xs
xsm
sm
md
lg

สายป่าน...Bad Girl !?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สายป่าน อภิญญา สกุลเจริญสุข
หากจะเอ่ยถึงนางเอกภาพยนตร์ฝีมือดีสักคน ชื่อของ “สายป่าน อภิญญา สกุลเจริญสุข” ติดโผแน่นอนสำหรับนางเอกหน้าใหม่ อีกทั้งข่าวคราว ทั้งเรื่องส่วนตัว รวมไปถึงเรื่องอดีตผู้จัดการส่วนตัวอย่าง “โกโก้ นิรุณ” ที่ออกมาแฉถึงพฤติกรรม “ด้านมืด” ของนางเอกสาวจนเป็นข่าวครึกโครม สายป่านอาจไม่ใช่นางเอกในสไตล์ที่คนไทยคุ้นเคย ไม่หวาน ไม่เปรี้ยว และเธอเองยืนยันว่าชีวิตเธอไม่ได้เป็น “สีดำ” เหมือนที่หลายคนเข้าใจ หากแต่เป็นเด็กหญิงคนหนึ่งที่ไม่อยาก “แบ๊ว” แต่ขอเป็นตัวเองในแบบที่เธอ “ต้องการ” แม้จะค้านในสายตาใครอีกหลายคนก็ตาม...


เด็กสาววัย 20 ปี รูปร่างเล็ก เดินทางมาตามการนัดสัมภาษณ์แบบตรงเวลา ใบหน้ายังคงมีสีสันที่หลงเหลือจากการไปเดินสายถ่ายแบบปรากฏให้เห็นอยู่บนใบหน้า “สายป่าน” เดินทางมาพร้อมแม่ ด้วยท่าทางสบายๆ กางเกงยีนส์ เสื้อยืด และผ้าพันคอ บวกกับรองเท้าคู่ 180 บาทที่เจ้าตัวมักเลือกซื้อมาใส่โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเสื้อผ้าแบรนด์ดังในห้าง ก่อนที่เธอจะยกมือสวัสดีทีมงาน M-Lite และเริ่มพูดคุยกับเธอได้แบบไม่ต้องพูดพล่ามทำเพลงใดๆ

“บุฟเฟต์” ไม่ใช่อาหาร แต่คือการเลี้ยงดู ในสไตล์สายป่าน

บุคลิกที่ดูคล้ายผู้ชาย ห้าวๆด้วยใบหน้าหวาน สายป่านเล่าว่าที่จริงแล้วครอบครัวเลี้ยงเธอมาในแบบบุฟเฟต์ อยากกินเท่าไหร่ก็กิน และเมื่ออิ่มทุกอย่างก็จะหยุดโดยอัตโนมัติ

“แม่เลี้ยงมาสปอร์ตมาก แบบบุฟเฟต์ ที่บ้านไม่เคยมากำหนดว่าเธอจะต้องทำอย่างนี้ ต้องดำเนินชีวิตแบบนี้ แต่จะเป็นแบบว่า อยากทำนี้ใช่มั้ย งั้นทำเลย เดี๋ยวพอป่านเบื่อ เราก็หยุด เหมือนเวลาเราซื้ออาหารบุฟเฟต์ พอเราอิ่มก็หยุดเอง ราคา 149 บาท ทั้งร้านอยากกินอะไรเรากิน อิ่มแล้วเราก็หยุดกินเอง แม่ก็เลี้ยงป่านแบบนั้น อยากเรียนดนตรี เรียนไปเลย พอเบื่อก็หยุดไปเอง อะไรที่ชอบก็ไปเรื่อยๆ”


“บางเรื่องมันมีบ้าง เมื่อเราต้องการจะทำอะไรจริงจัง ไม่เรียกว่าปล่อยนะ แต่แม่ให้ทำอะไรเต็มที่ คือเขาจะมีลิมิตว่าเพราะอะไร ว่าทำไมอยากเรียนดนตรี อยากเรียนพิเศษ จุดมุ่งหมายคืออะไร จะเอาเงินไปใช้อะไร ไม่ใช่อะไรก็จะเอาเงินไปเฉยๆ แล้วไปไม่ใช่แม่แล้วถ้าแบบนั้น”

ไม่หวานเน้นใส่ตะเบงมานเสียมากกว่า

สายป่านเผยว่าสาเหตุของความห้าวของตนและน้องสาว (แพร) เนื่องจากมาจาการเลี้ยงดูแล้ว ส่วนหนึ่งมาจากการที่ผู้เป็นพ่อ ที่เกิดในครอบครัวคนจีนก็อยากมีลูกชาย แต่ไม่สมหวังกลับได้ลูกสาวแทน ดังดนั้นวิธีการเลี้ยงดูเธอและน้องสาวจะออกแนวผู้ชายเสียมากกว่า

“ทุกวันนี้จะทำอะไรก็ยังต้องโทร.บอกแม่ว่าจะไปทำอะไรจะโทร.รายงานตอลดเวลา อยู่โรงเรียนตลอดเวลา ไม่ปล่อยนะคะ มันคือความเคยชิน ป่านเองก็ไม่ได้อยากได้ความเคยชินขนาดนั้น ไม่ได้แอบแม่ปิดมือถือ แม่ไม่ดุ ที่บ้านไม่มีใครดุเลย แต่บ้านเราไม่กอดกันนะ ค่อนข้างแมนๆ คุณพ่ออยากได้ผู้ชาย แต่ได้ลูกสาวก็ไม่เป็นไร คนจีนไงคะ อีกอย่างที่ลูกห้าวเป็นเพราะว่าการดำเนินชีวิต ของคุณพ่อคุณแม่เขามาแบบนี้ด้วยแหละ เลยให้มันดำเนินออกมาแนวนี้ ลูกทุ่งๆ ไม่ได้เป็นนักธุรกิจ พ่อป่านก็สบายๆ แม่ก็แนวนี้ ป่านกับน้องเลยไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ ออกแนวตะเบงมานมากกว่าชุดไทย เขาสอนหมดเลย ป่านเป็นพี่คนโตของครอบครัวดูแลตัวเองและดูแลน้อง นั่นคือวิธีการสอนของพ่อกับแม่”

เมื่อความดังมาเยือน บ้าน “สกุลเจริญสุข”

ครอบครัวใหญ่ของสายป่าน เดินทาไงปทำร้านอาหารที่ประเทศสวีเดน แต่เพราะดวงชะตาลิขิตให้สายป่านก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงเมื่อ4-5 ปีก่อน จึงทำให้สายป่าน ต้องมีชีวิตในวงการมายา และสิ่งที่ตามมาคือ “ข่าว” ที่ทำให้ครอบครัวคนจีนของเธอ บอบช้ำมากทีเดียว

“ญาติๆป่านเขาไปอยู่สวีเดนกันหมด ที่อยู่เมืองไทยก็ไม่กี่คน คือที่บ้านเขาไม่ได้ห้ามเรื่องเข้าวงการ แต่ตอนมีข่าวมากๆ อาม่าเขามีหน้ามีตาในสังคม ตระกูลคนจีน 50 คน ใหญ่มาก ป่านไม่อธิบายเลยค่ะ เฉยๆไป แค่คนรอบข้างจริงๆที่เข้าใจก็พอแล้ว ที่บ้านป่านไม่เคยมาตอกย้ำป่านเลย คุณพ่อ คุณแม่ อาม่า อากง อาแปะ เขาฟังป่านมาก เพราะเราเป็นหลานแท้ๆ แล้วคนจีนก็จะรักลูก รักหลาน อีกอย่างหนึ่งคือเขาเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก เขารู้ว่าเราเป็นอย่างไร”...สายป่านเล่าถึงเหตุการณ์ข่าวต่างๆ ทั้งติดยา ใจแตก และข่าวเกี่ยวกับผู้ชายจนทำให้เธอโดนมองว่า คือสาว “แรง” คนหนึ่งของวงการบันเทิงในขณะนั้น

เมื่อมีข่าวแน่นอนว่าเธอได้รับผลกระทบและยอมรับว่า บางครั้งที่ร้องไห้ คือการแคร์คนในครอบครัว แต่ไม่ได้เจ็บปวดกับข่าวแย่ๆแต่อย่างใด

“ร้องไห้มั้ย ไม่เคยร้องไห้เพราะข่าว แต่ร้องไห้เพราะว่าที่บ้านร้องไห้ ไม่แคร์ข่าวแต่แคร์คนที่บ้าน เพราะ เราไม่สามารถกำหนดได้ ให้คำสัญญาไม่ได้ ข่าวใครจะไปกำหนดได้ เรากำหนดไม่ได้ แทนที่มันจะตอกย้ำไป ก็มารับมือกับสิ่งที่มันจะเป็นดีกว่า”

“สายป่าน” (แค่) สีเข้ม แต่ไม่ใช่ “สีดำ”

ภาพสาวน้อยในวงการในวัยเดียวกัน อาจเห็นดาราสาวเหล่านั้นเป็นสีชมพู ให้สัมภาษณ์กับสื่อแบบเจียมเนื้อเจียมตัว ตามสไตล์ดาราส่วนใหญ่ แต่สำหรับสายป่านตั้งแต่เข้าวงการวันแรกจนถึงวันนี้ ยังไม่ได้เปลี่ยนจากเดิม เธอยังคงตรงไปตรงมากับการให้สัมภาษณ์ และสิ่งที่มากขึ้นคือ “ความคิด” ที่เธอเองก็ยอมรับว่า หลายคนอาจมองว่าเธอคือเด็กดื้อ แต่สำหรับเธอแล้ว เธอคือคน “ตรง” คนหนึ่งเท่านั้น

“เมื่อก่อนสื่อเขียนถึงเราแรง แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นเยอะ เขาเบื่อที่ป่านไม่ยอมเปลี่ยนสักทีหรือเปล่า (หัวเราะ) ก็เลยให้เป็นแบบนี้ไป อาจจะเป็นเพราะว่าแต่ก่อนป่านพูดไม่รู้เรื่องเพราะป่านเป็นเด็ก เด็กก็จะมีอารมณ์แบบไม่อยากตอบ งี่เง่าง่วงนอนงอแงบ้าง แต่พอเริ่มโตปุ๊บเจอคนเยอะขึ้น พูดจาเก่งขึ้น มันเริ่มเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง ป่านไม่ใช่เด็กผู้หญิงสีดำ หรือสีน้ำตาล ป่านเป็นเด็กผู้หญิงสีม่วงๆ ไม่ใช่ชมพู หรือฟ้า ฉันคือสีม่วง มันคือสีชมพู ฟ้า น้ำเงินมาผสมกัน มากกว่าค่ะ”

“ถามว่าน้อยใจมั้ยเขามองเราเป็นสีเทาๆ ดำๆ ไม่นะคะ ไม่เสียใจเลย เพราะว่าป่านก็ประมาณนี้แหละ จะให้เป็นอย่างอื่นก็ลำบากนะคะ ป่านเข้าวงการมา 4 ปีจะ 5 ปีแล้วค่ะ ป่านได้ยินมาหลายคนที่ร่วมงานกัน พอสามสี่เดือนถัดมาก็จะมีคนบอกว่า ร่วมงานกับสายป่านซิ บริษัทเก่าแนะนำมาว่าสายป่านซิ มันคือการบอกต่อมากกว่า คนภายนอกจะไม่รู้หรอกว่าตัวตนที่แท้จริงป่านเป็นอย่างไร แต่เมื่อมาร่วมงาน จะรู้ว่าที่จริงแล้วป่านเป็นคนประเภทไหน”


“อย่างที่บอกค่ะ ตัวป่านเองป่านไม่ค่อยสนใจข่าวเลย แต่ว่าคนทางบ้านป่านจะซีเรียสมากกว่า ตัวป่านเองชิล ชิล ดังนั้นพอมีผลกระทบกับที่บ้าน ไม่ได้เครียดเรื่องข่าว แต่เครียดเพราะว่าที่บ้านเครียดมากกว่า”

“โกโก้” : “บุญคุณ” และที่มาของ “ความแรง”

ไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ “สายป่าน” ตกเป็นข่าวรายวันกับอดีต ผู้จัดการส่วนตัวอย่าง “โกโก้ นิรุณ” ผู้ซึ่งสายป่านเคยขึ้นศาลเป็นพยานปากสำคัญในคดีที่โกโก้สูญเสีย “มาริโอ้ เมาเร่อ” ให้แก่ “เอ ศุภชัย” จนเป็นข่าวครึกโครม แต่แล้วไม่นาน โกโก้ มีปัญหากับสายป่านเรื่องรับคิวงานจนเป็นข่าวใหญ่โต ฝ่ายโกโก้ หลุดปาก ให้สัมภาษณ์กับคลื่นวิทยุชื่อดังพาดพิงสายป่านเรื่อง “สูบบุหรี่” จนเป็นเหตุให้บานปลาย เกือบมีการฟ้องร้อง และในปัจจุบันสายป่านยังคงมีสัญญากับโกโก้อีกไม่กี่เดือน และยังคงทำงานเก่า และไม่อยากให้มีปัญหา และเมื่อถามถึงความสัมพันธ์ เจ้าตัวบอกสั้นๆว่าบุญคุณไม่เคยลืม แต่เมื่อมีการผิดใจแล้ว ขอต่างคนต่างอยู่น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดมากกว่า

“ข่าวกับพี่โก้เคยปวดหัวแต่ตอนนี้ไม่ปวดหัวแล้วค่ะ ทำงานดีกว่า ตอนนี้สัญญายังไม่ทราบต้องถามผู้ใหญ่ ป่านมีคนจัดการเรื่องนี้แล้ว ไม่ยุ่งอะไรแล้ว ก็ทำงานที่ค้างอยู่ของปีที่แล้วให้จบ หนังก็ยังถ่ายไม่เสร็จ ละครก็ยังไม่เสร็จสิ้นเราก็ทำงานไปก่อน กับพี่โก้กลับมาคุยคงยาก ทางออกคือต่างคนต่างอยู่ มันคือคำตอบสำหรับคนทุกๆฝ่าย ให้มันเลิกรากันไปด้วยดี ดีกว่า ป่านไม่อยากพูดอะไรแล้วค่ะ แต่ระลึกถึงว่าพี่โก้ให้โอกาส ต่างคนต่างอยู่ดีกว่า มันไม่มีอะไรเลยแต่ว่ามันไปไกลมากกว่าที่ป่านคิด”

อนาคตในวงการบันเทิงไทย-เทศ

ด้านฝีมือการแสดง แน่นอนว่าสายป่านถือว่ามีพัฒนาการ และล่าสุดกับการได้ร่วมงานในหนังเยอรมนี เรื่อง “same same but different” สายป่านรับบทสาวเขมร และเข้าฉายแล้วที่ประเทศเยอรมัน และได้รับการตอบรับที่ดีมากสำหรับที่นั่น

“ เขาเชิญป่านไปรอบสื่อมวลชนของที่นั่น ไปแฮมเบิร์กก่อน แล้วก็เบอร์ลิน ฉายแล้วค่ะ บ้านเราคงไม่ได้ดู มันทุนสร้างของที่นั่นไม่ได้ร่วมทุนกับประเทศเรา ฟีดแบ็กดีมาก ดีเกินกว่าที่คิดเอาไว้ ตอนนี้หนังที่ทางที่นั่นเขาแนะนำให้คนไปดู เป็นกระแสที่ถูกจับตามองในด้านดรามาของที่นั่น สมมติว่าคะแนนแต็ม 5 คะแนน หนังของป่านจะได้ 4.5 คะแนน 5 ดาวก็ได้ 4 ดาวครึ่ง คือเป็นหนังที่ทุกคนต้องไปดูทำนองนั้นนะคะสำหรับที่นั่น ป่านเล่นเป็นนางเอก เป็นตัวเดินเรื่องทั้งหมด เรื่องนี้เป็นชีวิตของสเลแกล ซึ่งป่านรับบทเป็นสเลแกล สาวเขมรค่ะ”

“การทำงานกับชาวต่างชาติ ก็ต่างนะหลายอย่างค่ะ อย่างประเทศไทย เราจะถูกปลูกฝังมาอีกอย่างหนึ่ง เป็นการแสดงที่ค่อนข้างสบาย มีผู้ช่วยผู้กำกับคอยช่วยนั่นนี่ มีแอ็กติ้งโค้ช ไปอยู่ที่นั่นเหมือนกับว่าต้องดูแลตัวเองทั้งหมดเลย ไม่ว่าจะเรื่องของเวลาการตื่น การอ่านบท รับผิดชอบตัวเองหมดเลย ต้องท่องบทด้วย มันลำบากนิดหนึ่งค่ะ แต่ก็ทำให้เรามีประสบการณ์และเก่งมากขึ้น”

เรียนไม่ทิ้ง
นอกจากงานแสดงที่เจ้าตัวบอกว่าไมได้ลดลง และยังคงทำงานเจ็ดวัน แต่สำหรับเรื่องเรียนนั้น เจ้าตัวสอบติดที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และมุ่งมั่นจะตั้งใจเรียนให้มากที่สุด

“ถ้าไม่ได้อยู่ในวงการ ป่านก็คงเรียนหนังสือ ป่านไม่ชอบวิชาการหรือปฏิบัตินะ เกลียดมาก แต่ชอบคิด แต่นานๆจะทำที แต่เวลาทำทีก็ทำดีไปเลย ชอบคิดแล้วให้คนอื่นทำ ติดขี้เกียจ เราไม่ทำ เจ้าโปรเจกต์ ไม่ใช่หน่วยปฏิบัติการ คิดแบบศิลปะ ตอนนี้ ก็เพิ่งสอบตรงติดที่ มศว. คณะนวัตกรรม เป็นคณะใหม่ เรียนเกี่ยวกับเอกวิชาการแสดงและกำกับการแสดงผ่านสื่อ เอาโลกทุกวันนี้มาประยุกต์กับที่เราเรียน ชอบค่ะ ที่ผ่านมาก็เรียนน้อยมาก ทำงานเยอะกว่า แต่ตอนนี้ทุกอย่างโตขึ้น ก็คิดว่าจะตั้งใจเรียนให้มากขึ้น”

“ตอนเด็กๆ เรียนดี หัวดี เรียนเก่งมาก ทุกวันนี้ก็ยังเรียนเก่งอยู่ ภาษาไทยจะทำได้ดี ป่านไม่ใช่คนขี้เกียจ ไม่ไปโรงเรียนก็จริง แต่ถึงเวลาไปสอบก็ไป ทุกคนจะดูว่าเราไฮเปอร์ แต่ไม่ได้เรียนแย่ ระดับกลาง ถึงเวลาสอบผ่านตลอด ไม่ ตอนเด็กฉลาดมาก 3.8 เรียนได้ 4.0 แต่พอโตมา ยัน ม.2 มา.3 เริ่มลงมาเหลือ 3 พอดี พอเข้าวงการลดหลั่นลงไป ยังอยู่ 2 กว่าๆ”

หัวใจที่มีคนจอง

ส่วนเรื่องหัวใจ “สายป่าน” ไม่ว่างเสียแล้ว เมื่อมีคนจองอย่าง “แชมป์ ปิยะวิทย์ ขันธศิริ” หรือ “แชมป์ แห่งวงเท็ดดี้สกา” ที่เปิดตัวคบหาดูใจแบบไม่ปิดบังโดยมี “แม่ของสายป่าน” ดูแลอย่างใกล้ชิด

“มีคนดูอยู่ เปิดตัวได้มั้ย ไม่ได้ปิดบัง แต่แม่ไม่ใช่ว่าปล่อยนะคะ เพราะแทบไม่มีเวลาให้กันมากมาย ทำงานกับเรียนก็เยอะแล้วนะ แม่ไปด้วยตลอด เขาเข้าใจ เขาโทรคุยกันทุกวัน ป่านไม่ขี้หึง ปล่อยๆมากกว่า เขาก็ปล่อยไม่ได้ฟิกซ์ แต่ละคนต่างก็เป็นคนของประชาชนด้วยกันทั้งคู่ ถ้าเรามัวแต่มาหึงกัน ก็คงไม่ต้องทำอะไรกินแล้ว คุณก็มีงานของคุณ ฉันก็มีงานของฉัน ก็บวกลบกันไป เจ๊ากัน เขาเข้าใจเรา เขาโตกว่าเยอะมาก 5-6 ปี เขา 25 มีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่า เขาเข้าใจในครอบครัว มีอะไรก็เขาจะคุยกับคุณแม่ บอกแม่เข้าถึงครอบครัวหมด เขาไปหาอาม่าด้วยนะ”

“งอนกันมีบ้าง (ทำท่าคิด) เรื่องปกติ ส่วนใหญ่เราก็งอน ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว...” สายป่านทิ้งท้ายถึงเรื่องความรักที่กำลังไปได้สวย

สายป่านอยากทำธุรกิจ

ในวันที่ตัวเองต้องทำงานหนัก สายป่านยอมรับว่า รักน้องสาวของตนเองมาก อยากได้อะไรเมื่อเอ่ยปากขอตนจะให้ทุกอย่าง และไม่เคยรู้สึกว่าเหนื่อยถ้าเป็นความสุขของน้องในวัยที่ไล่เลี่ยกัน และในอนาคตหากไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงแล้ว เธอใฝ่ฝันอยากมีธุรกิจห้องเช่า หรือรีสอร์ตเพื่อเป็นอาชีพของเธอในอนาคต

“ป่านเป็นคนขี้งก เป็นคนใช้เงินประหยัด ป่านไม่ค่อยใช้เงิน ขี้เหนียว เก็บไปเรียน แล้วก็เลี้ยงน้อง เรียนหนังสือ มีน้องคนเดียวก็เหมือนมีลูกอีกคน เราห่างกันปีครึ่ง มีทุกอย่างเลย น้องมีโทรศัพท์ครบทั้งไอโฟน แบล็กเบอรี่ ในห้องมีแม็คบุ๊ก สเตอริโอ โฮมเธียเตอร์ ห้องเรามีแค่ดีวีดีตัวเดียว เราให้น้อง มีความสุขกับน้องค่ะ”

“ป่านทำงานตั้งแต่อายุ 16 แต่ไม่รู้สึกว่าชีวิตหายไป หรือเหนื่อยกว่าคนอื่นนะ ป่านมีเพื่อนดีมาก มีครอบครัว เข้าใจป่านและรักป่านจริงๆ แล้วก็ป่านถือว่าเรื่องเรียนเนี่ยคือสิ่งที่เด็กทุกคนต้องทำ ส่วนงานคือสิ่งที่ป่านรัก และได้ทำในสิ่งที่ป่านชอบพร้อมๆกันเนี่ย ป่านถือว่าเป็นโอกาสที่ดี ส่วนเรื่องเพื่อน คุณเข้าใจฉัน เราไม่มีเวลาอยู่ด้วยกัน แต่เมื่อไหร่ที่เราประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว เราค่อยมาเจอกันก็ได้ ป่านเคยคิดเล่นๆ เพ้อเจ้อ อยากมีกิจการพวกที่พัก รีสอร์ต อพาร์ตเมนต์ อยากเป็นเสือนอนกินเลย (หัวเราะ)”


“...ป่านไม่ได้อยากให้คนอื่นชอบป่าน เพราะป่านเป็นคนอื่น ค่อนช้างชัดเจนตั้งแต่แรกว่าอยากให้คนอื่นรับได้ที่เราเป็นแบบนี้มากกว่า ไม่เปลี่ยนตัวเองมากขนาดนั้น ไม่ต้องไปฝึก ตามใจตัวเองเรื่องกินเรื่องนอนไม่ค่อยรักษาลุคเท่าไหร่...”

เมื่อลูกถูกมองว่าเป็น “นางเอกสีดำ”

“เพ็ญแข สกุลเจริญสุข” แม่ของสายป่าน เผยด้วยความรู้สึกตรงไปตรงมาว่า ตนเองมีลูกสาวสองคน และเลี้ยงดูมาให้เลี้ยงตัวเองได้ ทั้งสายป่านและแพร และทุกครั้งที่มีข่าวตนก็จะยืนข้างลูกเสมอ และไม่น้อยใจที่ลูกโดนข่าวแรง แต่จะรู้สึกแปลกใจมากกว่าหากมีข่าวลูกสาวแอ๊บแบ๊ว

“แม่เลี้ยงลูกห้าวๆนะ แต่มีข่าวลูกแรงๆ จริงๆชอบให้ห้าวมากกว่าแอ๊บนะ ยังรู้สึกดีกว่าข่าวคั่วผู้ชาย ตอนนี้ยังไม่มีอะไร เพราะว่าเรารับส่งเขามา20 ปีเรารู้ว่าเขาเป็นอย่างไร ถามว่าดื้อมั้ย ไม่นะ แต่โผงผาง พูดตรงๆมันเป็นแบบนี้ เราคุยกับทีมงาน เราชี้แนะว่ามันดีมั้ย แฮปปี้ที่ลูกเราตรงๆ ไม่ต้องแอ๊บ มาง้องแง้ง ยิ่งไม่ชอบ คนน้องก็เป็นแบบนี้ เขาโตมาคู่กันลุยๆแบบนี้”

“ตอนแรกที่เขาเข้าวงการ จริงๆแรกเครียด เพราะไม่เคยสัมผัสกับตรงนี้ แต่เดี๋ยวนี้ชิน แม่เองไม่คาดหวัง ไม่อยากคาดหวังว่าต้องอย่างนั้นอย่างนี้ ให้เขาดำเนินชีวิตของเขาไป แล้วเราก็คอยตะล่อม ๆ ไว้ หลายคนอาจมองว่ามีลูกผู้หญิงก็อาจเลี้ยงยาก แต่เราคนเป็นแม่เราต้องอยู่ข้างเขาตลอดนะ เลี้ยงสบายๆมากกว่าสำหรับป่าน”

จากคนเคยรักชื่อ “โกโก้” ถึง “สายป่าน”

อดีตผู้จัดการชื่อโกโก้ เผยว่า ปัญหาที่แท้จริงของเขาและสายป่าน ไม่ใช่เรื่องเงิน หากแต่เป็นการเปลี่ยนแปลงในตัวของสายป่านเอง และยืนยันว่า ข้อดีของสายป่านคือการดูแลครอบครัว และแม้ว่าตนคือคนแฉเรื่องสูบบุหรี่ของอีกฝ่าย แต่ก็ยืนยันว่าสายป่าน อดีตเด็กในสังกัด ไม่ใช่ “แบดเกิร์ล” แน่นอน

“ปัญหาจริงๆคือปัญหาที่ต้องไปถามฝั่งเขาว่าอะไรอย่างไร ส่วนทางโก้เอง ถามว่าส่วนแบ่งเรื่องเงินโก้ตามจริงต้องหัก 25 % แต่โก้หักแค่ 20% มาตั้งแต่เล่นหนังเรื่องพลอย 25 % เราหักแค่ช่วงแรกที่เล่นโฆษณาเท่านั้น ก็หลังจากนั้นเล่นหนังก็หัก 20 มาตลอด ถามว่าโก้มีปัญหาเรื่องเงินมั้ย โก้ก็หักเท่าเดิมตลอด ไม่มีปัญหาเรื่องนี้เลย”

“ถ้าในมุมมองโก้ ป่านเองเขาไม่ใช่แบดเกิร์ลนะ แต่ว่าเขาคาแรกเตอร์ห้าวๆนิดหนึ่งมากกว่า แต่ไม่แน่ใจว่าเขาจะมีมุมแบบนั้นหรือเปล่า แต่มุมที่ดีเขาก็มีนะอย่างเช่นเขาแบ่งเงินให้พ่อแม่ แต่ในมุมปัญหาของเราคือ การพูดการจาเขาเปลี่ยนไปมากกว่า จากที่คนภายนอกมองคาแรกเตอร์แรงๆ ห้าวๆ เขาไม่เคยมาห้าวใส่โก้เลยนะ แต่เมื่อที่ผ่านมาเขาก็ค่อนข้างเปลี่ยนมีการพูดจาไม่ดี เรื่องเงินไม่ได้เป็นปัญหาอยู่แล้ว”

“สิ่งที่ทำให้เขาเปลี่ยน ชื่อเสียงหรือเปล่า งานหรือเปล่า เราก็ไม่แน่ใจ เนื่องจากรับงานค่อนข้างเยอะ แต่เรื่องงานเราก็ตกลงกันนะว่าจะรับอะไรบ้างไม่รับอะไรบ้าง แต่คราวนี้พอรับมาแล้วเยอะมากมันคงเกิดความกดดันเลยทำให้เปลี่ยนไป การแบ่งงานให้เด็กจะต้องมีคาแรกเตอร์ตรงตามเด็กอยู่แล้ว นี่ก็คงเป็นอีกประเด็นล่ะมั้งเพราะโก้ก็ต้องแบ่งเวลาไปดูแลน้องคนอื่นบ้าง สายป่านก็คงอาจจะไม่พอใจบ้าง พอคนอื่นเซ็นสัญญากับเรา เราก็ต้องไปดูแลน้องคนอื่นบ้างด้วย”

ส่วนการที่คนติดภาพจากข่าวพฤติกรรมแรงนั้น โกโก้ยืนยันว่า หากเป็นเรื่องจริงก็ต้องออกมายอมรับ.. “ ถ้าจริงก็ต้องออกมายอมรับความจริง ถ้าไม่ใช่ก็ต้องให้ออกมาอธิบาย”


ประวัติ

ชื่อ อภิญญา สกุลเจริญสุข
ชื่อเล่น สายป่าน
เกิด 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2533
การศึกษา โรงเรียนนานาชาติ IBS 3 (Interkids Bilinguall School) ปัจจุบันเรียนที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร ชั้นปี 1
ผลงาน เคยเป็นหนึ่งในพิธีกรสาวรายการ "สตรอเบอรี่ชีสเค้ก" ผลงานโฆษณา แฮปปี้ DTAC ชุกพ่อคนดีฝังใน , ป๊อกกี้ และ มิสเตอร์โดนัท,รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ,ดินสอสี เฟเบอร์คลาสเทล และฮานามิ (ชุดฮากลิ้ง) มิวสิกวิดีโออีกหลายชิ้น

ผลงานหนัง
พลอย, สี่แพร่ง , เฟรนด์ชิพ...เธอกับฉัน รับบท มิถุนา(ตอนสาว), บุญชู 9 , ฝัน-หวาน-อาย-จูบ รับบท หวาน,หอแต๋วแตกแหกกระเจิง , 32 ธันวา, After School , เขี้ยวอาฆาต ( 2553) ,Same Same But Different 2553 (หนังเยอรมัน) และ มือปืนไตรภาค (2553)


ข่าวโดยทีมงาน M-Lite
ภาพโดย ธนารักษ์ คุณทน





สายป่าน-แม่-หนุ่มแชมป์ เท็ดดี้สกา หวานใจสายป่าน
โกโก้ อดีตผู้จัดการส่วนตัวสายป่าน
หนังเยอรมนีที่สายป่านเล่น
สายป่านรับบทสาวกัมพูชา
กำลังโหลดความคิดเห็น