"ขอบคุณทุกๆ คน มันต้องอย่างนี้ ผมอยากจะบอกว่านี่จะเป็นคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายที่ลอนดอน เมื่อผมพูดว่าต้องเป็นอย่างนี้ มันก็ต้องเป็นอย่างนี้จริงๆ ผมจะร้องเพลงที่แฟนๆ อยากจะฟัง มันต้องอย่างนี้ มันต้องเป็นอย่างนี้จริงๆ และผมจะพบกับพวกคุณในเดือน ก.ค. และผมรักคุณจริงๆ พวกคุณต้องรู้ มันมาจากก้นบึ้งหัวใจของผม" นี่คงเป็นเหมือนประโยคสุดท้ายที่ราชาเพลงป็อปผู้นี้ ได้กล่าวกับแฟนเพลงของตนในงานเปิดตัวคอนเสิร์ตครั้งล่าสุดที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 13 ก.ค. ที่จะถึงนี้
02.26 น. ตามเวลาที่ลอสแองเจลิส (วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา) ชื่อของราชาเพลงป็อปได้เป็นข่าวใหญ่อีกครั้ง เมื่อตามข่าวจากสื่อออกมาบอกว่า ไมเคิล แจ๊กสัน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยอาการที่ผู้คนมากมายต่างสงสัย
และหลังจากนั้นก็มีข่าวทยอยออกมาเรื่อยๆถึงการจากไปของ ไมเคิล แจ็กสัน ได้ทิ้งลมหายใจและปิดตำนานแห่งท่วงท่า “มูนวอล์ก” ที่ได้กลายเป็นอัตลักษณ์ของ ราชาเพลงป็อปผู้นี้ ให้กลายเป็นเพียงความทรงจำของเหล่าบรรดาแฟนคลับที่มีอย่างล้นหลามทั่วโลก
ปรากฎการณ์ “ไมเคิล แจ็กสัน”
ตอนนี้คงไม่มีข่าวใดที่จะทำให้ผู้ที่ทราบข่าวช็อกมากไปกว่าการเสียชีวิตของ ราชาเพลงป็อป ที่ทำเอาข่าวเหตุการณ์เด่นต่างๆ ในรอบสัปดาห์กลับกลายเป็นข่าวรองหลังจากบรรดาแฟนคลับจากทั่วทุกสารทิศ ได้ทราบข่าว ทำให้มีการค้นหาข่าวสารและติดตามข้อมูล และภายในเวลาหนึ่งชั่วโมงเท่านั้นที่มีการโพสต์แสดงความคิดเห็นต่างๆ กว่า 50,000 ข้อความจนทำให้การบริการของไมโครบล็อกอย่าง twitter ล่มหลายครั้ง
โดยในช่วงเวลาเพียง 30 นาที ผู้ใช้บริการกูเกิลพบปัญหาในการหาข้อมูลที่ช้าลงอย่างเห็นได้ชัด โดยการค้นหาข้อมูลจากการใช้ชื่อ Michael Jackson นั้น จะพบกับหน้าเออเรอร์ ซึ่งกูเกิลไม่ใช่เพียงเว็บไซต์เดียวที่ถูกโจมตีจากกระแสข่าวนี้ อีกเว็บไซต์หนึ่งที่ได้รับผลกระทบเช่นกันคือ ทวิตเตอร์ จากข้อมูลเบื้องต้นของ Trendrr เว็บไซต์ข้อมูลสื่อสังคม พบว่ามีการค้นชื่อ "Michael Jackson" รวมกว่า 100,000 ครั้งต่อชั่วโมง
หลังการเสียชีวิตของเขาผู้นี้ไม่กี่ชั่วโมงยอดเพลง ของไมเคิล แจ็กสัน กลับมาครองอันดับ 1 ใน 15 อัลบั้ม เพลงที่ขายดีที่สุดของเว็บไซต์ค้าปลีกออนไลน์ อย่าง Amazon.com ที่เหล่าแฟนคลับจะซื้อเพื่อเก็บไว้เป็นของที่ระลึกเป็นครั้งสุดท้าย
เหล่าบรรดาแฟนคลับต่างทยอยมารวมตัวกัน ณ อพอลโล เธียเตอร์ ในมหานครนิวยอร์ก เพื่อรำลึกถึง ไมเคิล แจ็กสัน ที่ได้กลายเป็นตำนานเพลงป็อป และซูเปอร์สตาร์ผิวสีคนแรก ซึ่งเป็นสถานที่แห่งประวัติศาสตร์ของเหล่าบรรดาพี่น้องวง “แจ็กสัน ไฟว์” ชนะการประกวดเป็นครั้งแรก ถือเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ที่สร้างไมเคิล แจ๊กสัน ขึ้นมา
ในฝั่งเอเชียเอง ชาวจีนหลังจากทราบข่าวของแจ๊กสัน ได้มีการโพสต์ข้อความลงในห้องสนทนาเว็บไซต์ Sina.com มากถึง 80,000 ข้อความ มีทั้งการแสดงความคิดเห็นในเชิงพฤติกรรมอันแปลกประหลาด ไปจนถึงความสามารถในการร้องเพลงของป็อปสตาร์ผู้นี้
สำหรับแฟนเพลงชาวไทยก็ให้ความสำคัญกับการสูญเสียครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นบรรดาสื่อที่ต่างประโคมข่าวการเสียชีวิตของแจ็กสัน อย่างต่อเนื่อง รวมถึงเหล่าบรรดาแฟนคลับชาวไทย ที่ได้ร่วมเข้าไปแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องราวที่ผ่านมาและต่างร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปของราชาเพลงป็อป ที่เคยมาเปิดการแสดงคอนเสิร์ตระดับโลกของเขา 2 ครั้งที่เมืองไทย
แด่ความรู้สึก...จากเพื่อนสู่เพื่อน
ลิซ่า มารี เพรสลี อดีตภรรยา : “ฉันรู้สึกเศร้าและสับสนไปหมด รู้สึกเสียใจกับลูกๆ ผู้ซึ่งเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับเขาและครอบครัวของเขา มันเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่จริงๆ”
มารายห์ แครี่ นักร้อง : “ฉันรู้สึกเหมือนหัวใจสลาย ขอให้เราจดจำเขาในฐานะผู้ที่อุทิศตนให้วงการดนตรีชนิดหาที่เปรียบไม่ได้ ระลึกถึงจิตวิญญาณที่เขาต้องการทำสิ่งดีๆเพื่อโลกใบนี้ รวมถึงช่วงเวลาแห่งความสุขที่เขาได้มอบให้แฟนเพลงอันเป็นที่รักของเขาทั่วทั้งโลก ฉันเองก็รู้สึกตื้นตันมากที่เคยร่วมงานกับเขาหลายครั้ง และสามารถเรียกเขาว่าเพื่อนได้อย่างเต็มปาก ฉันเชื่อว่าไม่มีใครที่จะสามารถมาแทนที่เขาได้ เขาจะคงเป็นดาวจรัสแสงจากนี้สืบไป
เซลีน ดิออน นักร้อง : “ฉันรู้สึกตกใจและเสียขวัญมากที่ได้รับข่าวร้ายอย่างนั้น ช่วงแรกที่ฉันเข้ามาในวงการ ไมเคิลเปรียบเสมือนไอดอลของฉัน เขาเป็นศิลปินที่อัจฉริยะอย่างเหลือเชื่อ ฉันเติบโตมากับการได้ชมผลงานของเขาทางโทรทัศน์ ฉันมีโปสเตอร์รูปเขาไว้ในห้องด้วยซ้ำ ทุกสิ่งที่เขาทำมันช่างน่าอัศจรรย์ ทั้งเสียงเพลง งานเขียน และท่วงท่าการเต้นของเขา มันยากที่จะทำใจให้เชื่อว่าเขาไม่ได้อยู่บนโลกนี้กับเราอีกแล้ว”
เอ็ดดี้ แวน ฮาเลน ผู้เล่นกีตาร์ในเพลง “Beat it” ของไมเคิล แจ็กสัน : “ผมช็อกไปเลยตอนรู้ข่าว และผมเชื่อว่าทั้งโลกก็คงรู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากที่เคยได้ร่วมงานกับเขาในเพลง Beat it เมื่อปี 1983 นั่นเป็นความทรงจำที่ดีที่สุดตั้งแต่เริ่มทำงานมา ไมเคิลจะต้องถูกระลึกถึงอยู่เสมอและหวังว่าเขาจะได้จากไปอย่างสงบ”
นีล พอร์ตนาว ผู้บริหาร Recording Academy : ไม่บ่อยนักที่โลกจะได้รับของขวัญทั้งด้านความสามารถ วิสัยทัศน์ และด้านศิลปะอันยิ่งใหญ่จากศิลปินอย่างไมเคิล แจ็กสัน เขาคือไอคอนคนดนตรีอย่างแท้จริง ผู้ซึ่งมีเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผู้ริเริ่มลีลาการเต้นที่ไม่เหมือนใคร ความสามารถทางดนตรีที่สะกดผู้ฟังได้ ดาวแห่งความเป็นศิลปินคอยหนุนเขาตั้งแต่วัยเด็กสู่โลกที่ใครต่างเรียกร้องถึงเขา เขาได้ทำอะไรให้มากมายเกินกว่าอาชีพศิลปิน ทุกสิ่งที่เขาได้ทำไว้จะทำให้เขาอยู่ในใจและความทรงจำของเราทุกคน เรารู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง และขอเป็นกำลังใจให้ครอบครัวของเขารวมไปถึงแฟนเพลงทั่วทุกมุมโลกในการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่นี้
จอห์น แลนดิส ผู้กำกับมิวสิกวิดีโอเพลง “Thriller” และ “Black or White” : ผมรู้สึกโชคดีมากที่ได้รู้จักและทำงานร่วมกับไมเคิล แจ็กสัน ตั้งแต่ยุคแรกๆ ไมเคิลมีความสามารถที่น่าอัศจรรย์และเป็นศิลปินระดับโลกผู้ยิ่งใหญ่ตัวจริง แม้เขาจะมีพรสวรรค์ที่พิเศษ เขาก็มีปัญหาบ่อยครั้ง มีชีวิตที่ยุ่งเหยิง ภรรยาของผมและตัวผมเองจะยังคงชื่นชมและระลึกถึงเขาเสมอไป
อาลัยรักและผูกพัน
อีกฟากฝั่งของเมืองไทยที่เกี่ยวพันกับไมเคิล แจ็กสัน อย่าง ไบรอัน แอล มาร์การ์ กรรมการผู้จัดการ บ.บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำเอาไมเคิล มาเมืองไทย (ปี 2536 และ 2538) จนทำให้ชื่อเสียงของบีอีซีก้าวนำและพาศิลปินต่างประเทศเข้ามาในเมืองไทยอีกไม่น้อย
ไบรอัน แอล มาร์การ์ กล่าวถึงการจากไปของราชาเพลงป็อป ของโลกว่า เขารู้สึกเสียดาย และคิดว่าหาอัจฉริยะทางดนตรีอย่างไมเคิลได้น้อยเต็มที
“ผมมีโอกาสได้ take care ในระหว่างที่ไมเคิลอยู่เมืองไทยทั้ง 2 ครั้ง โดยส่วนตัวแล้วเขาเป็นคนที่น่ารักมาก เขามีความเป็นเด็กอยู่ในตัวสูงมาก อาจจะเป็นเพราะเขาไม่ได้ใช้ชีวิตในช่วงวัยเด็กเหมือนคนอื่นๆ เพราะมีชื่อเสียงมาตั้งแต่อายุยังน้อย ... เวลาที่ผมอยู่กับเขาเหมือนอยู่กับเด็กอายุ 9 ขวบ ที่สดใส มองโลกในแง่ดี เขาชอบสวนสนุกมากผมมีโอกาสได้พาเขาไปเที่ยวที่สวนสยามด้วย ซึ่งเขาแฮปปี้มาก รวมทั้งไปเดินซื้อของที่ถนนสีลมซึ่งเค้าสนุกมาก เวลาที่เขาเห็นเด็กๆก็จะเข้าไปเล่น ทักทาย
พอทราบข่าวการจากไปแล้วรู้สึกช็อกมาก เป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของวงการเพลงของโลก ลองคิดดูว่าในช่วงชีวิตของเราจะมีคนที่เป็นอัจฉริยะเรื่องเพลงเกิดขึ้นกี่คน คนที่ร้องเพลง เพราะ แต่งเพลงเก่ง เต้นเก่ง และเป็นสุดยอด entertainer เกิดมาเพื่อเป็น supper star อย่างไมเคิล แจ็กสัน ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมีอีก ”
ส่วน “ไมเคิล ตั๋ง” นักก๊อบปี้ระดับแถวหน้าของเมืองไทย ที่มักเลียนแบบท่าเต้นและท่าทางของไมเคิลมานานกว่า 13 ปี เขากล่าวสั้นๆ กับกรณีบรมครูของเขาจากไปว่ารู้สึกเสียดาย... “ผมเสียใจครับแล้วก็ตกใจมากที่แกจากไปเร็วมาก เขาแข็งแรงกว่าที่ผมคิดว่าเขาจะด่วนจากไปนะ มันเหมือนกับเหตุที่เราไม่คาดคิด มันเหมือนความเสียใจที่ครูของเราตายไป ใจหายครับ”