ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 80 ทีม ‘เสือเหลือง’ (ฉายาของทีมชาติมาเลเซีย) มาได้ประตูตีเสมอจนได้ อาสมี ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาในครึ่งหลังจัดการผ่านบอลเรียดไปหน้าประตู นาสริค กองหลังทีมชาติมาเลเซียที่เติมมาซัดในกรอบเขตโทษ บอลพุ่งตุงตาข่าย เสมอกัน 1-1 จากนั้นเวลาที่เหลือ มาเลเซีย พยายามกดดันอย่างหนัก
กระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บ อิดลาน พาบอลจากริมเส้นด้านขวา ก่อนผ่านเรียดให้ อาหมัด ฟาครี ที่รออยู่ในกรอบเขตโทษซัดบอลด้วยขวาเสียบเสาประตูแบบสุดสวย ทีมชาติไทยตามหลัง มาเลเซีย 1-2 กระทั่งครบทดเวลา รวมเวลาทั้งหมด 94 นาทีของการแข่งขัน ผู้ตัดสินเป่านกหวีดจบเกมด้วยสกอร์ดังกล่าว ส่งผลให้ทีมชาติไทยมีเพียง 7 คะแนนเท่าเดิมรั้งอันดับ 3 ของกลุ่มเอ ตกรอบแรกของศึกซีเกมส์อย่างเหลือเชื่อ
นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ศุกร์ที่ 11 ธันวาคม 2552 ที่ผ่านมา ในการแข่งขันฟุตบอลชายซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ‘เวียงจันทน์เกมส์’ ในนัดสุดท้ายของรอบแรก กลุ่มเอ ระหว่างทีมชาติไทย กับทีมชาติมาเลเซีย ซึ่งทีมชาติไทยตกรอบแรกการแข่งขันกีฬาซีเกมส์เป็นครั้งแรกในรอบ 36 ปี
มาติดตามควันหลงกระแสช็อก!!! ฟุตบอลชายไทยตกรอบแรกซีเกมส์ หลังเป็นแชมป์มาถึง 8 สมัย 16 ปีเต็ม
น้ำตา 'เชียร์ไทย' แทบไหลเป็นสายเลือด
ชมรมเชียร์ไทยพาวเวอร์ยกโขยงกันไปส่ง 'แรงใจ' และ 'แรงเชียร์' นักกีฬาไทย และทีมฟุตบอลไทยนัดฟาดแข้งกับเสือเหลืองมาเลเซียติดขอบสนาม เสรี ลิมป์กิตติกุล รองประธานชมรมฯ กลั่นความรู้สึกออกมาเป็นคำพูด หลังหมดเวลาการแข่งขัน พร้อมความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้นกับขุนพลนักเตะไทย
“เศร้าใจ ผิดหวัง สมาชิกชมรมฯ เซ็งไปตามๆ กันเลยครับ แข่งเสร็จพวกเราเดินออกจากสนามไปขึ้นรถตู้กลับที่พัก ในรถตู้ทุกคนเงียบกันหมดเลย พูดแค่ว่า ทีมไทยประมาท”
ชมรมฯ วางแผนไปให้กำลังใจทีมฟุตบอลไทยในศึกซีเกมส์ครั้งที่ 25 ที่ประเทศลาว 3 ครั้งด้วยกัน คือรอบแรกที่เตะกับทีมมาเลเซีย รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ โดยศึกของทีมฟุตบอลไทย 2 รอบแรก สมาชิกแห่ลงชื่อไปดูกันเต็มจำนวนโควตาที่กำหนด
“ไม่มีใครคาดคิดว่าทีมไทยจะตกรอบแรกซีเกมส์ หรือไม่ได้เข้าชิงฯ นี่ก็ไม่อยู่ในหัวเลยนะ ท่าทีของพวกเราตอนก่อนที่ทีมไทยจะลงสนามกับตอนแข่งเสร็จต่างกันมากเลย ก่อนแข่งพวกเราฮึกเหิมเตรียมเชียร์กันเต็มที่ เห็นคนไทยใส่เสื้อสีเหลืองอยู่ทั่วสนามเลย แต่พอทีมไทยแพ้ วันรุ่งขึ้นเก็บเสื้อสีเหลืองไว้ ใส่เสื้อสีอื่นเชียร์กีฬากัน ทั้งผิดหวังทั้งอายครับ”
เสรีวิเคราะห์ถึงความพ่ายแพ้ของทีมฟุตบอลไทยว่าเกิดจากความประมาท นักเตะไม่ค่อยทุ่มเท เล่นไม่ดี ฟอร์มการเล่นย่ำแย่ลงกว่าเดิมอย่างผิดหูผิดตา
“ทีมไทยใช้เวลาเตรียมความพร้อมน้อยไปหน่อย มองข้ามไปว่าทีมจากชาติอื่นจ้องล้มทีมไทยอยู่ สมาคมฟุตบอลฯ ไทย หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องควรหันกลับมาพิจารณาตัวเองว่า ทำไมทีมฟุตบอลแต่ละระดับของไทยไม่ค่อยประสบความสำเร็จเลย แล้วจัดการแก้ปัญหานั้น เรื่องไปบอลโลกนะเหรอครับ ไม่ต้องคิดแล้ว ชั่วโมงนี้”
ทั้งนี้ทั้งนั้น ความที่ฟุตบอลมันลงรากลึกในหัวใจของเสรี เขาจึงตั้งหน้าตั้งตาเชียร์ทีมชาติไทยต่อไป
“นักฟุตบอลไม่มีใครเล่นดีทุกเมื่อเชื่อวันหรอกครับ บางวันอาจเล่นห่วย แม้ทีมไทยตกรอบแรกบอลซีเกมส์ก็ไม่เป็นไร รีบกลับมาฟิตซ้อมกันใหม่ พวกเราชมรมเชียร์ไทยฯ จะคอยตามเชียร์ตลอดไปครับ”
ตรี-ชาตรี และ ต้น-สุปราณี สองหนุ่มสาวสมาชิกชมรมฯ หอบความมุ่งมั่นในการเชียร์ทีมฟุตบอลไทยใส่ไปกับจักรยาน 2 ล้อที่ปั่นจากกรุงเทพฯ ไปซีเกมส์เวียงจันทน์ ประเทศลาว ทั้งคู่เริ่มต้นปั่น 2 ล้อคู่ใจจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม ฤกษ์งามยามดี 09.05 น. ไปถึงหนองคายวันที่ 9 ธันวาคม ประมาณบ่าย 3 โมงวันรุ่งขึ้นจึงรุดหน้าไปเวียงจันทน์
ต้นเล่าถึงอุปสรรคและความยากลำบากในการปั่นจักรยานไปเชียร์ฟุตบอลและกีฬาที่เวียงจันทน์
“ถนนที่ยางมะตอยยังไม่แห้งเนี่ยลำบากสุดๆ ขี่เข้าไปทั้งล้อทั้งเสื้อผ้าเปื้อนหมดเลย หรือขี่ไปใกล้ๆ รถ 10 ล้อ หรือ 18 ล้อที ใจสั่นเลยค่ะ กลัวมาก แถมถนนบางช่วงก็มืดมากด้วย”
ต้นตะโกนเสียงดังฟังชัดว่า “ไม่เสียใจค่ะที่ทีมฟุตบอลไทยตกรอบแรกซีเกมส์” แม้เส้นทางการปั่นจักรยานของเขาและเธอจะยากลำบากไม่น้อย เพราะฟุตบอลแค่เกมกีฬา ลูกบอลกลมๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ทีมไทยแพ้ ใช่ว่าครั้งหน้าจะไม่มีทางชนะ เธอขอเป็นแรงใจให้ทีมไทยต่อไปจนกว่าจะจากโลกนี้ไป 'บอลไทยคือชีวิต'
ส่วนตรีแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่หลังทีมฟุตบอลไทยพ่ายแพ้มาเลเซีย
“นักฟุตบอลประมาทเกินไป โดยเฉพาะกองหลัง กองหน้าเล่นค่อยไม่ดีเท่าไหร่ แต่ยังไงก็จะเชียร์ต่อไปเหมือนเดิมครับ ไม่เปลี่ยนแปลง ทีมไทยลงสนามทุกนัด เจอผมได้ที่หน้าสนามครับ”
วิเคราะห์และวิพากษ์ความพ่ายแพ้
“มันเป็นได้ยังไง” คำถามนี้คงเกิดขึ้นในใจคนไทยหลายต่อหลายคน ยิ่งเอากลับมาคิดยิ่งไปกันใหญ่ เป็นไปได้อย่างไรในเมื่อฟุตบอลลีกในประเทศของเรากำลังเจริญรุดหน้าอย่างสวยงาม นักฟุตบอลของไทยก็เก่ง มีทั้งที่เล่นในลีกไทยและลีกต่างประเทศ
“ที่ฟุตบอลไทยบูม พูดตรงๆ เลยนะ เพราะทีมเมืองทองยูไนเต็ดเข้ามาปลุกกระแส ทีมนี้เป็นทีมที่เลียนแบบมาจากอังกฤษ อาศัยการบริหารจัดการที่ดี มีสนาม มีหนังสือ มีสูจิบัตร มีตั๋วดูบอลเหมือนกับที่อังกฤษ พอได้รับความนิยมและมีตัวอย่าง ทีมอื่นๆ อย่างทีมชลบุรีก็ทำด้วย”
นี้คือคำตอบจาก ‘บ.บู๋’ หรือ บูรณิจฉ์ รัตนวิเชียร ว่าเหตุใดฟุตบอลลีกไทยจึงกำลังไปได้สวย แต่ทว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ทีมชาติไทยตกรอบแรก ช็อค!!!แฟนบอลทั้งประเทศ
“การที่ไทยตกรอบในครั้งนี้มันมีหลายปัจจัย ผมเชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ทุกคนย่อมไม่มีความสุขแน่ เพราะฟุตบอลมันเป็นกีฬาที่คนไทยฝากความหวังไว้ แต่เราต้องมองย้อนกลับไปนิดหนึ่ง อะไรมันเกิดขึ้นได้ฟุตบอลลูกกลมๆ แพ้ชนะเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ ดูอย่างบราซิลเขายังเคยแพ้ทั้งๆ ที่บางทัวร์นาเมนต์เขาถูกวางไว้ว่าเป็นมือวางอันดับหนึ่ง”
เป็ด เชิญยิ้ม หรือ ธัญญา โพธิ์วิจิตร ได้แสดงความเห็นในฐานะที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิในวงการฟุตบอลไทยคนหนึ่ง โดยปัจจุบัน เป็ด เชิญยิ้ม ดำรงตำแหน่งกรรมการสภาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ
“ผมว่ามันเป็นเรื่องของการบริหารจัดการนะ คือว่าท่านนายกสมาคมฟุตบอล ท่านก็มีแนวคิดมีวิสัยทัศน์ที่ดี แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นปัจจัยที่ทำให้ความไม่สำเร็จเกิดขึ้น น่าจะเกิดจากความประมาท คือทุกวันนี้เราคิดว่าบอลลีกของเราแข็งแรงพวกนักฟุตบอลทุกคนเป็นมืออาชีพ แต่มันยังไม่ถึงขั้นนั้น ฟุตบอลอาชีพของเราพิ่งจะโต ไม่เหมือนกับเมืองนอกที่บอลอาชีพเขามีมานาน
“หากให้มองเป็นปัจจัย ปัจจัยแรกแรกเลยคือนักกีฬาเรายังไม่มีความเป็นมืออาชีพเท่าที่ควร แต่เรากลับไปมองว่านักกีฬาเราเป็นมืออาชีพแล้ว การเก็บตัวเราไม่ต้องเก็บนาน เป็นแชมป์มา 8 ครั้งแล้ว รู้แต่เพียงว่าเก็บตัวแค่ 2 อาทิตย์เราก็สามารถที่จะชนะ เราเป็นมือหนึ่งของอาเซียน”
แต่ บ.บู๋ ได้วิเคราะห์ถึงเหตุผลที่ต่างออกไปว่า
“ผิดที่โค้ช สมาคมแต่งตั้งโค้ชไม่ดูตาม้าตาเรือ โค้ชคนนี้เป็นใครก็ไม่รู้ ผมอยู่วงการมา ผมยังไม่รู้จักเลยว่า ตีฟ ดาร์บี้ เป็นใคร ผมไปสืบประวัติมา สตีฟ ดาร์บี้ เคยอยู่มาหลายที่ ในเวียดนาม ในสิงคโปร์ ในมาเลเซีย และทุกทีมที่อยู่เขาโดนไล่ออกหมดเลย แล้วตอนสมัยเป็นนักฟุตบอลก็ไม่ใช่นักฟุตบอลมีชื่อเสียง ไม่ใช่โค้ชที่มีชื่อเสียง ตอนแรกที่มา เพราะปีเตอร์ รีด ไปดึงมาจากสิงคโปร์ เนื่องจากรู้จักกันมาก่อน พอปีเตอร์ รีดไป สตีฟ ดาร์บี้ ยังอยู่ แล้วอยู่ดีๆ ก็ให้มารับผิดชอบทีมชาติชุดซีเกมส์ ผมไม่เข้าใจว่าสมาคมคิดได้ยังไง โค้ชไทยมีดีๆ อีกตั้งหลายคนที่ว่างอยู่ หรือแม้แต่ที่เป็นดาวรุ่งอย่าง ตะวัน ศรีปาน, สมชาย ทรัพย์เพิ่ม หรืออีกหลายๆ คนที่พัฒนาทีมในไทยลีกได้ดี
“สตีฟ ดาร์บี้ เป็นโค้ชฝรั่ง แต่ไม่ใช่ฝรั่งที่พิสูจน์ตัวเอง อย่างไบรอัน ร็อบสัน เขาพิสูจน์ตัวเองว่าในสมัยที่เป็นผู้เล่น เขาเป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษ เป็นนักเตะที่ประสบความสำเร็จของแมนยูฯ อาจจะไม่เก่งมาก แต่ก็ได้ในระดับหนึ่ง แต่สตีฟ ดาร์บี้ เป็นใครก็ไม่รู้ พิสูจน์ตัวเองก็ยัง ตอนอยู่กับปีเตอร์ รีด ก็ยังไม่ได้พิสูจน์อะไร แล้วเอามาเป็นโค้ชได้ยังไงถ้าดูทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ตั้งแต่นัดแรกจะเห็นเลยว่าเล่นไม่ดี ต่างคนต่างเล่น”
ความเคลื่อนไหวสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย
ซึ่งอาจจะเป็นไปได้หรือไม่ว่า นอกจากความประมาทและการจัดการเรื่องของการเลือกโค้ชแล้ว การจัดการโปรแกรมแข่งขันฟุตบอล ที่ยังไม่ดีพอเนื่องจากว่า ในปัจจุบันนักฟุตบอลไทยแข่งขันในหลายรายการ ทั้งลีกในประเทศ ลีกเอเชีย ทีมชาติ ซึ่งหากว่าการวางโปรแกรมการแข่งขันทำออกมาสับสน มันอาจจะส่งผลให้นักกีฬาไม่มีเวลามาเก็บตัวซ้อม ตามกระแสข่าวที่ออกมาว่านักกีฬาฟุตบอลชุดซีเกมส์มีเวลาเก็บตัวซ้อมร่วมกันเพียง 10 วันเท่านั้น และในที่สุดผลก็ออกมาอย่างที่เห็น
แต่อย่างไรก็ตามฟุตบอลเป็นเพียงกีฬาชนิดหนึ่งแพ้ชนะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เสมอ ความพ่ายแพ้ในครั้งนี้หากมองอีกมุมมันจะเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดการปรับปรุงวงการฟุตบอลไทยขนานใหญ่
เป็ด เชิญยิ้มได้กล่าวเพิ่มเติมถึงเรื่องนี้ว่า
“ผมว่าหลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้นายกสมาคมฟุตบอล น่าจะเปิดโอกาสให้ทุกคนแสดงความคิดเห็น ให้สภากรรมการแสดงความคิดเห็น ทำไมปัจจัยเรื่องอะไรที่ทำให้ไทยตกรอบ แล้วเอาประเด็นต่างๆ เข้ามา แล้วคิดกันใหม่เดินหน้ากันต่อไป ผมเชื่อมั่นว่าเราทำได้แน่ เหตุการณ์ครั้งนี้จะเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมากให้กับวงการฟุตบอลไทย เราได้รับรู้ว่าทุกวันนี้การทำงานของทุกคนยังไม่เป็นมืออาชีพพอ”
“แต่คนเราทำงานมันต้องมีความผิดพลาด เราต้องให้กำลังใจ แล้วหาวิธีแก้ไข แต่ถ้าสมาคมไม่ทำอะไรเลยปล่อยไป ตรงนี้สิสังคมสมควรลงโทษ แต่สำหรับผมทุกอย่างมันเกิดขึ้นได้ เราต้องรับทั้งผิดและชอบ แล้วเอามาปรับเพื่อให้ได้มาซึ่งความสำเร็จ ไอ้ที่พลาดไปแล้วก็แล้วกันไป”
เมื่อตั้งคำถามว่า โดยตามธรรมเนียมแล้ว ภายหลังเหตุการณ์ที่ฟุตบอลทีมชาติที่ทำการแข่งขันแล้วตกรอบอย่างไม่สมศักดิ์ศรี ผู้ที่รับผิดชอบโดยตรงมักจะต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก
“ให้รับผิดชอบ ไม่ได้บอกว่าให้ใครลาออก ทั้งนายกสมาคม ผู้จัดการทีม โค้ช ทุกคนผิดพลาดกันได้ ผิดครั้งเดียว เทียบไม่ได้หรอกกับความดีที่ทำมาสิบครั้ง ไม่อย่างนั้นแล้วคนใหม่มาก็พลาดอะไรไม่ได้เลยไม่ได้แชมป์ซีเกมส์ก็ลาออกไป การลาออกไม่ใช่การแก้ปัญหา มันเป็นการตัดปัญหา” เป็ด เชิญยิ้ม ได้ออกความเห็นปกป้องสมาคมในเรื่องดังกล่าว
“ส่วนในเรื่องของการแก้ปัญหา คงต้องทำทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ระยะสั้นก็คือเราต้องปรับระบบการจัดการของการเก็บตัวฝึกซ้อมใหม่ในความคิดผม นักฟุตบอลเราเก่งอยู่แล้วทุกคนมีความสามารถ ส่วนในระยะยาวเราต้องสร้างบอลลีกให้แข็งแรง สร้างคนให้แข็งแรงเอาวิทยาศาสตร์การกีฬามาสู้กับเขา นักกีฬาเรายังมีไม่พอเลย เราต้องสร้างธีรเทพ วิโนทัย สักร้อยคน เราต้องสร้าง ดัสกร ทองเหลา สักพันคน สร้างธีรศิลป์ แดงดา สักหมื่นคน เพื่อที่จะเอาที่ดีที่สุดในนั้นมา เรายังมีไม่พอ เห็นชัดเลยถ้าหากมีใครซักคนในชื่อที่กล่าวมาเจ็บ แล้วเราจะเอาใครที่มาตรฐานทัดเทียมมาแทนได้”
………
ในฐานะของคนไทยเราคงต้องมาติดตามดูกันต่อไปว่า ทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะนับจากนี้สมาคมจะต้องไม่คิดแต่เพียงว่าการเป็นที่ 1 ของอาเซียนก็เพียงพอแล้วต่อการประสบความสำเร็จของวงการฟุตบอลไทย เพราะชาวไทยทุกคนเชื่อมั่นว่าเรามีศักยภาพที่ไปได้ไกลมากกว่านี้ ถ้ามีการบริหารจัดการที่ดี
..........
เรื่อง : ทีมข่าว Click
ภาพ : ธนารักษ์ คุณทน, ชัชวาล กมลไมตรีจิตต์