Wonderful Town หนังดังข้ามคืนของ "อาทิตย์"

ชื่อของ "อาทิตย์ อัสสรัตน์" สะดุดหูขึ้นมาทันทีหลังได้รับรางวัล ผู้กำกับยอดเยี่ยม จากหนังอินดี้ชื่อไม่คุ้นหู อย่าง "wonderful town" หนังแนวอิสระที่ใช้ทุนสร้างเพียง 4 ล้าน แต่กวาดรางวัลมาทั่วโลก และได้เข้าฉายในเทศกาลและในโรงภาพยนตร์ต่างประเทศอีกหลายรอบ ชื่อเสียงของ "อาทิตย์" ดังชั่วข้ามคืน พร้อมการน้อมรับว่าเกือบ 9ใน10คนในเมืองไทย น้อยคนที่รู้จักเขา

ทันทีที่ชื่อของ "อาทิตย์ อัสสรัตน์" ได้ประกาศว่าเป็นผู้กำกับยอดเยี่ยมของรางวัลสุพรรณหงส์ในปีนี้ เชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อย เกิดคำถามขึ้นในใจ แต่สำหรับผู้กำกับหนังยอดเยี่ยม Wonderful town อย่าง "จุ๊ก" เจ้าของผลงานหนังอินดี้เรื่องนี้ นี่คือหนัง(ยาว) เรื่องแรกของเขาเช่นกัน แม้ว่าในเวทีหนังบ้านเราหนังของเขาจะเป็นม้านอกสายตา แต่สำหรับเวทีหนังต่างประเทศชื่อของอาทิตย์ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาทีเดียว M-Entertain วันนี้มีโอกาสได้พูดคุยกับผู้กำกับอินดี้ (ที่พูดรู้เรื่อง) ถึงเรื่องราวการทำงานในสายหนังที่น่าสนใจไม่น้อย

"ผ่านคืนนั้นมาก็มีมาสัมภาษณ์เยอะเลยครับ เย็นนี้ต้องไปธุระต่างประเทศ ก็ไปออกไนน์เอ็นเตอร์เทนมา ข้ามคืนมาก็... (หัวเราะ) ก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากครับ เพราะว่าผมไม่ได้เป็นดาราก็ดีใจครับ มาที่ออฟฟิศทุกคนก็เฮฮาเราก็คนธรรมดา เฮฮากินข้าวกัน ก็คือว่าที่ดีก็คือคนในวงการหนังก็หันมาเพ่งเล็งเรามากขึ้น อาจจะรอผลงานเรื่องต่อไปของเรา และสนใจในงานชิ้นต่อไปของเรา จริงๆแล้วมันดีตรงที่ว่าหนังเรื่องต่อไปอย่างอนันดา อย่างผม ที่เพิ่งได้รับรางวัลมาคนก็จะให้ความสนใจมากขึ้น มันคือโมเมนตัมที่พอดีกันครับ”

นี่คือคำตอบแรกที่ผู้กำกับมากรางวัลจากเทศกาลหนังต่างประเทศอย่าง "จุ๊ก อาทิตย์" ตอบทีมงาน M-Entertian หลังถูกถามถึงวิถีชีวิตหลังจากหนังที่เขากวาดไปถึง 5 รางวัลสุพรรณหงส์ ทั้งที่หลายคนยังไม่รู้จักหนังที่เขาสร้าง หรือแม้แต่เคยเห็นหน้าผู้กำกับด้วยซ้ำ

แม้ว่าหนังจะฉายในเมืองไทยที่เซ็นทรัลเวิลด์เพียงโรงเดียว และเดือนเดียว แต่ล่าสุดหลังได้รับรางวัลสุพรรณหงส์เป็นหนังยอดเยี่ยม อาจได้กลับมาฉายใหม่อีกครั้งในบ้านเกิด เจ้าของหนังอย่างอาทิตย์ ยอมรับว่าคอหนังไทยอาจไม่ได้รู้จักมักคุ้นกับหนังของเขานัก …"ผมหวังว่าคงมีโอกาสได้ดูกันอีกครับ เราก็วุ่นเพราะว่าSFจะเอาหนังเข้าฉายอีกรอบหนึ่ง เป็นรอบสองหลังจากที่ตอนนั้นที่เข้าฉาย ฉายอยู่ในโรงแค่เดือนเดียว แล้วโรงเดียวด้วย เผื่อคนที่สนใจอยากจะดูแล้วไม่ได้ดูเนี่ยจะได้มาดู ส่วนใหญ่ 9 ใน 10 คนก็ไม่รู้หรอกว่า wonderful town คืออะไร ซึ่งก็ต้องยอมรับตรงนี้ว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ โรงเขารู้เลยอยากเอามาฉายอีก”

ค่ายหนังไทยเมิน แต่ต่างชาติรุมทึ้ง Wonderful town

"หนัง wonderful town หนังเราทุน 4 ล้านครับ งบทำทั้งหมด ตอนนี้หนังขายไป 25 ประเทศแล้ว เราไปเปิดตัวในโรงขายตั๋วเป็นหนังในโรงธรรมดา ก็มีครับรางวัลที่ภูมิใจคงเป็นหนังยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังปูซาน เพราะว่ามันเป็นรางวัลใหญ่ เพราะเทศกาลหนังปูซานเป็นเทศกาลหนังที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย สองคือรางวัลแรกของ wonderful town แล้วตอนนั้นน่ะได้ตอนแรก ผมคิดว่าตอนทำหนังเรื่องแรก จะไม่มั่นใจในหนังของตัวเอง ผมก็เป็นแบบนั้น ทำออกมาไม่รู้ดีหรือเปล่าวะ จะด่ามั้ย แล้วตอนที่รับรางวัลปูซานเนี่ย มันคล้ายกับว่าโล่งอก มันคงไม่เลวเท่าไหร่”

ไม่ขอเทียบชั้น "อภิชาติพงศ์"
ผู้กำกับหนังอินดี้ หรือแนวอิสระ บ้านเราที่เห็นเด่นชัดและคว้ารางวัลจากเทศกาลหนังต่างๆมาไม่น้อย คงหนีไม่พ้น "เจ้ย อภิชาตพงศ์ วีระเศรษฐกุล" เจ้าของรางวัลจูรี่ไพร์สจากหนังเรื่องสัตว์ประหลาด จากเทศกาลหนังเมืองคานส์ที่ฝรั่งเศส "จุ๊ก" ยอมรับเดินมาเส้นทางเดียวกันแต่ไม่ขอเทียบรุ่น เพราะฝีมือของอีกฝ่ายระดับเทพ

"ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมกับพี่เจ้ยเดินมาเส้นทางเดียวกัน เป็นหนังนอกกระแส อิสระที่ไม่ได้ทำกับค่าย ระดุมทุนมาจากต่างประเทศบ้าง ประเทศไทยบ้างแล้วทำเอง แล้วส่วนใหญ่หนังของพวกเราก็ไปฉายเมืองนอก แต่มีสิ่งที่ต่างกันอย่างแรกงานของเขาเกินไปกว่าผมเยอะ ผมชื่นชมงานของพวกรุ่นพี่ อย่างพี่เจ้ย อภิชาติพงศ์ พี่วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง พี่เป็นเอก รัตนเรือง เขาคือเทพของนักเรียนฟิล์มทุกคน"

เติบโตด้วยอินดี้ แต่ไม่สุดโต่ง

"ผมไม่ว่าใครไม่ดูหนังผม ผมกลับจากต่างประเทศใหม่ๆ ผมก็เอาบทภาพยนตร์ไปเสนอค่าย แต่ว่าเขาก็ปฏิเสธ ผมก็อาจจะไม่เข้าใจ น้อยใจนิดหนึ่ง ว่าเขาทำไมไม่อยากร่วมงานกับเรา น้อยใจครับ แต่พอผ่านไป 4-5 ปี เข้าใจแล้วครับ เราถูกหลอมมาคนละแบบกันมันคล้ายกับว่าผมไปเรียนทำอาหาร ไม่ถูกรสชาติคนไทย เขาก็ไม่กิน ผมไปว่าคนไม่ได้ แต่ผมไม่ได้เกี่ยงว่า ผมต้องทำหนังอินดี้อย่างเดียว ผมเองก็เป็นเจ้าของบริษัท ในแง่หนึ่งเนี่ยผมก็เป็นศิลปินเดี่ยว หน้าที่ที่จะรับงานเอาตังค์ ผมไม่สนใจหรอกครับว่าต้องอินดี้ตลอดเวลา ไม่เลย งานbudgetสูงๆก็รับแน่นอนครับ”

หนังใหม่ "Hi-So"

ผู้กำกับมือดีเผยหนังเรื่องหน้าเตรียมพร้อมแล้วกับการเปิดกล้องกลางปีนี้..."หนังเรื่องต่อไปของผมคือ เรื่องHi-So อนันดาเล่นครับ จริงๆคุยกับอนันดามาตั้งแต่เขายังไม่ได้เล่นหนังเรื่องชัตเตอร์ฯด้วยซ้ำ นานมากคุยกัน 4-5 ปีแล้ว ก่อนจะทำหนังเรื่อง wonderful town อีก โครงการนี้มันไม่เกิดเพราะว่าไม่มีนายทุน ก็รู้สึกว่ามันใหญ่เกินไป มันดีแหละ ที่ไม่ได้ทำตอนนี้ เพราะมันเป็นหนังที่ทำยากกว่า ถ้าทำตอนนั้นทำตอนประสบการณ์ยังไม่พอ แต่มาทำตอนนี้อนันดาเขาก็ดังมาก ทุกคนรู้จัก ก็เลยจะทำให้โปรเจ็กต์น่าสนใจมากขึ้นมันถึงเวลาทำแล้วแหละ เราก็จะเปิดกล้องกลางปีนี้แล้วล่ะครับ"

ประวัติอาทิตย์
ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก (New York University) สาขาประวัติศาสตร์ ปี 2537
ปริญญาโท มหาวิทยาลัยเซาท์เทิร์นแคลิฟอเนียร์ (University of Southern California)
สาขาภาพยนตร์และโทรทัศน์ ปี 2543

เจ้าของรางวัลและประสบการณ์ทำหนังสั้นมากมาย
-Produire au sud (6th World Film Festival) วิทยากรบรรยาย การกำกับและหาทุนสร้างภาพยนตร์อิสระ
-วิทยากรร่วมบรรยาย ในหัวข้อทางออกของหนังอิสระ จัดโดย มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
- Bangkok International Film Festival (เป็นกรรมการตัดสินภาพยนตร์สายประกวดหลัก)
- Berlin Talent Campus (Berlin International Film Festival) Germany วิทยากรบรรยาย
การกำกับภาพยนตร์อิสระ และเป็นกรรมการตัดสินภาพยนตร์ในสายประกวดภาพยนตร์จากภาคพื้นเอเซีย
- Paris Project (Paris Cinema International Film Festival) เข้าร่วมหาทุนภาพยนตร์ เรื่อง High Society

ฯลฯ

เรื่องย่อ "Wonderful Town"

เรื่องราวของต้น (ศุภศิทธิ์ แก่นเสน) สถาปนิกหนุ่ม เดินทางมายังเมืองเล็กทางภาคใต้ของประเทศไทยที่มีแต่ความเศร้าและเงียบเหงา หลังเหตุการณ์สึนามิเพิ่งผ่านพ้นไป ต้นมาเช่าโรงแรมแห่งหนึ่งที่มีหญิงสาวชื่อนา (อัญชลี สายสุนทร) ดูแลอยู่ ครอบครัวของนาคือตระกุลเก่าแก่ของเมือง ต้นและนาแอบมีสัมพันธ์ลับๆกัน แต่ก็ไม่อายจรอดสายตาคนย่านนั้นไปได้

วิทย์ (ดล แย้มบุญยิ่ง) พี่ชายของนาเป็นหัวหน้าแก๊งป่วนเมือง รักน้องสาวมาก ไม่ถูกชะตากับหนุ่มแปลกหน้า เห็นใครมีความสุขเป็นไม่ได้ ความรักที่เติบโตในสังคมและชุมชนที่ไม่หลงเหลือรัก เขาทั้งคู่จะจบความรักหรือสานต่อความรักนี้อย่างไร และเมืองนี้จะกลับมาความสุขได้อีกหรือไม่?