ในยุคสมัยแห่งการแข่งขัน ความตึงเครียดทั้งกายและใจ อาจทำให้นึกถึงสารพัดวิธีในการผ่อนคลาย หนึ่งในนั้นคือศาสตร์การนวดไทย แต่ในวันนี้การนวดไทยไม่ได้อยู่แค่ในสปาหรือตำราหมอนวดเท่านั้น แต่กลับถูกนำมาสร้างสรรค์ให้กลายเป็นศิลปะการเต้นได้อย่างลงตัว
“สบาย สบาย” คือศิลปะที่สร้างสรรค์ขึ้นมาแบบไม่เหมือนใคร โดย 6 ตัวแทนคนไทย ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นตัวแทนของนักแสดงจากประเทศไทย เข้าร่วมแสดงใน Festival / Tokyo (Spring) 09 หรือเทศกาลศิลปะการแสดงประจำกรุงโตเกียวเมื่อเดือนมีนาคม 2552 ที่ผ่านมา
ส่วนการแสดงชุดนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่เป็นการรวมศิลปะการแสดงหลายๆ สายเข้ามาไว้ด้วยกัน ทั้งการเต้น การแสดงละคร การเต้นแบบร่วมสมัย มีทั้งความตลกขบขัน มีทั้งรำไทย หรือฉีกแนวด้วยการเต้นสไตล์โมเดิร์นสุดๆ ผสมผสานกันอย่างครบรส
การแสดงในครั้งนี้มีสมาชิกเพียง 4 คนจาก 6 คน ที่ก่อตั้งขึ้น ได้แก่ ชัญชนา อรรคจิรัติกาล (เอ๊าท์) ชญานุช อรรคจิรัติกาล (เอ็ก) อาคีรา โหมดสกุล (เดียร์) และกรกฎ พวงสวัสดิ์ (บับเบิ้ล) ดังนั้นจึงได้คัดเลือกผู้แสดงเพิ่มเติมอีก 5 คน รวมเป็นนักแสดงทั้งหมด 9 คน
ส่วนในการคัดเลือกนักแสดงแต่ละคนเข้ามาจะมีการคัดเลือกแต่ละคนให้มีบุคลิกทางการแสดงที่หลากหลาย เริ่มด้วยการหาจุดเด่นของแต่ละคน แล้วคิดท่าลักษณะการเต้นให้สื่อตัวตนของแต่ละคนออกมาชัดเจน ดังนั้น ถึงจะเต้นในท่าทำนองเดียวกันแต่ภาพและอารมณ์ที่สื่อออกมาก็จะไม่เหมือนกัน
จุดเด่นอีกอย่างของการแสดงครั้งนี้คือมีการนำศาสตร์การนวดที่ขึ้นชื่อของไทยเข้ามาผสมผสานในการออกแบบท่าเต้นด้วย ซึ่งเป็นทั้งจุดเด่นและเอกลักษณ์ของคนไทย จึงดึงออกมาดัดแปลงประยุกต์ใช้ เป็นการเล่าเรื่องผ่านการเต้น ละคร ทำให้น่าสนใจมากขึ้น
เหตุที่ดึงการนวดมาเป็นจุดเด่นเนื่องจาก ครั้งที่เป็นตัวแทนของคนไทยในประเทศญี่ปุ่นนั้น คนญี่ปุ่นจะให้ความสนใจกับศาสตร์การนวดไทยมากเพราะมีทั้งการยืดเส้น ดัดส่วนต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งสามารถนำมาดัดแปลงได้ โดยการแสดงนี้เป็นส่วนขยายจากการแสดงเดิม ซึ่งเปิดให้คนดูได้ตีความคำว่า สบาย สบาย ได้ต่างกันออกไป ต้องติดตามเก็บเกี่ยวอารมณ์จากการชมการแสดง
แน่นอนว่านอกจากได้รับความบันเทิงจากงานศิลปะชิ้นนี้แล้ว ยังเป็นการสะท้อนและสื่อให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่ดีงามของไทยที่สืบสานกันมาแต่โบราณ และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีต่อการนวดไทย รวมไปถึงกระตุ้นและส่งเสริมธุรกิจทางด้านการท่องเที่ยวของเมืองไทยให้กลับมาคึกคักอีกด้วย
สุดท้ายสองสาวขอฝากว่า อยากให้ลองมาเสพศิลปะแนวใหม่ เป็นเหมือนคลื่นลูกใหม่ที่ได้ลองทำอย่างตั้งใจ อยากให้ทุกคนสนับสนุนให้ศิลปะเริ่มเติบโตแม้จากจุดเล็กๆ ให้ขยายใหญ่และแข็งแรงยิ่งขึ้นต่อไป