั้นตัวนี้มาให้ตลอด จากเมื่อก่อนไม่เคยกินวิตามินเลย เดี๋ยวนี้ก็มีเลือกกินบ้าง วิตามินอี ช่วยบำรุงผิวแล้วก็ช่วยไม่ให้เป็นหมัน วิตามินรวม ช่วยบำรุงเวลาเราอดนอนหรือทำงานหนักๆ รู้สึกว่าตั้งแต่ทานวิตามินประจำ เดี๋ยวนี้ก็ดีขึ้นเยอะเลยค่ะ”
นอกจากการรักษาด้วยยาแผนปัจจุบันแล้ว บลูยังใช้บริการยาสูตรโบราณด้วย สำหรับข้าวใหม่ปลามันคู่ไหนที่วางแผนจะมีทายาท สามารถเอาไปใช้ได้ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ “ทานตุ๋นยาจีนด้วยค่ะ เรียกว่าตังกุย แฟนต้มให้ทาน เห็นว่าช่วยเรื่องมดลูก เรื่องปวดท้องประจำเดือนลดลง เขาคงกลัวเรามีลูกไม่ได้มั้งคะ (หัวเราะ) ได้ยินมาบ้างเหมือนกันว่าผู้หญิงที่ปวดท้องประจำเดือนบ่อยๆ มีแนวโน้มจะมีปัญหาเรื่องมดลูก ทำให้มีลูกยาก เลยคิดว่าทานยากันเอาไว้ดีกว่า วางแผนเอาไว้ว่าจะมีลูกอีกปี 2 ปีนี้แหละค่ะ ก็เลยต้องดูแลตัวเองไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ” ดาราสาววัย 25 เปิดใจ
นวดสปาพาเพลิน
ทุกครั้งที่กลับมาจากการกรำงานหนัก สปาถือเป็นแหล่งสวรรค์ของบลู ก่อนหน้านี้บลูไม่เคยสนใจทำสปามาก่อน แต่เมื่อได้ลองเธอก็รู้สึกติดใจในบรรยากาศผ่อนคลาย นอกจากดีต่อสุขภาพผิวแล้ว ยังถือเป็นความสุขอีกอย่างหนึ่งในชีวิตด้วย โดยบลูเลือกใช้บริการร้านสปาละแวกที่พักอาศัย ด้วยเหตุผลที่ว่าสะดวกและเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองดี ต่างจากคนอื่นๆ ที่อาจเลือกสมัครสมาชิกเพราะชื่อเสียงของร้านมากกว่า
“บลูเป็นคนชอบอะไรง่ายๆ สบายๆ ค่ะ ถ้าให้ไปซื้อสปาแถวสยาม แล้วต้องขับรถเป็นชั่วโมงๆ เพื่อไปทำที่นั่น คงไม่ไปแน่นอน แต่ที่ซื้อเอาไว้เพราะเห็นว่าร้านอยู่ใต้คอนโดนี่เอง ใกล้ดี จะไปเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ไม่ได้ถึงขนาดบังคับตัวเองว่าต้องทำทุกกี่สัปดาห์นะ ว่างก็ไป ฟิกซ์ไม่ค่อยได้ค่ะ เพราะงานของเราเวลาไม่แน่ไม่นอน วันไหนว่างๆ รู้สึกเมื่อยๆ เครียดๆ ขึ้นมาก็จะเข้าไปทำ อย่างที่บอกว่าบลูเป็นไมเกรน เวลาเขานวดหัวให้เราก็จะรู้สึกผ่อนคลาย รู้สึกมีความสุข มีคนมาขัดผิวให้ ได้อาบน้ำแร่แช่น้ำนม ก็รู้สึกว่าผิวนุ่มขึ้นค่ะ”
คอร์สที่บลูสมัครเอาไว้ มีหลากหลายรูปแบบทั้งนวดแผนไทย ขัดตัว นวดน้ำมัน และอาบน้ำแร่แช่น้ำนม หลายคนอาจมองเห็นว่าสิ้นเปลืองเกินไป แต่สำหรับบลู เธอมองว่าแต่ละรูปแบบมีประโยชน์ต่างกัน ช่วยให้ผ่อนคลายได้คนละแบบ ทั้งยังยืดหยุ่นได้ตามความต้องการด้วย ซึ่งเธอยืนยันว่าคุ้มแน่นอน ส่วนความเชื่อที่ว่าถ้าลองนวดแล้วและไม่ได้นวดอีก จะยิ่งทำให้ปวดตัวมากขึ้นนั้น บลูยืนยันจากประสบการณ์ตรงว่าไม่จริงแต่อย่างใด
“สปาที่ซื้อไว้มีหลายแบบค่ะ บลูก็จะเหมาเอาไว้เป็นรายปี คอร์สนึงอาจจะทำได้ 5 ครั้งต่อปี ทำเมื่อไหร่ก็ได้ อย่างเวลาต้องเดินทางไกลๆ ขับรถไปทำงานต่างจังหวัด กลับมาจะเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว โดยเฉพาะช่วงบ่าช่วงไหล่จะปวดมาก ก็จะเข้าไปให้เขานวดแผนไทยให้ค่ะ หรือวันไหนอยากเปลี่ยนเป็นนวดน้ำมัน อาบน้ำแร่แช่น้ำนมบ้างก็แล้วแต่ ขึ้นอยู่กับว่าเราอยู่ในอารมณ์ไหน และมีเวลาทำมากน้อยแค่ไหนด้วย วันไหนว่างนิดเดียวแต่อยากทำ ก็อาจจะเลือกทำคอร์สที่ใช้เวลาสั้นๆ แทน ยืดหยุ่นได้ค่ะ ไม่ซีเรียส ไม่จำเป็นว่าต้องเต็มสตรีมกันทุกครั้ง”
“ส่วนเรื่องที่บอกว่าถ้านวดแล้วพอไม่ได้ไปนวดจะปวดยิ่งกว่าเดิม คิดว่าไม่น่าจะใช่นะคะ เพราะบลูทำแล้วก็ไม่เป็นนะ วันไหนเรารู้สึกเมื่อยก็ไปให้เขานวด เราก็ดีขึ้น หลังจากนั้นพอไม่ได้มานวด ก็ไม่ได้รู้สึกว่าถ้าไม่นวดแล้วขาดไม่ได้หรือยิ่งปวดกว่าเดิม ทุกครั้งที่ไปนวดก็รู้สึกดีขึ้น ผ่อนคลายขึ้น ไม่เชื่อลองมานวดดูก็ได้ค่ะ ผู้ชายก็ทำได้นะ เห็นหลายคนเข้าสปาแล้วติดใจกันเยอะแยะเลย (ยิ้ม)” ลูกค้ารายใหญ่ไม่ลืมโปรโมตทิ้งท้าย
สบายใจไว้ก่อน
เป็นที่รู้กันว่าสุขภาพจะดีได้นั้นต้องดีพร้อมทั้งทางร่างกายและรู้สึกดีมาจากภายในจิตใจ กิจกรรมผ่อนคลายความเครียดจึงเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับเธอคนนี้ ถึงแม้บางช่วงเวลา ภารกิจด้านการงานจะรัดตัวขนาดไหน บลูก็มองว่าไม่ควรปล่อยปละละเลย จำเป็นต้องหาเวลาว่างให้ตัวเองได้มีเวลาผ่อนคลายอย่างเต็มที่บ้าง ตั้งแต่ความสุขง่ายๆ ที่หาได้จากการดูหนัง จนถึงเรื่องการวางแผนท่องเที่ยว จะในประเทศไทยหรือไปไกลถึงต่างประเทศก็ถือว่าดีทั้งนั้น
“เป็นคนมีความสุขกับการดูหนังค่ะ วันที่เรียนจบมหาวิทยาลัยก็ไปฉลองด้วยการดูหนัง ตอนนี้ก็ยังดูอยู่ ถ้าไม่ได้ดูในโรงก็จะซื้อแผ่นมานอนดูที่บ้านแทน แล้วก็ชอบเที่ยวด้วย ต่างจังหวัดต่างประเทศไปหมด จะแพลนชีวิตเอาไว้เลย ไม่ว่าจะทำงานหนักแค่ไหน จะพยายามหาเวลาว่างปลีกตัวไปเที่ยวให้ได้ ล่าสุดก็เพิ่งไปเกาหลีกับแฟนมา เมื่อก่อนตอนยังไม่มีแฟนก็ไปกับเพื่อนในกลุ่ม ฮ่องกง จีน ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เวียดนาม ไปมาหมดแล้ว เหลืออังกฤษนี่แหละที่ยังไม่ได้ไป กะว่าต้องหาโอกาสไปดูบอลให้ได้เลย (หัวเราะ) ถ้าเป็นที่เที่ยวในประเทศจะชอบทะเล บลูเป็นคนจันทบุรี อยู่ติดทะเลเลยไปทะเลประจำ ได้เห็นคลื่นเห็นท้องฟ้าแล้วรู้สึกผ่อนคลายดี (ยิ้ม)”
เรื่องอาชีพการงานบลูก็ยึดหลักสบายใจไว้ก่อนเช่นกัน ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เธอจะเคยถ่ายภาพวาบหวิวบนนิตยสารผู้ชาย แต่เมื่อมีเหตุการณ์ร้ายๆ เกิดขึ้นในชีวิต เธอก็ตัดสินใจเลิกรับงานอย่างไม่ลังเล เพราะไม่อยากให้ตัวเองรู้สึกเครียดและไม่สบายใจในภายหลัง
“ตอนที่ถ่ายแรกๆ คิดว่าไม่ได้ทำอะไรเสียหาย มองว่าแค่เป็นงานๆ นึง บลูเลยรับงานถ่ายไปเรื่อยๆ จนวันนึงเจอคนโรคจิตโทร.มาพูดจาลามก ที่น่ากลัวคือเขาโทร.เข้าเบอร์ห้องนอน ซึ่งเป็นเบอร์ที่เราไม่เคยให้ใคร หลังจากเหตุการณ์นั้นเราก็มานั่งคิดกับตัวเองว่าความผิดมันไม่ได้อยู่ที่เขาฝ่ายเดียว เราเองก็ผิดด้วย เราถ่ายเซ็กซี่ มันก็ไม่ผิดที่เขาจะคิดกับเราแบบนั้น พอเริ่มรู้สึกไม่สบายใจที่จะทำเลยตัดสินใจเลิกถ่ายแบบเด็ดขาดไปเลย คิดว่าทำอะไรที่เราสบายใจดีกว่าค่ะ ชีวิตจะได้มีความสุข” รอยยิ้มปิดประโยคของบลูเป็นเครื่องรับประกันชั้นเยี่ยมว่า สุขภาพของเธอสมบูรณ์ทั้งกายและใจจริงๆ
รายงานโดย ทีมข่าว M-Lite / ASTV สุดสัปดาห์
ภาพโดย ธนารักษ์ คุณทน