“จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่” กับแผนเดินหน้าธุรกิจดิจิตอล โดยมี Subscription Model เป็นตัวชูโรง ต่อยอดคอนเทนต์อันเปรียบเสมือนต้นน้ำสู่โลกดิจิตอล ภายใต้การคุมบังเหียนของ “สุวัฒน์ ดำรงชัยธรรม” กรรมการผู้จัดการจีเอ็มเอ็ม ดิจิตอล โมเมน บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน)
กว่า 3 ปีที่ “สุวัฒน์” คลุกคลีอยู่กับ “จีเอ็มเอ็ม ดิจิตอล โดเมน” หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “จีเอ็มเอ็มดี (GMMD)” หนึ่งในจิ๊กซอว์สำคัญที่ทำให้อาณาจักรจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ขยายตัวอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นหน่วยงานบริหารจัดการคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็นเพลง มิวสิควิดีโอ ภาพยนตร์ เพื่อกระจายไปตามช่องทางดิจิตอลต่างๆ ได้แก่ โทรศัพท์พื้นฐาน มือถือ อินเทอร์เน็ต
ผ่ากลยุทธ์ Subscription Model
สุวัฒน์ บอกว่า ผลการดำเนินงานตลอดช่วงที่ผ่านมาเติบโตแบบก้าวกระโดด เริ่มตั้งแต่ปี 2549 มีรายได้ 300 ล้านบาท จากนั้นปีถัดมามีรายได้ 419 ล้านบาท ถือว่าเดินมาถูกทาง!!
สำหรับปีนี้ตั้งเป้ารายได้ 600 ล้านบาท เติบโตประมาณ 50% และตัวชูโรงที่จะนำพา “จีเอ็มเอ็ม ดิจิตอล โดเมน” ไปสู่เป้าหมายรายได้ที่วางไว้ คือ Subscription Model
Subscription Model คือ กลยุทธ์การตลาดแบบบอกรับสมาชิก ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคที่นิยมซื้อชิ้นต่อชิ้น มาเป็นสมาชิกจ่ายเงินประจำ (Subscriber) ทำให้เกิดรายได้แบบมั่นคงและยั่งยืน (sustainable)
จุดเด่นของ Subscription Model คือ ใครทำก่อนจะได้เปรียบ เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่ตอบรับเป็นสมาชิกแล้ว แทบจะไม่ยกเลิกการเป็นสมาชิกเลย เนื่องจากผู้บริโภคจะคุ้นเคยหรือเคยชินกับสิ่งที่ได้รับเป็นประจำ เช่น บอกรับสมาชิกหนังสือพิมพ์, บอกรับสมาชิกนิตยสาร, บอกรับสมาชิกเคเบิลทีวี, บอกรับสมาชิกยาคูลท์ เป็นต้น
GMMD กับ Subscription Model
สาเหตุที่ GMMD ให้ความสำคัญกับ Subscription Model เนื่องจากมองเห็นโอกาสเติบโตของรายได้แบบ sustainable ขณะเดียวกันสอดรับกับเทรนด์การดำเนินธุรกิจดิจิตอลที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก
รูปแบบ Subscription Model ที่ GMMD ทำอยู่ อาทิ ดาวน์โหลดเพลงแกรมมี่ไม่ว่าจะเป็นลูกทุ่ง ป๊อป ร็อค วินเทจ ฯลฯ ทั้งในรูปแบบริงโทน เพลงเต็ม และมิวสิกวิดีโอเพลงเต็ม ผ่านช่องทางมือถือและอินเตอร์เนต ได้แก่ www.gmember.com เอาใจคนรักแกรมมี่และศิลปินแกรมมี่, www.ikeyclub.com เอาใจขาชอปเพลงดิจิตอล, Audio text 1900 เป็นบริการข้อมูลเสียงผ่านโทรศัพท์, จับมือพาร์ทเนอร์เปิดให้บริการดาวน์โหลดต่างๆ เช่น เพิ่งผนึกกับ “ดีแทค” เปิดให้บริการใหม่ชื่อ Happy Vampires
ข้อดีของ Subscription Model มีหลายด้าน ดังนี้ 1.ตอบสนองลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์อยู่กับมือถือ ทำให้เกิดความสะดวกสบายกับการดาวน์โหลดเพลงที่ต้องการได้ตามใจชอบแบบ “A la carte” แต่จ่ายในราคา "Buffet” ซึ่งคุ้มค่ามากขึ้น 2.มีช่องทางจำหน่ายคอนเทนต์ดิจิตอลเพิ่มขึ้น (Outlet Digital) เหมาะกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคปัจจุบัน
ทำให้ต้นทุนบริหารจัดการต่ำ เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายผลิตซีดีและค่าขนส่ง ลดความเสี่ยง เช่น ไม่มีสต็อกสินค้า 3.มี Outlet กับผู้บริโภคโดยตรง ทำให้รับรู้ความต้องการของตลาดและนำไปปรับสินค้า เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้ทันที 4.เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคที่นิยมซื้อเพลงต่อเพลง มาเป็นสมาชิกจ่ายเงินประจำ (Subscriber) ทำให้เกิดรายได้แบบ sustainable 5.สามารถเก็บเป็น Data Base เพื่อทำ CRM กับลูกค้านำไปสู่โอกาสการทำตลาดอื่นๆ เพราะจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ยังมีสินค้าเพลงอีกเยอะ และ 6.กระตุ้นการดาวน์โหลดเพลงอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
นอกจากนี้ ปัจจัยผลักดันให้ GMMD ไปสู่เป้าหมายยังมีอีกหลายข้อ ไม่ว่าจะเป็นความได้เปรียบของการเป็นคลังคอนเทนต์และทาเลนต์ ที่มีคุณภาพและใหญ่สุดในเมืองไทย และการมีโครงสร้างธุรกิจครบวงจร (Total Music Business) คือ มีความพร้อมทุกด้าน โดยเฉพาะด้านบุคลากร ไม่ว่าจะเป็นศิลปิน นักแต่งเพลง และทีมงานผลิตเพลง ทำให้มีความได้เปรียบการทำตลาดเพลง ขณะเดียวกันมี “มีเดีย” อาทิ ทีวี วิทยุ และสื่อสิ่งพิมพ์เป็นของตัวเอง ทำให้สามารถสื่อสารเข้าถึงผู้บริโภคง่ายและรวดเร็ว
Happy Vampires ตัวอย่างของความสำเร็จ
GMMD ร่วมกับดีแทค สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการเพลงไทย ด้วยปลุกกระแสการดาวน์โหลดเพลงอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้เกิดความเป็นธรรมต่อคนทำงานเพลง ทั้งศิลปิน นักแต่ง และทีมงานคนทำเพลงมีกำลังใจสร้างสรรค์ผลงานดีๆ ออกสู่สังคม
ด้วยการเปิดให้บริการใหม่ Happy Vampire*333 ดาวน์โหลดเพลงแกรมมี่แบบไม่อั้น ทั้งริงโทน เพลงเต็ม และมิวสิกวิดีโอเพลงเต็ม พร้อมอัปเดทเพลงใหม่ๆ จากศิลปินแกรมมี่ก่อนใคร ในราคาสุดคุ้มเพียงเดือนละ 20 บาท เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มผู้บริโภคที่ชื่นชอบความคุ้มค่า และความสะดวก เพราะสามารถใช้บริการได้ทุกที่ทุกเวลา
“ความร่วมมือครั้งนี้ เป็นเหมือนการแสดงจุดยืนสนับสนุนการทำธุรกิจบนพื้นฐานของความถูกต้องและเป็นธรรม และที่สำคัญยังเป็นโมเดลใหม่ของความร่วมมือระหว่างโอเปอเรเตอร์มือถือและค่ายเพลง ซึ่งจะเปลี่ยนจากรูปแบบจากการซื้อ ซึ่งปัจจุบันถูกเอารัดเอาเปรียบจากแผ่นผีและการดาวน์โหลด MP3 เถื่อน มาเป็นรูปแบบสมาชิก โดยดีแทคทำหน้าที่เป็นหน้าร้านเพลงดิจิตอลให้บริการดาวน์โหลด รวมถึงการเก็บค่าบริการให้กับแกรมมี่บนเครือข่าย EDGE ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งสามารถให้บริการลูกค้าดีแทคที่เป็นแฟนเพลงของแกรมมี่ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในประเทศ”
สุวัฒน์ ยอมรับว่า แม้ Happy Vampires จะไม่อาจยุติตลาดแผ่นผีได้ในทันที แต่เชื่อว่านี่จะเป็นก้าวสำคัญของทั้งสองธุรกิจ ซึ่งผู้ที่ได้รับประโยชน์อย่างแท้จริงคือลูกค้า อีกทั้งยังช่วยสนับสนุนธุรกิจเพลงให้เติบโตต่อไปอีกด้วย
รายงานล่าสุดแจ้งว่า Happy Vampires ประสบความสำเร็จอย่างดี เพราะเพียงเดือนแรกเดือนเดียวมียอดตอบรับเป็นสมาชิกทะลุ 2 แสนเลขหมายแล้ว จากเป้าที่วางไว้ 6 เดือนแรก มีสมาชิก 1 ล้านเลขหมาย ดังนั้น ฝันที่วาดไว้ว่าปีแรกจะมีสมาชิก 3 ล้านเลขหมาย ก็เริ่มใกล้จะเป็นจริง!!
ธุรกิจดิจิตอลเหนื่อยกว่าทำนา
“ผมไม่มีเคล็ดลับหรือสูตรสำเร็จการทำงาน แต่มักจะ “ใส่ใจ” ในรายละเอียด และทุ่มเทกับสิ่งที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่”
สุวัฒน์ เล่าให้ฟังว่า ดิจิตอลเป็นธุรกิจที่เหนื่อยกว่าทำนา เพราะต้องเดินไปคิดไปตลอดเวลา 24 ชั่วโมง แต่ทำนายังมีฤดูดำนา... เกี่ยวข้าว... แล้วก็พัก แต่ดิจิตอลต้องคิดให้บ่อยคิดให้ถี่ ห้ามหยุดเดี๋ยวไม่ทัน ไม่ต้องกลัวว่าจะคิดผิดพลาด เพราะคนทำงานต้องมีผิดพลาดบ้างถือเป็นเรื่องธรรมดา ขอเพียงแต่รู้จักแก้ไขหรือเลิกให้ทันก็พอ เพราะขืนยังดันทุรังทำต่อไปก็จะยิ่งเสียหายมหาศาล
“ผมเริ่มกระบวนการคิดบนกระดานก่อนเสมอ แล้วเอาประสบการณ์ที่ผ่านมาเป็นตัวสกรีนความผิดพลาดออกไป ขณะเดียวกันต้องใส่ใจในรายละเอียด พยายามที่จะคิด เวลาเจอปัญหาต้องไม่ตีโพยตีพาย แต่ใส่ใจที่จะคลี่คลายจะทำให้เจอทางออก แม้เราไม่สามารถแก้ทุกปัญหา แต่เราต้องรู้จักเรียงปัญหาที่จะต้องแก้ก่อนหรือหลัง เพราะบางปัญหาจะคลี่คลายด้วยตัวของมันเองเมื่อถึงเวลา ณ จุดหนึ่ง”
สุวัฒน์ กล่าวทิ้งท้ายสั้นๆ แต่น่าสนใจว่า.. ถ้า 3G เข้าเมืองไทยเมื่อไร ต้องได้เห็นอะไรตื่นตาตื่นใจกว่านี้แน่นอน!!
