ผู้จัดการรายวัน - บิ๊กแกรมมี่ "อากู๋" เร่งแก้ปัญหาราคาหุ้นต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน-ขาดสภาพคล่อง เตรียมจ้างที่ปรึกษาทางการเงินเข้ามาดูแลเป็นพิเศษ หวังสร้างแรงจูงใจให้นักลงทุนเข้ามาซื้อขาย ระบุอยู่ระหว่างการคัดเลือก 3-4 ราย ก่อนจะสรุปภายในสัปดาห์นี้ พร้อมหารือกับผู้ถือหุ้นใหญ่-เดินหน้าโรดโชว์ ประเดิมสิงคโปร์ เม.ย.นี้ นับเป็นครั้งแรกหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ขณะที่ผู้บริหารเปิดทางพันธมิตรร่วมถือหุ้น
นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะจ้างบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินเข้ามาดูแลสภาพคล่องและราคาหุ้น GRAMMY เนื่องจากราคาปัจจุบันราคาหุ้น GRAMMY เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 10.70 บาทต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน จากช่วงที่ยังไม่ได้มีการปรับลดราคาตามมูลค่า (ราคาพาร์) อยู่ที่ 40 บาท
โดยขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับที่ปรึกษาทางการเงินประมาณ 3-4 ราย เพื่อคัดเลือกผู้ที่จะเข้ามาดูแลสภาพคล่องดังกล่าว ซึ่งอาจจะมีการว่าจ้างทั้งหมด 3-4 รายก็ได้ โดยคาดว่าในสัปดาห์นี้จะสามารถสรุปผลการคัดเลือกบริษัทที่ปรึกษาได้เรียบร้อย
ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีแผนที่จะหารือร่วมกับผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทให้เข้ามาซื้อขายหุ้น GRAMMY เพื่อสร้างบรรยากาศการลงทุนที่ดี รวมถึงจะมีการหารือถึงเรื่องผลประกอบการที่ในปี 2551 นี้ โดยบริษัทคาดว่าจะมีผลการดำเนินงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 25 ปี จากที่ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 8,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนเข้ามาซื้อขายมากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ให้แก่นักลงทุนมากขึ้น โดยในเดือนเมษายนนี้ บริษัทจะเดินทางไปโรดโชว์ที่ประเทศสิงคโปร์พร้อมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งถือเป็นการโรดโชว์ครั้งแรกของบริษัทหลังจากที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมทั้งบริษัทจะมีการหาพันธมิตรเข้ามาถือหุ้นของบริษัท เพื่อที่จะเข้ามาเพิ่มมูลค่าหุ้นให้กับบริษัท ส่วนหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิมหรือการเพิ่มทุนใหม่เพื่อเสนอขายให้กับพันธมิตรดังกล่าวขณะนี้ยังไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้
"บริษัทมีหุ้นฟรีโฟลทประมาณ 40% แต่นักลงทุนไม่เข้ามาซื้อขาย ดังนั้นบริษัทจึงมีแผนที่จะสร้างแรงจูงใจให้กับนักลงทุนเข้ามาลงทุนซื้อขายหุ้น GRAMMY จากก่อนหน้าที่บริษัทไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้จนถูกผู้ถือหุ้นต่อว่ามา โดยประเด็นที่จูงใจให้นักลงทุนเข้ามาซื้อขายหุ้นบริษัทจะต้องดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ หารือกับผู้ถือหุ้นเดิมเข้ามาซื้อขายหุ้น การประชาสัมพันธ์ความเคลื่อนไหวของบริษัทผ่านสื่อต่างๆ มากขึ้น การไปโรดโชว์ทำให้กองทุนต่างๆสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัท และการหาพันธมิตรเข้ามาที่จะทำให้บริษัทมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น" นายไพบูลย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายไพบูลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ยังมีมีแผนที่จะลดสัดส่วนการถือหุ้นจากปัจจุบันที่ถืออยู่ประมาณ 266.66 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 54.42% หรือ 266.66 ล้านหุ้น และนักลงทุนรายย่อยถือ 20% ที่เหลือเป็นกองทุนต่างๆ อีกกว่า 20%
"ผมจะไม่ทิ้งหุ้นบริษัทออกมาอย่างแน่นอน แม้ว่าจะมีผู้ให้ราคาสูงถึงหุ้นละ 20 บาท จากราคาบนกระดานอยู่ที่ 10.70 บาท นอกจากราคาหุ้นนั้นเป็นราคาที่น่าสนใจมาก จึงจะยอมขายออกมา แต่เป็นเพียงการขายทำกำไรเท่านั้น"
ด้านแผนการดำเนินงานนั้น บริษัทมีแผนจะขยายสู่ธุรกิจเคเบิลทีวี ซึ่งขณะนี้รอศึกษารายละเอียดการประกาศใช้พระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ก่อนที่จะยื่นประมูลเพื่อทำธุรกิจเคเบิลทีวี ซึ่งบริษัทมีความพร้อมในการดำเนินการดังกล่าว เพราะมีคอนเทนต่างๆ พร้อม เช่น ละคร เพลง ฯลฯ
"ธุรกิจเคเบิลทีวีบริษัทอาจจะดำเนินงานเอง หรือหาพันธมิตรเข้ามาร่วม ซึ่งส่วนตัวผมพยายามที่จะมีการทำธุรกิจดังกล่าวภายในปีนี้ แต่อย่างไรก็ขึ้นอยู่กับขั้นตอนการดำเนินงานของรัฐบาลด้วย" นายไพบูลย์ กล่าว
นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะจ้างบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินเข้ามาดูแลสภาพคล่องและราคาหุ้น GRAMMY เนื่องจากราคาปัจจุบันราคาหุ้น GRAMMY เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 10.70 บาทต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน จากช่วงที่ยังไม่ได้มีการปรับลดราคาตามมูลค่า (ราคาพาร์) อยู่ที่ 40 บาท
โดยขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับที่ปรึกษาทางการเงินประมาณ 3-4 ราย เพื่อคัดเลือกผู้ที่จะเข้ามาดูแลสภาพคล่องดังกล่าว ซึ่งอาจจะมีการว่าจ้างทั้งหมด 3-4 รายก็ได้ โดยคาดว่าในสัปดาห์นี้จะสามารถสรุปผลการคัดเลือกบริษัทที่ปรึกษาได้เรียบร้อย
ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีแผนที่จะหารือร่วมกับผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทให้เข้ามาซื้อขายหุ้น GRAMMY เพื่อสร้างบรรยากาศการลงทุนที่ดี รวมถึงจะมีการหารือถึงเรื่องผลประกอบการที่ในปี 2551 นี้ โดยบริษัทคาดว่าจะมีผลการดำเนินงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 25 ปี จากที่ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 8,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนเข้ามาซื้อขายมากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ให้แก่นักลงทุนมากขึ้น โดยในเดือนเมษายนนี้ บริษัทจะเดินทางไปโรดโชว์ที่ประเทศสิงคโปร์พร้อมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งถือเป็นการโรดโชว์ครั้งแรกของบริษัทหลังจากที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมทั้งบริษัทจะมีการหาพันธมิตรเข้ามาถือหุ้นของบริษัท เพื่อที่จะเข้ามาเพิ่มมูลค่าหุ้นให้กับบริษัท ส่วนหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิมหรือการเพิ่มทุนใหม่เพื่อเสนอขายให้กับพันธมิตรดังกล่าวขณะนี้ยังไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้
"บริษัทมีหุ้นฟรีโฟลทประมาณ 40% แต่นักลงทุนไม่เข้ามาซื้อขาย ดังนั้นบริษัทจึงมีแผนที่จะสร้างแรงจูงใจให้กับนักลงทุนเข้ามาลงทุนซื้อขายหุ้น GRAMMY จากก่อนหน้าที่บริษัทไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้จนถูกผู้ถือหุ้นต่อว่ามา โดยประเด็นที่จูงใจให้นักลงทุนเข้ามาซื้อขายหุ้นบริษัทจะต้องดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ หารือกับผู้ถือหุ้นเดิมเข้ามาซื้อขายหุ้น การประชาสัมพันธ์ความเคลื่อนไหวของบริษัทผ่านสื่อต่างๆ มากขึ้น การไปโรดโชว์ทำให้กองทุนต่างๆสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัท และการหาพันธมิตรเข้ามาที่จะทำให้บริษัทมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น" นายไพบูลย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายไพบูลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ยังมีมีแผนที่จะลดสัดส่วนการถือหุ้นจากปัจจุบันที่ถืออยู่ประมาณ 266.66 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 54.42% หรือ 266.66 ล้านหุ้น และนักลงทุนรายย่อยถือ 20% ที่เหลือเป็นกองทุนต่างๆ อีกกว่า 20%
"ผมจะไม่ทิ้งหุ้นบริษัทออกมาอย่างแน่นอน แม้ว่าจะมีผู้ให้ราคาสูงถึงหุ้นละ 20 บาท จากราคาบนกระดานอยู่ที่ 10.70 บาท นอกจากราคาหุ้นนั้นเป็นราคาที่น่าสนใจมาก จึงจะยอมขายออกมา แต่เป็นเพียงการขายทำกำไรเท่านั้น"
ด้านแผนการดำเนินงานนั้น บริษัทมีแผนจะขยายสู่ธุรกิจเคเบิลทีวี ซึ่งขณะนี้รอศึกษารายละเอียดการประกาศใช้พระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ก่อนที่จะยื่นประมูลเพื่อทำธุรกิจเคเบิลทีวี ซึ่งบริษัทมีความพร้อมในการดำเนินการดังกล่าว เพราะมีคอนเทนต่างๆ พร้อม เช่น ละคร เพลง ฯลฯ
"ธุรกิจเคเบิลทีวีบริษัทอาจจะดำเนินงานเอง หรือหาพันธมิตรเข้ามาร่วม ซึ่งส่วนตัวผมพยายามที่จะมีการทำธุรกิจดังกล่าวภายในปีนี้ แต่อย่างไรก็ขึ้นอยู่กับขั้นตอนการดำเนินงานของรัฐบาลด้วย" นายไพบูลย์ กล่าว