เจ้าของฉายาสตรอเบอรี่เรียกพี่...นางร้ายสุดเซ็กซี่...จอมสร้างกระแส กลายเป็นคำจำกัดความให้กับ เป้ย-ปานวาด เหมมณี หากจะให้แยกสสารของร่างกายเธอออกมา ด้วยสัดส่วน ที่มองด้วยตาเปล่าแล้วน่าจะอยู่ที่ 34-24-36 ไม่ว่า หน้าตาอันสุดเซ็กซี่ หน้าอกทะลัก ทรวดทรงองค์เอว อันสุดเร้าใจ ทุกสัดส่วนบนร่างกายเธอถูกตีให้เป็นมูลค่าในการโชว์ตัวแต่ละครั้งทำรายได้มหาศาลให้กับเธอ
การสร้างตัวตนของเธอขึ้นมาให้อยู่บนข่าวนั้น เป้ยกลายเป็นอีกคนหนึ่งที่ถูกมองว่าชอบสร้างกระแสให้กับตัวเอง ไม่ว่าจะเรื่องความรัก งานเดินแบบ พรีเซนเตอร์
เรื่องราวของเธอ หากสูตรคณิตศาสตร์มีสมการให้แก้ เป้ย ปานวาด ก็มีสมการของเธอ ให้แก้เช่นกัน...
“เซ็กซี่ สร้างงาน”
ยิ่งฉาว...ยิ่งเซ็กซี่...มากเท่าไหร่ ยิ่งมีข่าว ถือว่าเรียกรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับดารามานับไม่ถ้วน...
ความเซ็กซี่ ที่มาพร้อมกับกระแสข่าวฉาวย่อมเป็นที่ต้องการของบรรดาออร์แกไนเซอร์ผู้จัดงานอีเวนต์เพื่อเป็นตัวเรียกกระแสให้บรรดาสื่อมวลชนจะเข้าไปร่วมงานและอีเวนต์ดังกล่าวก็จะถูกออกสื่อมามากที่สุด
หากจะให้พูดถึงดีกรีและเจ้าแม่อีเวนต์งานที่ต้องออกมาโชว์ความเซ็กซี่แล้ว คงมีชื่อของเธอ เป้ย-ปานวาด เหมมณี รวมอยู่ในนั้นด้วยเช่นกัน เธอกลายเป็นอีกคนหนึ่งที่มีกระแสข่าวได้แทบจะทุกวันในช่วงปีที่ผ่านมายาวมาจนกระทั่งต้นปีนี้ก็ยังไม่ขาดข่าวเธอแม้แต่วันเดียว
นับจากวันที่เป้ย-ปานวาด เหมมณี ได้กระโดดเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการประกวดดัชชี่เกิร์ลและคว้าตำแหน่งรองอันดับ 2 ในปี 2001 นั้น เป็นเวลากว่า 10 ปีที่เธอยังคงโลดแล่นและเป็นข่าวให้ผู้คนได้ติดตามกันอย่างต่อเนื่อง
เจ้าของฉายา “สตรอเบอร์รี่เรียกพี่” คงต้องยกให้เธอแต่เพียงผู้เดียว ทำเอาเจ้าตัวถึงกับเครียด กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ถึงขั้นต้องไปปรึกษาจิตแพทย์
มาวันนี้ข่าวคราวของเธอยังอยู่บนหน้าสื่อหลายแขนงอยู่ตลอดเวลา และหากสังเกตจากหลายครั้งคงไม่ใช่เพราะความบังเอิญเสียทุกครั้งที่มักจะมีข่าวคราวเรื่องรักๆ เลิกๆ ตามงานเปิดตัวภาพยนตร์ หรือข่าวออกมาร้องไห้ตามงานอีเว้นต์ให้ได้เห็นกันอยู่เนืองๆ หรือจะข่าวเกาเหลากับบรรดาสองพี่น้องอย่าง อุ้ม-ลักขณา และนิวเคลียร์ หรรษา หรือข่าวกุ๊กกิ๊กกับบรรดาหนุ่มๆ ในภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน หรือนักแสดงจากภาพยนต์ที่กำลังลงจออยู่ในขณะนั้น หรือข่าวฉิ่งฉาบ ดนตรีไทย กับสาวห้าวจากบ้านเอเอฟ 6 และอีกมากมาย แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เธอถูกมองว่า “สร้างกระแส” คงจะเป็นไปไม่ได้
ถ้าให้มองจากกลวิธีในการพยายามสร้างข่าวให้กับตัวเองแล้ว ดีกรีสาวฮอตอย่างเธอคงไม่ทำให้ข่าวของเธอดูเรียบง่ายจนเกินไป ทั้งออกมาแต่งตัวเซ็กซี่ มีข่าวจุกเกือบโผล่ ร้องไห้ต่อหน้าสื่อ หรือออกมาประกาศรักๆเลิกๆ กิ๊กกั๊กกับบรรดาหนุ่มๆ
“เป้ยยอมรับว่าเมื่อ 5 ปีก่อนตัวเอง เรายอมแต่งตัวเซ็กซี่เพื่อให้คนอื่นสนใจ” ถ้ามองว่าเป็นแนวทางในเส้นทางสายบันเทิงก็คงต้องทำให้ตัวเองมีคาแรกเตอร์ และเธอได้เลือกความเซ็กซี่เป็นสิ่งแสดงออกให้ทุกคนได้รู้ว่านี่คือ “เป้ย-ปานวาด เหมมณี”
เธอเริ่มผงาดโชว์ความเซ็กซี่ด้วยออกมาถ่ายแบบชุดว่ายน้ำให้หนุ่มๆ ได้กระชุ่มกระชวยหัวใจเล่นๆ จนทำให้ทุกคนติดตาว่าเธอกลายมาเป็นสาวสวยเซ็กซี่พ่วงมาด้วยบทนางร้ายอีกหนึ่งคนในวงการบันเทิง หรือแม้กระทั่งตามงานเปิดตัวสินค้า งานอีเว้นต์ต่างๆ หากงานใดที่ต้องสื่อถึงความเซ็กซี่งานนั้นต้องมีเป้ย-ปานวาดมาร่วมงานอย่างแน่นอน
การออกงานอีเวนต์แต่ละครั้ง หากการแต่งตัวธรรมดาไม่โชว์อกตูม หรือเปิดหน้า เว้าหลัง ก็คงไม่ใช่คาแรกเตอร์ที่บรรดาเหล่าผู้จัดงานต้องการ บ้างออกมาให้เธอใส่ชุดหวาบหวิวลงอ่างอาบน้ำส้ม งัดหน้าอกตูมเดินแฟชั่น เปิดตัวสินค้าที่เสนอผ่านความเซ็กซี่เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้า
“รักๆ เลิกๆ สร้างกระแส”
มาถึงกระแสของความรักระหว่างเป้ยกับอาร์นั้น เริ่มสานสัมพันธ์จากสาวเป้ยเองแอบส่งรักนกไปให้กับหนุ่มอาร์ จนมีข่าวตามมาว่าทั้งคู่คบหาดูใจกันแล้ว และในระหว่างที่คบกันมีบ้างที่มีกระแสงอนง้อ รักๆ เลิกๆ ขอคืนดีออกมาตามสื่อเป็นระยะๆ และเมื่อปลายปีที่ผ่านมาทำเอาหลายคนซอร์ไพร์สเมื่อฝ่ายสาวออกมาประกาศรับว่าห่างกับอาร์แล้ว ท่ามกลางบรรยากาศงานเปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง “มหาลัยสยองขวัญ” ทำเอานักข่าวงงกันเป็นแถว แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เชื่อได้สนิทใจ และระหว่างนั้นเป้ยเองก็เป็นข่าวกับนักแสดงหน้าใหม่จากภาพยนตร์เรื่องเดียวกันนี้ จึงถูกมองว่าเป็นเพียงแค่การโปรโมตภาพยนตร์เท่านั้น
การเลิกรากันในครั้งนี้ของเป้ย ทำให้เป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะตามงานอีเวนต์ที่เธอปรากฎตัว ย่อมเป็นที่สนใจของบรรดาสื่อมวลชนมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งในตอนให้สัมภาษณ์ถึงความรักที่เพิ่งเลิกรากันไป เล่นเอาสาวเป้ยบ่อน้ำตาแตกอยู่ร่ำไป แต่ก็ไม่วายแม้จะมีข่าวเลิกกันไป ทั้งคู่เป้ย-อาร์ก็ยังคงควงคู่รับงาน เพื่อรับทรัพย์ร่วมกันอีกด้วย
เมื่อทั้งคู่ออกมาเปิดตัวบอกลากันขนาดนี้ บรรดาหนุ่มๆ ต่างจ้องเพื่อจะพิชิตหัวใจเธอ แต่ก็ไม่วายมีเพียงแค่บรรดาหนุ่มๆ นักแสดงหน้าใหม่เท่านั้นที่เป้ยเองตกเป็นข่าวด้วย อาทิ หนุ่มจ๊ะ อธิศ อมรเวช นักแสดงจากภาพยนตร์เรื่องมหาลัยสยองขวัญที่เล่นด้วยกัน ตามมาด้วยข่าว “อ๋อม-อรรคพันธ์ นะมาตร์” ความสัมพันธ์กลับถูกย้ำได้ว่าเป็นเพื่อนกัน และน้องในวงการเพียงเท่านั้นรับว่าสนิทกันมานาน
และในช่วงระยะไม่นานกับการเป็นสาวโสดได้สักพักก็มีภาพหลุดที่เป้ยจูบกับ จูน ปวีณา รุ่งรัตนวิไล อดีตหวานใจนาย พีเค อย่างดูดดื่ม ในงานปาร์ตี้สาวโสด หลายคนมองว่าการมีภาพหลุดออกมาเช่นนี้ เป็นการเปิดทางให้ทุกคนได้ทราบหรือเปล่าว่า เป้ยจะยอมเปิดใจคุยได้กับทุกเพศ กระทั่งต่อมาจึงมีข่าวออกมาว่า ซานิ - นิภาภรณ์ ฐิติธนาการ
หญิงห้าวแห่งบ้านเอเอฟ 6 ตามจีบ แต่ทั้งคู่ก็ออกมายอมรับว่าเคยคุยกันและซานิเองก็รู้จักในฐานะรุ่นพี่ในวงการบันเทิง
ไม่ว่าจะมีข่าวกุ๊กกิ๊กกับใครก็ตาม สุดท้ายเมื่อไม่นานเธอได้ออกตัวแรงรับว่ากำลังคุยอยู่กับ บิ๊ก- ทองภูมิ สิริพิพัฒน์ นักแสดงหน้าใหม่จากภาพยนตร์เรื่อง อยากได้ยินว่ารักกัน ส่วนฝ่ายชายเองก็ออกมาชมเป้ยอีกว่า “น่ารักขนาดนั้นไม่รักก็บ้าแล้ว” เมื่อวันก่อนในงานเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว (11 ม.ค)เ ป้ยเองก็หอบดอกไม้ไปให้กำลังใจหนุ่มบิ๊กถึงในงาน ในวันถัดมาหลังจากวันถัดมาในแถลงข่าวงาน The 2nd Bangkok Motorbike Festival 2010 (12 ม.ค) สาวเป้ยได้หนีบเอาหนุ่มบิ๊กขึ้นไปให้กำลังใจตัวเอง โดยมีผู้จัดการส่วนตัวเป็นคนพาขึ้นไปด้วยอาการงัวเงีย แต่เป้ยออกตัวว่าไม่ได้มาพร้อมกัน
กระแสของเป้ยเห็นได้ว่า เป้ยถูกกำหนดคาแรกเตอร์ออกมาให้วางตัวเป็นสาวเซ็กซี่ และการทำตัวเองให้เป็นข่าวบนสื่อเพื่อให้ทุกคนจดจำได้นั้นถือเป็นกลวิธีหนึ่งที่ต้องเรียกได้ว่า เป้ย เองทำได้สำเร็จในระดับหนึ่ง เพียงแต่ว่ายังไม่สามารถทำให้ทุกคนเชื่อได้สนิทใจเท่าใดนักกับการเป็นข่าวแต่ละครั้ง เพราะเธอเองยังถูกมองว่า “สร้างกระแส” อยู่ตลอดเวลา
เนื่องจากการเป็นข่าวของเธอ ที่มาพร้อมกับผลงานที่เป้ยกำลังมีอยู่ ทั้งภาพยนตร์ ละครหลายๆ เรื่องที่ผ่านมาข่าวคราวของเป้ยในเรื่องรัก หรือไม่ก็กับคนที่เป็นข่าวด้วยกับเป้ยสังเกตได้ว่ามักจะมาพร้อมกับคนที่อยู่ในกระแสช่วงนั้นพอดี การมีกระแสข่าวออกมาถือเป็นการได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย
อาจถือได้ว่าเป็นการสร้างกระแสที่ได้รับการยอมรับจากสื่อมากทีเดียว แม้ว่าสื่อเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าเป็นเพียงแค่การสร้างกระแสเพื่อให้ตัวเองเป็นข่าวก็ตาม หากให้มองไปข้างหน้าในวงการบันเทิง กลวิธีการทำให้ตัวเองเป็นข่าว อาจถูกยอมรับมากขึ้นก็เป็นได้ แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับดาราแต่ละคนอีกเช่นเดียวกันว่า อยากจะกำหนดให้ทุกคนจดจำตนเองไปในทิศทาง หรือคาแรกเตอร์แบบใด
…...........................
“เปิดอก ถกเป้ย”
เมื่อสาวฮอต เซ็กซี่ อย่างเธอพยายามที่จะจบเรื่องราวความรักระหว่างเธอกับ อาร์ - อาณัตพล ศิริชุมแสง มาหลายต่อหลายครั้ง แต่ที่ผ่านมาเป้ยเองก็ยังคงตัดสินใจกลับมาคบกับเขา จนในที่สุด เมื่อคนสองคนเดินไปด้วยกันไม่ได้ จึงทำให้ต้องตัดสินใจเว้นช่องว่างและระยะห่างในการคบหากันเพียงแค่เพื่อนเท่านั้น
“กับอาร์เองเราสองคนเคยปรับตัวให้เข้ากันมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งมันก็มีปัญหาเดิมๆ เคยให้โอกาสกันแล้ว ผ่านไปปีนึง ซึ่งความรู้สึกตอนนั้นไม่ไหวจริงๆ จึงเปิดโอกาสคุยกัน อาร์เองก็เห็นด้วย เราเลยถอยคนละก้าว ถามว่าอนาคตจะรีเทิร์นเหมือนเมื่อก่อนมั้ย ยากค่ะ แต่ว่าใจลึกๆมันก็อยากแหละ คำตอบเราก็รู้อยู่แก่ใจ คบไปคุยไปก็ไม่ใช่อยู่ดี เลยคิดว่าแล้วแกจะกลับไปทำไม กลับไปแล้วมันก็ไม่ใช่ ”
แม้ว่าความรักครั้งนี้ของเธอจะจบแบบมีน้ำตาผ่านสื่อออกมาให้เห็น แต่เป้ยเองก็ยังยืนยันว่า “ไม่ได้เข็ดกับความรัก” แต่คำตอบที่อยู่ในใจคือคำว่า “ไม่พร้อม” เสียมากกว่า
“ยอมรับว่าตอนนี้ก็มีคุยกับคนอื่นนะค่ะ แต่ก็มีคำตอบกับตัวเองว่ามันไม่ใช่คนนี้ ไม่ใช่ว่าเราคิดว่าไม่ใช่แล้วปิดเลย คุยกันเป็นเพื่อนจะดีกว่า เป้ยเองก็ไม่ได้อยากทำร้ายจิตใจใครนะ เราบอกเลยว่า เฮ้ย ! คุณเจ้าชู้ ถ้าเจ้าชู้ไม่ต้องมาคุยนะ เป้ยก็ให้ได้แค่ความเป็นเพื่อน เพราะเราไม่ชอบคนเจ้าชู้ คือต้องบอกเลยตั้งแต่แรก ถ้ารับได้ก็รับไป คนที่รับไม่ได้มันก็หายไปเลยก็มี ”
ถามถึงว่ามุมมองความรักของเธอตอนนี้เปลี่ยนไปจากเดิมหรือไม่ สำหรับเป้ยความรักยังคงเป็นกำลังใจที่ดีที่เธอเองยังอยากมีตลอดไป ยังอยากพบเจอ และอยากได้ความรักจากคนอื่นๆ ตลอดเวลา และจริงจังกับความรักทุกครั้ง
“แต่ความคิดในมุมความรักก็ไม่ได้เปลี่ยนไปทั้งหมด เป้ยมีความชัดเจนอยู่ในตัวว่าชีวิตเราต้องการอะไร อนาคตเราจะยังไง เป็นคนซีเรียสเรื่องความรักนะ เพราะจะไม่เอาความรักมาล้อเล่น จะจริงจังกับความรักทุกครั้ง รักใครก็จะศึกษาอยู่กับคนๆ นั้น เขาดีกับเราเราก็ดี แต่ในเมื่อศึกษาแล้วไม่ใช่ก็ไม่ต้องฝืน เพราะเวลาไม่เคยคอยใคร ”
“เป้ยมีความรักมาหลายครั้งนะ แต่ทุกคนที่จบกับคำว่ารักไปแล้ว ก็ยังคุยได้ทุกคน เป็นเพื่อนกัน เป้ยว่าโลกเราถ้าได้มอบความรักให้กับใครสักคนหรือได้รับความรักจากใครสักคนมันเป็นอะไรที่วิเศษ มันยากมากที่คนสองคนอยู่ๆจะมาเจอกัน มาศึกษากันใช้วันเวลาร่วมกัน ได้กินข้าวกัน ดูหนังกัน ได้เปิดใจกันทุกๆอย่าง มันน่าจะเก็บตรงนี้ไว้นานๆ ตลอดชีวิตเรา จะแบบ เราควรเก็บความรู้สึกตรงนี้ มากกว่าที่แบบจะมาจำอะไรที่ไม่ดีแล้วมาบั่นทอนชีวิต จิตใจ ฉะนั้นเวลาเป้ยเลิกกับใครเป้ยก็จะเป็นเพื่อนนะ เราก็ยังอยากรู้สึกดีดี”
เช่นเดียวกับอาร์ที่ความรักระหว่างเขาสองคนได้จบลงไป ก็ยังมีความรู้สึกดีดีต่อกัน ซึ่งเธอก็ไม่อยากให้กลับกลายเป็นความรู้สึกที่ไม่ดีต่อกัน จนตอนนี้เธอสามารถบอกได้เลยว่า สนิทกัน คุยกันมากขึ้น เปิดใจให้กันมากกว่าตอนที่คบกันเป็นแฟนเสียอีก
มาถึงข้อสงสัยที่หลายคนต่างก็ถามถึงและอยากจะทราบถึงเหตุที่ทำให้ทั้งคู่รักสร้างภาพ บ้างบอกว่าเพราะอาร์ติดนักศึกษา บ้างออกมาบอกว่ามีมือที่สาม อย่าง นิวเคลียร์-หรรษา วัธนวงส์ศิริ น้องสาวดาราหุ่นเอ็กซ์ อย่าง อุ้ม-ลักขณา วัธนวงส์ศิริ จนกลายเป็นศึกเกาเหลามาจนถึงปัจจุบัน
“ขอพูดให้ชัดเลยนะค่ะ ว่าไม่ใช่เพราะเรื่องมือที่สาม เรื่องผู้หญิงเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มาก สำหรับเป้ย เพราะเรารู้ว่าเขาเป็นคนอัธยาศัยดี เจอใครก็ทักทาย คุยได้หมด ใครทักมาเขาทักกลับ ยิ้มให้ เฟรนด์ลี่ค่ะ เป็นคนมองโลกในแง่ดี อาจจะเป็นเพราะอีกฝั่งเข้าใจผิดมากกว่า มันไม่ใช่ประเด็นหลักที่จะเอามาเลิกกัน”
หากในความเป็นจริงกับการเลิกกับใครสักคนที่ทำใจได้ยาก เธอบอกว่า เรื่องอนาคตเป็นเรื่องเซ้นซิทีฟ มาก ต้องหันมามองว่าเราต้องการอะไร อยากมองในเรื่องของอนาคต ในเมื่อสองฝ่ายมีมุมมองเรื่องนี้ต่างกัน การตัดสินใจครั้งนี้จึงเป็นสิ่งที่เป้ยได้ไตร่ตรองเป็นอย่างดีแล้ว
“ เป้ยขอเงียบดีกว่า คนนั้นพูดที คนนี้พูดที แล้วมันไม่จบก็ไม่อยากเป็นหุ่นเชิดให้ใครค่ะ เป้ยหยุดดีกว่าถ้าเค้าไม่หยุดเป้ยขอหยุดเองดีกว่าค่ะ ใครจะว่ายังไง ก็ช่างมันเหอะ เป้ยไม่อยากให้บานปลาย เพราะอีกอย่างมันจะมีผลกระทบกับอาร์ สุดท้ายคนก็จะมาว่าอาร์ เพราะบอกตรงๆว่า มีคนมาว่าอาร์เยอะมาก คนก็จะลงความเห็นว่า
อย่างนั้นนี้ แต่จริงๆ ไม่ใช่ความผิดของอาร์เลยนะ ความจริงเรามาคุยกันก่อนแล้วเรามาตกลงกันว่าเราจะอะไรยังไง ชัดเจนแล้ว”
สุดท้ายจนสาวเป้ยออกตัวแรงว่าตอนนี้กำลังคุยกับหนุ่ม บิ๊ก - ทองภูมิ สิริพิพัฒน์ นักแสดงหน้าใหม่จากภาพยนตร์เรื่อง “อยากได้ยินว่ารักกัน” ที่มีข่าวเมื่อต้นปีว่าทั้งคู่ไปทำบุญมาด้วยกัน และล่าสุดสาวเป้ย ดอดไปเซอร์ไพร์สในงานเปิดตัวภาพยนตร์ “อยากได้ยินว่ารักกัน” เล่นเอาหนุ่มบิ๊กปลื้มสุดๆ
อย่างไรก็ตามก็ต้องเอาใจช่วยกับรักครั้งใหม่ของเธอไม่ว่านี่จะเป็นเพียงแค่กระแสโปรโมต เพื่อสร้างกระแสข่าวให้กับตนเองทั้งคู่ ก็ต้องยอมรับว่างานนี้ หนุ่มบิ๊กเองก็ทำให้ใครต่อหลายคนอยากรู้จักในนามของ แฟนใหม่ของสาว เป้ย-ปานวาด เหมมณี
วงการบันเทิงสอนให้แข็งเข้ม
เกือบ 10 ปีกับการเข้ามาโลดแล่นในวงการบันเทิง หลายข่าวที่เป้ยบอกว่าไม่เคยมีข่าวที่ดีเกี่ยวกับเธอได้ลงสื่อเลย แม้แต่ครั้งเดียว แต่อย่างไรก็ทำให้การทำงานบนเส้นทางบันเทิงทำให้เธอเข้มแข็งและกล้าที่จะเผชิญกับปัญหามากขึ้น
“โตขึ้น และเข้มแข็งขึ้นมาก เกือบ 10 ปี มันให้อะไรเราหลายอย่าง สอนให้รู้ว่าต้องใช้ชีวิตยังไง จัดการกับความคิดของตัวเองยังไง แม่ยังมองเลยว่าทำไมเป้ยถึงตัดสินใจแบบนี้ ทำไมถึงออกมาแบบนี้ เพราะแม่สอนให้เราตัดสินใจเองมาตั้งแต่เด็ก เราอยู่กับยาย เวลาจะทำอะไรสักอย่าง จะคิดเอง ผิดหรือถูกก็จะมานั่งเรียนรู้เอง บางทีแม่ไม่เข้าใจความคิดเรา ก็ต้องอธิบายให้ท่านฟัง แม่ก็จะเข้าใจมากขึ้น ถ้ามีข่าวออกมาก็จะถามเราก่อน แม่จะเชื่อในความเป็นตัวเป้ย มีบ้างที่ผิดพลาดแต่แม่ก็รู้ว่าเราไปรอด สามารถแก้ไขปัญหาได้ และปัญหาจะเป็นบทเรียนให้เราค่ะ”
นางร้าย “เซ็กซี่” อยากเป็นครู
ครูเป็นความฝันตั้งแต่เด็กของเป้ย เมื่อก่อนชอบสอนวาดรูป สอนเด็ก เป้ยเองเรียนศิลปะมา อาจจะไม่เก่งมากนัก เป้ยจะไหลไปตามน้ำ เราจะเอาพรแสวงมาสอนมากกว่า หลายคนถามว่า “อย่างแกเนี่ยนะจะเป็นครู จะมีคนจ้างมั้ย” เป้ยชอบตรวจการบ้าน อยากตีนักเรียน (ล้อเล่น) เห็นครูที่มีบุคลิกออกนักเลงหน่อย มันสนุก เราก็จะสอนในแบบที่เป็นตัวเรา จะสนิทกับเด็ก ไม่ต้องวางตัวเยอะ เด็กได้เปิดใจคุยกับเรามากขึ้น เวลามีปัญหาเด็กก็จะกล้าคุย ปรึกษาปัญหาได้ทุกเรื่อง เรื่องรัก เรียน ให้เด็กได้รู้ในความเป็นตัวเรามากกว่า
อยากกินเด็ก ต้องกินมังสวิรัต
ปีนี้ดีในเรื่องงาน เพราะว่าดวงเป้ยในปีเสือปีนี้คงไม่มีผลอะไรกับเธอมาก ถือว่าเป็นปีที่ดี แต่ต้องระวังเรื่องการขับรถซะหน่อย เพราะว่าเท่าที่ดูเป้ยเป็นคนใจลอย ชอบเหม่อ บางครั้ง ขับรถต้องระวังการง่วงเหงา หาวนอน เพราะเป้ยเป็นคนที่จิตใจค่อนข้างจะเหม่อลอย สมาธิค่อนข้างสั้น ย้ำคิดย้ำทำ ส่วนความรัก ช่วงนี้คบเด็กถือว่าดี แต่ว่าดวงคู่ครองจริงๆ ต้องได้คนที่มีครอบครัวมากแล้วและอายุมากกว่า แต่ว่าปีนี้คบได้
งานปีนี้เป็นปีที่ดี เข้ามาอย่างต่อเนื่อง มีทั้งงานละครและงานไม่ได้แพ้ปีที่แล้ว ไม่มีการรีเทิร์นกับอาร์แน่นอน หมดโอกาสที่จะรีเทิร์น คงจะไม่มีแล้ว ถ้าดูตามดวงหนุ่มอาร์มีคนใหม่เรียบร้อยแล้ว เป้ยจะต้องดูแลสุขภาพ มีการปวดศีรษะ
เจอเนื้อคู่ ดวงก็อยู่ที่ปี 2555 อีกประมาณ 2 ปี คู่ที่จะมีอายุมากกว่า และถ้ามีลูกสาวติดก็จะถูกชโลกเลย แต่ว่าคนนี้ก็ โอเค เพราะว่าเป้ยจะมีข้อดีอยู่อย่าง เป้ยเป็นคนดูแลแฟนเหมือนดูแลลูก เทคแคร์อย่างดี แต่ว่าข้อเสียเป้ยเป็นคนขี้หึงมาก ระแวง แฟนคุยโทรศัพท์กับใครก็ไม่รู้จะวีนเลย รักใครจะดูแล เป้ยหาให้เองหมด ยากที่จะมีข่าวว่าเป้ยมีใครมาเลี้ยงเกรงว่าเป้ยจะเลี้ยงคนอื่นมากกว่า เป็นดวงเลี้ยงผู้ชาย ไม่ใช่ผู้ชายเลี้ยง รักใครรักจริง ใครได้เป็นแฟนถือว่าโชคดีที่สุด เอาใจเป็นอย่างดี เวลาหึงจะประชดอย่างแรง พูดจาเสียดสี
เวลามีคนเข้ามาทีจะทำให้ปวดหัว เข้ามาที 2-3 คน แต่ถ้าได้ตกลงคบกับใครก็จะคบยาว ช่วงนี้แนะนำให้เป้ยกินเจ หรือกินมังสวิรัติ ทุกๆวันพฤหัสบดี และเรื่องอะไรร้ายๆ ก็จะดีขึ้น
****************************
ภาพโดย พลภัทร วรรณดี