xs
xsm
sm
md
lg

รอยยิ้มสร้างฝัน “ไอซ์-ศรัณยู วินัยพานิช”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“จั๊ดจาดาดา จั๊ดจั๊ดจาดาดา” จะมีสักกี่คนที่ได้ยินเพลงนี้แล้วจะไม่ลุกขึ้นออกอาการเต้นตามจังหวะเสียงเพลง ที่สามารถเปิดตัวหนุ่มอารมณ์ดีอย่าง ไอซ์- ศรัณยู วินัยพานิช ให้แฟนเพลงชาวไทยได้รู้จักและตอนนี้ยังรวมไปถึงแฟนเพลงชาวญี่ปุ่น เกาหลี อาจรวมไปถึงแถบเอเชียด้วยก็ได้

บรรยากาศที่อบอวลเต็มไปด้วยรอยยิ้มอันมีเสน่ห์ของไอซ์ และด้วยความเป็นกันเอง ทำให้รู้สึกเกิดคำถามขึ้นมาในใจว่า “ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงยิ้มเก่งจัง” การพูดคุยระหว่าง M-Lite กับไอซ์จึงอบอวลไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสนุกสนานเฮฮา

หลายคนที่เห็นรอยยิ้มของไอซ์แล้วอาจจะมองว่าเขาเป็นคนร่าเริง สดใสอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าถามว่าจริงๆ แล้วไอซ์เป็นคนยังไง “ตัวไอซ์เองเป็นคนที่มีหลากหลายมุม แต่ด้วยพื้นฐานของนิสัยแล้วเป็นคนร่าเริง สนุกสนาน อยากทำให้คนอื่นมีความสุข แต่มองกลับไปอีกมุม เราก็จะดูเป็นคนซีเรียสเรื่องการทำงานนิดนึง เพราะเราอยากทำงานแล้วออกมาดี”

ในวัยเด็ก ไอซ์ชอบดูรายการโลกดนตรีมาก ชอบพี่เจ เจตริน เล่นคอนเสิร์ต พี่เจจึงเป็นเหมือนไอดอลของเขาที่ทำให้คนดูที่มาดูคอนเสิร์ตของไอซ์สนุกสนาน

“ขึ้นคอนเสิร์ตทีผมก็อยากให้คนดูมีความสุข ไม่ใช่ขึ้นมาเก๊กหล่อเท่เพื่อให้คนมายืนอึ้งว่าอุ้ย!!หล่อจังเลย แล้วมาบ่นว่าวันนี้คนดูไม่สนุกเลย เพียงแค่เพราะเราไม่ตั้งใจทำให้สนุก ไม่ถามตัวเองว่าทำอะไรไปคนดูถึงไม่สนุก”

ทางฝันที่เกินจริง

ไอซ์ออกตัวมาก่อนว่าชีวิตเขาดูตลกมาก เพราะสิ่งที่เขาฝันไว้มันไม่เคยฝันไปไกลขนาดนั้น เปรียบตัวเองเป็นเหมือนแค่ตู้ยาสามัญประจำบ้าน

หลายๆ คนอาจเคยได้ยินเพลง “คนใจง่าย” ในเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่น ก้าวแรกที่ส่งให้ผู้ชายอารมณ์ดีคนนี้ได้โกอินเตอร์ไปไกลถึงญี่ปุ่น “การได้ไปทำงานที่ญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่เกินฝันในทุกๆจุดแล้ว

“ เราไม่ได้เป็นซูเปอร์สตาร์เมืองไทย แต่เมื่อทางบริษัทที่ญี่ปุ่น ได้ยินเพลงของเราแล้วก็ชอบเป้ย นางเอกเอ็มวีในตอนนั้น เขาเลยมาติดต่อที่ GMM ทางผู้ใหญ่ก็ได้มีการเจรจา จึงตกลงไปทำงานเพลงที่นู้น”

ด้วยแนวดนตรีที่สนุกสนานฟังแล้วสบายๆ การทำงานเพลงของเขาส่วนมากจึงเป็นเพลงที่อยู่ในยุค 80 และด้วยดนตรีในบ้านเราจะถูกจำกัดขอบเขตของภาษาและหลายๆ อย่างรวมกันกลุ่มคนฟังในญี่ปุ่นจะเป็นกลุ่มที่ฟังเพลงง่ายๆ เป็นกลุ่มเด็กบ้าง แม่บ้านบ้าง และด้วยการที่พวกนักร้องญี่ปุ่นมีลักษณะของดนตรีมีความใกล้เคียงกับอเมริกา ภาพลักษณ์จะกลายเป็นแนวฮิปฮอป แร็ปบ้าง ว่ากันไปตามยุคสมัย

“คาแร็กเตอร์ของไอซ์มันดูติ๊งต๊องมั้ง (555+) มีความเป็นเด็ก แนวเพลงยุค 80 ที่ฟังง่ายๆ สนุกสนาน กลุ่มคนฟังก็เลยเป็นกลุ่มที่ให้ความเอ็นดูเราซะส่วนใหญ่ มันเป็นกลุ่มที่ไม่ได้ใหญ่มากแต่ก็ประมาณนึง ตอนนี้ที่เป็นแฟนคลับมีอยู่ประมาน 500 คน และที่ผ่านไปผ่านมาในเว็บก็น่าจะมีประมานพันกว่าคน”

เสียงตอบรับจากแฟนเพลง

การไปทำงานที่ญี่ปุ่นครั้งแรกที่ไปในฐานะนักท่องเที่ยว ก็ประทับใจในวัฒนธรรม และบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยว แต่เมื่อได้เข้าไปทำงาน” ไอซ์อาจจะทำงานไม่เหมือนกับวิถีของคนไทยนะ คือ ไอซ์จะให้ความสำคัญในเรื่องของเวลา และรายละเอียดของงาน ซึ่งการทำงานที่นั่นก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะที่นั่นจะเป๊ะเรื่องเวลา เวลาต้องตรงเสมอ การไปทำงานที่ญี่ปุ่นเป็นการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆในชีวิต ผ่อนเกินไปเหมือนคนไทยจนบางทีเราหลงลืมไป “

การทำงานที่ญี่ปุ่นของไอซ์ ในตัวเขาเองยังคิดว่า แฟนเพลงที่เมืองไทยยังคงมีน้อย การได้ไปทำงานที่ญี่ปุ่นจึงคาดหวังเพียงแค่น้อยนิดเท่านั้น

“ผมเลยไม่ได้หวังอะไรมากผมหวังแค่ครึ่งนึงก็พอ ญี่ปุ่นกับเมืองไทยมีความแตกต่างกันที่วัฒนธรรมการเข้าหา ซึ่งบ้านเรามันสบายๆด้วยความสนิทสนมมากกว่าและใกล้ชิดกันมากกว่าคนญี่ปุ่น ”

ด้วยการทำงานที่ต้องทำร่วมกับคนหมู่มาก การแสดงออกทางความรู้สึกบางอย่างจึงจำเป็นที่จะต้องเก็บเอาไว้บ้าง เมื่อใดที่โตขึ้นสิ่งเหล่านั้นจะกลับมาสอนตัวเขาเอง

“แต่ถ้าสิ่งที่รับไม่ได้จริงๆ เลยสำหรับไอซ์ ก็เป็นเรื่องเคารพความคิดเห็น เพราะการเคารพความคิดเห็นคนอื่นเป็นเรื่องสำคัญมาก เราไม่ชอบทำงานกับคนที่อื่น คิดว่าตัวเองดี เอาตัวเองเป็นใหญ่ เหมือนจะมีตัวเลือกให้เราเลือก แต่จริงๆแล้ววางไว้ให้เราหมดแล้วทุกอย่าง”

อยู่อย่าง “ศิลปิน”

สมัยนี้การได้เป็นศิลปินเป็นกันได้ง่ายมากๆ เรื่องของวงการบันเทิงถือเป็นส่วนหนึ่งของประชาชนไปแล้ว เวทีการประกวดมากมาย เป็นศิลปินจึงไม่ยากที่จะเป็น แต่สิ่งที่ไอซ์อยากให้คนรู้จักเขาในเรื่องการทำงานเสียมากกว่า

“ค่ายอิสระในบ้านเรามีเยอะมาก ถ้าอยากเป็นก็ส่งเพลงไปตามคลื่นวิทยุ ถ้าดังก็คือดัง แต่การที่จะทำอย่างไรให้เราคงอยู่ได้นานนั้นยากกว่า ทำอย่างไรให้คนยอมรับ ผมเองให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาก ผมไม่อยากเป็นนักร้องที่เวลาคนเห็นแล้ว เฮ้ย ! คนนี้นักร้องนะ แต่ถามว่ามันร้องเพลงอะไร ตอบว่าไม่รู้ นี่ก็กรรมสิครับ”

ศิลปินหน้าใหม่หลายคนอาจกำลังหลงระเริงอยู่กับชื่อเสียงเงินทองโดยไม่มองคนรอบข้าง แต่ใครจะรู้ว่าสิ่งเหล่านั้นจะสามารถสร้างให้อยู่ในวงการเพลงได้

“ช่วงเวลาที่ได้เป็นนักร้องใหม่ๆคุณจะรู้ว่าอะไรเป็นความจริง รีบเก็บคำคำนั้นมานั่งคิดดูว่าเป็นจริงที่คนอื่นพูดรึเปล่า คนด่าอะไรก็รับไปพอนานเริ่มอยู่ตัวเราก็จะชิน แล้วคนก็จะเริ่มมองเห็นผลงานเราเอง”

จิตสำนึกของคนฟังเพลง

การจะเข้าถึงตลาดเพลงเกาหลีญี่ปุ่นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด สังเกตได้ว่าตลาดเพลงที่ญี่ปุ่นเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นรองจากอเมริกา การเติบโตทางเศรษฐกิจตลาดเพลง ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่จะซื้อแผ่นจริงเก็บไว้เพื่อมีการสะสมเป็นคอลเลกชัน ต่างๆ ของศิลปินที่ชอบจริงๆ

“การดาวน์โหลดไฟล์เพลงจะน้อยมากต่างจากเมืองไทย ซึ่งจริงๆถ้าคนญี่ปุ่นจะก็อบปี้ หรือแปลงไฟล์เพื่อดาวน์โหลดก็คงเป็นเรื่องที่ง่ายมากสำหรับเมืองที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีอย่างญี่ปุ่น แต่เค้าปลุกจิตสำนึกกันดีจึงไม่มีเรื่องพวกนี้เลย”

“ผมดีใจที่มีโอกาสได้ทำ วันหนึ่งเมื่อเราแก่ไปจะได้เล่าให้ลูกหลานฟังว่าเราเคยทำนี้นะ ทำนั่นนะ อย่าซีเรียสกับมันมาก เก็บเงินเก็บทอง จนไม่ค่อยให้รางวัลแก่ตัวเอง ไอซ์ไม่เคยซื้ออะไรให้ตัวเองเลย”

จนมาถึงจุดหนึ่งที่เราคิดว่าอยู่ตัวแล้ว เราก็จะเริ่มให้รางวัลกับคนรอบข้างให้มีความสุขมากที่สุด และเมื่อพ่อแม่พี่น้องเรามีความสุขเราก็หันกลับมาให้ตัวเองบ้าง

เงินเก็บก้อนแรก คือ สร้างบ้านให้คุณแม่ ตอนเด็กบ้านที่เราอยู่เป็นบ้านพักครูในโรงเรียน พ่อเคยบอกว่าเราน่าจะมีสนามไว้เป็นของตัวเอง เอาไว้ให้เราวิ่งเล่น เราก็สร้างบ้านให้พ่อมีสนามกว้างๆ

พ่อกับแม่เราอยากขึ้นเครื่องบิน ไปเที่ยวต่างประเทศเพราะเคยได้ยินแม่อยากขึ้นเครื่องบินสักครั้ง ทุกปีเราจะให้แม่บินไปเที่ยวต่างประเทศปีละครั้ง

การทำงานตลอด 6 ปีในวงการเพลงของ หนุ่มอารมณ์ดีที่ถูกขนานนามกันว่าเป็น “Prince of Smile” ทำให้ “ไอซ์-ศรัณยู วินัยพานิช” ได้ก้าวมาเกินฝันของตัวเอง ด้วยอัธยาศัยอันแสนดีจึงยังคงทำให้แฟนเพลงยังคงรอคอยผลงานที่เขาตั้งใจทำงานเรื่อยมา



กำลังโหลดความคิดเห็น