"แกๆๆ หาผัวฝรั่งให้คนดิ เอาดีๆ มีเงินเยอะๆ แบบผัวแกเลยนะ"
เราถึงกับสะดุดเมื่อได้ยินเสียงหญิงสาววัยเพียง 20 ต้นๆ เอ่ยประโยคดังกล่าวขึ้นกับเพื่อนของเธอที่เพิ่งแต่งงานข้ามชาติไปกับหนุ่ม (เหลือน้อย) จากเมืองผู้ดีอังกฤษ ด้วยน้ำเสียงและแววตาเชิงอ้อนวอนเหมือนเด็กอยากได้ของเล่น (เหลือแต่เพียงลงไปนอนชักดิ้นชักงอเท่านั้น)
ประโยคนี้นำความแปลกใจมาสู่เราไม่น้อยว่า ทำไมผู้หญิงไทยยุคนี้บางรายถึงได้มีทัศนคติอย่างฝังแน่นว่า เกิดมาทั้งทีชาตินี้ขอมีผัวฝรั่งกับเขาให้ได้
แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลทางด้านความมั่นคง หนีความจนซ้ำซาก ความกตัญญู หรือแม้กระทั้งเซ็กซ์ ที่ทำให้สาวไทยหลายๆ คนเชื่อว่า การมีสามีเป็นชาวต่างชาตินั้นอาจทำให้ชีวิตในอนาคตเห็นแสงสว่างมากกว่าจมปลักอยู่กับหนุ่มไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาวๆ จากแดนอีสานที่เวลานี้ยึดติดค่านิยมคว้าฝรั่งทำสามีแบบเหนียวหนึบจนทำเอาเศรษฐกิจดีขึ้นพรวดๆ
วันนี้ ‘ปริทรรศน์’ จะร่วมเล่าประสบการณ์ อึ้ง ทึ่ง เสียว ของสาวๆ ที่เรียกได้ว่าเป็นกูรูทางด้านการคบหาดูใจกับหนุ่มชาวต่างชาติ ซึ่งจะดีหรือไม่ดีนั้นขึ้นอยู่ที่คุณเป็นผู้เลือก สมัยนี้ต้องบอกว่า ควรหยุดคิดเรื่องการแต่งงานหวังเงินได้แล้ว เพราะเหรียญยังมีสองด้าน ยิ่งวัฒนธรรมและเชื้อชาติที่แตกต่างกันอาจจะทำให้การเป็นสะใภ้ไม่แฮปปี้เสมอไป
ดูวัวให้ดูหาง ดูนางให้ดูที่แม่ แล้วดูผัวฝรั่งให้แน่ๆ ดูกันตรงไหน
“ฉันจะโกอินเตอร์ไปแต่งงานที่ลันดั้น”
“อยากไปเป็นซินเดอเรลล่าในต่างแดน”
นี่คือตัวอย่างความฝันจากรุ่นสู่รุ่นที่ส่งต่อกันมาเป็นทอดๆ ของสาวไทยที่อยากไปเป็นสะใภ้ฝรั่ง เพราะการได้ชื่อว่าเป็น ‘เมียฝรั่ง’ อาจทำให้ใครๆ อิจฉาพวกเธอเหล่านี้ เนื่องจากคิดกันแต่เพียงว่าเมียฝรั่งจะมีชีวิตที่หรูหรา มีเงินใช้ไม่ขาดมือ และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่เหนือสิ่งอื่นใดเงินไม่อาจซื้อความสุขได้ทุกอย่าง
“ยังมีสาวไทยมากมายที่มีความคิดผิดๆ ว่า ผู้ชายฝรั่งก็คือ ชายตัวขาว ดั้งโด่ง ตาสีฟ้า ปากแดง เห็นแล้วต้องจับทำสามีไว้ก่อน เพราะคนไทยมีความเชื่อที่ปลูกฝังกันมาอย่างยาวนานว่า ชาวต่างชาตินั้นรวย ใครเป็นฝรั่งแล้วต้องรวย อันนี้ขอเถียงแบบขอเอาหัวชนฝาว่า ฝรั่งไม่ได้รวยเหมือนกันทุกคน แต่ฝรั่งที่มาเมืองไทยแล้วดูเหมือนว่ามีเงินใช้กันมากมาย เป็นเพราะว่าเขามีการวางแผนชีวิตเก็บเงินเก็บทองส่วนหนึ่งเพื่อมาใช้ในการท่องเที่ยว อย่างที่รู้ๆ กันว่าค่าเงินบ้านเขาเปรียบเป็นเงินบ้านเราแล้วได้เปรียบอยู่ แต่ขอให้รู้ว่าชีวิตประจำวันเมื่ออยู่ในประเทศบ้านเกิดเมืองนอน เขาใช้เงินตราที่ประเทศของเขาอย่างประหยัดกินและประหยัดใช้”
นัดดี้ บอกเล่าความคิดและความต้องการของสาวไทยที่อยากได้ชาวต่างชาติเป็นสามี และเมื่อเราถามต่อไปว่าแล้วการเลือกสามีฝรั่งให้ดีมีคุณค่าเราควรปฏิบัติอย่างไรบ้างเธอบอกว่า
“ก่อนอื่นขอบอกว่าสามีคนนี้ได้มาครอบครองแบบฟ้าประทาน มาโดยไม่รู้ตัว มาแบบไม่น่าเชื่อว่าจะหากันจนเจอ ส่วนตัวยอมรับว่าชอบเงิน หรือว่าใครจะบอกว่าไม่อยากมีชีวิตที่สบายล่ะ เราลำบากมาเยอะแล้ว ถ้าจะให้มานั่งลำบากตอนมีผัวก็คงไม่เอาเด็ดขาด
“ฝรั่งที่รู้ภาษาไทยมาก พูดไทยชัดแจ๋ว บางทีไม่ค่อยเป็นที่น่าไว้วางใจสำหรับผู้หญิงเท่าไหร่ เพราะฝรั่งเหล่านี้ค่อนข้างรู้มากและเท่าทันมารยาของผู้หญิงไทย ถ้าหากคุณได้รู้จักกับฝรั่งสักคนหนึ่ง ซึ่งดูทีท่าว่าเขาจะถูกอกถูกใจ ตอนคบหาดูใจกันต้องดูนิดหนึ่งว่าเขาหนืดหรือขี้เหนียวหรือเปล่า เพราะถ้ารักหญิงไทยก็ต้องเป็นพ่อบุญทุ่มนิดหนึ่ง ถ้ามัวแต่ใช้ธรรมเนียมอเมริกันแชร์กับคนแบบเราๆ ที่รายได้แค่พอยาไส้ไปเดือนๆ ใครๆ ก็อยากสบายกันทั้งนั้น จะมากัดก้อนเกลือกิน เหมือนไอ้ขวัญกับอีเรียมไม่ได้แล้ว เราก็ต้องคำนึงถึงฐานะการเงินสักนิด ไม่ใช่แต่งงานกันไปแล้วเอาเราไปขัดดอก ช่วยทำงานใช้หนี้ อันนี้ก็ไม่สมควรเอามาทำสามี
“แต่เหนือสิ่งอื่นใดแล้ว การที่เราจะรักใครสักคนเมื่อเขาดูแลรักใคร่เราอย่างดี เราก็อย่าคิดจะเป็นแต่ผู้รับเพียงอย่างเดียว การดูแลรักษาหัวใจของกันและกัน เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการรักกัน ไม่ว่าจะผัวฝรั่ง หรือผัวไทย เมียฝรั่งหรือเมียไทย”
ฝรั่งหัวทองของเขาแรงจริงๆ
โบว์ (สาวไทยในแคนนาดา) สาวร่างท้วมวัย 24 ปี ที่ไปพบรักระหว่างการศึกษาต่อที่ประเทศแคนนาดาเมืองที่มีความหลากหลายทางด้านชนชาติและวัฒนธรรม เล่าว่า ชีวิตคู่ของแต่ละคนที่ไปเป็นสะใภ้ชาวต่างชาติไม่เหมือนกัน เพราะนิสัยใจคอแตกต่างกัน ชีวิตคู่ของเธอไม่ต้องปรับอะไรมาก เพราะสามีจะยอมตามใจทุกอย่าง แต่เธอไม่ได้เอาแต่ใจตัวเอง คงเป็นเพราะเธอกับสามีอายุเท่ากันจึงทำให้เข้าใจคนในวัยเดียวกัน
“มีอย่างหนึ่งที่อยากให้สามีเปลี่ยนมากคือเรื่องความขี้หึง แต่เขาก็เปลี่ยนไม่ได้ก็เลยตัดปัญหาโดยการไม่มอง ไม่ชม ไม่ยิ้มให้ผู้ชายคนไหนเลย แม้แต่แฟนเพื่อนก็ตาม เพราะถือว่าเขาดีทุกอย่าง ข้อเสียของเขาอย่างเดียวทำไมเราจะทนไม่ได้ แต่สามีเราก็จะเป็นประเภทที่ไม่เคยชม ไม่เคยแสดงอาการขี้หลี หรือมีเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงให้เราไม่สบายใจเลย เพราะเขาบอกว่าถ้าเขาทำอย่างนั้นเดี๋ยวเวรกรรมตามเขาทัน
“ส่วนเรื่องวัฒนธรรม หรือประเพณี ก็ไม่ได้ปรับอะไรมาก เพราะที่นี่หลากหลายมากเขาก็จะเหมือนที่เมืองไทยคือ คนในครอบครัวก็จะห่วงใยกัน คอยโทรถามข่าวคราวกัน แสดงความเป็นห่วงเป็นใยกัน“
แอ็บ (เชียงใหม่) หญิงร่างเล็กวัย 36 ปี ที่มีหุ่นสเลนเดอร์และผิวสีแทนตรงตามสเป็กฝรั่งทุกประการ เธอคบหากับชายชาวเบลเยี่ยมฉันท์สามีภรรยามากว่า 16 ปีแล้ว และมีลูกเลี้ยงวัย 7 ขวบ 1 คน ที่ผ่านมาเธอและสามีเดินทางไปทำงานและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมาแล้วกว่า 10 ประเทศ
“ผู้ชายเบลเยี่ยมมีความรับผิดชอบสูง เจ้าระเบียบมาก จุกจิกกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ชอบให้เราอยู่บ้านทำงานบ้าน ดูแลลูกให้ดีที่สุดคือหน้าที่ของเรา ดังนั้น การปรับตัวทางวัฒนธรรมเป็นเรื่องที่เราต้องเรียนรู้ และทำความเข้าใจให้ลึกซึ้ง
“เราควรมองโลกในแง่ดี แต่ก็อย่าวางใจ และก็เชื่อว่าไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ คิดว่าก่อนที่เราจะตัดสินใจที่จะย้ายไปอยู่ต่างประเทศ เราก็ควรจะศึกษาเกี่ยวกับประเทศ หรือเมืองที่เราจะย้ายไปอยู่ก่อน อย่างน้อยก็ควรจะมีเบอร์โทรติดต่อ สถานทูต สถานีตำรวจ หรือเบอร์โทร.องค์กรที่ให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับเด็กหรือผู้หญิง เผื่อว่ามีปัญหา เราก็สามารถติดต่อหรือขอความช่วยเหลือได้ เพราะตรงนี้ต้องยอมรับว่าตอนนี้ปัญหาค้ามนุษย์เป็นปัญหาระดับชาติของประเทศ
“จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของตัวเองทำให้รู้ว่า มีผู้หญิงไทยจำนวนไม่น้อยที่ต้องเข้าไปสู่ ขบวนการค้ามนุษย์ และก็ไปตกระกำลำบากอยู่ต่างแดน เพราะอยากได้สามีฝรั่งจนตัวสั่น จับฝรั่ง ตรงนี้ ไม่เห็นด้วยอย่างแรงเพราะเป็นการดูถูกผู้หญิงไทยมาก
สุดจะทน 30 ยังเป็นแจ๋ว
พิมพ์ (กรุงเทพฯ) หญิงสาววัย 30 ที่ยังเป็นแจ๋วดูแลสามีหนุ่ม (เหลือน้อย) ชาวสก๊อตแลนด์เล่าให้ฟังว่า
“ตลอดชีวิตไม่เคยคิดและหวังว่าอยากจะแต่งงานกับชาวต่างชาติเลย จนแฟนทำให้เสียใจจนจึงคิดอยากจะมีสามีฝรั่ง คิดว่าเขาจะดี จะรวย สามารถรักและช่วยเราในเรื่องเงินทองได้“ “แรกๆ ก็ดีเพราะยังใหม่อยู่ แต่ยิ่งอยู่ยิ่งเจอความไม่ดี เพราะว่าเขาทั้งขี้เกียจและซกมกสุดๆ วันๆ ไม่อาบน้ำ กินอาหารเลอะเทอะ แถมยังเผด็จการอีกด้วย เขาไม่รู้ซึ้งถึงความรักหรอกเพราะเขาคิดว่าเขามีเงินเขาสามารถซื้อทุกอย่างได้
“ถ้าเป็นชายไทยอายุ 60-70 ปี ก็คงสวดมนต์เข้าวัดแล้ว แต่นี่อายุ 60 กว่าๆ แล้วยังมีใจไปมีอีหนูอายุ 27 ปีอีก แถมไม่ไหวก็ต้องพึ่งยาโด๊ป อันนี้จริงๆ เพราะค้นเจอ คิดดูขนาดปวดหลังเดินไม่ไหว ออกกำลังกายไม่ไหว แต่ทำไอ้นั่นไหว และนิสัยเอาแต่ใจ ถ้าไม่พอใจอะไรก็จะบ่นจนคนถูกบ่นร้องไห้ไปเลย เบื่อมากๆ
“อีกอย่างเขาไม่สบายเป็นโรคหัวใจและอื่นๆ อีกหลายโรค แทนที่จะดูแลรักษาตัวเองให้ดีนะ กลับกินแหลกแบบไม่กลัวตายเลย กินเบียร์ ไม่ออกกำลังกาย วันๆ นั่งเล่นแต่อินเตอร์เน็ต กินยังกับยัดแต่บ่นว่าอ้วน จะกินอะไรจะเอาอะไรต้องถวายถึงตัว แบบว่าจะไม่ลุกมาก็ต่อเมื่อมีโทรศัพท์มา”
พิมพ์บอกว่า นี่ยังไม่รวมอีกหลายเรื่องที่สามีฝรั่งเผด็จการกับเธอ ซึ่งเธอรู้สึกว่ามันช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย เอาแต่ตัวเองเป็นใหญ่ ไม่ฟังใคร ถ้าไม่ติดว่าเธอต้องดูแลพ่อแม่เธอคงไม่ทนอยู่อย่างนี้
“วันหนึ่งถ้าอดไม่ไหว ฉันคงต้องพูดเพื่อความสบายใจและออกไปอยู่ข้างนอกเสียที ในที่นี้ฉันไม่ได้เหมารวมทุกคนนะ ตาดีได้ตาร้ายเสีย มันก็ไม่ต่างจากชายไทยนักหรอก จะไทย จะฝรั่งก็มีทั้งดีและเลวทั้งนั้น แล้วแต่ดวงมั้ง”
เรื่องแบบนี้นานาจิตตัง บางคนคิดว่ามีผัวฝรั่งมันเรื่องเล็ก มีผัวเจ๊กก็เรื่องจิ๋ว แต่บางคนก็กลับบอกว่า ทุกวันนี้การไม่มีผัวนั้นเป็นลาภอันประเสริฐ
ปล.อย่าลืมใช้วิจารณญาณในการศึกษาดูใจ
*********************
เมื่อผัวฝรั่งฮิตติดตลาดสาวไทย
ดร.รัตนา บุญมัธยะ อาจารย์ประจำสถาบันภาษาและวัฒนธรรมเพื่อการพัฒนาชนบท มหาวิทยาลัยมหิดล ได้บรรยายเกี่ยวกับประเด็น เมียฝรั่ง: ความสัมพันธ์ของผู้หญิงไทยกับผู้ชายต่างชาติ และมองปฏิสัมพันธ์และการปรับตัวทางวัฒนธรรมว่า การพิจารณาการแต่งงานข้ามวัฒนธรรมของผู้หญิงอีสานกับผู้ชายต่างชาติในบริบทของปฏิสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมนั้น น่าจะสร้างสรรค์และให้ความรู้มากกว่าการมองผู้หญิงเหล่านี้ในฐานะสินค้าเงินสดที่นำผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจเข้าสู่ประเทศ
ดร.รัตนา เล่าประสบการณ์ชีวิตของผู้หญิงอีสานที่อพยพไปอยู่ต่างประเทศจากการแต่งงานกับชาวต่างชาติ ทั้งในเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก จินตนาการ ค่านิยม พฤติกรรม และรูปแบบชีวิตของคู่แต่งงานอันเป็นผลมาจากการปฏิสัมพันธ์ข้ามวัฒนธรรม
“เรื่องราวและเรื่องเล่าของผู้หญิงอีสาน แม้จะมีรายละเอียดแตกต่างกัน แต่ก็พอจะสรุปเป็นภาพรวมได้ว่า เหตุผลสำคัญที่ทำให้ผู้หญิงอีสานตัดสินใจเป็นภรรยาชาวต่างชาติ คือความยากจนซ้ำซากและความกตัญญู (ค่านิยมเรื่องการเป็นลูกสาวที่ดีที่ต้องเลี้ยงดูพ่อแม่) เพราะการแต่งงานกับชาวต่างชาติมักทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น มีเงิน มีโอกาส และความมั่นคงในชีวิตมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงกลุ่มนี้อธิบายว่า เงินไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ทำให้ตนตัดสินใจแต่งงานกับผู้ชายต่างชาติ เหตุผลที่สำคัญมากเช่นกันก็คือ ผู้ชายต่างชาติไม่ยึดติดกับอดีตและพรหมจรรย์ของผู้หญิง ให้เกียรติผู้หญิง และมีความรับผิดชอบสูงกว่าผู้ชายไทย ผู้หญิงบางคนที่ผ่านการแต่งงานมาแล้ว เป็นหม้ายและมีลูกติด กล่าวว่า เป็นเหมือน ‘ปาฏิหาริย์’ ที่ร่างกายของตนยังมีคุณค่าอยู่และมีอำนาจขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
“การแต่งงานใช้ชีวิตร่วมกันระหว่างคนที่มีภูมิหลังทางวัฒนธรรมเดียวกันนั้นเป็นเรื่องยากอยู่แล้ว การแต่งงานข้ามวัฒนธรรมระหว่างคนที่มีภูมิหลังทางภาษา ศาสนา วัฒนธรรม ตลอดจนทัศนคติและค่านิยมแตกต่างกัน ยิ่งเป็นเรื่องยากขึ้นไปอีก ทั้งสองฝ่ายจะต้องปรับตัวเข้าหากันเพื่อประคับประคองให้ชีวิตคู่อยู่รอดได้อย่างยั่งยืน อุปสรรคสำคัญในช่วงแรกคือเรื่องภาษา บางคู่อยู่กัน 3 เดือนโดยไม่ได้พูดกันเลย เพราะพูดภาษาไม่ได้ ต้องสื่อสารกันโดยใช้ภาษาใบ้และวาดรูปเอา แต่โดยทั่วไปแล้วสามีฝรั่งจะส่งภรรยาไปเรียนภาษา ซึ่งผู้หญิงเหล่านี้ก็จะพูดได้คล่องมาก (แต่มักอ่าน-เขียนไม่ได้) เมื่อปรับตัวได้แล้ว ผู้หญิงมักจะหาช่องทางทำธุรกิจของตัวเอง เช่น เปิดร้านอาหาร ผับ บาร์เล็กๆ
“ชายฝรั่งที่แต่งงานกับหญิงไทย ส่วนใหญ่เป็นชายชราที่ผ่านการหย่าร้างหรือภรรยาเดิมเสียชีวิตไปแล้ว รู้สึกว้าเหว่ และรู้สึกว่าได้รับการเติมเต็มจากชีวิตชุมชนแบบอีสาน ความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายเป็นแบบเติมเต็มกันและกัน ฝ่ายชายได้รับการดูแลเอาใจใส่ ส่วนฝ่ายหญิงก็ได้รับความมั่นคงในชีวิต สามีฝรั่งส่วนใหญ่เข้าใจดีว่าภรรยาของตนมีหน้าที่ต้องช่วยเหลือพ่อแม่ญาติพี่น้องของเธอ หลายคนที่ได้มาเยี่ยมบ้านเกิดของภรรยาก็ประทับใจวัฒนธรรมไทย”
****************
เลือกให้ดีจะไปเป็นสะใภ้หรือคนรับใช้
*อิตาลี ไวน์ สปาเก็ตตี้ และชายหล่อ
คนอิตาเลียนจะเน้นเรื่องการกิน อยู่ หลับ นอน เป็นหลัก เพราะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตที่จะละเลยไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องอาหาร เขาจะพิถีพิถันเน้นเป็นพิเศษ และไม่ต้องห่วงว่าหนุ่มอิตาเลียนจะทำแค่หล่อไปวันๆ พึ่งพาไม่ได้ เพราะเขามีการวางแผนการใช้จ่ายที่เป็นระบบ มีกฎเกณฑ์ จะจ่ายเงินแต่ละทีต้องมีความรอบคอบ อย่างคำว่า ‘จดก่อนจ่าย’ นี่ดูลงตัวกับคนอิตาเลี่ยนเป็นอย่างยิ่ง ขณะเดียวกันหนุ่มอิตาเลี่ยนก็เป็นพวกขี้ระแวง ระแวงไปหมดกลัวว่าคนอื่นจะมาเอาเปรียบ มาโกง นอกจากนั้นหนุ่มๆ อิตาเลี่ยนมักรักง่ายหน่ายเร็วนี่สิ จึงเกิดปัญหาการหย่าร้างสูงมากในอิตาลี
*หนุ่มเมืองผู้ดีอังกฤษ
สุขุมลุ่มลึก ดูดีมีสกุล ไม่สำมะเลเทเมาเละเทะ (อันนี้ไม่จริงเสมอไป พวกดื่มเบียร์จนสลบคาโต๊ะก็มีให้เห็นบ้าง) แต่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยทำตัวขี้เล่นให้เสียฟอร์ม นอกจากนั้น ยังซีเรียส จริงจังกับชีวิตมาก ชอบสร้างภาพ โชว์ออฟว่า ‘ตัวเองเป็นแฟมิลี่แมน’ แต่ไม่ค่อยมีเวลาให้ลูกเมียเท่าที่ควร
*สวิสเซอร์แลนด์
พื้นฐานนิสัยของหนุ่มสวิสนั้นมักจะสนใจแต่เรื่องตัวเองเป็นหลัก ไม่ค่อยสนใจชาวบ้านชาวช่องว่าใครเป็นใครบ้าง และในขณะเดียวกันก็ไม่ค่อยอยากให้ใครมายุ่มย่ามในชีวิตส่วนตัวด้วยเช่นกัน หนุ่มสวิสส่วนมากมักประกอบอาชีพอิสระ ไม่ชอบเป็นลูกจ้างใคร แต่เป็นคนเจ้าระเบียบ ทำอะไรต้องมีระบบไปหมด เช่น เขาจะมีการวางแผนการใช้เงินแต่ละเดือนอย่างครบถ้วน เขาจะรับผิดชอบเลี้ยงดูครอบครัวเป็นอย่างดี ไม่ปล่อยให้ลูกเมียอดๆ อยากๆ หรือต้องขายขี้หน้าใคร
*หนุ่มฮอลแลนด์ แดนทิวลิป
ใส่ใจครอบครัว เขาจะมีความรับผิดชอบต่อครอบครัวสูง ให้ความสำคัญกับลูกเมีย แต่เมียอาจไม่ได้สบาย นั่งๆ นอนๆ เหมือนอย่างที่คิด เพราะต้องช่วยกันทำมาหากินตามความเหมาะสม ถ้าไม่ทำงานนอกบ้านก็ต้องทำหน้าที่แม่บ้านที่ดีไม่ให้ขาดตกบกพร่อง แต่ที่ขึ้นชื่อที่สุดของชาวดัตช์คือความขี้เหนียว
*หนุ่มเมืองเบียร์เยอรมัน
มีนิสัยตรงไปตรงมา เทคแคร์ดีมาก ไม่ชอบเอาเปรียบใคร และไม่ชอบให้ใครมาเอาเปรียบด้วย นอกจากนี้ หนุ่มเยอรมันยังมีความรอบคอบในการใช้เงินสูง รู้จักเก็บ รู้จักใช้ และมีการวางแผนชีวิตที่น่านับถือ แต่ผู้ชายเยอรมันไม่ชอบการแต่งๆ หย่าๆ เนื่องจากเขานับถือคาทอลิก ยึดถือการแต่งงานเพียงครั้งเดียว ที่สำคัญกฎหมายที่นั่นเขาเด็ดขาดมาก หากผู้ชายลองหย่าเมียเมื่อไหร่รับรองว่าหมดตูดแน่ๆ
*หนุ่มออสซี่
ต้องบอกว่าประเทศออสเตรเลียนั้นเป็นชาติแห่งการผสมผสาน ฉะนั้น ผู้ชายออซี่จึงมีหลายเชื้อชาติ หลายบุคลิก หลายลักษณะนิสัยปะปนกันไป ไม่มีอะไรที่สามารถบ่งบอกความเป็นออสเตรเลียได้ชัดเจน
ดังนั้น หากพูดถึงนิสัยหนุ่มออสซี่แล้ว ก่อนอื่นคงต้องดูว่าเขาเป็นหนุ่มออสซี่เชื้อสายอะไรกันแน่ ถ้าเป็นหนุ่มอิงลิชออสซี่ นิสัยก็จะเหมือนหนุ่มอังกฤษประมาณนั้น แต่ถ้าเป็นพวกอเมริกันออสซี่ ก็จะมีนิสัยละม้ายคล้ายอเมริกันเสียมากกว่า แต่รวมๆ แล้วหนุ่มออสซี่จะมีนิสัยคล้ายหนุ่มอังกฤษมากที่สุด เด่นๆ คือความตระหนี่ จะจ่ายเงินทีคิดแล้วคิดอีก แต่ข้อดีเขาก็มีเหมือนกัน คือเป็นคนตั้งอกตั้งใจทำงาน ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักประกอบอาชีพนักธุรกิจเป็นหลัก ไม่ค่อยคิดมาก จนบางครั้งอาจดูไม่ค่อยแคร์และเลยไปถึงไม่ค่อยแฟร์ด้วย
*หนุ่มฝรั่งเศสจากเมืองน้ำหอม
มีความรับผิดชอบสูง รักครอบครัว (สำหรับคู่ที่แต่งงานแล้ว) พิถีพิถันเรื่องการแต่งตัว ทั้งเสื้อผ้า หน้า ผม และโรแมนติกที่หนึ่ง ไม่นิยมมีภรรยาพร้อมกันทีละหลายๆ ตำแหน่ง ชอบพาภรรยาไปอวดโฉมตามงานต่างๆ ออกหน้าออกตาตามงานสังคม มีการกินอยู่ที่ดี หรูหรา มีระดับ มีความมั่นใจในตัวเองสูง ถ้ายังไม่แต่งงานอาจมีบ้างที่เจ้าชู้ตามประสาผู้ชาย
*หนุ่มแคนนาดา
สังคมประเทศแคนาดามีส่วนผสมของชนชาติต่างๆ มากมายเต็มไปหมด ดังนั้น เราจึงไม่สามารถเจาะจงได้แน่ชัดว่าหนุ่มแคนาดาจะมีนิสัยอย่างไร ต้องสังเกตว่าเขาซึมซับนิสัยของชนชาติอะไรมาไว้ในตัวมากที่สุด
*ชายเกาหลีที่ไม่เหมือนในซีรี่ย์
คนเกาหลีไม่รู้จักการขอโทษ ผู้ชายเกาหลีจึงชอบกดขี่ข่มเหงผู้หญิง โดยเฉพาะภรรยา จากการสำรวจพบว่าผู้ชายเกาหลีติดอันดับชอบซ้อมภรรยามากที่สุดในโลก และถ้าแต่งงานกันไปผู้หญิงต้องนับถือญาติฝ่ายชายมากกว่าญาติตัวเอง และต้องทำเสมือนตัดขาดจากครอบครัวตัวเองเลย
*ชายชาติไทย
ไม่ต้องพูดถึง
ขอขอบคุณข้อมูลจากคลับเมียฝรั่ง
****************
เรื่อง : เพลงมนตรา บุปผามาศ