ฝนกลางฤดูร้อน โปรยปราย...
เด็กน้อยกำลังร่าเริงโดดเล่นกับเม็ดฝน ที่หลั่งเทลงมาอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่บางคนกำลังวิ่งหลบฝนอย่างทุกลักทุเลและบางคนกำลังเดินตากฝน คล้ายพระเอกนางเอกมิวสิกวีดีโอ
...หญิงสาวในชุดยูนิฟอร์มโรงงานจูงมือหญิงชรา เดินฝ่าสายฝนเข้ามาหลบใต้ชายคาเล็กๆ มองจากสัมพันธภาพ น่าจะเป็นแม่ลูกกัน
สังเกตเห็นถุงยาในมือของลูกสาว มีสัญลักษณ์ชื่อโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง บ่งบอกว่า เธอเพิ่งมาจากโรงพยาบาล สีหน้าที่ดูเศร้าหมอง และคำพูดของหญิงชรา เอ่ยขึ้นว่า ไม่เป็นไรลูก ....
ฝนยังตกอย่างบ้าคลั่ง...หญิงชรา กับลูกสาวยังยืนหลบฝนด้วยความเงียบ มีสาวกลางคนเข้าไปทัก และหญิงชราก็เล่าว่า ลูกของเธอเป็นเนื้องอกที่มดลูก เพิ่งตรวจพบ และยังไม่รู้ว่าจะเป็นมะเร็งร้ายแรงหรือเปล่า เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ลูกของเธอยังโดนพายุเศรษฐกิจเล่นงาน ทำงานอีกไม่กี่วันโรงงานก็จะปิดตัวลง
...ฉันว่าจะกลับบ้านนอก ไปจำนองบ้านเพื่อมารักษาลูก...
...มีลูกสาวคนเดียว สามีก็จากไปแล้ว ถ้าลูกจากไป ฉันไม่รู้จะทำอย่างไร....
ฝนกลางฤดูร้อนในวันนั้น ทำให้ผมรู้สึกเศร้า เป็นความเป็นจริงที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าวิถีชีวิตของคนในเมืองต้องดิ้นรนปากกัดตีนถีบ โดยไม่หลักประกันใดๆ ในชีวิต โรงงานปิด คนตกงาน คุณภาพชีวิตของคน ถูกตีค่าด้วยเงินทอง ไม่มีเงินก็ไม่มีสุข
ยามเจ็บป่วย ไม่มีหลักประกันใดๆ ประสังคมหรือ ผมว่าใครเคยไปใช้จะทราบดี ทั้งยาและคุณภาพของหมอทำให้คนเป็นโรคต้องทรุดหนัก ทั้งอาการ และจิตใจ
...ผมเคยมีอาการเหมือนเป็นไข้เลือดออก ไปตรวจที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งตามใบประกันสังคม หมอตรวจผมไม่ถึงหนึ่งนาทีบอกว่าไม่เป็น ผมแย้งว่าควรเจาะเลือดดูไหมครับ หมอย้ำว่าคุณไม่เป็นหรอก เอายาไปกินและกลับบ้านได้...สรุปวันนั้นผมเป็นไข้เลือดออก ไปหาหมอที่คลินิกเขาเจาะเลือดและแจ้งว่าเป็น
ไม่รู้จะโทษใครดี ระบบประกันสังคม หรือ โรงพยาบาล แต่มีความคิดเหมือนพนักงานบริษัททั่วไปว่า ถ้าเป็นไปได้เงินเดือนที่หักเข้าประกันสังคม อย่าหักอีกเลย ถ้าระบบยังห่วย โรงพยาบาลยังแย่
ดัชนีชี้ความสุขอยู่ตรงไหน...เงินอย่างเดียวใช่หรือไม่ ที่รัฐบาลพยายามช่วยเหลือ และเชื่อว่าจะผ่อนคลายความบอบช้ำในพิษของเศรษฐกิจในสังคมไทยได้ ...คำตอบนั้น คงไม่ใช่ และผมยังมองไม่เห็นความยั่งยืนของนโยบายรัฐบาล ซึ่งจะสร้างคุณภาพชีวิตให้คนไทย นอกจากนโยบายประชานิยม
สังคมไทยวันนี้ เห็นมีแต่ม็อบ และก็ม็อบ...
น่าตลกสิ้นดี...ไม่กี่วันมานี้ มีขโมยขึ้นข้างบ้านผม โทรไปหาตำรวจ สน.สุทธิสาร คำตอบที่ได้คือ คุณดูแลตัวเองไปก่อน ตำรวจตอนนี้ไม่มี ไปดูแลม็อบ...
ขอบคุณครับคุณตำรวจไทย...
ใครที่เศร้า ใครที่ทุกข์ระทม ตอนนี้คนรอบข้างควรเป็นกำลังใจให้กันและกัน สังคมแห่งการแบ่งปันน้ำใจ ให้กำลังใจ ควรเติบโตมากขึ้นท่ามกลางความแก่งแย่งช่วง ชิงของผู้ใหญ่ในบ้านเมือง
นึกไว้เสมอว่า เราเศร้า ทุกข์ เพียงใด ย่อมมีคนที่เศร้ากว่า ทุกข์กว่า คิดอย่างเช่นนั้นได้ จะเป็นกำลังใจให้เราต่อสู้ต่อไป
.
...สู้ต่อไป ทาเคชิ ... ประโยคนี้ผมชอบที่สุดจากหนังเรื่องไอ้มดแดง มีกำลังเสมอเมื่อได้ยิน
วัฒนะชัย ยะนินทร
บรรณาธิการผู้จัดการ Lite
เด็กน้อยกำลังร่าเริงโดดเล่นกับเม็ดฝน ที่หลั่งเทลงมาอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่บางคนกำลังวิ่งหลบฝนอย่างทุกลักทุเลและบางคนกำลังเดินตากฝน คล้ายพระเอกนางเอกมิวสิกวีดีโอ
...หญิงสาวในชุดยูนิฟอร์มโรงงานจูงมือหญิงชรา เดินฝ่าสายฝนเข้ามาหลบใต้ชายคาเล็กๆ มองจากสัมพันธภาพ น่าจะเป็นแม่ลูกกัน
สังเกตเห็นถุงยาในมือของลูกสาว มีสัญลักษณ์ชื่อโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง บ่งบอกว่า เธอเพิ่งมาจากโรงพยาบาล สีหน้าที่ดูเศร้าหมอง และคำพูดของหญิงชรา เอ่ยขึ้นว่า ไม่เป็นไรลูก ....
ฝนยังตกอย่างบ้าคลั่ง...หญิงชรา กับลูกสาวยังยืนหลบฝนด้วยความเงียบ มีสาวกลางคนเข้าไปทัก และหญิงชราก็เล่าว่า ลูกของเธอเป็นเนื้องอกที่มดลูก เพิ่งตรวจพบ และยังไม่รู้ว่าจะเป็นมะเร็งร้ายแรงหรือเปล่า เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ลูกของเธอยังโดนพายุเศรษฐกิจเล่นงาน ทำงานอีกไม่กี่วันโรงงานก็จะปิดตัวลง
...ฉันว่าจะกลับบ้านนอก ไปจำนองบ้านเพื่อมารักษาลูก...
...มีลูกสาวคนเดียว สามีก็จากไปแล้ว ถ้าลูกจากไป ฉันไม่รู้จะทำอย่างไร....
ฝนกลางฤดูร้อนในวันนั้น ทำให้ผมรู้สึกเศร้า เป็นความเป็นจริงที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าวิถีชีวิตของคนในเมืองต้องดิ้นรนปากกัดตีนถีบ โดยไม่หลักประกันใดๆ ในชีวิต โรงงานปิด คนตกงาน คุณภาพชีวิตของคน ถูกตีค่าด้วยเงินทอง ไม่มีเงินก็ไม่มีสุข
ยามเจ็บป่วย ไม่มีหลักประกันใดๆ ประสังคมหรือ ผมว่าใครเคยไปใช้จะทราบดี ทั้งยาและคุณภาพของหมอทำให้คนเป็นโรคต้องทรุดหนัก ทั้งอาการ และจิตใจ
...ผมเคยมีอาการเหมือนเป็นไข้เลือดออก ไปตรวจที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งตามใบประกันสังคม หมอตรวจผมไม่ถึงหนึ่งนาทีบอกว่าไม่เป็น ผมแย้งว่าควรเจาะเลือดดูไหมครับ หมอย้ำว่าคุณไม่เป็นหรอก เอายาไปกินและกลับบ้านได้...สรุปวันนั้นผมเป็นไข้เลือดออก ไปหาหมอที่คลินิกเขาเจาะเลือดและแจ้งว่าเป็น
ไม่รู้จะโทษใครดี ระบบประกันสังคม หรือ โรงพยาบาล แต่มีความคิดเหมือนพนักงานบริษัททั่วไปว่า ถ้าเป็นไปได้เงินเดือนที่หักเข้าประกันสังคม อย่าหักอีกเลย ถ้าระบบยังห่วย โรงพยาบาลยังแย่
ดัชนีชี้ความสุขอยู่ตรงไหน...เงินอย่างเดียวใช่หรือไม่ ที่รัฐบาลพยายามช่วยเหลือ และเชื่อว่าจะผ่อนคลายความบอบช้ำในพิษของเศรษฐกิจในสังคมไทยได้ ...คำตอบนั้น คงไม่ใช่ และผมยังมองไม่เห็นความยั่งยืนของนโยบายรัฐบาล ซึ่งจะสร้างคุณภาพชีวิตให้คนไทย นอกจากนโยบายประชานิยม
สังคมไทยวันนี้ เห็นมีแต่ม็อบ และก็ม็อบ...
น่าตลกสิ้นดี...ไม่กี่วันมานี้ มีขโมยขึ้นข้างบ้านผม โทรไปหาตำรวจ สน.สุทธิสาร คำตอบที่ได้คือ คุณดูแลตัวเองไปก่อน ตำรวจตอนนี้ไม่มี ไปดูแลม็อบ...
ขอบคุณครับคุณตำรวจไทย...
ใครที่เศร้า ใครที่ทุกข์ระทม ตอนนี้คนรอบข้างควรเป็นกำลังใจให้กันและกัน สังคมแห่งการแบ่งปันน้ำใจ ให้กำลังใจ ควรเติบโตมากขึ้นท่ามกลางความแก่งแย่งช่วง ชิงของผู้ใหญ่ในบ้านเมือง
นึกไว้เสมอว่า เราเศร้า ทุกข์ เพียงใด ย่อมมีคนที่เศร้ากว่า ทุกข์กว่า คิดอย่างเช่นนั้นได้ จะเป็นกำลังใจให้เราต่อสู้ต่อไป
.
...สู้ต่อไป ทาเคชิ ... ประโยคนี้ผมชอบที่สุดจากหนังเรื่องไอ้มดแดง มีกำลังเสมอเมื่อได้ยิน
วัฒนะชัย ยะนินทร
บรรณาธิการผู้จัดการ Lite